ทริปไปเช้า กลับเย็น (ชลบุรี) เดินเล่น ขึ้นเรือ ชมเต่า ดูปลาการ์ตูน

ทริปไปเช้ากลับเย็น เรือหลวงจักรีนฤเบศร - ศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเล - ไปดูปลาการ์ตูน

วันหยุดวันเดียว ไปเที่ยวไหนดี ?

"ไปเที่ยวเรือหลวงจักรีนฤเบศรดีกว่า"

หลังจากได้คุยกับเพื่อนๆที่ทำงานก็เลยตัดสินใจไปกัน เพราะว่าอยู่แค่สัตหีบ ไม่ไกลมาก

เส้นทางการเดินทางก็ง่ายๆเลยครับ ทางก็สะดวกสบายมาก เข้าฟรีด้วยฮ๊าฟฟฟฟ

สิ่งแรกที่ทำคือ คือ คือคือ

https://www.google.co.th/maps/dir/Pattaya+City,+Bang+Lamung+District,+Chon+Buri/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A8%E0%B8%A3+Sattahip,+Sattahip+District,+Chon+Buri/@12.7469165,100.8813738,11.5z/data=!4m13!4m12!1m5!1m1!1s0x310295924d31d7e3:0xa97ff301a9bd10ff!2m2!1d100.8770813!2d12.9276082!1m5!1m1!1s0x31028c1b32076343:0xef08d07e84a57907!2m2!1d100.9137149!2d12.6259684

ใช่แล้ว หาแผนที่ จ้ะ หลังจากเขอก็ตั้งตั้ง GPS ใน Google map ครับ กันหนืดไว้ 555+

สิ่งที่ติดตัวมาคือ มือถือจ้ะ มือถือ รูปที่ได้อาจจะไม่ค่อยชัดต้องโทษกล้อง แต่รูปไม่สวยโทษคนถ่าย

การเดินทางก็ง่ายๆครับ ขับรถตามถนนเส้นสุขุมวิท หรือถนนหมายเลข 3 แล้วเมื่อถึงกองเรือยุทธการ ก็เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ

แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ให้ไปเข้าอีกทางก็เลยๆไปหน่อยครับ มีทางเข้าได้อีกหลายทางอยู่ครับ

ขับเข้ามาเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วครับ ขับไปจอดรถกันเลยย แล้วเดินเข้ามาอาคารเหลี่ยมๆ มืดๆ

นี่ไง ที่นี่ไง นี่ๆ มีปืนด้วยยยยยยยย ทางเข้าก็จะมีร้้านขายของรอบๆครับ

เมื่อเดินเข้ามาอีกฝั่งตามทางแสงจ้า ทะลุออกมาก็เห็นลำเรือกันแล้วครับ

เดินตามทางที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้นะครับ

ก่อนเข้าไปเที่ยวด้านใน มารู้จักกันคร่าวๆก่อนนะครับ

ประวัติคร่าวๆของเรือหลวงจักรีนฤเบศร

เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือธงและเรือบรรทุกอากาศยานลำแรกและลำเดียวของราชนาวีไทย ประจำการในส่วนกำลังรบของกองทัพเรือ เป็นเรือที่ต่อขึ้นจากประเทศสเปน โดยนำแบบมาจากเรือ ปรินซีเปเดอัสตูเรียส (Principe de Asturias) ของกองทัพเรือสเปน โดยปรับปรุงระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุมการบิน ระบบอาวุธ และลดระวางขับน้ำลงเหลือสองในสาม[1][N 1] ขึ้นระวางประจำการเมื่อ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2540 ได้ใช้งานปฏิบัติภารกิจด้านยุทธการและช่วยเหลือภัยพิบัติตลอดน่านน้ำไทยทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน

ในปี พ.ศ. 2532 ได้เกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ในอ่าวไทยบริเวณจังหวัดชุมพร กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ซึ่งทางกองทัพได้ใช้เรือและอากาศยานในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ประสบปัญหาคือเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพเรือมีอยู่ขณะนั้นไม่สามารถทนสภาพทะเลได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทำได้ด้วยความยากลำบาก การมีเรือขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจะสามารถใช้ในการค้นหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็วและทันการ และหากว่ามีเฮลิคอปเตอร์ประจำการบนเรือจะช่วยขยายพื้นที่ในการลาดตระเวนและระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเลได้เป็นเวลานานและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กองทัพเรือจึงได้มีแนวความคิด ในการสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจตามความมุ่งหมาย

เดิมรัฐบาลไทยได้วางแผนจัดซื้อเรือบัญชาการสนับสนุนการยกพลขึ้นบก ขนาดระวาง 7,800 ตันจากบริษัทเบรเมอร์ วัลแคนของเยอรมนี แต่ได้ทำการยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 และทำการจัดซื้อใหม่จากบริษัทบาซัน ประเทศสเปน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบและต่อเรือปรินซีเปเดอัสตูเรียส เรือธงของกองทัพเรือสเปนในขณะนั้น คณะรัฐมนตรีของไทยได้มีมติเมื่อ 17 มีนาคม พ.ศ. 2535 อนุมัติให้กองทัพเรือว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล ลงนามโดยรัฐบาลไทยและรัฐบาลสเปนในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2535 เป็นเงิน 7,100 ล้านบาท

ทางขึ้นเรือครับ

เข้ามาด้านในแล้วว

ภ้ายในก็จะมีการฉายประวัติให้ดูกันนะครับแล้วก็มีที่นั่งไว้ด้วยครับ

เรืออีกลำด้านใน

ทางขึ้นไปดาดฟ้าเรือ

ป่ะไปกัน

ทางเดินในเรือนะครับ จะแคบๆและบันไดจะชันๆครับ ถ้ามีเด็กและคนสูงอายุต้องระวังด้วยนะครับ

เดินขึ้นมาเรื่อยๆก็จะทพลุระเบียงนะครับ มองๆไปเสียวอยู่

ถึงแล้ว ดาดฟ้าเรือ

มีกี่กันตกด้วยครับ ไม่ใช่ที่นั่งเด้ออ

461 และ 462

461 คือเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

462 คือเรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย

หมายเลขตัวเรือ (hull number) จะถูกเขียนไว้ที่หัวเรือ (ในเรือดำน้ำ หมายเลขตัวเรือจะเขียนไว้บริเวณหอกล้องตาเรือ) เหตุที่เขียนไว้ตรงจุดนั้น เพราะชนิดของเรือโดยทั่วไปจะเห็นเด่นชัดอยู่แล้ว หมายเลขตัวเรือจะช่วยยืนยันรูปพรรณของเรือ คำนี้ใช้อีกอย่างหนึ่งได้ว่า bow number

การกำหนดหมายเลขเรือ (assigning bow/hull number) การกำหนดหมายเลขเรือ ของเรือรบราชนาวีไทย มีดังนี้:

หมายเลขตัวที่ 1 (เลขแรกสุด หรือเลขหลักร้อย): แสดงประเภทเรือ (Types of Warship) ซึ่งกำหนดไว้ 9 ประเภทดังนี้

1. เรือบัญชาการและสนับสนุนการยกพลขึ้นบก (amphibious command and support ship): กำหนดด้วยหมายเลข 1
2. เรือดำน้ำ (submarine): กำหนดด้วยหมายเลข 2
3. เรือเร็วโจมตี(fast attack craft): กำหนดด้วยหมาย 3
4. เรือพิฆาต (destroyer), เรือฟริเกต (frigate), เรือคอร์เวต (corvette): กำหนดด้วยหมายเลข 4
5. เรือตรวจการณ์ (patrol vessel): กำหนดด้วยหมายเลข 5
6. เรือทุ่นระเบิด (mine ship): กำหนดด้วยหมายเลข 6
7. เรือยกพลขึ้นบก (landing ship): กำหนดด้วยหมายเลข 7
8. เรืออุทกศาสตร์ เรือช่วยรบ และเรือประเภทอื่นๆ กำหนดด้วยหมายเลข 8
9. เรือบรรทุกเครื่องบิน/เฮลิคอปเตอร์ (aircraft/helicopter carrier): กำหนดด้วยหมายเลข 9