.:: ส่งท้ายปลายปี ณ ม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ ::.

ไม่ได้เดินขึ้นดอยมา เกือบปี กลับมาทั้งทีก็ต้องจัดเต็มสักหน่อย เห็นรีวิวมาก็เยอะ แชร์แล้วแชร์อีกแชร์จนกว่าจะได้ไปเอง เชียงใหม่เอาจริงๆมากี่รอบก็เที่ยวได้ตลอด เที่ยวได้ทุกที่ทั้งในเมือง ชานเมืองหรือนอกเมือง จนใครๆก็บอก มึงไปอีกแล้วเหรออ จะว่าไปมาเชียงใหม่หลายครั้งก็ยังเที่ยวไม่หมดเลย ไม่รู้ว่าเชียงใหม่มีแรงดึงดูดหรือมนต์เสน่ห์อะไรถึงทำให้ต้องมาหลายๆครั้ง ดังเช่น ม่อนจอง…

ข้อมูลทั่วไปของดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่บนทิวเขาถนนธงชัยตอนกลาง ปัจจุบันตั้งอยู่ในอ.นันทบุรี เดิมตั้งอยู่ใน ต.แม่ตื่น อ.อมก๋อย คำว่า ม่อน เป็นภาษาคำเมืองที่หมายถึง ดอยหรือเนินเขา ส่วนคำว่า จอง ก็เป็นภาษาคำเมืองจะออกเสียงว่า จ๋อง หมายถึง ลักษณะจั่ว สามเหลี่ยมที่อยู่สูงที่สุด ดอยม่อนจอง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยจุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร

ติดต่อขึ้นดอย http://www.doimonjong.com/

ค่าใช้จ่ายต่อคน (6คน)

นครชัยแอร์ First Class กทม.-เชียงใหม่ 765 บาท
สายยการบิน VietJet เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ 1672 บาท
รถ 4WD จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-จุดเดินเท้า(ไปกลับ) 3000 บาท ตกคนละ 500 บาท
ลูกหาบ 2 คน คนละ 600 บาท รวมเป็น 1200 บาท ให้ทิบไปอีกคนละ 200 บาท รวมเป็น 1600 บาท ตกคนละ 266 บาท
ค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท 6 คน + ค่ากางเต้นท์หลังละ 50 บาท 2 หลัง รวมเป็น 220 บาท ตกคนละ 35 บาท
ค่าเช่าแผ่นรองนอนคนละ 100 บาท
ค่าอุปกรณ์สนามซื้อกันเอง 950 บาท ตกคนละ 160 บาท
รถเช่า Honda Freed 1700/วัน 3 วัน 5100 บาท ตกคนละ 850 บาท
ที่พัก เฉลิมพันธุ์ รีสอร์ท อ.อมก๋อย http://www.chalermpan.com/ ไม่รวมอาหารเช้า คนละ 200 บาท
ค่าน้ำมัน 2040 บาท (ไปหลายที่) คนละ 340 บาท
ค่าเข้าผาช่อ คนละ 20 บาท ค่ารถ 30 บาท รวมเป็น 150 บาท ตกคนละ 25 บาท
ค่าเข้าแกรนด์แคนยอน คนละ 50 บาท
ค่าเสบียงมื้อเที่ยงมื้อเย็นบนดอยรวมลูกหาบ คนละ 245 บาท
และค่ากินอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง ประมาณ 1500 บาท กินไรเยอะแยะ

รวมทั้งหมด 5200 + 1500 = 6700 บาท ประมาณๆเอานะครับ แต่ในความจริงแล้วมากกว่านั้น 55+

แพลนการเดินทาง สำหรับรีวิวนี้จะพูดถึงแค่ แกรนด์แคนยอน ผาช่อ สวนสนบ่อแก้ว ดอยม่อนจอง เท่านั้นครับ (28 ธ.ค. 59 - 1 ม.ค. 60)

ขอบคุณเจ้าของภาพถ่ายด้วยครับ

วันที่ 1 เชียงใหม่ - อมก๋อย

พวกเราเดินทางด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์ ออกเดินทางเวลา 20.20 ถึงเชียงใหม่ประมาณ 5.30 ซึ่งเป็นการนั่งนครชัยแอร์ First Class ครั้งแรกด้วยฮ่าๆ กับสัมภาระอันใหญ่ยิ่ง แต่ยังมีอีกนะ

ได้เวลาขึ้นรถ

อาหาร ขนม น้ำ น้ำอัดลม ผ้าเย็นเสิร์ฟครบ

ถึงนครชัยแอร์เชียงใหม่ มีห้องอาบน้ำบริการ น้ำธรรมดา 10 บาท น้ำอุ่น 20 บาทหรือเข้าห้องน้ำ 3 บาท อากาศแบบนี้ก็ต้องน้ำอุ่นดิ 55+

นัดรถเช่าให้มาส่งตอน 7.30 กว่าพวกเราจะทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็พอดีกัน รับรถ เช็ครอย เช็คน้ำมันให้เรียบร้อย ผมเคยเช่าเจ้านี้แล้วบริการดีเยี่ยม Bigjump Travel เชียงใหม่

จากนั้นก็ตรงเข้าเมืองไปตลาดวโรรส กินปาท่องโก๋ โกเหน่งหรือปาท่องโกรูปไดโนเสาร์นั่นเอง แต่คนจะเยอะไปไหน รอหลายคิวมาก ก็เลยได้กินแค่ปาท่องโกตัวธรรมดาๆ

และก็ไปซื้อหมูทอด หมูสามชั้นร้านดำรงค์มากินรองท้อง สามชั้นจัดว่าดีเลย อิอิ

จากนั้นก็เดินทางต่อซึ่งจุดหมายสุดท้ายของพวกเราในวันนี้คือที่พัก เฉลิมพันธุ์ อ.อมก๋อย โดนจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ที่แรก แกรนด์แคนยอนเชียงใหม่

ค่าเข้าคนละ 50 บาท โดดน้ำได้ไม่อั้น สูงมากจริงๆ ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ฝรั่งโดดกัน คนไทยก็มีนะแต่น้อย ส่วนใหญ่เข้าไปถ่ายรูปมากกว่า

ถ้าไปยืนจุดนั่นแล้วก็ต้องโดด เพราะมีกองเชียร์ เชียร์อยู่ข้างล่าง 55+

หลังจากโดดแล้ว ต้องปีนขึ้นแบบนี้

จุดหมายถัดไป ผาช่อ อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง รถยนต์ทุกชนิดสามารถขับเข้าไปได้ ทางไม่ได้โหดอะไรแค่เป็นทางลูกรัง เสียค่าเข้า คนละ 20 บาท และค่ารถ 30 บาท

จากจุดจอดรถก็ต้องเดินเข้าไปอีกไม่เกิน 400 เมตร ถือว่าเป็นการซ้อมเดินขึ้นดอยม่อนจองก็ว่าได้ 55+

400 เมตร แปบเดียวจริงๆ

ออกจากผาช่อพวกเราก็ขับรถต่อ แวะกินข้าวและซื้อเสบียงต่างๆ ที่โลตัส จอมทอง และมุ่งหน้าสู่ สวนสนบ่อแก้ว ตามจริงจะแวะอุทยานแห่งชาติออบหลวง แต่ดูเวลาแล้วไม่พอถ้าแวะจะทำให้ถึงที่พักมืดเกินไป

ถึงแล้วสวนสนบ่อแก้ว เห็นบอกกันว่าเหมือนอยู่เกาะนามิที่เกาะหลี แต่ก็ไม่เคยไปสักที

ด้วยบรรยากาศโดยรอบ ร่มรื่น เย็นสบาย ทำให้ใช้เวลากับที่นี่นานไปหน่อย ฮ่าๆ

เสร็จจากที่นี้ก็ยิงยาวถึงที่พัก จากสวนสนไปประมาณ 50 กิโลเมตร เช็คอินจ่ายค่าที่พัก คนละ 200 บาท และพวกเราได้สั่งอาหารเที่ยงกับรีสอร์ทด้วยไว้กินระหว่างเดินขึ้นดอยพรุ่งนี้ โดยให้พี่เขาเตรียมหมูปิ้งข้าวเหนียว ทั้งหมด 9 ชุด พวกเรา 6 คน ลูกหาบ 2 คน คนนำทาง 1 คน จากนั้นก็ไปหาของกินในอ.อมก๋อยได้ ก๋วยเตี๋ยวหน้า 7-11 หนึ่งเดียวในอำเภอ

และกลับพักผ่อนเอาแรงไว้เดินพรุ่งนี้

วันที่ 2 อ.อมก๋อย - ม่อนจอง

สำหรับบรรยากาศเช้าวันนี้หนาวมากๆ แต่พอทนได้

มื้อเช้าสั่งข้าวต้มเติมพลังที่รีสอร์ทถ้วยละ 30 บาท และรับข้าวเหนียวหมูที่สั่งเมื่อวานมาด้วย คนละ 45 บาท

จากนั้นเช็คเอ้าท์และเดินทางต่อไปที่ หมู่บ้านมูเซอ ซึ่งเป็นที่นัดหมายกับชาวบ้านที่โทรจองขึ้นดอยไว้ และชาวบ้านก็พาไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว

ชาวบ้านมูเซอเต็มไปหมด

ถึงศูนย์บริการก็จัดการสัมภาระ จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ

ค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท
ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 30 บาท
ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์หลังละ 50 บาท 2 หลัง 100 บาท
ค่ารถ 4WD 6 คน 3000 บาท
ค่าลูกหาบ 300/คน/วัน 2 วัน 600 บาท
ค่าเจ้าหน้าที่นำทางไปกลับ 600 บาท

ค่าลูกหาบและค่ารถ 4WD จ่ายวันลงจากดอย ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะ ไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง ให้ลูกหาบนำแทนก็ได้ สรุปคือเราไม่ต้องเสียค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ประหยัดไปได้อีก

พวกเราเป็นกรุ๊ปแรกของวันนี้เลยครับ

เตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จอดรถไว้ที่ศูนย์บริการและนั่งรถ 4WD ไปจุดเริ่มเดิน จากศูนย์บริการ-จุดเดินเท้า ประมาณ 16 กิโล ใช้เวลาชั่วโมงกว่า

ทางโหดมากนั่งกันก้นระบมไปหมด สำหรับผู้หญิงแนะนำให้ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย อย่าไปหวังว่าข้างบนดอยมีห้องน้ำ ห้องน้ำมีก็จริงครับแต่ใช้ไม่ได้ครับ

ระหว่างทางก็จะมีต้นสนสูงใหญ่

ถึงแล้วจุดเดินเท้า

มาดูพี่ลูกหาบเตรียมของกันบ้าง พวกเราได้ลูกหาบเป็นพม่า 1 คน(ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง) และคนไทย 1 คนครับ

ส่วนพวกเราก็แบกของใช้ส่วนตัว เป๋าพร้อม เป้พร้อม กล้องพร้อม

อย่าลืมหยิบไม้ไว้ค้ำคนละอันนะครับ ใช้ประโยชน์ได้ดีเลย

ออกเดินกันเลยยยยย

แรกๆก็เดินกันสบาย ทางราบ

สักพักจะเป็นทางลงยาวเลยครับ แต่วิวข้างๆก็สวยดี เป็นต้นสนสูงใหญ่ สวยงาม

ในระหว่างนั้นเพื่อนผู้หญิงก็ปวดฉี่คืออั้นมาตั้งแต่นั่งรถ 4WD แล้วและยังมีความหวังว่าจะมีห้องน้ำข้างหน้า ก็ทนไปก่อน เดินกันไปเรื่อยพักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง

พวกเราหยุดพัก

ดูความอึดของลูกหาบ เดินผ่านไปแบบสบายๆ

เดินผ่านคนโน่นคนนี้ก็ทักทายไปทั่ว เสียงที่ได้ยินจากคนเหล่านั้นก็คือ อีกนิดเดียว ไม่ไกลๆ แต่เชื่อได้ไหมม… ไม่ได้

ถึงลานกว้างๆ พอจะนั่งพักได้ก็พักกันทุกจุด 55+

จนมาถึงจุดหนึ่ง เป็นหินใหญ่ๆ ต้องปีนขึ้นไป วิวสวยมาก ก็หยุดถ่ายรูปตรงนี้กันอยู่นาน

ซึ่งบริเวณนี้ พื้นที่มีจำกัด ต้องพลัดกัน แบ่งๆกันขึ้น เลยวานคนอื่นช่วยถ่ายให้หน่อยเพราะไม่งั้นต้องเดินไปเดินมา อันตรายครับ

ลูกหาบก็พักรอพวกเราจนถ่ายรูปเสร็จ 55+ จากนั้นก็เดินต่อ

แวะกินข้าวเที่ยงข้างหน้าตรงจุดกางเต้นท์ก่อนที่จะถึงดอยหมาหอบ ตอนนั้นก็หิวกันมากๆ 55+ เพื่อนที่อั้นฉี่ก็ยังอั้นต่อไป

และก็มาถึงจุดพีคดอยหมาหอบหรือเนินหมาหอบ คือชันมากต้องปีนกันเลยทีเดียว

แต่จุดนี้สัญญาณมือถือเต็ม เพราะที่ผ่านๆมา No Service ตลอด AIS > True > Dtac

แต่ถ้าขึ้นมาได้แล้วล่ะก็ ลืมทุกสิ่งและมองไปรอบๆ

จะถึงจุดตั้งแคมป์แล้ว

ทางซ้ายเป็นทางไปแคมป์ ส่วนทางขวาเป็นทางไปผาหัวสิงห์

ถึงแล้ว จัดการกางเต้นท์ เตรียมของทำอาหารเย็นและพักผ่อนสักแปบก่อนจะเดินไปผาหัวสิงห์ ชมพระอาทิตย์ตก โดยลูกหาบจะช่วยก่อไฟและหุงข้าวให้

เรียบร้อยแล้ว

ขอบอกก่อน ห้องน้ำทีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทำไว้ก็มีนะครับแต่เปิดเข้าไป ไม่อยากมอง อ๊วกเลยดีกว่า เพื่อนที่ปวดฉี่ก็ไม่ได้ฉี่ - - อั้นต่อไป

ได้เวลาไปหัวสิงห์ จากที่ยืนอยู่สามารถมองเห็นหัวสิงห์ได้ แต่มองดูแล้วเหมือนจะไม่ไกลเลย แต่เอาเข้าจริง ไกลมากหรืออาจเป็นเพราะเดินไปถ่ายรูปไป 55+

ค่อยๆเดิน

ค่อยๆถ่าย

ส่วนภูเขาลูกนี้เหมือนฟูจิเลย แต่เบี้ยวไปหน่อย 55+

ด้วยบรรยากาศและแสงอาทิตย์ค่อยๆอบอุ่น ภาพหมู่ต้องมา

เห็นหัวสิงห์อยู่อีกไม่ไกล

และก็มาถึงหัวสิงห์ จุดสูงสุด ดอยม่อนจอง

อากาศดี ลมเย็นด้วย

เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า ได้เวลาหยิบไฟฉาย เดินกลับแคมป์

รีบทำกับข้าวกันเลย มื้อนี้ก็จะมี ไข่เจียว หมูย่าง+ทอด ไส้กรอก อร่อยไม่อร่อยก็ต้องกินแล้วล่ะครับ 55+

กินเสร็จก็เตรียมแยกย้ายเข้านอน เพื่อนผู้หญิงที่ปวดฉี่ก็พยายามหาทางจะไปปล่อย แต่ก็ไม่สำเร็จ อั้นต่อไป แต่ผมและเพื่อนๆจะขึ้นไปถ่ายดาวกัน ตามจริงอยากไปถ่ายตรงทางไปหัวสิงห์ แต่มันมืดมากและหนาว เลยได้แค่แถวๆแคมป์

ดาวเยอะมากจริงๆนะ นับไม่ถ้วนเลย 55+

จากนั้นกลับมานอน

ปล. เต้นท์ข้างๆเสียงดังมากครับ ไม่เกรงใจกันเลย

วันที่ 3 ม่อนจอง - เชียงใหม่

ตื่นกัน เกือบๆ 7 โมง จากที่คิดว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่ไปละ 55+

ต้มน้ำร้อนชงโอวัลติน ต้มมาม่า+ไข่+เบคอน

เก็บสัมภาระเตรียมเดินทางกลับ เริ่มออกเดินเท้า 9.30 เพื่อนที่ปวดฉี่ก็ยังไม่ได้ฉี่เช่นเคย อั้นต่อไป

ระหว่างทางก็ะพลาดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปอีก ถือว่าถ่ายซ่อมละกัน คิคิ

หันหลังไป รู้สึกไม่อยากกลับเลย

จนมาถึงจุดกางเต้นท์ที่พวกเราแวะกินข้าวเมื่อวาน เพื่อนคงทนไม่ไหวจริงๆ…..….เรียบร้อย

จนกลับมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ชำระเงินให้คนขับรถและลูกหาบ พวกเราให้ทิบลูกหาบเพิ่มคนละ 200 บาทรวมเป็น 800 บาทต่อคน ถือเป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆ

ลูกหาบ 1 คนมีเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปช่วยหาบของขึ้นไปบนดอยอีกเพราะลูกหาบไม่พอ ฮะ!!! เพิ่งเดินลงมาแล้วให้พี่เขาขึ้นไปอีก โหววสุดยอดไปเลย เห็นบอกว่าพี่เขาไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว สู้ๆนะพี่ 55+

มีคลิปมาให้ชมบรรยากาศครับ