สวัสดีครับ เพื่อน พี่ น้อง ชาว Readme SOtraveler ขอชวนทุกคนมาติดตามอ่านรีวิว ร้านอาหารไทย ที่มีกิมมิคน่าสนใจอย่างการหยิบยกเอาเมนูอาหารสตรีทฟู๊ด มาเสิร์ฟบน Rooftop กับห้องอาหารที่มีชื่อว่าบางกอก ไฮทส์ (BANGKOK HEIGHTZ )

กิมมิคอาหารของ Bangkok Heightz คือ ร้านอาหารไทย ที่หยิบยกเมนูสตรีทฟู๊ดมานำเสนอ เดคคอเรทหน้าตาของแต่ละเมนูอาหาร อย่างที่คุณจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หากจะยกเทียบแต่ละเมนูที่เสิร์ฟมา ก็เปรียบแต่ละเมนูเหมือน ท๊อบโมเดลบนแฟชั่นรันเวย์ ที่เปิดตัวมาด้วยลุคปัง ๆ

คอนเซ็ปต์การตกแต่งห้องอาหาร ก็จะสอดคล้องกับกิมมิคของเมนูอาหารเช่นกัน โดยทางโรงแรมจำลองบรรยากาศการ ทานอาหารอยู่ริมถนนกรุงเทพฯ นั่งบนโต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ เมื่อแหงนมองด้านบน ก็จะพบกับสายไฟและมิเตอร์ไฟฟ้า ระโยงระยางเต็มไปหมด

นี่คือบรรยากาศของ Bangkok Street Food ภาพที่พวกเราคุ้นเคยกันดีBangkok Heightz เปิดให้ทุกคนมา Sit & Sip ในรูปแบบของ Restaurant & Bar ตลอดช่วงหัวค่ำจนถึงดึก จะมีดีเจคอยเปิดเพลงแนว commercial ที่ฟังได้เรื่อย ๆ ให้ฟิลลิ่งของการผ่อนคลายแบบชิล ๆ

วิวจากห้องอาหาร ตรงกับมุมเปิดโล่งของแยกอโศก ที่ไร้ตึกใดๆ บัง เป็นมุมเปิดที่สวยพอเหมาะพอดี

ผมได้เกริ่นเรื่องคอนเซ็ปต์การตกแต่งเอาไว้ตอนต้น ถึงการ ……จำลองเอาบรรยากาศแบบสตรีทฟู้ดของกรุงเทพ ฯ ในอดีต ภาพของการนั่งโต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ ริมทางฟุตบาท แหงนมองด้านบน ก็จะพบกับ สายไฟและมิเตอร์ไฟฟ้า ระโยงระยาง ดีเทลเหล่านี้ ถูกนำมาใส่ไว้ใน Bangkok Heightz


เป็นเพียงการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศเท่านั้นนะครับ ไม่มีกระแสไฟวิ่งจริงให้แปร๊บเสียวใจเล่นเผื่อมีใครกลัวไฟช๊อต ก็จะได้อุ่นใจ : )

มุมนี้ของ Bangkok Heightz ใช้ได้กับหลาย ๆ โมเมนต์ บางวันอาจจะมาทานกับ คู่รัก คู่แฟน คู่ฮันนีมูน ก็ดูแสนจะโรแมนติคอย่างที่สุด หากจะมีบางโอกาส ที่จะชวนครอบครัว เพื่อนก๊วน เพื่อนเรียน เพื่อนทำงาน มาแฮงเอาท์ ก็ดูจะเข้ากันได้ชิล ๆ

สิ่งที่สะดุดตา ผมตั้งแต่แว๊บสายตาแรกที่เห็นคือ ดริ๊งก์ที่ปรากฎในเมนู

เมื่อแรกเริ่มที่ผม กางเมนูออกมา เพื่อเลือกเครื่องดื่ม สิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่ในหัวคือ มื้อนี้ ผมจะทานน้ำสมุนไพร หรือ เครื่องดื่มไทย ๆ อะไรดีนะ…

อ่ะ… พอเปิด ๆ อ่านส่วนผสม …

เอ๊ะเอ...

ทั้งหมดของเมนูดริ๊งก์ที่ผมเห็นคือ ค็อกเทล จริงเหรอเนี่ย ลุคของการนำเสนอ ทำให้ผมเข้าใจผิดไปว่า เป็นน้ำสมุนไพร เครื่องดื่มไทย ๆ

มิกโซโลจิสต์ ของ Bangkok Heightz คงยิ้มอยู่ในใจ ชูมือ เฮโล กับ ความสำเร็จของการคอมบิเนชั่นค็อกเทลให้อยู่ในมู้ดและลุคของเครื่องดื่มไทย ๆ ให้ผมหลงเชื่ออย่างสนิทใจ

Muay Thai Mule เป็นชื่อค็อกเทลแก้วนี้ ส่วนผสมที่เขียนประกอบเมนูไว้คือ Thai cocktails made with house gin infused chili, lime juice, fresh Pimento ginger


รสชาติเผ็ดอุ่น ผมไม่ได้พิมพ์ผิด ถูกต้องแล้วครับ เผ็ดอุ่นคือ จิบเข้าไปแล้วกระตุ้นต่อมรับรสของลิ้นแบบเบา ๆ และรู้สึกกรุ่น ๆ ในลำคอเล็กน้อย กลิ่นความหอม มาจากการนำเหล้าจินหมักกับพริก มีอยู่ 3 รสชาติเด่นที่ลิ้นผมรับรสได้คือ เปรี้ยว เผ็ด หวานจัดเสิร์ฟมาใน แก้วสีเงินลวดลายไทย ๆ พร้อมกับนวมเล็ก ๆ มาอย่างน่ารัก พรีเซนเทชั่นชนะขาดกับ ลุคไทยโมเดิร์น


Malai เป็นชื่อค็อกเทลอีกแก้วที่ผมสั่ง

ส่วนผสมที่เขียนประกอบเมนูไว้คือ Thai cocktails made with house rum apricot, Liqueur, Elderflower syrup, lime, egg York

รสชาติหอมหวาน นวล ๆ เหมาะที่จะเป็นเครื่องดื่มสำหรับสาว ๆ ออกแนวกรุ้มกริ่ม นิด ๆ เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี กับการเสิร์ฟค็อกเทลแบบนี้

เครื่องดื่ม ค็อกเทล ทั้ง 2 แก้วที่ผมชิม รสชาติถือว่าผ่านฉลุย ชื่นชมฝีมือ การสร้างสรรค์ของมิกโซโลจิสต์ของทางร้านมาก ๆ ซึ่ง มิกโซโลจิสต์ บอกว่า

ได้ออกแบบสูตรขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยนำเสนอค็อกเทลสไตล์แบบไทยที่มีส่วนผสมและให้รสชาติแบบท้องถิ่น และที่สำคัญคือ ต้องเข้ากับเมนูอาหารของ บางกอก ไฮทส์ ด้วยคือประเด็นสำคัญ


สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เมนูสตรีทฟู๊ดของ บางกอก ไฮทส์ มีความแตกต่างจากร้านอาหารไทยอื่น ๆ คือ การนำเสนอ และวัตถุดิบที่เลือกใช้ ที่ไม่ธรรมดา กุ้งธรรมดา เปลี่ยนเป็น ล๊อปสเตอร์, ซี่โครงหมู เปลี่ยนเป็นซี่โครงแกะ แต่เครื่องแกงและสูตรการทำ ใช้สูตรต้นตำรับ เคล็ดลับครัวไทยแท้ทั้งนั้น

เรามาเริ่มทานไปพร้อม ๆ กันนะครับ กับเมนู แอพพิไทเซอร์

เปาะเปี๊ยะทอด (Por Pia Tod) เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่รสชาติคล้าย ๆ น้ำจิ้มไก่ แต่ไม่เข้มข้นเท่า ทีเด็ดของเมนูนี้อยู่ที่ความกรอบของแป้งที่ห่อ วางไว้นาน ผมทานเมนูอื่นสลับ กลับมาจิ้ม เปาะเปี๊ยะทอด เพื่อทานอีกครั้ง ก็ยังกรอบอยู่

ทอดมันกุ้ง (Tod Mun Goong) เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยเป็นทอดมันกุ้งที่สัมผัสได้กับเนื้อกุ้งแน่น ๆ ในคำ ทานตอนเสิร์ฟใหม่ ๆ ยิ่งอร่อย

เมื่อเริ่มทานเมนู แอพพิไทเซอร์ บรรยากาศด้านนอกก็เริ่มมืดลง แปรผกผันกับ แสงไฟจากตัวอาคารที่เริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ

ปูนิ่มผัดพริกไทยดําไข่เค็ม (Poo Nim Pad Prik Thai Dam Kai Kem)เมนูนี้มีรสชาติเผ็ดและเค็มนำ วัตถุดิบที่นี่มาปรุงให้กลิ่นและรสชาติที่เด่นออกมามาก เห็นถึงความละเอียดในการเลือกวัตถุดิบมาปรุงเมนู

ซี่โครงหมูย่างบาบีคิว (Pork Spar Rib BBQ)ซี่โครงหมูอ่อน นำไปคลุกเคล้ากับซอสข้าวคั่ว มีความเปรี้ยวนิด ๆ น่าจะใส่มะนาวด้วย คล้าย ๆ กับเป็นซอสจิ้มแจ่วประมาณนั้นครับ แล้วนำมาคลุกเค้ากับซี่โครงหมูที่ย่างมาอย่างหอมฉุย

ก๋วยเตี๋ยวหมู ที่หอมเครื่องแกงพะโล้ แยกเส้นและผักไว้ เผื่อใครที่ไม่ชอบผักก็จะได้ไม่เติม เสิร์ฟมาบนหม้อไฟที่จุดไฟร้อนฉ่า รสชาติคล้าย ๆ ก๋วยเตี๋ยวพะโล้แบบดั้งเดิมของไทย

ข้าวผัดสับปะรด (Khao Phad Supparod) มีกลิ่นหอมของสัปปะรดออกมาชัดมาก รสชาติเปรี้ยวหวานนำ เม็ดข้าวผัดออกมาสวย นุ่มพอดีไม่เละ และไม่ร่วนแข็งไป

แกงเผ็ดเป็ดย่าง (Gaeng Phed Ped Yang) รสชาติเข้มข้น ถึงเครื่องถึงพริก ไม่ได้เผ็ดจัดจ้าน แต่ รสชาติที่ข้นกำลังพอดีคือ สเน่ห์ของเมนูนี้

เชฟเอก (เชฟใหญ่) เชฟผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอนเซ็ปต์ และการออกแบบเมนูอาหารทั้งหมด เราจึงได้เห็น ไอเดีย แรงบรรดาลใจ และประสบการณ์ ของการนำเสนอได้อย่างเฉียบขาด ในแต่ละเมนูอาหาร


ทิ้งท้ายมื้ออาหารด้วยของหวาน บัวลอยไข่หวาน (BUA LOY KAI WAAN)หอมกลิ่นของน้ำตาลมะพร้าวนำผสมกับความหอมของกลิ่นใบเตย

การใช้วัตถุดิบที่ดี การสร้างสรรค์หน้าตา การจัดวางเมนูอาหาร บวกกับการปรุงอาหารด้วยเครื่องเทศและพริกแกงตามสูตรต้นตำรับที่มาอายุยาวนาน ทำให้บางกอกไฮทซ์เป็น ร้านอาหารไทยที่น่าสนใจมากทีเดียว

ตามคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่า

“We've elevated authentic Thai cuisine to a new level in our rooftop dining experience venue, Bangkok Heightz".

สถานที่: บางกอก ไฮทส์ (BANGKOK HEIGHTZ ) ร้านอาหารไทยต้นตำรับระดับไฮเอนด์ชั้น 39 โรงแรม เดอะ คอนทิเน้นท์ กรุงเทพฯ เวลา: 18:00 น. – ตี 1 / ทุกวัน


SOtraveler.COM

 วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.16 น.

ความคิดเห็น