กลางวันอันเงียบสงบของเกาะนางยวน ดวงตะวันอาบแสงลงมาแตะผิวน้ำทะเลจนระยิบระยับ สีฟ้าใสของผืนทะเลทอดตัวยาวไกลสุดสายตา ไล่เฉดตั้งแต่ฟ้าอ่อนใกล้หาดไปจนถึงน้ำเงินเข้มราวกับผืนผ้าไหมที่ถักทอด้วยมือธรรมชาติ ที่นี่คือสรวงสวรรค์ของผู้แสวงหาความสงบ เกาะเล็กๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงเมืองใหญ่ มีเพียงเสียงลม เสียงคลื่น และเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นอยู่ในจังหวะช้าๆ

ใต้ร่มเงาของต้นไม้ริมชายหาด เปลญวณผูกไว้หลวมๆ ระหว่างต้นมะพร้าวสองต้น เมื่อเอนหลังลงนอน สายลมเย็นพัดพาเอากลิ่นไอทะเลมาปะทะใบหน้าเบาๆ แดดอ่อนๆ ลอดผ่านซี่ใบไม้ลงมาเป็นลวดลายบนตัวเปล ให้ความรู้สึกเหมือนฝัน ภาพเบื้องหน้าเป็นวิวทะเลที่ไม่ต้องปรุงแต่ง น้ำทะเลใสราวกับแก้วมองเห็นปะการังตื้นๆ ใต้พื้นน้ำ ตัดกับทรายสีขาวละเอียดที่รองรับทุกฝีเท้าอย่างนุ่มนวล

เกาะนางยวนไม่ใช่เพียงแค่ที่เที่ยว แต่เป็นสถานที่ที่ทำให้หัวใจได้หยุดนิ่ง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอย่างแท้จริง เสียงคลื่นซัดเบาๆ เข้าหาฝั่ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนบทเพลงกล่อมจิตใจให้นิ่งสงบ ลืมความเร่งรีบของโลกภายนอก มีเพียงช่วงเวลานี้ที่อยู่ตรงหน้า ที่มีตัวเรา ธรรมชาติ และอ้อมกอดของท้องฟ้า

มองออกไปเบื้องหน้า จะเห็นแนวสันทรายที่เชื่อมเกาะเล็กสามเกาะเข้าหากัน กลายเป็นแลนด์มาร์กอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนางยวน ราวกับสะพานที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมใจคนกับธรรมชาติให้เป็นหนึ่งเดียว การได้เดินเท้าเปล่าบนสันทรายขาวสะอาดท่ามกลางน้ำทะเลใสรอบด้าน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในความฝัน ยิ่งในยามเย็น แสงอาทิตย์ยามอัสดงจะทอดเงายาวลงบนผืนน้ำ เปลี่ยนสีของทะเลจากฟ้าใสเป็นสีส้มอมทอง ก่อนจะค่อยๆ มืดลงอย่างสงบ

เกาะนางยวนจึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือบทกวีของธรรมชาติ ที่ถูกเขียนขึ้นด้วยลม แสง คลื่น และความสงบที่ไม่มีคำใดจะพรรณนาได้หมด นอนเอนบนเปลญวณในช่วงบ่าย เหมือนได้กอดตัวเองอย่างอ่อนโยน ได้ใช้เวลาฟังเสียงความคิด ได้ยิ้มกับท้องฟ้า และขอบคุณตัวเองที่ได้มาถึงที่นี่ สรวงสวรรค์เล็กๆ กลางทะเลอ่าวไทย โลกใบใหม่ 

ความคิดเห็น