ท่ามกลางฤดูหนาวที่โอบล้อมญี่ปุ่นด้วยม่านหิมะขาวโพลน ผม — ชายหนุ่มชาวไทย — ได้ออกเดินทางตามเส้นทางในฝัน สู่หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องบ้านทรงกัสโชซึคุริหลังคาทรงสูง ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาทึบในฤดูหนาว ทำให้หมู่บ้านทั้งหมู่กลายเป็นดั่งเมืองแห่งเทพนิยาย ราวกับหยุดเวลาไว้ในห้วงความสงบ

แต่สิ่งที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้พิเศษเกินกว่าคำว่าสวยงามของธรรมชาติ คือมิตรภาพระหว่างผมกับหญิงสาวชาวญี่ปุ่นทั้งสี่คน ที่ได้มารู้จักกันโดยบังเอิญ ผมขับรถตะลุยหิมะมาเอง ส่วนสาวๆมากับรถบัส เราต่างมาจากคนละที่ โดยผมจากกรุงเทพมหานคร พวกเธอมาจากโตเกียว, โอซาก้า, นาโกย่า และฟุคุโอกะ คนละภูมิภาค คนละสำเนียง คนละชีวิต แต่หัวใจของเรากลับถูกดึงเข้าหากันด้วยจุดหมายเดียวกัน  คือการเดินทางมาสู่หมู่บ้านที่เงียบงามกลางหิมะ

แม้จะมีอุปสรรคด้านภาษาอยู่บ้าง แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของพวกเธอก็ช่วยละลายกำแพงความแปลกหน้าลงได้อย่างรวดเร็ว เราแบ่งปันขนมญี่ปุ่นรสชาติแปลกใหม่ ผมเล่าเรื่องราวของเมืองไทยให้พวกเธอฟัง ส่วนพวกเธอก็พาผมเรียนรู้คำภาษาญี่ปุ่นง่าย ๆ ระหว่างทาง เสียงหัวเราะค่อย ๆ ดังขึ้นในรถท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือก

เมื่อมาถึงจุดชมวิวบนเนินเขา หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เบื้องล่างปรากฏขึ้นราวกับภาพฝัน บ้านไม้เก่าแก่ปลูกเรียงรายอยู่ท่ามกลางหิมะหนาแน่น หลังคาที่ลาดชันดูเหมือนกำลังรับน้ำหนักของหิมะที่นุ่มและขาวดุจสำลี ทุกอย่างช่างสงบและบริสุทธิ์จนผมหยุดหายใจไปชั่วขณะ แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยามสาย สะท้อนกับหิมะเกิดเป็นประกายเล็ก ๆ ที่เต้นระยิบในอากาศเย็นจัด

เราถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน โอบกอดกันเพื่อความอบอุ่นและเก็บความทรงจำลงในกล้อง แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ ความรู้สึกที่ผมได้รับความอบอุ่นจากมิตรภาพต่างชาติที่เกิดขึ้นท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ ความจริงใจที่ไม่ต้องการคำแปล ความห่วงใยที่ไม่ต้องการถ้อยคำ

จากคนแปลกหน้าในวันแรก กลายเป็นเพื่อนร่วมทางในวันต่อมา และอาจเป็นมิตรภาพที่อยู่ในใจตลอดไป… ไม่ว่าเราจะได้พบกันอีกหรือไม่

ชิราคาวาโกะในฤดูหนาว ไม่เพียงแต่ให้ภาพความงามที่ตราตรึง แต่ยังเป็นฉากหลังของมิตรภาพที่ไม่มีพรมแดน เป็นความงามที่มีชีวิต เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันละลาย แม้หิมะจะหยุดตกลงในวันหนึ่งก็ตาม โลกใบใหม่

ความคิดเห็น