เชื่อมั้ยว่าเราไม่เคยไปเกาะช้างเลย...จริ๊งๆ อีกอย่างยิ่งช่วงนี้อากาศดีๆ ใกล้หน้าไฮซี่ซั่นด้วยถ้ารอช่วงต้นเดือนหน้า ที่พัก อาหาร คงราคาสูงแน่ๆ แต่จะบอกว่าทะเลหน้าหนาวมันมีความฟินระดับสิบนะพูดเลอ อากาศดี ฟ้าสวย น้ำใส ต้องไปดูให้เห็นกับตาแล้วจะรู้ว่ามันจริงนะเออ.......วันแรกออกจาก กทม.ช่วงสายด้วยที่คิดว่าเกาะช้างมันไม่ไกล สามร้อยกว่าโลเอง ปรากฏว่าไปถึงท่าเรือ หกโมงเย็นคร๊า...เกือบมืด เพราะรถติดตั้งแต่ กรุงเทพ จนถึงมอเตอร์เวย์ ก็ยังขับทำความเร็วไม่ได้ ไปแบบชิวๆ เรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงจ้า...ไปถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติ หรือท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ จุคนได้ประมาณ 300 คน และรถยนต์ ได้ประมาณ 40 คัน มีน้ำ กาแฟและอาหารขายบนเรือ ไม่ต้องรีบซื้อของกินขึ้นไปนะ ด้านบนก็มีขายที่ขึ้นที่นี่เพราะทำความเร็วได้ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของท่าเรือเฟอร์รี่อยู่ในจุดที่แคบที่สุด ระหว่างเกาะช้างอ่าวสับปะรดกับฝั่ง จ.ตราดที่อ่าวธรรมชาติ เรือจะออกทุกๆ 45 นาที จากท่าเรือฝั่ง จ.ตราด เที่ยวแรก เวลา 06:30น. เที่ยวสุดท้าย 19:00น. จากเกาะช้าง เที่ยวแรก เวลา 07:00น. เที่ยวสุดท้าย 19:00น. ค่าโดยสาร รถยนต์ 4 ล้อ เที่ยวเดียว 100 บาท คนขับรถ ผู้โดยสาร เที่ยวเดียว 80 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 - 40 นาที เรือออกจากอ่าวธรรมชาติไปขึ้นฝั่งเกาะช้างที่ท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่อ่าว สับปะรด ใกล้ๆกับ ท่าเรือด่านเก่า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 039 538 288 ถึง 9 ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.kohchangebooking.com/travel.html


ทริปนี้เสียค่าข้ามเรือทั้งรถทั้งคน 480 บาท ขาไปอย่างเดียว ขากลับก็ราคาเดียวกัน หลังจากเสียค่าข้ามเกาะแล้วก็ขับรถไปต่อแถวเพื่อขึ้นเรือ พอเรือมาจะมีเจ้าหน้าที่เรียกทีละแถวขับขึ้นเรือไปโล๊ดดดด....หลังจากขึ้นมาบนเรือแล้วก็ลงมานั่งเล่น รอด้านบนเรือ ปิดล๊อครถให้เรียบร้อยด้วยค่ะ พอใกล้จะถึงเกาะก็ลงมาเอารถได้แล้วจ้า ระหว่างที่ขับออกมาจากท่าเรือ แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยขับรถขึ้นเขา ให้รอรถไปให้หมดก่อนค่ะ เพราะถ้าขับตามกันไป ทางบนเกาะช้างหลังจากออกท่าเรือ เป็นทางขึ้นเขาชันมากๆๆ ใครขับตามรถคนอื่น แล้วเป็นเกียร์ธรรมดา มีเหงื่อตกแน่นวลลล...เพราะเราสัมผัสมาแล้ววว 555 ถึงที่พักก่อนค่ำพอดี คืนนี้เราพัก ที่ เดอะเดวา เกาะช้าง โรงแรมดี๊ดีย์ ติดทะเล ตัวโรงแรมออกแบบเป็นปูนเปลือยขัดมันแต่ยังแฝงไว้กับธรรมชาติ ต้นไม้เยอะ ร่มรื่น เดินเข้ามาภายในโรงแรมสิ่งที่เจอคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ด้านหน้าจะเป็นโซนห้องพัก Deluxe ส่วนโซน Villa ด้านหลังติดทะเล สวย ร่มรื่นน่าพักมาก Villa แต่ละหลังแยกความเ ป็นส่วนตัวของแขกผู้เข้าพัก ส่วนเราได้จองห้องพัก Deluxe 2 ห้อง ประตูเชื่อมต่อเปิดถึงกันได้ หลังระเบียงห้องทุกห้องจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ ยิ่งมองจากด้านบนกระเบื้องสีเทาวิบวับกระทบแดดสวยเก๋ดีไปอีก ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีผลไม้เป็นองุ่นลูกโตวางเสริฟไว้ให้ด้วย ห้องพักและห้องน้ำกว้างขวางมากเลยทีเดียวแถมมีอ่างอาบน้ำอีกด้วย ส่วนด้านหลังโรงแรมติดชายหาดที่วิวสวยสุดๆ เดินเล่น นั่ง นอนเล่น มีโซฟา และ Bean Bag ให้นอนชิลกันได้ทั้งวัน จริงๆ ทริปนี้ถ้าไม่จองทริปดำน้ำเอาไว้ ก็ว่าจะนอนเล่นมันทั้ง 3 วันกันเลย (รูปห้องพัก ถ่ายช่วงเช้าของอีกวันค่ะ เพราะวันที่ไปถึงมืดแล้ววว..)


หลังจากเชคอินเข้าที่พัก ไปหาข้าวเย็นกินกันเถ๊อะ...ขอฝากท้องไว้ที่ร้านเจ้อิ๋ว ซีฟู๊ด ขอบอกมาตามรีวิวเลย อาหารอร่อย ราคาไม่แพงจริง ๆ เคยกินที่หลีเป๊ะทำไมมันแพงงี้...มื้อนี้จัดไป 1,600.-เบาๆ

ขากลับจากทานข้าวเย็นก็ขับสำรวจรอบๆ เกาะ เซเว่นนี่เยอะมากกกก ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ ร้านขายยา ร้านเสื้อผ้า คือแบบว่าถ้าลืมอะไรมาไม่ต้องกลัวที่นี่มีให้ซื้อแน่นอน...ว่าแล้วลืมสน๊อกเกิ้ลมา พรุ่งนี้ต้องไปดำน้ำอีก ค่อยไปหาซื้อที่ท่าเรือ เห็นว่ามีขายเยอะ คืนนี้พักผ่อนๆ....

เช้านี้รีบตื่นเพราะนัดรถที่มารับไปดำน้ำ 08.30 น. ลงมาทานข้าวเช้าของโรมแรมแบบบุฟเฟ่ อาหารละลานตาและใจ มีให้เลือกหลายอย่าง ทั้งไทยเทศมีโหม๊ดดด..ขนมปัง เบเกอรี่อีกหน้าจิเยอะไปไหน ทานเสร็จแล้วไปดำน้ำกัน....


เราซื้อทริปดำน้ำ กับทัวร์ Sea Hunter Tour คนละ 900.-บาท ติดต่อซื้อทัวร์ได้ที่ 084-7782234 , 080-6430537 เป็นทริปเต็มวัน จะมีรถมารับจากโรงแรมเพื่อไปส่งที่ท่าเรือเกาะช้าง ในรูปเป็นทางบนเกาะ ชันมั้ยยยย...มาถึงก็แวะซื้อขนมนมเนย ให้เรียบร้อยเผื่อหิวขนมระหว่างวัน บนเรือมีอาหารให้ 1 มื้อกลางวัน เป็นแบบบุฟเฟ่พร้อมน้ำดื่ม กาแฟร้อนให้ด้วย พร้อมแล้วลุยเลยยยย....

ดำผุดดำว่ายกันอย่างจุใจ ปะการัง และปลาเยอะมากกกก ช่วงบ่ายแวะขึ้น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะรัง เกาะที่ได้ชื่อว่าทะเลสวรรค์ของเมืองต้องห้ามพลาด เพราะมันสวยจริงๆ ทะเลฟ้า น้ำใส ที่สำคัญปลาเยอะมากกก ชายหาดขาว สามารถลงจากเรือเดินขึ้นหาดได้ เพราะมีทางเดินที่ทำจากทุ่นพลาสติกลอยทอดเป็นสะพานให้เดินเข้าสู่ชายหาด นั่งเล่นน้ำตามอัธยาศัย...ใกล้เวลาเรือจะกลับเข้าเกาะช้าง จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียกค่ะ

ถึงเกาะช้างช่วงสี่โมงเย็น กลับเข้าโรมแรมอาหารเย็นวันนี้เรามีบุฟเฟ่ต์ชาร์โคลกริลล์ บุฟเฟ่สุดฮอตของเกาะช้าง ที่มีอาหารทะเล ซี่โครงหมู และเนื้อแกะมาให้อิ่มอย่างไม่อั้นตลอด 3 ชั่วโมงเต็ม พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสจัดว่าเด็ดมากกกก...นั่งฟังเพลงชิวไปจนอิ่มนั่นละค่ะ จัดที่ชายหาดด้านหลังโรงแรม แถมได้นั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน โรแม๊นซ์กันไปอีกกกก....บุฟเฟ่ชาร์โคลกริลเป็นบริการของทางโรงแรม คิดราคาต่อคน ๆ ละ 759.-บาท (สอบถามกับทางโรงแรมแล้วหากไม่ได้พักที่นี่ สามารถมาทานบุฟเฟ่ต์ได้เช่นกัน สอบถาม 086-3357024)

วันนี้ช่วงเช้าอากาศดี ฟ้าใส ด้านหลังโรงแรมมีเรือคายัคให้เช่าพาย หลังจากทานข้าวเช้าของโรงแรมแล้ว ไปพายเรือเล่นกันเถอะ...เห็นน้ำทะเลนิ่ง แต่ลมไม่นิ่งนะ ถ้าจะพายอย่าพายไปไกลนะเพราะมันจะพายกลับลำบากมากกกเราลองมาแล้ว...

พายเรือเสร็จเก็บของกลับบ้านกันดีกว่า ก่อนจะขึ้นเรือกลับฝั่งเราแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านภูทะเล ร้านอาหารและโฮมสเตย์เก๋มากด้วยการออกแบบร้านเป็นสีฟ้าขาว อยู่ริมคลองพร้าว ที่พัก และอาหารราคาไม่แพง อร่อยด้วยค่ะ ถ้าหากพักที่นี่ช่วงกลางคืนมีพาไปชมหิ่งห้อยด้วยนะคะ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. ติดต่อได้ที่ 0-3955-1300 ,081-863-9213 ส่วนด้านหลังร้านเป็นเหมือนปากอ่าว มีที่พักโฮมสเตย์หลายที่เลยค่ะ คราวหน้าถ้างบน้อยเราจะมาที่นี่กันแน่นวลลลลล...+++

เกาะช้างควรมาสัก 3 วัน 2 คืน กำลังดี เพราะเดินทางวันแรกก็แทบจะไม่ได้เที่ยวอะไรบนเกาะแล้ว อาจจะออกจาก กทม.แต่เช้าตรู่ เพื่อมาขึ้นเรือช่วงบ่าย จะได้ไปเที่ยวน้ำตก หรือจุดชมวิวบนเกาะเห็นเค้าว่าสวยกันมากก ซึ่งเราอดไป...สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ มีรถตู้ และรถโดยสารเยอะค่ะ มาได้ไม่ลำบาก เพราะมาถึงเกาะ ก็มีรถสองแถว หรือมอเตอร์ไซค์ให้เช่าขี่ แต่ต้องระวังกันสักนิด เพราะทางส่วนใหญ่เป็นเขา และชันมาก...ปิดทริปกลับบ้านไว้เก็บตังค์มาใหม่ เกาะช้างดีต่อใจ...ใครๆ เค้าก็มา ^_^

เที่ยวทั่วไทย ไปไหนดี

 วันพฤหัสที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.58 น.

ความคิดเห็น