"อุ่นกาย อุ่นใจ ณ อุ่นไอมาง"


ต้องบอกก่อนเลยว่าการมา น่าน ทริปนี้ของเรา ที่พักจะเป็นแนวอิงแอบแนบชิดธรรมชาติสุดๆ

ที่มาที่ไปก็เริ่มมาจากเรานั่งเปิดโทรศัพท์เล่นไปเรื่อยๆ ดันไปเจอรูปคนเช็คอินที่พักที่นึง ทำให้เราสนใจและก็ไม่รอช้า โทรศัพท์ไปถามทางที่พักทันทีว่าวันที่เราจะเดินทางไปมีห้องว่างให้เราไม๊ โชคดีที่เหลือเป็นแบบกระโจมว่างอยู่หลังสุดท้ายพอดี เราจึงไม่รอช้ารีบจองและชำระเงินทันที เพราะมีแต่คนบอกว่าที่นี่จองยาก เพราะห้องพักมีไม่กี่หลัง

"อุ่นไอมาง" จะออกแนวโฮมสเตย์เล็กๆสงบ เรียบง่าย ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

ใครที่เคยมาต้องหลงรัก เหมือนเราแน่นอน



วันแรกเราไปถึงสนามบินดอนเมืองแต่เช้ามืด เพราะจองตั๋วไฟท์เช้าสุด ทริปนี้เราเดินทางรวมทั้งหมด 8 วัน แต่ดูจากกระเป๋าที่ขนมา เฮ้ย!!อยู่ได้ครึ่งเดือนอ่ะ 555

เริ่มเดินทางกันเลย เราจองที่นั่งริมหน้าต่างเหมือนเดิม เพราะเวลานั่งเครื่องบินในประเทศจะชอบมองออกไปข้างนอก มองเพลินๆแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว


ถึงแล้วสนามบินน่าน นี่เป็นครั้งแรกที่นั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดนี้ ครั้งก่อนเคยนั่งแต่รถตู้มาเที่ยวกับทัวร์ แล้วรู้สึกว่าเวลาน้อย เที่ยวไม่จุใจ นี่เลยเป็นการเที่ยวด้วยตัวเองครั้งแรกที่น่าน ของเรา


สนามบินที่น่านไม่ใหญ่มาก น่าจะพอๆกับระนอง


ถึงสนามบินปุ๊บเราก็ไปติดต่อรถเช่าที่เราจองไว้ แนะนำถ้าใครจะมาให้โทรจองรถไว้ล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เพราะบางทีถ้าเป็นช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่คนเยอะๆ รถที่เราต้องการอาจจะมีไม่พอ


รถที่เราเช่าขับในทริปนี้ คือ รถขนาดเล็ก 1500 cc ขึ้นเขาได้สบายมาก

จากตัวเมืองน่าน เราใช้เส้นทาง อ.สันติสุข ทางนี้จะโค้งค่อนข้างเยอะทีเดียว วิ่งบนเขาล้วนๆ ใครที่เมารถ ก็เตรียมยาดม ไว้ให้พร้อมเลยค่ะ แต่ระหว่างทางจะมีวิวทิวทัศน์ให้ดูเพลินๆ

ขับมาเรื่อยๆใช้เวลาประมาน เกือบ 2 ชั่วโมงก็มาถึง อ.บ่อเกลือ

ขับรถข้ามสะพานปูนมาเล็กน้อย ก็จะเห็นป้าย บ่อเกลือสินเธาว์ อยู่ทางซ้ายมือ จริงๆก่อนหน้านี้เราเคยมากับทัวร์แล้วครั้งนึง แต่ไหนๆก็ทางผ่านเลยคิดว่าแวะซักหน่อยดีกว่า เพราะกว่าจะเข้าที่พักได้ก็ตั้งช่วงบ่ายๆ

ที่นี่คือบ่อแรกที่เราเคยมาเมื่อครั้งก่อน ถ้าขับรถเข้ามาจะอยู่ทางขวามือ

พอเข้ามาถึง เงียบมากไม่คนเดินเลย สอบถามชาวบ้านเค้าบอกช่วงนี้ยังไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวเลยยังไม่ค่อยมีคน แถมวันที่เราไปเป็นวันธรรมดา และฝนก็ตกปรอยๆด้วย ชาวบ้านบอกให้ลองขับรถเข้าไปบ่อข้างใน ถึงจะมีการต้มเกลือ

ขับรถเลยจากบ่อแรกเข้ามาซักหน่อย บ่อเกลือที่ 2 จะอยู่ด้านซ้ายมือ มีที่จอดรถสะดวก สบายดี

เรือนต้มเกลือ

ภาพที่เห็นพี่ชาวบ้านบอกว่า พอน้ำเกลือเริ่มแห้งเป็นเกลือ เค้าก็จะตักเกลือใส่ชะลอม สะเด็ดน้ำเกลือให้แห้งค่ะ

อันนี้คือบ่อน้ำเกลือ ที่มาทำเกลือ

ด้านหน้าตรงที่จอดรถ จะมีร้านค้าของชาวบ้าน นำผลิตภัณฑ์มาวางขาย ทั้งเกลือขัดผิว สบู่ที่มีส่วนผสมของเกลือ ไข่ต้มเกลือ ข้จาวชนิดต่างๆ


เราอุดหนุนสบู่มา 1 ก้อน และเกลือขัดผิว 1 กระปุก

หลังจากออกจากบ่อเกลือ เห็นมีร้านกาแฟอยู่เลยแวะหาเครื่องดื่มเย็นๆกินซะหน่อย

สั่งชามะนาวมากินแก้กระหายน้ำ 1 แก้ว พร้อมกับนั่งพักรอฝนหยุดไปในตัว

ร้านเล็กๆตกแต่งน่ารักดีค่ะ

พอฝนหยุดเรียบร้อย หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเดินทางต่อไปยังที่พักกันเลย ออกจากบ่อเกลือก็เลี้ยวซ้ายขับขึ้นเขาไปยังหมู่บ้านสะปันอีก 8 กิโล


จากปากทางเข้าหมู่บ้านสะปัน ขับเข้ามาที่พักจะอยู่ซ้ายมือค่ะ

ถ้าเห็นป้ายแบบนี้ก็แสดงว่ามาถึงแล้วค่ะ อุ่นไอมาง ติดต่อเช็คอินได้ที่เรือนนี้เลยนะคะ จะมีป้าแม่บ้าน คอยต้อนรับค่ะ

เช็คอินเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินถ่ายรูปบรรยากาศของที่พักเล่นไปเรื่อยๆ

บนเรือนที่เช็คอินคือ เป็นเรือนไม้ อารมคล้ายๆล็อบบี้ของโรงแรมและห้องอาหาร เพราะเวลาจะกินข้าวเช้า หรือเย็น ก็มากินกันบนนี้แหละ

นั่งเล่นชมวิวธรรมชาติ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ไปในตัว

อากาศช่วงที่เราไป ประมาน 20 กว่าองศา เย็นสบายเลยทีเดียว

ที่นี่มีพนักงานต้อนรับเป็นเจ้าสี่ขา ชื่อ"ถ้วยฟู" ยิ่งถ้ามีของกินให้ด้วย นางจะมาเคลียคลอตลอดเลย 555

มองจากที่พักไปจะเห็นเป็นลำน้ำว้าไหลผ่านที่พัก กับวิวภูเขาเขียวขจี พร้อมด้วยหมอกบางๆ

นี่คือกระโจมเต้นท์ที่เราจะได้พัก มีเตียงนอนอยู่ข้างใน ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม อยู่ใต้ถุนเรือนไม้ที่เป็นล็อบบี้ค่ะ

ภาพนี้ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามของที่พัก จะเห็นว่ามีบ้านพักเป็นหลังด้วย แต่เนื่องจากมีจำนวนน้อย เราเลยจองไม่ทัน

นี่ก็เป็นบ้านพักอีกหลัง ห้องนี้น่าจะพักได้ 4 คน

ภาพมุมสูงของที่พัก

มุมสูงอีกซักรูป

สะพานไม้ไผ่สำหรับข้ามไปยังกระโจมอีกฝั่งนึง

ตรงสะพานทำเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งเล่น

ด้านหลังเราเป็นอีกฝั่งของที่พัก จะมีกระโจม อีก 2 หลัง

ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านสะปันบ้าง เจอเจ้าหมาน้อย ออกมาเห่าต้อนรับ 555

ที่นี่เงียบสงบ และยังคงความเป็นธรรมชาติมาก เหมาะกับมาใช้ชีวิตช้าๆ

เดินเล่น นั่งเล่น ไปเรื่อยๆก็ใกล้จะพลบค่ำ

บรรยากาศยามเย็นของที่นี่ ตอนนี้อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ

เริ่มหิวก็เลยขึ้นมาจับจองโต๊ะกินข้าว

อาหารมื้อค่ำของเรา รวมอยู่ในค่าที่พักที่จ่ายไปตอนแรกแล้ว ถ้าไม่อิ่มสามารถเติมได้ตลอดค่ะ


ทางที่พักคิด คนละ 800 รวมอาหาร มื้อเย็นและมื้อเช้า เราไป 2 คนก็จ่ายไปทั้งหมด 1600 บาท

หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จซักพักเราก็เข้านอนเลย เพราะฝนเริ่มจะตกหนักต้องรีบกลับเข้ากระโจมก่อนจะเปียก

เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นมาประมาน ตี 5 ครึ่งกว่าๆ มองออกมานอกกะโจมยังมืดอยู่เลย อากาศก็ค่อนข้างเย็น แถมฝนตกปรอยๆด้วย ลำธารที่อยู่ข้างหน้า น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลแดงซะแล้ว


สีน้ำจากลำธารไม่สวยเหมือนเมื่อวานซะแล้วหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ขึ้นมารอป้าเตรียมอาหารเช้าทานอาหารเช้าพร้อมกับวิวสวยๆเจ้าถ้วยฟู พนักงานต้อนรับของที่นี่หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ฝนหยุดตก เราก็มานั่งเล่นต่ออีกซักหน่อย คงจะดีไม่น้อย ถ้าตื่นมาเจอแบบนี้ในทุกเช้าคำว่า Slow life เหมาะกับที่นี่จริงๆ "อุ่นไอมาง"จบรีวิวที่อุ่นไอมางกันด้วยภาพนี้นะคะ เดี๋ยวเราต้องเดินทางต่อไปที่ อำเภอ ปัวแล้วค่ะการเดินทางมาอุ่นไอมาง


จากสนามบินน่าน

-เส้นทางที่ 1 มาทาง อ.ปัว (จากอำเภอเมือง-ปัว ประมาน 60 กม.) เป็นทางโค้งขึ้นเขาลงเขา พอถึงอำเภอน่อเกลือ ก็เลี้ยวซ้ายมาหมู่บ้านสะปัน อีก 8 กม. ขับจากปากทางหมู่บ้านมานิดนึงก็ถึงที่พักค่ะ

-เส้นทางที่ 2 มาทาง อ. สันติสุข ขับขึ้นเขามาเรื่อยๆถึงบ่อเกลือ ก็ก็ขับเลยมาประมาน 8 กม. ผ่านอุทยานขุนน่าน แล้วก็ถึงหมู่บ้านสะปัน เข้าหมู่บ้านไปนิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ ที่พักอยู่ทางซ้ายมือวิวระหว่างทางไป อำเภอปัว เห็นหมอกสวยดี เลยแวะถ่ายรูปซักหน่อย

ความคิดเห็น