Koh Kood
"เกาะกูด"
เกาะทางภาคตะวันออก ที่ใครหลายคนอาจได้เคยเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนอยู่บ่อยครั้ง เราก็เช่นกัน การเดินทางมาที่เกาะกูดของเราทริปนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเราเคยมาที่เกาะนี้อยู่หลายครั้ง เพราะติดใจกับน้ำทะเลที่ใส ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แถมยังเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกาะนี้ถึงทำให้ใครๆก็อยากไปนอนเล่นที่เกาะสักครั้ง
ทริปนี้เรามีที่พักใหม่ล่าสุดบนเกาะ ชื่อ Koh kood paradise beach resort มาแนะนำเพื่อนๆค่ะ ซึ่งที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นานเท่าไหร่ รีสอร์ทจะหน้าตาเป็นยังไง วิวสวยแค่ไหนตามไปดูกันเลยค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางเราขับรถออกจากบ้านที่กรุงเทพช่วงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม ก็มาถึง ท่าเรือแหลมศอก เพื่อจะมารอเรือที่จะพาเราข้ามไปยังเกาะกูด เรือที่เราใช้เดินทางคือ เรือเฟอรรี่ ของ บริษัท เกาะกูด เอ็กเพรส ค่าเรือไป-กลับ คนละ 700 บาทค่ะ ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 1 ชม.
หน้าตาของเรือก็จะประมาณนี้ค่ะ เรือลำใหญ่จุคนได้หลายคนค่ะ
ข้างในเรือมีเครื่องปรับอากาศเย็นสบายไม่ร้อนค่ะ ก่อนเรือจะออกจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจว่าเราใส่ชูชีพกันหรือยัง ระหว่างการเดินทางตลอด 1 ชม.ต้องสวมชูชีพตลอดนะคะ เรือออกตอนบ่ายโมงเรานั่งไปซักพักก็เคลิ้มๆหลับไปเหมือนกัน ก็แอร์มันค่อนข้างเย็น 555
ประมาณ บ่าย 2 นิดๆเราก็มาถึงท่าเรืออ่าวสลัด จะมีรถของทางรีสอร์ทมารอรับที่ท่าเรือเลย นั่งรถจากท่าเรือมาประมาณ 10 นาที ก็จะถึงที่พักค่ะ
บรรยากาศด้านหน้าที่พักค่ะ โชคดีมากที่วันที่เราไปไม่เจอฝน แถมแดดดี ฟ้าใส๊ใส
บรรยากาศด้านหน้าตรงล็อบบี้ มีเก้าอี้เก๋ๆให้นั่งเล่นชิลๆ ส่วนตรงหน้าฟร้อนเราไม่ได้ถ่ายมานะคะ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่กำลังตกแต่งริบบิ้นช่วงปีใหม่กันอยู่ค่ะ อ้อ!! ช่วงที่เราไปคือช่วงก่อนปีใหม่นะคะ ประมาณปลายๆเดือนธันวาค่ะ
ที่ผนังมีวาดลายเส้นน่ารักๆด้วยค่ะ
หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินสำรวจ รีสอร์ท ด้านหน้าติดกับชายหาดจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่รวมถึงเก้าอี้ จะเป็นสีส้มสดใส ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล และสีเขียวของต้นไม้
เที่ยวทะเลทั้งทีต้องเที่ยวแบบสบายๆ เน้นพักผ่อนชิลๆ เอนหลังบนเก้าอี้ผ้าใบ รับลมทะเล ยิ่งถ้ามีเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้วจะดีงามมาก
เราชอบสีสันของสระว่ายน้ำของที่นี่นะ รู้สึกเวลาถ่ายรูปออกมาแล้วมันช่างตัดกันกับสีน้ำทะเลจริงๆ
ยิ่งถ้ามองจากภาพมุมสูงด้วยแล้ว สีสระส้มๆเด่นมากค่ะ
ยิ่งช่วงไหนที่แดดแรงๆ จะเห็นว่าสีน้ำทะเลของที่เกาะกูดนี่ไล่ระดับเฉดสีจากเขียว ฟ้า น้ำเงินสวยงามมากมายค่ะ
พามาดูส่วนของที่พักกันบ้างนะคะ ในรูปนี้จะเป็น ห้อง beachfront ค่ะ มีทั้งหมด 4 ห้อง
ส่วนแบบนี้จะอยู่ถัดมาจากห้อง beachfront แถวนึง มีทั้งหมด 5 ห้องค่ะ แต่ละห้องจะเหมือนเป็นวิลล่าแยกเป็นส่วนตัวเป็นหลังๆ ค่ะ
มาดูบรรยากาศภายในห้องพักที่เราพักกันค่ะ มีเตียงนอนขนาด 6 ฟุต และโซฟาเล็กๆสำหรับนั่งเล่นตรงมุมห้อง
มองออกไปจะเห็นทะเลไกลๆค่ะ เพราะห้องที่เราพักไม่ใช่ห้องติดชายหาด แต่อยู่ถัดจากห้อง บีชฟร้อนท์มาประมาณ 3 แถว
ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องพัก และความสะอาดของผ้าปูที่นอนสะอาดดีค่ะ เพราะโรงแรมยังใหม่อยู่ด้วย
ห้องน้ำกว้างขวาง น้ำจากฝักบัวก็ไหลแรงชอบมาก
ครีมอาบน้ำจะออกกลิ่นแนวสมุนไพรค่ะ
ด้านหน้าห้องพักจะมีระเบียงไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนชิลๆค่ะ แต่ตอนกลางวันแดดแรงมากคงชิลไม่ไหว แนะนำเหมาะสำหรับช่วงเวลาเย็นๆจะดีกว่า
หลังจากเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆรีสอร์ท เราก็เริ่มรู้สึกหิว เลยลองสั่งอาหารมาทานรองท้องกันก่อนเพราะเดี๋ยวจะมีเดินทางไปน้ำตกกัน
จานนี้คือผัดไทย อันนี้คือจานที่เราสั่งรสชาติอร่อยดีค่ะ
ส่วนคะน้าหมูกรอบ ของคนข้างๆ ^^
ยำรวมมิตร รสชาติใช้ได้
เห็ดทอด เราชิมนิดหน่อยก็อร่อยดีค่ะ
ส่วนจานนี้ของคนที่มาด้วยกันเราไม่ได้ชิม แต่ก็น่าจะอร่อยแหละ เพราะเห็นก็ทานหมดจาน ^^
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็ไปลุยกันต่อที่น้ำตกคลองเจ้า
การเดินทางมาที่น้ำตก เราให้ที่พักติดต่อรถพาเรามาที่นี่ จากจุดจอดรถ ต้องเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกอีกราวครึ่งกิโลเมตร ด้านหน้าทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการและให้คำแนะนำอยู่ ที่นี่มีชูชีพไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่ว่ายน้ำไม่แข็งหรือว่ายไม่เป็นไว้บริการด้วยนะคะ
ระหว่างทางเดินไปยังน้ำตก จะสังเกตุเห็นว่าส่วนมากจะมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะกว่าคนไทย
ใช้เวลาแป๊บเดียวเดินไม่ไกลเราก็จะมาถึงน้ำตกแล้วค่ะ
ช่วงที่เราไปถือว่าน้ำค่อนข้างมีแต่ยังไม่เยอะมากค่ะ เพราะถ้าเป็นช่วงหน้าฝนน้ำจะเยอะน่าเล่นยิ่งกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ลงไปดำผุดดำว่ายคลายร้อนได้ดีทีเดียว
หลังจากกลับจากน้ำตก เราก็มาเดินถ่ายรูปเล่นแถวชายหาดหน้าที่พักกันต่อ
น้ำที่นี่ใสจริงๆค่ะ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวอยากโดดน้ำเล่นซะตอนนี้เลย
ที่ชายหาด มีบริการนวดด้วยนะคะ การนอนนวดริมทะเล นอนมองทะเล มองฟ้า นวดไปด้วยคงรู้สึกผ่อนคลายไม่ใช่น้อย สังเกตจากเตียงนวดที่ไม่เคยว่าง ต้องจองคิวกันนวดเลยทีเดียว
แอบถ่ายน้องหมา กำลังหลับเพลินอยู่ริมชายหาด พอเราจะถ่ายนางเหมือนรู้ตัวเหลือบตามองนิดนึงก่อนจะหลับต่อ 555
มีเรือคายัคให้พายเล่นด้วยนะคะ
ตรงส่วนของปลายสะพาน ช่วงเย็นๆมีเด็กๆมาตกปลาและเล่นน้ำกันด้วย
มุมชิงช้าตัวโปรด
ช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุดคือช่วงพระอาทิตย์ตกนี่ล่ะ มันสวย โรแมนติกมากๆ
พระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนๆเหมือนกัน เราว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรีสอร์ทเลยแหละ
แสงช่วงหลังพระอาทิตย์ตกไปแล้วก็สวยไม่แพ้กัน เป็นโชคดีของเราที่ทริปนี้ฟ้าเป็นใจมากๆ เลยได้เก็บบรรยากาศสวยๆมาฝากหลายภาพ
หลังจากถ่ายรูป เล่นน้ำ กันมาพอสมควรก็ถึงเวลาอาหารค่ำแล้ว
เมนูที่เราสั่งกันมาหมดนี่ทานกันหลายคนนะคะ แต่ที่เด่นสุดของมื้อนี้แล้วเราชอบสุดคือ ปูม้านึ่งค่ะ ปูที่นี่ขนาดตัวก็ไม่ได้ถึงกับใหญ่มากมาย แต่เนื้อหวาน มากค่ะ รับรู้ได้ถึงความสด กินเปล่าๆแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มยังอร่อยเลยค่ะ ^^
หลังจากกินมื้อค่ำกันจนอิ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็มาถ่ายรูปหน้าที่พักอีกเล็กน้อยก่อนจะเข้านอนค่ะ
จบค่ำคืนแรกด้วยภาพดวงดาวบนท้องฟ้า
ส่วนไลน์อาหารบุฟเฟต์ตอนเช้าของที่นี่ ช่วงที่เราไปยังไม่เรียบร้อยดี เพราะรีสอร์ทเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่อาหารที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ ก็สามารถขอเพิ่มได้ตลอดคะ
อันนี้คือหน้าตาอาหารเช้าของทางที่พักนะคะ มีให้เลือก แล้วแต่เราจะสั่งค่ะ ทั้งชุด american breakfast
ไข่กระทะ
ข้าวต้มกุ้ง
เค้กกล้วยหอมที่ Koh Kood Paradise ลงมือทำเองอบเอง อร่อยมากคะ
ก่อนกลับก็เลยขอแวะไปถ่ายรูปห้องพักอีกแบบ ที่อยู่ด้านหน้าทางเข้ารีสอร์ท เป็นอาคารสูง2ชั้น ที่เตรียมไว้รองรับสำหรับแขกที่มาพักหรือจัดสัมมนา
เราเก็บบรรยากาศห้องด้านในมาให้ดูกันเล็กน้อยค่ะ
ทริปนี้ประทับใจมากหวังว่าจะมีโอกาสกลับมาพักอีกแน่นอน
จบรีวิวที่พักเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่าจะช่วยเป็นตัวเลือกให้เพื่อนๆที่สนใจมาเที่ยวเกาะกูดแล้วหาที่พักกันอยู่นะคะ