รับหมอกยามเช้า พักสบาย สบายที่ Sunset Resort Khao Kho


"เริ่มหนาวแล้วไปเที่ยวไหนดี เอาที่มีหมอกให้ดูแล้วขับรถไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก"

เป็นโจทย์ที่ทางบ้านเสนอให้เราไปหามาสถานที่มาเพื่อที่จะพาพวกเค้าไปเที่ยวกัน

แล้วทริปนี้เราก็เลือกเขาค้อ เพราะเดินทางไม่ไกลมากขับรถจากกรุงเทพประมาน 4-5 ชั่วโมงได้ แถมยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่เขาตะเคียนโง๊ะ อยู่ใกล้ๆกับที่พักด้วย

มาถึงแล้วที่พักของเราในทริปนี้ Sunset Resort khao kho ค่ะ

ทางเข้ามองไปจะเห็นเป็นเรือนกระจกสีขาว ซึ่งตรงนี้เป็นทั้งคาเฟ่ มีเมนูของหวานให้เลือกสั่งเยอะเลย นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้วยังเป็นที่ทานอาหารเช้าด้วย

มุมนี้จะเป็นมุมล็อบบี้เวลาลูกค้ามาเช็คอินก็จะสามาถติดต่อกับพนักงานได้ที่นี่

ห้องพักของที่นี่แบ่งเป็น 3 แบบ 3 สไตล์ จำนวนรวม 8 ห้อง

1. วินเทจ 2 ห้อง

2. โมเดิร์น 3 ห้อง

3. โมเดิร์นดีลักซ์ 3 ห้อง

แต่ละแบบจะอยู่ไล่ระดับกันลงไปนะคะ บนสุดอยู่เหนือล็อบบี้คือวินเทจ ถัดไปคือ โมเดิร์น และล่างสุดอยู่ด้านล่างหน้าสุดไม่มีใครบังวิวคือ โมเดิร์นดีลักซ์ ซึ่งคือห้องที่เราเลือกพัก เพราะห้องนี้สามารถพักได้ 4 คน โดยจะมีโซฟาเบดเป็นเตียงเสริม

ก่อนจะถึงห้องที่เราพัก จะผ่านห้องแบบโมเดิร์นก่อน เลยถ่ายด้านหน้าให้ดูเล็กน้อยเนื่องจากวันที่เราเข้าพักห้องทุกแบบมีแขกเข้าพักเต็มหมด ห้องนี้จะเป็นห้องพัดลมนะคะ ถ้าไปช่วงอากาศหนาวก็เย็นสบายแบบไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์กันเลยทีเดียว

แล้วก็ถึงห้อง ที่เราจะเข้าพัก นั่นก็คือแบบ โมเดิร์นดีลักซ์ นั่นเอง ห้องนี้เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นานเป็นแบบใหม่สุดของที่นี่ค่ะ มีทั้งหมด 3 หลัง คือห้อง 106,107,108 เราได้พักห้อง 108 ห้องขวาสุดจากในรูปค่ะ

มาดูภายในห้องพักกันบ้างค่ะ เปิดประตูเข้ามาปุ๊บจะเจอกับเตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมระเบียงด้านหน้ามีเตียงไม้ไว้นอนเล่นชิวๆรับอากาศบริสุทธิ์หน้าห้องพัก พร้อมกับหมอนเตรียมไว้สำหรับ อีก 2 คนที่จะนอนเตียงเสริม

จะเห็นโซฟาเบดสีเทา ตรงมุมห้องซึ่งสามารถดึงออกมาเป็นเตียงนอนเสริมได้ค่ะ

มุมด้านหน้าห้องพักแบบโมเดิร์นดีลักซ์

มองจากมุมนี้จะเห็นระดับของห้องพักที่แบ่งกันอย่างชัดเจน บนสุดสีฟ้าขาวนั่นคือห้องวินเทจ รองลงมาคือ โมเดิร์น และ โมเดิร์นดีลักซ์

ตรงนี้เป็นโซนนั่งเล่น และตอนกลางคืนจะเป็นโซนทานอาหาร ซึ่งที่นี่จะมีกิจกรรมปิ้งย่างบาร์บีคิวทานกันตรงนี้ด้วยค่ะ

มีมุมกระโจมเก๋ๆให้ถ่ายรูปเล่นด้วยนะคะ

พอเริ่มจะค่ำทางรีสอร์ทก็เปิดไฟประดับสวยงามไปอีกแบบค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลาบาบีคิว ชุดที่เราเลือกสั่ง คือ ชุดรวม ราคา 899 บาท ประกอบไปด้วย พอร์คชอพ 1 ชิ้น เนื้อเซอลอย 1 ชิ้น ทะเลรวม ประกอบด้วย กุ้ง หอย ปลาหมึก 1 บัคเก็ต บาบีคิว 2 ไม้ หมูกับไก่ ผักรวม ขนมปัง หรือถ้าใครอยากซื้ออย่างอื่นติดไม้ติดมือมาปิ้งเพิ่มก็ได้นะคะ อ้อ!!พวกเซ็ตบาบีคิวต้องสั่งจองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก 1 วันนะคะ

ที่นี่สามารถนำเครื่องดื่ม เหล้า เบียร์มาทานได้นะคะ หรือจะสั่งจากที่พักก็มีจำหน่ายเหมือนกัน เราเห็นโต๊ะอื่นๆที่มากันแบบเพื่อนฝูงนั่งปาร์ตี้กันน่าสนุกเชียว

หน้าตาน่าทานไหมคะ กุ้ง ปลาหมึก สดดีนะคะ ส่วนหอยเราไม่ได้กินเพราะขี้เกียจแกะ แต่คนที่ไปด้วยก็บอกว่าสดดีค่ะ ส่วนเนื้อสำหรับเราเหนียวไปนิดนึงอาจจะเพราะชิ้นหนาค่อนข้างใหญ่

เราทำหน้าที่ปิ้ง ส่วนคุณแม่กับคุณย่า นั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อยเลยหลังจากอิ่มจากมื้อค่ำกันเรียบร้อย คืนนี้เราก็มานั่งหน้าระเบียงห้องพัก ดูดาวกัน อากาศช่วงที่เราไปพักประมาณช่วงเกือบปลายๆเดือนธันวา กลางคืนก็หนาวเย็นอยู่นะคะ ลมพัดมาทีหนาวสะท้านเลย

อะไรจะดีไปกว่านั่งดูดาวกับคนรู้ใจ หนาวแค่ไหนก็อบอุ่นไปถึงใจ



เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นประมานตี 5 กว่าๆรีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อที่จะไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาน 3 กม. ขับรถไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

เรามาเที่ยวเขาค้อหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราได้ขึ้นมาที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะแห่งนี้

จุดเด่นของที่นี่ เราว่านอกจากมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยแล้ว ยังสามารถชมวิวทะเลหมอกได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว และจากจุดชมวิวสามารถมองเห็น เขาปู่ เขาย่า มีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิ เป็นวิวที่สวยงามมองแล้วเพลินตาเลยทีเดียว

วันที่เราขึ้นไปทางเจ้าหน้าที่บอกว่าหมอกประมาณ 70% ได้ บางวันเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเห็นหมอกหนากว่านี้ ปกคลุมไปทั่วเขาเลยทีเดียว แต่เราก็ถือว่าที่เห็นถึงจะไม่เยอะมากแต่ก็ยังโชดดีแล้ว เพราะบางรอบก่อนๆมาเที่ยวเขาค้อ แอบกินแห้วไม่เจอหมอกเลยก็มีบ่อยไป ของแบบนี้อยู่ที่ธรรมชาติล้วนๆ แล้วแต่โชคด้วย

ที่นี่เค้าจะเก็บค่าบำรุงสถานที่คนละ 10 บาท หรือถ้าต้องการนอนค้างคืน ก็มีเต้นท์บริการนักท่องเที่ยว หรือ สามารถนำเต้นท์มากางเองก็ได้นะคะ

เรายืนซึมซับธรรมชาติและบรรยากาศดีๆอยู่ซักพัก ก็เดินทางกลับเพื่อจะไปกินอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้

ถึงที่พัก แขกที่มาพักส่วนมากเริ่มตื่นกันแล้ว คนเริ่มทยอยกันมาตักอาหารทานกัน จะเห็นว่าจากที่พักก็สามารถเห็นหมอกลอยฟุ้งเบาๆอยู่นะคะ

ภายในห้องอาหารเรือนกระจก

อาหารเช้า จะมีเป็น ไข่กวน แฮม ไส้กรอก ขนมปัง ข้าวต้มหมู นม คอร์นเฟลก แต่เราไม่ค่อยหิวมากเลยตักมาแค่นี้

หลังจากอิ่มแล้วเราก็เดินถ่ายรูปที่พักเล่นอีกนิดหน่อย

กลับมาถึงห้องพักก่อนที่จะเตรียมเก็บกระเป๋ากลับกรุงเทพ ก็อดไม่ไหวขอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาต่ออีกซักพักก็อากาศมันเย็นสบายจนไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว

ก่อนกลับเก็บภาพมุมสูงของที่พักมาฝากนะคะ

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวทริปเขาค้อ ใครมีแพลนมาเที่ยวเขาค้อถ้ายังไม่มีที่พัก หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยเป็นตัวเลือกอีกหนึ่งตัวเลือกนะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไว้รอติดตามทริปใหม่ต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ

Somewhere Someone

 วันพฤหัสที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.16 น.

ความคิดเห็น