สวัสดีค่ะ แมวน้ำ seally-go-round ค่ะ ^^

วันนี้แมวน้ำจะพาไปกินซูชิ ปลาดิบ ไข่หวาน ตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันจะโห่ พระอาทิตย์ยังไม่ทันได้ขึ้นเลยทีเดียว ^^'

หลายคนที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวโตเกียว 1ใน wish list นอกจาก มาช็อปปิ้งในย่านดังๆแล้ว ตลาดปลาสึกิจิ ก็คงเป็นอีกที่นึงที่ต้องมาเยือนให้ได้ อย่างน้อยต้องได้มีโอกาสมาต่อคิวรอร้านซูชิเจ้าดังอย่าง ร้าน Sushi Dai , ร้านDaiwa sushi ร้านSushibun หรือ มาดูบรรยากาศตลาดปลา หรือถ้าใครสนใจการประมูลปลามากุโระ ก็ต้องมาดูที่นี่เลย แต่ต้องกลั้นใจตื่น ฝืนลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืด เพราะเค้ารับบัตรคิวกันตั้งแต่ตีสาม

ส่วนแมวน้ำก็อยากนะ แต่เวลามันโหดร้ายไป แถมเวลานั้นรถไฟยังไม่วิ่งด้วย มาลำบากอยู่เหมือนกัน

ฉะนั้น วันนี้เลยขอรีวิวบรรยากาศช่วงเช้ามืดของตลาดสึกิจิ และวิธีเดินทางมายังที่นี่โดยรถไฟใต้ดิน ต้องรีบไปก่อน ก่อนที่จะเป็นตำนานเพราะกำลังจะย้ายไปที่ใหม่ ซึ่งก็เห็นว่าจะย้ายไปตั้งแต่เดือน พ.ย. 2016 แต่ไปๆมาๆ ยังไม่ได้ย้ายซะที

งั้นเราอาศัยช่วงเวลาที่เค้ากำลังเถียงๆกันว่าจะย้ายดี ไม่ย้ายดี ไปเที่ยวไปกินกันก่อนดีกว่า ^^

....ช่วงเช้าๆที่นี่มีอะไรน่าสนใจเดี๋ยวีตั้งปลุก ตีสี่มาดูกันค่ะ ^^


- ขณะนี้เวลา 4.00 น. -

อากาศหนาวประมาณ 9-10 °c

....โอ๊ยยยย...จะแหกขี้ตาตื่นมาทำมายยยย...

ที่ตื่นเช้าขนาดนี้ก็เพราะ.....

เช้านี้เป็นเช้าแรกของการมาเที่ยวโตเกียว 3 คืน กับ 4 วัน (ไม่ใช่สิ แค่ 3วันนิดๆ) ที่เราแพลนการเดินทางมาอย่างแน่นเอี้ยด

วันแรก - เดินทางมาถึงที่พักแถวshinjukuก็เกือบสามทุ่มแล้ว

วันที่ 2 -เดี๋ยวช่วงสายๆ ประมาณ 9โมงกว่าๆ เราจะเดินทางไปที่คาวากุจิโกะ แล้วพักที่นั่น 1 คืน

วันที่ 3 - กลับจากคาวา เข้าโตเกียว พักอูเอโนะ

วันที่ 4 - เที่ยวในละแวกอาซากุสะ อูเอโนะ เดินทางกลับ

ดังนั้น เรามีเวลาตอนเช้าที่โตเกียวมีแค่สองวัน แล้วซึ่งอีกวันนึงเป็นอาทิตย์ ตลาดปลาสึกิจิ ปิด เหลือแค่เช้านี้แล้วล่ะ ถ้าไม่ฝืนใจตื่นวันนี้ เธอพลาดสึกิจิแน่ๆเจ้าแมวน้ำ ^^'

(เพราะเดี๋ยวตอน 9โมงเช้าต้องไปคาวาฯ สายกว่านี้ แผนการเดินทางที่วางไว้รวนหมดแน่)

และอีกอย่าง เราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมาโตเกียวอีกเมื่อไหร่ มาครั้งหน้าอาจจะไม่ได้มาที่นี่แล้ว เพราะตอนที่ไปแว่วมาว่า เค้าจะย้ายตลาดในเดือน พฤศจิกายนปี 2016 ไปอยู่ที่ใหม่ที่Toyosu ใกล้ๆ Odaiba แต่เห็นตอนนี้ (ม.ค. 2017) ก็ยังไม่ย้าย เพราะพ่อค้าปลาบ่นว่าที่ใหม่แคบ จะแล่ปลายังไม่ค่อยจะได้เลย ก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่าจะได้ฤกษ์ย้ายเมื่อไหร่ (แต่ภาวนาว่าอย่าย้ายเล้ย ที่ใหม่มันไม่คลาสสิคอ่ะ)

เพราะฉะนั้น เราต้องรีบไปก่อนจะเป็นตำนาน ไปที่ใหม่มันก็ไม่ได้ฟีลตลาดปลาเก่าแก่ของโตเกียวอ่ะเนาะ


.....ตื่นเร็ว ตื่นเร็ว ไป สึกิจิกัน!!



------ 4.30 น. เริ่มออกเดินทาง

อาบน้ำแต่งตัว (แบบลวกๆ) แล้วเดินไปสถานีรถไฟซึ่งไม่ไกลมาก (แมวน้ำพักที่ โรงแรม Kadoya แถว Shinjuku)


เมื่อมาถึงสถานี ซื้อตั๋วก่อนเลย รถไฟจะเริ่มวิ่งรอบแรกตอนตีห้า ซึ่งเรามาก็พอดี ประมาณตีห้านิดๆ

เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน สาย Oedo

ซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่ สถานีชินจูกุ สถานี E27 Shinjuku แล้วต้องไปลงที่สถานี Tsukiji E18 ราคาตั๋วคนละ ¥270

นี่เช้าไปใช่มั้ยเนี่ย ยังไม่มีใครเลย นี่สถานีชินจูกุเชียวนะ ตอน7-8โมงนี่ต้องอัดกันเป็นปลากระป๋องแน่ๆ

รถไฟมาแว้วววว...

นั่งมาประมาณ 20นาทีได้ ก็ถึงแล้วสถานี E18


เริ่มเห็นพนักงานออฟฟิศหนาตาขึ้น พอออกจากสถานี โผล่ขึ้นมาก็เดินไปนิดเดียวก็ถึงทางเข้าตลาดแล้ว

แต่เดี๋ยวก่อน เริ่มไม่แน่ใจว่าทางไหนทางเข้า เพราะมันดูเหมือนทางรถขนของจอดส่งของ ไม่กล้าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวไปเกะกะขวางทางเค้า


ขอถามเจ้าหน้าที่ก่อน เจ้าหน้าที่ให้แผนที่ตลาดมา1แผ่นแล้วชี้ทางนี้แหล่ะ เดินเข้าไปได้เลย

ดูสิมาถึงตอนฟ้ายังไม่สว่างเลย ขณะนี้เวลาเกือบหกโมงเช้า ตลาดเริ่มเปิดกันแล้วล่ะ

ในตลาดสิ่งนึงที่ต้องระวัง คือ รถที่เค้าขนปลาคันเล็กๆแต่ซิ่งมาก คือเค้าไม่ผิดหรอกที่ขี่เร็ว เราเนี่ยแหล่ะไปขวางทางการทำงานของเค้า ดังนั้นเดินก็ระมัดระวังกันด้วยนะค้าาา


ร้านรวงต่างๆทยอยเปิดบ้างแล้ว แต่บางร้านที่ยังไม่เปิด แต่ก็มีคนออเต็มหน้าร้านแล้ว นั่นคือ บรรดาร้านซูชิชื่อดังต่างๆ เช่น ร้านSushi Dai , Sushibun เริ่มต่อคิวยาวขึ้นเรื่อยๆแล้ว

Sushi Dai คิวยาวมากกกกก...รอกันแบบหนาวๆตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด

ส่วนแมวน้ำมีเวลาน้อยนิดเลยขอหาร้านคนน้อยๆ หรือพวกของทานเล่นอย่างอื่นดีกว่า

ในโซนตลาดของสดเปิดกันแต่เช้ามืด มีทั้งของทะเลสดๆ ผัก ผลไม้ และร้านซูชิมากมาย

ร้านนี้ขายข้าวหน้าปลาไหล มีภาษาไทยด้วย (แปลด้วยgoogle translationแน่ๆ)


ร้านนี่ขายส่งปลาแห้ง



ร้านขายมีด รับบัตรเครดิตด้วย เคยได้ยินมาว่ามีดแล่ปลาดีๆเล่มนึงนี่ราคาเหยียบหมื่นเลย



ลับมีดคมๆ มาแล่เนื้อแมวน้ำไปทำซูชิหน่อยดีกว่า....แว้กๆๆๆ!!



นี่แค่ 6โมงกว่าๆ ร้านเริ่มทยอยเปิดกันเยอะแล้ว


เดี๋ยวไปหาของทานเล่นกันหน่อยดีกว่า^^สำหรับใครที่ไม่ชอบทานปลาดิบ แต่นิยมไข่หวาน แนะนำเลย ร้านไข่หวานอันเลื่องชื่อ ร้าน Shouro



นี่ก็จะลองชิมหมดนี่เลยดีมั้ย 555


น่าเกลียดน่ะ อุดหนุนเค้าด้วยสิเธอ


โอเคๆ ซื้อมาสองกล่องเล็กๆ เอาไปฝากแม่ที่โรงแรม

สำหรับรสชาติก็อร่อยดี แต่แมวน้ำผู้ไม่สันทัดไข่หวาน เลยไม่รู้ว่าไข่หวานที่อร่อยจัดๆ มันเป็นยังไง

แต่อันนี้มันเย็นเกินไป ไม่รู้เพราะอากาศ หรือว่าเค้าตั้งใจให้มันเย็นๆ เค้าคงไม่กินร้อนกันมั้ง แหะๆ

แต่ถ้าผ่านมาแถวนี้ต้องลองจ้าาา (เอาฝากแม่แม่บอกอร่อย^^)


เดินมาสุดทางเจอคุณป้าคนนี้ ขายเหมือนทอดมันซีฟู้ดเสียบไม้ย่าง ลองๆๆ

รสชาติมันเหมือนลูกชิ้น กลิ่นและรสซีฟู้ด ทาด้วยซอสเค็ม ก็อร่อยดีนะ^^



ส่วนอีกร้านนึงตั้งตรงหัวมุม ตรงข้ามกับร้านทอดมันย่างเมื่อกี๊ ชื่อร้าน Tsukiji Yama-Chou ขายไข่หวานเสียบไม้ ชิ้นใหญ่ดีแค่ 100 เยนเอง

ไข่หวานร้านนี้ดูอุ่นๆอยู่ในตู้นึ่ง แล้วราดซอสคล้ายๆน้ำเทมปุระ หอมกลิ่นปลาแห้ง อร่อยดีอุ่นๆคลายหนาว


(เอ๋....นี่มันมือคุมะมงนี่ 555)

ที่ญี่ปุ่นเค้ายืนทานอาหารเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าเดินไปกินไป เลยไปนั่งทานฝั่งตรงข้ามมีที่นั่งอยู่


เดี๋ยวทานหนมเสร็จไปไหว้เจ้ากัน^^ทานเสร็จเรียบร้อย


เดินไปอีกนิดก็จะเจอศาลเจ้า Namiyoke Inari Jinja

เป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า300ปี ที่คนขายปลาพ่อค้าแม่ค้าแถวสึกิจินี้ให้ความเคารพนับถือ

ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้านี้น่าสนใจดี ศาลเจ้าเล็กๆแต่มีstory มากมาย


รายละเอียดอ่านได้จากลิ้งนี้เลยค่ะ http://www.marumura.com/travel/?id=6132 ; เครดิต เรื่องโดย : The 8th Ronin www.marumura.com


สรุปย่อคร่าวๆจากบทความในลิ้ง ก็คือ สมัยก่อนแถบนี้เป็นทะเลน้ำท่วมถึง ทางการจะถมทะเลเพื่อสร้างเป็นแหล่งพื้นที่เศรษฐกิจ แต่การก่อสร้างล่าช้า เพราะคลื่นลมแรงเหลือเกิน ก็เลยสร้างศาลเจ้ามาเพื่อขอพรให้ป้องกันกำบังคลื่นลม ให้การก่อสร้างเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี


ต่อมาศาลเจ้ากลับกลายเป็นที่เคารพบูชาของพ่อค้าแม่ค้าของสดแถวนี้ จึงมีการสร้างรูปหินเคารพต่างๆที่แสดงถึงพวกบรรดากุ้งหอยปูปลาทั้งหลายเพื่อเป็นการขอบคุณที่ชีวิตสัตว์เหล่านั้นที่ทำให้เค้ามีอาชีพทำกิน ดีจัง^^

หัวสิงโตทะเลที่ทำจากไม้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมคน ทำให้คนเชื่อฟังอยู่ในโอวาทซึ่งเค้ามีเทศกาลแห่หัวสิงโตแดง กับดำรอบตลาดปลา ช่วงเดือนมิถุนาของทุกปี น่ามาดูเนาะ



โดยส่วนใหญ่คนที่มาไหว้ขอพรที่ศาลเจ้านี้ จะขอเรื่องทำมาค้าขายรุ่งเรือง และในเรื่องของการก่อสร้าง ขอให้แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ เหมือนวัตถุประสงค์แรกที่สร้างศาลเจ้านี้ขึ้นมานั่นเอง ^^ออกจากศาลเจ้ามา ดูเวลายังพอมี เลยขอหม่ำซูชิที่สึกิจินิดนึง เดี๋ยวเสียเที่ยว


แต่เวลาน้อยขนาดนี้อย่าหวังว่าจะไปต่อแถวเลย เอาจริงๆเรามาเช้าขนาดนี้ได้ต่อแถวอยู่หัวๆแถวแน่ แต่แมวน้ำอยากเดินเล่นดูตลาดมากกว่า เพราพเวลาจำกัดเลยต้องปล่อยผ่าน

แมวน้ำเลยเลือกร้านมีชื่อเสียงแต่คนน้อยๆดีกว่า เอาร้านนี้แล้วกัน ร้าน Tsukiji sushi sen ตรรกะในการเลือกร้าน คือ ในชื่อมีคำว่าสึกิจิอยู่ 555 (จะได้รู้ไงว่ากินที่ไหน)


ร้านนี้เค้าว่ากันว่าไม่แพง ร้านอยู่ในดงตลาดปลาอยู่แล้ว เรื่องความสดของปลา (คิดเองว่า) คงเหมือนๆกัน


วันนี้เลยสั่งชุดราคาพิเศษ เรียกว่า ชุด Early bird special set ราคา ¥1,500 มีมิโซะซุปให้ในเซ็ท

สิ่งที่ได้ ตามภาพเลยจ้า

เกิดมาเพิ่งเคยกินซูชิเช้าที่สุดก็วันนี้ ^ ^


สีสันสดใส น่ากิ๊น น่ากิน

ระวัง!!! วาซิบิที่แอบซ่อนด้านใน แต่วาซาบิที่นี่ไม่จื๊ดเท่าไหร่

หรือถ้าใครอยากสั่งเป็นคำๆ ก็เลือกจิ้มเอาตามนี้เลยจ้า

ความสดแน่นอนอยู่แล้วเพราะอยู่แถวตลาดปลา ก็แอบอยากรู้เหมือนกันว่า ร้านที่คนเยอะต่อคิวยาวๆ มันจะอร่อยกว่ายังไงน๊าาา... คราวหน้าถ้ามีโอกาสคงต้องลอง^^


หน้าร้านมีตู้หยอดไข่ ขอหยอดเล่นเป็นที่ระลึกสักอัน หมุนออกมาได้ ซูชิแซลมอนของโปรดด้วย ^^ท

ออกจากร้านซูชิกะว่าจะเดินไปดูตรงที่ขายปลา แต่เสียดายไม่ได้เข้า



เพราะเค้าจะอนุญาตให้เข้าไปหลัง 9 โมงเช้า เนื่องจากในตลาดเค้าขายส่งกันอยู่ ถ้าให้นักท่องเที่ยวเข้าไปจะไปเกะกะการทำงานของเค้า เลยอดเข้าเลย เพราะเราอยู่ได้ไม่ถึง9โมงแน่ๆ T T



**ส่วนในเรื่องการเข้าชมการประมูลปลา


จำกัดรับผู้เข้าชมได้เพียงวันละ 120 คน

แบ่งเป็นสองรอบ

- รอบแรก 60 คน เวลา 5.25 -5.50

- รอบสอง อีก 60 คนที่เหลือ เวลา 5.50 - 6.15

แต่ว่าคนที่จะเข้าชมต้องมาต่อคิวรอก่อนตี5หรือเช้ากว่านั้น เพราะเค้าตัดแค่120คน ไม่เกินกว่านี้


โดยต้องไปลงทะเบียนที่ Osakana Fukyu Center ( The fish information center) ที่ประตูทางเข้า Kachidoki เริ่มลงทะเบียนเวลา 5.00น.

เปิดให้เข้าชมการประมูลทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ วันพุธบางวัน และ วันหยุดสำคัญๆประจำปี และในช่วงพีคๆของตลาดที่มีการซื้อขายเยอะ คือช่วงปีใหม่ เค้าจะไม่ให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 58 - 16 ม.ค. 59 ค่ะ **


ส่วนนี่คือวิธีการเช็ควันเปิด-ปิดของตลาดปลาจ้า

เพิ่งอ่านเจอมาจากเพจ JapanList ลิสต์ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ในญี่ปุ่น

คลิกไปดูตามลิ้งนี้เลย

http://japantourlist.com/th/tsukiji-market-calendar_317j

ศึกษาไว้ก่อนวางแผนเดินทาง จะได้ไม่ไปเก้อ เสียเวลา แถมทริปที่แพลนมาจะรวนหมดนาจา ^^

_____________________________________

ฟ้าสว่างแล้วได้เวลาต้องกลับไปรับพ่อกับแม่ที่โรงแรม แล้วเดินทางต่อไปคาวากูจิโกะ

โห...นี่ขนาดยังไม่แปดโมงดูคิวที่ต่อแถวเพื่อจะเข้าไปกินซูชิที่ร้านนี้สิ ยาวมากกกกกก..... นี่แถวตัดไปอีกช่วงตึกนึงแล้ว นี่ถ้ามีเวลาคงได้ต่อแถวรอเหมือนกันครั้งนึงในชีวิตเป็นประสบการณ์เนาะ



ฟิเนเล่แล้ว สมใจ ได้มาเที่ยวสึกิจิ เดินเล่นกินนู่นนี่ตอนเช้ามืดแบบหนาวๆ สนุกดี ตื่นเช้าอีกนิดก็ได้ประสบการณ์การเดินทางเพิ่มอีกดีจัง ^^



แต่ตอนนี้ต้องรีบนั่งกลับไปชินจูกุรับพ่อกับแม่ที่โรงแรมแล้วเช็คเอ้าท์ไปคาวากูชิโกะต่อ


ไว้มีโอกาสจะมาเล่าบรรยากาศการเดินทางจากโตเกียวไปคาวากูชิโกะในโอกาสหน้านะคร้าาาา^^

ลากันไปด้วยภาพรถขนปลาแห่งสึกิจิ กับแสงเช้าๆ อบอุ่นๆ^^



ติดตาม ไปเที่ยว-ไปกิน-ไปทำกับข้าว กับแม่ครัวแมวน้ำ' Seally-go-round' ได้ตามลิ้งนี้จ้า
https://m.facebook.com/seallygoround/?fref=ts

ความคิดเห็น