ช่วงต้นปีอากาศดีๆแบบนี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงออกไปล่าหมอก เที่ยวภูเขา อัพรูปหมอกและดอกไม้สวยๆมาเยอะแล้ว

วันนี้เราจะชวนเพื่อนๆมาเปลี่ยนบรรยากาศ มาเที่ยวดูสัตว์น่ารักๆ กันบ้างค่ะ

ที่นี่เป็นฟาร์มที่เริ่มเปิดตัวเมื่อปลายปี 2557 และยังไม่ค่อยมีคนรีวิวเท่าไหร่

เลยอยากพาเพื่อนๆมาเที่ยวที่นี่กันค่ะ ++ มาลัยฟาร์ม++

ฟาร์มแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใน อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

ใครที่เคยมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก จะมาที่นี่ได้ไม่ยากค่ะ

เพราะอยู่ติดถนนสายบางแพ – สมุทรสงคราม กม. ที่ 27 ตามแผนที่เลยค่ะ

มาลัย ฟาร์ม เกิดจากไอเดียของคุณสมพงษ์สิริ ภัทรมาลัย ผู้ก่อตั้ง ที่ต่อยอดธุรกิจออกมาเป็นฟาร์มเปิด

เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม ป้อนอาหารและสัมผัสกับสัตว์ในฟาร์มอย่างใกล้ชิด

ที่นี่มีสัตว์มากกว่า 13 ชนิด เราเลยแอบตั้งฉายาให้ที่นี่ว่าเป็น "Mini Zoo" ด้วยแหละ

จะมีอะไรบ้าง และบรรยากาศด้านในเป็นอย่างไร ตามมาเที่ยวกันเลยค่ะ

v

v

v

มาถึงแล้วค่ะ หาไม่ยากเลยใช่มั๊ยค่ะ

สัญลักษณ์ด้านหน้าฟาร์ม กับสโลแกน "ดินแดนของคนรักสัตว์"

ตอนนี้ที่นี่ยังไม่เก็บค่าเข้าชมนะคะ คนไทยเที่ยวฟรี แต่ขอความสนับสนุนจากนักท่องเที่ยว ซื้อคูปองอาหาร 20 บาท

โดยคูปองดังกล่าวสามารถนำไปแลกอาหารเลี้ยงสัตว์ภายในฟาร์มได้ค่ะ

ซื้อคูปองเสร็จแล้ว เดินเข้าไปด้านในกันเล้ยยยยยยย...

จากทางเข้าด้านหน้า จุดแรกที่เราจะเจอคือ "คอกกระต่ายกับเต่า"

หืมมมมมมมม..........อ่านไม่ผิดค่ะ ที่นี่เค้าเลี้ยงกระต่ายไว้กับเต่าจริงๆ

มีสนามหญ้ากว้างๆ ให้กระต่ายกับเต่าได้วิ่งเล่น
และน้องๆยังสามารถเข้ามาเล่นและให้อาหารได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ในนิทานอีสปกระต่ายอาจจะเป็นคู่แข่งกับเต่า แต่ที่นี่ สองตัวนี้เค้าเป็นเพื่อนกันนะคะ

อิงแอบกันเบอร์นี้เลย

ส่วนน้องคนนี้คงป้อนอาหารเบื่อแล้ว เลยหันมาเล่นอย่างอื่นแทน

เป็นโมเมนท์น่ารักๆอีกอย่างที่เจอค่ะ

ใกล้ๆกับคอกกระต่ายก็จะเป็นกรงของ "อีกัวน่า"ค่ะ

สัตว์เลี้ยงที่นี่อยู่แบบใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ
"พี่หลามทอง" ตัวนี้ เลื้อยอยู่กลางสนามแบบนี้เลยค่ะ

เข้าไปจับ ไปลูบ ไปคลำ เพื่อถ่ายรูปคู่ได้เลย

หรือถ้าใครชอบขั้นแอดวานซ์ จะขอเจ้าหน้าที่เอามาคล้องคอแบบนี้ก็ได้นะคะ

ก่อนจะเดินไปชมโซนอื่นๆภายในฟาร์ม check point แรก

ที่สะดุดสายตาของเราก็คือสวนหย่อมขนาดย่อม ที่มีป้ายชื่อฟาร์มตั้งอยู่

ที่นี่อาจจะไม่มี Poke Mon ให้ล่า แต่มีเทเลทับบี้น๊าาาาาาาา.........มีหลายตัวด้วย

ใกล้ๆกัน เป็น"สะพานรักมาลัยฟาร์ม" ตั้งอยู่กลางสวน แถมฉากหลังยังเป็นน้ำตกจำลองสวยงาม

ห็นแบบนี้เชื่อว่าสาวๆ คงอดใจที่จะเซลฟี่ไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ

รถม้าและชิงช้าไม้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

ในฟาร์มจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ โดยมีทางเดินเชื่อมตรงกลาง ด้านบนมีหลังคากันแดด ช่วยให้เดินได้สบายๆ ไม่ร้อนมาก

โซนด้านหน้าจะมีคอก "กวาง" อยู่ทางด้านขวามือ เป็นจุดที่น้องๆหนูๆชอบกันมาก เพราะได้ดูพี่กวางอย่างใกล้ชิด

ใกล้ชิดกันมากถึงขนาดป้อนอาหารไป ลูบหัวไปเลยทีเดียว

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นกรง "นก" ที่รวมนกแก้วหลากหลายสายพันธ์ไว้ด้วยกัน

นกที่นี่เชื่องมาก เราสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เอานกมาเกาะที่ตัวเพื่อถ่ายรูปได้ด้วยนะคะ

ใกล้กับกรงนกจะเป็นคอกของ "วอลลาบี้" หรือ "จิงโจ้แคระ"

วันที่เราไป น้องจิงโจ้แอบเขินนอนอยู่ในกรงไม่ยอมออกมาให้ถ่ายรูปเลย

(เราเลยยืมรูปจาก FB ของฟาร์ม และรูปเก่าที่เคยไปถ่ายที่ตลาดขวัญเรียมมาให้ดูก่อนนะคะ ว่าหน้าตาเค้าน่ารักเบอร์นี้เลย)

ตรงกันข้ามจะเป็นคอกของ "นกกระจอกเทศ" และ "กวางดาว"

เพิ่งเคยเห็นใกล้ๆว่านกกระจอกเทศมีเท้าแค่ 2 กีบ

ตรงทางเดินจะมีป้ายบอกทางไปยังคอกของสัตว์ต่างๆ

เกร๋ๆ ไปอีก ด้วยการตั้งชื่อเป็นตำบลและอำเภอ....น่ารักอ่ะ

โซนกลางจะเป็นบ่ออนุบาล "จระเข้" มีเปลือกไข่และตู้จำลองแสดงโชว์ด้วยค่ะ

ที่พีคที่สุดของโซนนี้คือ "การตกจระเข้" หรือการป้อนอาหารจระเข้

จะคล้ายๆการตกเบ็ด โดยเจ้าหน้าที่จะเอาโครงไก่มาผูกไว้กับเชือก เพื่อให้เราได้หย่อนลงไปให้จระเข้ในสระค่ะ

พี่ใหญ่งับเหยื่อได้แล้ว

ส่วนน้องเล็กกำลังนอนอาบแดดรอคนเอาอาหารมาป้อน

เจ้าหน้าที่ฟาร์มบอกว่าถ้าใครตกได้ ยกจระเข้ให้เอากลับบ้านได้ด้วยนะคะ

ใครฝีมือดีตกได้แล้วเอาใส่หลังรถไปเล้ยยยย....อิอิ

หลังจากตื่นเต้นกับการตกจระเข้เรียบร้อยแล้ว เรามาเบรคอารมณ์สักนิดด้วยการ "ป้อนนมปลาคราฟ"

เป็นอีกกิจกรรมที่น้องๆจะชอบกันมาก

เรียกเสียงกรี๊ดเล็กๆ ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ

ถ้าอาหารหมดแล้ว เราสามารถซื้อเพิ่มได้ตามจุดบริการนะคะ

อมยิ้มกับภาพน่ารักๆจากบ่อปลาจนเมื่อยแก้มแล้ว เราไปต่อที่โซนสุดท้ายกันค่ะ

โซนนี้เรียกว่า "โซนพักผ่อนหย่อนใจ"

โดยมีเจ้า "อัลปาก้า" เป็น reception รอต้อนรับเราอยู่ เพื่อดักขอผักบุ้งจากเราที่หน้าประตูเลยค่ะ

ทุกโซนที่เราไปมักจะมีตัวขโมยซีนอยู่เสมอ โซนนี้ก็เช่นกัน

พี่ๆกำลังเลือกว่าจะป้อนอัลปาก้าตัวไหนดี กว่าจะรู้ตัว "น้องแพะ" คงอิ่มไปแล้ว

และโซนสุดท้ายด้านในสุดจะเป็นโซนเปิดค่ะ โดยจะกั้นคอกสำหรับสัตว์ใหญ่ จำพวกแพะ แกะ และอูฐ

ส่วนสัตว์เล็กๆ จำพวก ม้าแคระ แพะ แกะ จะปล่อยให้เดินเล่นอย่างเสรีเลยค่ะ

เพิ่งเคยเห็น "อูฐ" ครั้งแรก เพิ่งรู้ว่าตัวจริงตัวใหญ่มว๊ากกกกกกกกและแรงเยอะมว๊ากกกกกกก เช่นกัน

ดึงอาหารที คนป้อนแทบจะปลิวตามเลยค่ะ

น้องแกะตัวเล็กกำลังเดินตรวจแถวพี่ๆ

นอกจากตัวขโมยซีน ..... บางทีเราก็จับหัวขโมยได้ด้วยค่ะ

โซนเสรีตรงนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเล่น ถ่ายรูป และป้อนอาหารกับพวกน้องเล็กได้เต็มที่เลยค่ะ

พี่ม้าแคระขวัญใจน้องๆ

บรรยากาศน่ารักจากโซนด้านใน ป้อนอาหารบ้าง ถ่ายรูปบ้าง สนุกสนานกัน

น้องแพะเบบี้ตัวนี้ฉลาดมากกกกกกก เค้าจะเดินตามหาเราไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหน จนกว่าผักบุ้งในมือเราจะหมด

บอกแล้วว่าทุกโซนมักจะมีตัวแย่งซีน ....นี่ก็เช่นกัน.....ต้องการป้อนอีกตัว แต่ตัวข้างๆอิ่ม

อีกจุด check point สำหรับโซนนี้ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีสัตว์อีก 2-3 ชนิดที่เราไม่รู้จักชื่อ กลัวจะเรียกผิด เอารูปมาให้ดูพลางๆไปก่อนนะคะ

เสร็จภารกิจแล้ว อย่าลืมล้างมือ เพื่อสุขอนามัยที่ดีกันนะคะ ทางฟาร์มจะมีก๊อกน้ำไว้บริการทั้งโซนด้านในและด้านนอกเลยค่ะ

อิ่มใจแล้วเรามาหาอะไรใส่ให้อิ่มท้องบ้างค่ะ ด้านในฟาร์มจะมีร้านกาแฟน่ารักๆไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว

แต่ถ้าใครอยากได้อาหารหนักๆ แนะนำด้านนอกค่ะ ที่นี่จะมีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ

บรรยากาศภายในร้าน

มี Free Wifi ด้วย อัพรูปและเช็คอินกันรัวๆเลยค่ะ

เมนูของร้านนอกจากเนื้อจำพวก หมู ไก่ ทะเลแล้ว

ยังมีเนื้อสัตว์คุณภาพจากฟาร์มจำพวกจระเข้ กวาง และนกกระจอกเทศให้ลิ้มลองด้วยค่ะ

เนื้อสัตว์กลุ่มนี้จะมีไขมันต่ำ โปรตีนสูง คนชอบเนื้อต้องมาลองค่ะ

อาหารแนะนำของทางร้านจะเป็นสเต็กเนื้อต่างๆ เช่น เนื้อจระเข้ กวาง หรือนกกระจอกเทศ

วันนี้เราลองทานสปาเก็ตตี้ไก่ผัดขี้เมา กับผัดเผ็ดเนื้อจระเข้ รสชาดดีค่ะ ไม่มีกลิ่นคาวเลย

แก้วนี้ชาเขียวนม ไม่หวานมาก หอมมัชชะ ชอบบบบบบบ^^

หน้าร้านกาแฟจะมีร่มให้ยืมสำหรับลูกค้าที่เข้าไปเที่ยวในฟาร์มด้วยนะคะ เป็นความใส่ใจเล็กๆที่น่าประทับใจ

อิ่มท้องแล้ว ก่อนจะโบกมือลาที่นี่ แวะร้านกิฟท์ชอปที่อยู่ด้านหน้าดูบ้างค่ะ

ภายในจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้ ไข่นกกระจอกเทศ

ทางฟาร์มบอกว่าผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของที่นี่ ราคาจะถูกกว่าในห้างถึง 50% ใครชอบงานหนังไม่ควรพลาดค่ะ

รวมถึงผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด จำพวกบาร์ม สบู่สมุนไพร และเกลือสปาด้วยค่ะ

มาถึงถิ่นแบบนี้แน่นอนว่าที่นี่ต้องมีเนื้อสัตว์แปรรูปให้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือ

ถ้าใครเป็นแฟนพันธ์แท้ แบรนด์"มาลัย" น่าจะรู้จักดี เพราะมีขายในห้างด้วยค่ะ

จบทริปนี้ไปแบบสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้ม สมกับสโลแกน "ดินแดนของคนรักสัตว์" จริงๆค่ะ

เป็นอีกที่ที่อยากแนะนำให้เพื่อนได้ลองมาเที่ยวดู โดยเฉพาะครอบครัวที่มีน้องๆ หนูๆ รับรองเด็กๆ ยิ้มไม่หุบแน่นอนค่ะ

****************************************************************************

ฝากติดตามผลงานเพจ FB https://www.facebook.com/travelandoutdoors/

ขอบคุณสำหรับทุกไลค์และแชร์ค่ะ ^V^

******************************************************************************

ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดเข้าชม : 8.00 - 18.00 น. ทุกวัน
ค่าเข้า : คนไทยเข้าชมฟรี / ชาวต่างชาติ 300 บ.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ร้านอาหาร , ร้านกาแฟ , Free wifi , ของที่ระลึก
โทรศัพท์ : 032-245711 , 099 - 9714147
Fax : 032 - 245712
E-mail : [email protected]
Website : www.malaiostrichfarm.com

Comment :
- จุดเด่นของที่นี่คือ นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหาร ถ่ายรูป และเล่นกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด
- ที่จอดรถมีทั้งในร่มและกลางแจ้งค่ะ
- ห้องน้ำจะมีบริการสองจุดคือตรงกลางฟาร์ม และด้านนอก
- ถังขยะภายในฟาร์มมีค่อนข้างน้อย
- ป้ายข้อมูลและชื่อสัตว์มีไม่ครบทุกคอก อันนี้เราว่า must have นะ
- อาหารมีทั้งเมนู หมู ไก่ ทะเล และเนื้อสัตว์จากฟาร์ม รสชาดอร่อย ราคาไม่แพงค่ะ
- ขอบคุณภาพบางส่วนจาก มาลัย ฟาร์ม FB : h ttps://www.facebook.com/malaifarmdamnoensaduak/home
- ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Newyorknurse Bloggang : http://www.bloggang.com/m/mainbl ... oup=20&gblog=41