...กลับมาเกาะนี้อีกครั้งในรอบ 20 กว่าปี เพราะมีโอกาสได้มาทำงานอยู่แถวเขาหลักอยู่ 2 เดือน วันหยุดเลยหาซื้อทัวร์แถวหน้าเขาหลักไปเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆในย่านนี้ ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2,200-2,700 แต่กำลังจะจองพอดีได้คนพื้นที่ติดต่อให้ในราคา 1,600 กับบ.ทัวร์ ของ love andaman ประหยัดไปได้อีกหน่อย

เช้าวันเดินทางมีรถมารับยังหน้าเขาหลักพาผมไปยังท่าเรือทับละมุ ซึ่งเป็นท่าเรือไปยังเกาะต่างๆในแถบนี้ แล้วเดินตรงไปยังร้านสมาคมภริยาทหารเรือเพื่อลงทะเบียน และรับริชแบนด์มาใส่ เพื่อจะได้รู้ว่ามากับเรือลำไหน เสร็จแล้วเดินไปฟังข้อแนะนำจากไกด์หน้าท่าเทียบเรือของบริษัท

ก่อนขึ้นเรือต้องฝากรองเท้าแตะไว้ที่ท่า เพราะมีกฎว่าห้ามใส่รองเท้าขึ้นเกาะ จากนั้นเรือ speed boat ขนาดเครื่องยนต์ 900 cc จุคนได้สักเกือบ 50 คนก็พาพวกเราเคลื่อนออกจากฝั่งท่ามกลางคลื่นลมที่ค่อนข้างเงียบสงบไปอย่ารวดเร็ว ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงเกาะ 4 ซึ่งเป็นเกาะอันเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยาน

เกาะเมี่ยง หรือ เกาะ 4 เป็นเกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 และเป็นหนึ่งในจำนวน 9 เกาะของหมู่เกาะสิมิลัน เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยาน และเป็นที่สำหรับพักแรมได้ที่นี่ที่เดียว ที่พักแรมมีทั้งเป็นเต้นท์ และบ้านพัก น้ำท่ามีพอให้อาบ ไฟพร้อมแต่เปิดตามเวลา มีอาหารตามสั่งและพวกขนมขบเคี้ยว น้ำดื่ม น้ำอัดลมและมาม่าไว้บริการอีกด้วย

บนเกาะจะมีหาดอยู่ 2 หาดคือ หาดหน้ากับหาดเล็ก และจุดชมวิวลานข้าหลวง จุดที่เรือมาจอดส่งคือบริเวณหาดด้านหน้าของเกาะ หรือบางทีก็จะเป็นหาดเล็กแล้วแต่สภาพคลื่นลมในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีสัตว์หายากอย่างปูไก่ และนกชาปีไหน ซึ่งมันหายากจริงๆ ไม่มีโผล่มาให้เห็น ผมเลยเดินสำรวจเก็บภาพของหาดด้านหน้าซึ่งมีหาดทรายขาวละเอียดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ มองออกไปด้านหน้าของเกาะจะเห็นเกาะปายู (เกาะ7) และเกาะสิมิลัน (เกาะ 8) ส่วนด้านข้างของหาดทั้งสองด้านจะเหมาะสำหรับดำน้ำดูปะการังแต่ต้องระวังคลื่นลมแรงด้วย หรือจะนอนอาบแดดก้พอมีต้นงวงช้างทะเลคอยให้ร่มเงาคลายร้อนได้บ้าง

สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงมีเมฆฝนเริ่มก่อตัวให้เห็น ไม่รู้ว่าช่วงขากลับจะเจอพายุฝนไหม เพราะช่วงที่ผมไปประมาณ ปลายเดือนมีนาซึ่งใกล้มรสุมจะเข้าแล้ว

หลังจากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ ซึ่งไม่ว่าเราจะซื้อทัวร์จากเจ้าไหนอาหารทางอุทยานจะเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้ เราใช้เวลาบนเกาะอยู่ 2 ชมกว่า เพราะมีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมบางอย่าง แล้วออกเดินทางไปยังเกาะบางู (เกาะ 9) ซึ่งเกาะนี้เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อ ในวงการดำน้ำจะเรียกจุดนี้ว่า chirstmas point จุดนี้จะเป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามสลับซับซ้อนกันเป็นบริเวณกว้าง จะมีแนวปะการัง และกัลปังหาที่สมบูรณ์ และยังเป็นที่อยู่ของปลาหลากชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้น ฉลามครีบเงิน ปลาเก๋า ปลาบู่ กั้งตั๊กแตน เป็นต้น สภาพบนเกาะจะเต็มไปด้วยโขดหินต่างๆตั้งอยู่เต็มไปหมด

เราใช้เวลาดำน้ำอยู่ราวๆ ชั่วโมงนึงจึงออกเดินทางสู่เกาะสิมิลัน (เกาะ 8) ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของทัวร์ one day trip เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกมาช้านานแล้ว โดยเฉพาะไฮไลต์ที่เป็นรูปหินเรือใบ ซึ่งบนนั้นจะเป็นจุดชมวิวของตัวเกาะด้วย ใต้ทะเลมีปะการังสวยงามมากมาย ทั้งปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังดอกเห็ด ปะการังใบไม้ กัลปังหา กุ้งมังกร และปลาสีสันต์สวยงามอยู่มากมาย เกาะนี้สามารถดำน้ำได้ทั้งแบบ snorkeling และ diving พอเรือเทียบท่าเรียบร้อยก็เดินเลี้ยวซ้ายขึ้นไปยังจุดชมวิวหินเรือใบ ทางขึ้นไม่ถึงกับชันมากเดินไปตามทางเดินไม่นานก็ถึงบนหินเรือใบแล้ว พื้นที่บนนี้ไม่กว้างมากนัก ควรใช้ความระมัดระวังในการยืนถ่ายภาพ หรือรอคิวหากมีคนเยอะ

บนหินเรือใบมองไปได้เกือบ 360 องศา มองไปเบื้องหน้าจะเห็นเกาะบายู ด้านซ้ายจะเป็นอ่าวที่เรือเข้ามาจอดยังหน้าหาด ด้านขวาจะมีจุดดำน้ำตื้นบริเวณกองหินย่อยๆ ด้านหลังจะเป็นตัวเกาะมีต้นไม้ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งเกาะ

จุดที่เสียวที่สุดของหินเรือใบ

ด้านหลังของก้อนหินรูปทรงเรือใบ

ได้เวลากลับเข้าฝั่งตอน สามโมงครึ่งเมฆฝนที่ก่อตัวช่วงเช้าไม่มีให้เห็น ฟ้าใสแดดแรง ผิวเกรียม แต่ในใจคิดว่าจะมีโอกาสได้กลับมาสิมิลันในช่วงบั้นปลายชีวิตอีกไหมน่ะเพราะมาครั้งแรกก็สมัยวัยรุ่น มาครั้งที่ 2 ก็วัยกลางคนเข้าไปแล้ว ช่วงรอขึ้นเรือก็เก็บภาพ 360 องศาส่งท้ายเป็นการร่ำลา ก่อนเดินไปขึ้นเรือออกเดินทางถึงท่าเรือตอนสี่โมงครึ่ง หมดไปอีกหนึ่งทริปของพังงา...

***การจะมาท่องท่องยังหมู่เกาะต่างๆแถบนี้โดยไม่จองเป็น package ทัวร์ก็ให้มาหาที่พักแถวเขาหลักหรือภูเก็ตถูกๆ แล้วหาซื้อทัวร์ one day trip ตามสถานที่ที่เราพัก มี counter tour ให้เลือกมากมาย ราคาจะแตกต่างกันไม่ถึง 500 แล้วแต่เราต่อรอง


-ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้เข้ามาชม และ กด like กด share เป็นกำลังใจน่ะครับ

-แลกเปลี่ยนข้อมูล หรือพูดคุย สอบถามข้อมูลการเดินทาง Fanpage : สตั๊ดดอยร้อยเรื่องราว

-ติดตามบทความเก่าๆ ได้ที่นี่ครับ ทริปเดินทางทั้งหมด








สตั๊ดดอย ร้อยเรื่องราว

 วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.16 น.

ความคิดเห็น