:: หน้าร้อนแบบนี้ ต้องเป็นทะเล และทะเลที่เราจะไป มันต้องสวย มันต้องใช่ มันต้องโดน และหนึ่งในความคิดของผมคือ "หลีเป๊ะ"


แต่ด้วยความที่ว่า "งบน้อย" ถ้าไปเที่ยวคนเดียว ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะแน่ๆ เลยประกาศหาเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยซะเลย กำหนด

วันและเวลาไปคร่าวๆ ให้คนที่จะไปด้วยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม แต่จำกัดจำนวนคนไว้ที่ 10 คน และโพสต์ลงไป

ในแฟนเพจเฟสบุ๊ค หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ได้เพื่อนไปเที่ยวทะเลหน้าร้อนด้วยกันกับผมแล้วหละคร๊าบบบ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕



Follow Me : https://www.facebook.com/PalapiliiThailand

:: การเดินทางครั้งนี้ มีผู้หญิง 8 คน ผู้ชาย 2 คน โชคดีที่มีพี่บิ๊ก ผมเลยไม่ต้องจัดเตรียมอะไรมาก เพราะพี่เค้าจะไปอยู่แล้ว


แต่ขาดคนเหมือนกัน ผมก็เลยใช้แพลนพี่เค้าไปเลย ๕๕๕ (โชคดีฝุดๆ) แพลนคร่าวๆ ที่เราวางไว้เป็นแบบนี้ครับ



- นัดกันที่ บขส.สายใต้

- ใช้ถึงสตูล

- นั่งวินไปตลาดเพื่อไปหารถสองแถว

- นั่งสองแถวไปปากบารา

- นั่ง Speed boat จากปากบาราไปหลีเป๊ะ

- จองที่พักที่คืนแรกที่ อช. บนเกาะอาดัง

- จองเรือหางยาว ทัวร์รอบๆ บริเวณนั้น

- จองพี่พักคืนที่สองที่ Mountain Resort

- ตื่นเช้าแล้วนั่ง Speed boat กลับเข้าฝั่ง



:: ตอนนั้นตั้งงบไว้ไม่เกินคนละ 5,000 บาท มาดูซิ ว่าเราจะทำได้รึป่าว กับการใช้ชีวิตอยู่ที่หลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน นี้ ๕๕๕๕

วันแรก



:: เรานัดเจอกันที่ บขส.สายใต้ จองรถ 999 ทั้งขาไปและขากลับ วางแผนเดินทางตอนกลางคืน เพื่อไปเช้าวันรุ่งขึ้น

ปัญหาที่เกิดคือ ผมไม่เคยนั่งรถไปภาคใต้ ด้วยควายมั่นใจ เลยบอกพี่ TAXI ไปว่า "เพ่ ไปหมอชิตใหม่ ด่วนๆ เลย"

๕๕๕๕๕ หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ด้วยความอยากโม้โอ้อวด ก็เลยโทรไปหาพี่ๆ ที่จะไปด้วยกันว่าจะถึงแล้วนะ

พวกเธอมาแล้วยัง อะไรทำนองนี้ ถามว่าอยู่ชั้นไหน ตรงไหน ก็แปลกใจ ทำไมไม่คุ้นเลย พอพี่เค้าถามว่า เอ็งอยู่ไหน

ผมก็เลยบอกว่า ก็อยู่หมอชิตไงพี่!!! เท่านั้นแหละ 5555



- TAXI 100 บาท

- ค่าบัส 800 บาท

รวม#1 : 900 บาท

:: ขอโทษนะครับ เผอิญว่าไปทัน ๕๕๕๕๕ หลังจากที่ทั้งคันรอผมคนเดียว บัส 999 สายใต้ ก็หมุนไปแล้ว 8 ชั่วโมงกว่าๆ จนไปถึงสตูล


เวลาประมาณ 7:30 น. บริเวณในตัวเมือง จ.สตูล



วันที่สอง



:: หลังจากที่ทุกคนยกย้ายสัมภาระกัน ตรวจเช๊คของให้ครบ ก็โบกพี่วินเลย บอกพี่ๆ ไปตลาดๆ (คืออ่านมาใน pantip นั่นแหละ เค้าบอกว่าให้โบก

แล้วบอกว่าไปตลาด ก็เลยทำแบบนี้ตามเค้า) ก็ราคา 20 บาท เหมือนในรีวิวเป๊ะ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีนะครับ หลังจากที่ถึงตลาด ก็หารถสองแถว

ที่ไปท่าเรือปากบารา เค้าบอกว่า 20 บาทเหมือนกัน ก็อ้าวววว ขึ้นรถๆ แล้วก็ไปกัน ระหว่างทางก็จะเป็นวิวทะเลสวยๆ ครับ แต่ยังใสไม่มาก

ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนไปถึงปากบารา จากกนั้นก็ไปติดต่อ Speed boat ที่เราติดต่อไว้ก่อนมา พอได้ตั๋วแล้ว ก็รอเรือรอบ 09.00 น.

เพื่อไปตะลุยหาดสวรรค์หรรษา อร๊ายยยยยยยย หลีเป๊ะๆๆๆๆ:: ค่าวิน 20 บาท

:: ค่าสองแถว 20 บาท

:: ค่าเรือไปกลับ 1,700 บาท



รวมทั้งหมดตั้งแต่แรก : 2,640 บาทแล้ว T T (ตั้งงบไว้ 5,000) 555


:: ยกแรก หลังจากนั่งเรือมา 30 นาที เค้าก็จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวบางส่วน ลงไปที่ อช.ตะรุเตาครับ ใครที่อยากจะพักที่นี่ ก็สามารถทำได้


แบบ นอน 1 คืน และก็ค่อยเดินทางต่อไปหลีเป๊ะก็ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่แวะ แต่อยากเข้าไปถ่ายรูปหรือดูบรรยากาศหมู้เกาะ ก็สามารถเข้าไปได้

แต่ต้องจ่ายบัตรค่าเข้าชมอุทยาน ราคา 40 บาทครับ หลังจาก 15 นาทีผ่านไป ผมก็ขึ้นเรือและเดินทางไปต่อ...



:: ระหว่างทางมีทั้งฝรั่ง มังคุด ! ก็พวกต่างชาติ ชาวมุสลิมอะไรแบบนี้อะครับ สนุกดีนะ คุยกับคนไม่รู้จักเนี่ย ก็คุยๆ กันไป เข้าใจไม่เข้าใจ

กุใส่ภาษามือไปก่อนเลย ๕๕๕๕ (นึกแล้วก็หรรม) หลักจากนั้น 45 นาที ภาพที่เห็นตรงหน้าก็คือ "เกาะไข่" ครับ กัปตันบอกว่า เราสามารถ

ลงไปเยี่ยมชมประตูหินได้ประมาณ 15 นาที...



:: เกาะไข่ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาก นั่นคือ ซุ้มประตูหินขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดได้ ซุ่มประตูนี้เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสตูล เต่าทะเลชอบขึ้นมาวางไข่เสมอ แต่ทางอุทยานฯไม่อนุญาติให้พักแรมบนเกาะ เกาะไข่มีความเชื่อว่า หนุ่มสาวคู่ไหนที่ได้ลอดซุ้มประตูหิน


จะได้แต่งงานกัน อิ๊! ลองไปลอดดูนะครับ เผื่อได้กลับมาไว้ที่บ้าน ๕๕๕

:: หลังจากที่ขึ้นเรือ ออกจากเกาะไข่ ก็มาถึงท่าเรือกลางน้ำครับ ท่าเรือนี้ใช้ Transfer ผู้โดยสาร จากเรือใหญ่สู่เรือเล็ก


เพื่อไปตามเกาะ หรือที่พักต่างๆ พอไปยืนอยู่บนนั้น เหมือนดั่งอดีลนารีนหลั่งไหลเลยครับ ต้องบอกว่า "สวยโคตร"

:: ตามแผนคือ วันนี้เราจะต้องไปนอนที่ อช.หมู่เกาะอาดังครับ เราติดต่อเรือหางยาวให้พี่เค้าไปส่งที่ อช.หมู่เกาะอาดัง ระหว่างทางที่เรือแล่น


สองฝั่งข้างทาง (หรือข้างทะเลวะ ๕๕) เอาเป็นว่า วิวรอบๆ สวยมากครับ ฝั่งซ้าย ก็จะเป็นวิวเกาะหลีเป๊ะ ที่มีรีสอร์ทหลากหลายสไตล์เรียงราย

อยู่บนเกาะ เลื่อนสายตาลงมา ก็จะเห็นฝรั่งเล่นน้ำกัน นอนอาบแดดกันบ้าง เดินแก้ผ้ากันบ้าง ๕๕ มองไปข้างหน้า ก็เห็นทะเลสีเขียวสะดุดตา

เหมือนในภาพที่เพื่อนๆ เห็น เกาะเล็กๆ เกาะนั้นชื่อ "เกาะกระ" ครับ นักท่องเที่ยวมักภายคายัคมาเกาะนี้ เพราะมีความเป็นส่วนตัวมาก...

:: 30 นาที ไวเหมือนโกหก ไม่นานเราก็มาอยุ่บนเกาะอาดังแล้วครับ ด้วยความตื่นเต้น เราใช้เวลาในการ Check in ไม่นาน ทิ้งกระเป๋า


เปลี่ยนเสื้อผ้า และปล่อยกายใจลงทะเล โ อ้ ว ม า ย ก๊ อ ด แถวบ้านเรียกว่า "ความสุข" ผู้ชายสองคนนั่งจิ๊บเบียร์ริมหาด ส่วนสาวๆ

ทั้งแปดนาง ก็ผัดกันเล่นน้ำ ดำน้ำ พูดคุยกันและทำความรู้จักกัน ก็ตอนช่วงนี้แหละครับ



:: หลังจากนั้นดำน้ำเสร็จ ก็ไปทานข้าวที่ สหกรณ์ของ อช.ครับ พอทานข้าวเสร็จ เราก็ไปที่ห้องใดห้องหนึ่งนั่นแหละ และก็นั่งล้อมวง


เล่นเกมส์และดริ๊งส์เบาๆ สร้างความสัมพันธ์ให้เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับทริปในครั้งนี้(ก่อนลงเรือ เราซื้อน้ำซื้อแอลใส่กล่อง

ไว้ แล้วแบกขึ้นมาในเรือครับ) เมื่อเวลาเหมาะสม ต่างคนต่างแยกย้าย และนอนสลบ จบไปในคืนแรกของทริป



:: ค่าใช้จ่ายก่อนหน้า 2,640 บาท

:: ค่า อช. คืนละ 600 หาร 5 (อยู่ห้องละ 5 คน)เท่ากับ 125 บาท

:: ค่ามื้อเย็นเฉลี่ยคนละ 200 บาท



ค่าใช้จ่าย#3 : 2,965 บาท

:: สวัสดีเช้าวันที่สามของทริปครับ...



:: เช้านี้ตื่นมาด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางมาทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน แถมดำน้ำตอนเย็นเค้าไปอีก ร่างกายเลยไม่ค่อยไหว แต่ก็มีมือดี

ตื่นแต่เช้า มาเก็บภาพๆ นี้เอาไว้ครับ ต้องขอบคุณเพื่อนเดฟจริงๆ เช้านี้ เราต้อง Check out และเหมาะเรือหางยาว นั่งกลับจากอาดังไป

หลีเป๊ะ ไปแบบเนือยๆ ครับ โชคร้ายที่ฝนตก แต่พอไปถึงหลีเป๊ะ ฝนก็หยุดพอดี ๕๕๕๕๕๕๕ วันนี้เราพักหรูนิดหนึ่งครับ พักห้องคืนละ

7,000 บาท นั่นก็คือ Mountain Resort นั่นเอง ผมแนะนำเลยนะ ใครที่มาหลีเป๊ะ ควรมาพักที่นี่ เพราะเป็น Resort ที่วิวดีที่สุดของหลีเป๊ะแล้ว



บริเวณด้านหน้ารีสอร์ท



ห้องพักคืนที่สอง



เป็นบ้านสองชั้น มีระเบียงด้านนอก



มองจะริมระเบียง จะเห็นเกาะกระ



บริเวณหน้ารีสอร์ท มีเตียงให้นอน Chill:: หลังจากตื่นเต้น กับการได้เห็นห้องแพงๆ แล้ว เที่ยงนี้ เราก็มีนัดครับ นัดไปทัวร์รอบหลีเป๊ะ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำที่อาดัง หาดทรายขาว เกาะหินงาม


เกาะราวี ฯลฯ พี่บิ๊กโทรนัดคนเรือที่เราเหมาไว้ 2,200 บาท ทุกคนรวมตัวกันหน้ารีสอร์ท เพื่อที่จะไปตะลุยกันต่อทั้งวัน กับทริปๆ นี้



ค่าใช้จ่ายเดิม 2,965 บาท


:: ค่าเหมาเรือ (2,200 หนึ่งลำ) คนละ 220 บาท

:: ค่าที่พัก (7,000 สองห้อง) คนละ 1,400

ค่าใช้จ่าย#4 : 4,585 บาท (จะเกินงบละ T T):: ที่แรกที่เราจะไปคือเกาะเดิมครับ เกาะอาดัง แต่เป็นด้านหลังนะ เรื่องเล่าไม่ต้องเยอะ เอาภาพไปดูเลยแล้วกัน : )



:: โอเคครับ หลังจากทิ้งเวลาไปที่ เกาะอาดัง บริเวณด้านหลังแล้ว ที่ที่เราจะไปต่อก็คือ เกาะหินงาม แต่ระหว่างที่เราเดินทางไป


มีคลื่นลมแรง สูง 2 เมตร ทำให้เรือไม่สามารถแวะเข้าฝั่งได้ ฮืออออออออออออออ เสียจายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แต่ผมขอไปก๊อปรูปคนอื่นมาให้ดูแล้วกันนะ ว่าเกาะหินงามมันเป็นยังไง เพื่อนๆ จะได้รู้ เนอะๆๆ



:: ทั้งเกาะจะเต็มไปด้วยหินสีดำกลมเกลี้ยง มันวาว กลางเกาะเป็นป่าไม้สีเขียว เกาะหินงามจะไม่มีทรายครับ โดดเด่นกว่าทุกเกาะบริเวณนั้นเลย


เค้าว่ากันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตาหากใครเอาติดตัวไปจะเกิดหายนะ แต่ถ้าไปชมแล้วเรียงก้นอหินได้ 12 ก้อน อธิษฐานขอพร

ก็จะได้สมปารถนาทุกสิ่งทุกอย่าง อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อนะครัชผม:: พอรู้อย่างงี้แล้ว ก็ได้แต่มองไกลๆ แต่ให้ทำไงได้ เรือมันเข้าไปไม่ได้ และก็เค้ากลัวความปลอดภัยของเรา จริงๆ มันมีเยอะกว่านี้นะปัญหา

แต่ขี้เกียจเอามาเล่าให้ฟัง เพราะเน้นให้เพื่อนๆ ได้เที่ยวตามเวลา ตามแพลนที่ควรจะเป็น โอเคหล่ะ หลังจากที่ไปเกาะหินงาม (เหมือนไปเอง)

๕๕๕๕ เราก็ไปที่หาดทรายขาว หาดนี้ไม่มีอะไรมากครับ แวะไปกินข้าวเฉยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ดูภาพกันเลยแล้วกัน



:: ไปเกาะอาดัง >> เกาะหินงาม >> หาดทรายขาว >> เกาะหินซ้อน >> ร่องน้ำจาบัง



:: ตอนนี้เรามาที่เกาะหินซ้อนกันแล้วนะครับเพื่อนๆ ก็เหมือนเดิมทีเราโชคร้าย เจอคลื่นสูง 2 เมตร เลยทำให้ออกเกาะไปที่เกาะหินซ้อนไม่ได้

ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ผมเสียใจจิงๆ นะ แต่ผมขอให้คนที่อ่านกระทู้นี้ของผม ขอให้ได้ไปครบทุกเกาะ และปลอดภัยทุกคนครับ

ดังนั้น ภาพที่จะเอามาโชว์ ก็ไม่ใช่ภาพของผมเหมือนกัน แต่ก็นะ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เห็นของจริงๆ ว่ามันเป็นยังไง ขออนุญาตินำภาพคนอื่นมาโชว์ครับ



เกาะหินซ้อนตั้งอยู่หน้าเกาะดง และเกาะผึ้ง ห่างจากเกาะอาดังประมาณ 15 กิโลเมตร ลักษณะและขนาดเหมือนในรูป เลยครับ


จุดเด่นบนเกาะคือก้อนหินขนาดใหญ่สองก้อนซึ่งซ้อนกันอยู่ ก้อนล่างแตกแล้ว ทำท่าวจะหล่นแต่ก็ไม่หล่น หินซ้อนไม่ได้มีความสวยงามอะไร

มีแต่ความแปลกที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้ก้อนหินสี่เหลี่ยมสองก้อนซ้อนกันอยู่ เท่านั้นแหละค๊าบบบบบบบบ ^^:: ตามคิวเรื่อยๆ เราก็มาร่องน้ำจาบังกันต่อเลยครับ ที่นี่เด็ดมากนะขอบอก พวกพี่ๆ ที่ อช. บอกว่า ที่อื่นอะ ฟอกขาวหมดแล้ว ตอนนี้ทะที่สวยที่สุด

ในประเทศไทย ก็เห็นจะเป็นหลีเป๊ะ และประกาลังน้ำตื่นที่สวยที่สุดและสมบุณณ์ที่สุดในตอนนี้ก็คือ ร่องน้ำจาบังครับ (สวยจริงๆ ต้องยอมเค้าเลย)

ร่องน้ำจาบังมันจะอยู่ตรงกลางทะเลเลยหล่ะครับ ยังกะสามเหลี่ยมเบอมิวดาร์ ๕๕๕ ตรงนั้นจะมีทุ่น และก็เชือกผุกๆ กันไว้ เพื่อให้เรือมาเกี่ยวทุ่น

และให้นักท่องเที่ยวโดดจุ๋มมมมมม ลงไปในน้ำ น้ำลึกประมาณ 5 - 7 เมตร แต่ใสจนเห็นข้างล่าง อย่างที่เห็นในรูปเลยครับ



(ภาพประกอบสำหรับร่องน้ำจาบัง ผมไม่ได้ถ่ายเองครับ เอามาจาก internet ให้เพื่อนๆ ได้เห็นประกอบคำอธิบายนะครับ)




:: โอเคหล่ะ ทั้งหมดนี้ เพียงแค่เหมาเรือลำเดียวครับ เรือหางยาวลำละ 2,200 บาท ไปซัก 10 คนครับ จะได้มีตัวหารเยอะๆ เที่ยวสนุกด้วย


แต่ถ้าไม่มายด์เรื่องงบ ก็แล้วแต่ครับ ๕๕๕ หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน ก็กลับมาที่รีสอร์ทสุดหรู อาบน้ำ นอนพักซักครู่ เพื่อที่จะไปตะลุย

หาดยามราตรีที่หลีเป๊ะกันต่อ ตอนกลางคืน ก็จะมีที่หาดคล้ายๆ "พงัน" ครับ เป็นที่เมาเลยก็ว่าได้ ๕๕๕ ใครจะเมาก็เมาตรงนั้นไปเลย

ส่วนถนนคนเดินก็เจ๋งมาก มีอาหารการกินแบบพร้อมบริการจริงๆ ไปทะเล ที่พลาดไม่ได้ ก็คืออาหารทะเลสดๆ นี่แหละ คร๊าบบบบ.. ๕๕๕๕


ค่าใช้จ่ายครั้งก่อน 4,585 บาท


ค่าอาหาร ค่าเมา ค่าราตรี เฉลี่ยคนละ 600 บาท

ค่าใช้จ่าย#5 : 5,185 บาท (เกินงบแล้วครับ T T)

:: พรุ่งนี้เช้า จะรีบมารีวิวต่อนะครับ (หอไม่มีเน็ต ใช้เน็ตบน Office ที่ทำงาน 555) ::



Follow Me : https://www.facebook.com/PalapiliiThailand

เช้าวันสุดท้าย



:: หลังจากที่เมื่อคืน ใช้ชีวิตสุดมันส์ในยามราตรีที่หาดเล็กๆ ในหลีเป๊ะ ก็ถึงเวลาแห่งความจริงที่เราจะต้องเตรียมตัวแพ๊คกระเป๋ากลับบ้านกันแล้ว

ที่พักของเรามีอาหารเช้าให้ฟรีครับ ของกินถือว่าค่อนข้างดีนะ จะเน้นไปทางฝรั่งๆ หน่อย และวิวที่มองลงไปจากริมระเบียงละก็ ฮืมมมม.. ตามนั้น

:: ถึงเวลาแล้วสินะ ที่เราจะต้องลาจากกัน หลีเป๊ะคงเป็นที่ที่ผมกับเพื่อนๆ จะนึกถึงตลอดแน่ๆ เพราะที่นี่ให้อะไรกับเรามากมายหลายอย่าง


สอนประสบการณ์ชีวิตเราซะเยอะแยะไปหมดเลย จริงๆ มีปัญหาหลายอย่างเลยนะครับทริปนี้ แต่ผมรีวิวให้สมูธ เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้เห็น

แผนที่มันสมบูรณ์ ไม่มีการขาดตอน เราทั้งสิบคน คงต้องต้อง Say Bye หลีเป๊ะอันเป็นที่รัก แต่ใครจะไปรู้หล่ะ ว่ามีเพื่อนๆ อีก 3 คน

รอเราอยุ่ จ.ตรัง ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕



:: นัดเพื่อนใน Internet บุกเมืองตรัง : http://pantip.com/topic/31897470 ::



:: สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด



- TAXI 100 บาท

- ค่าบัส 800 บาท

- ค่าวิน 20 บาท

- ค่าสองแถว 20 บาท

- ค่าเรือไปกลับ 1,700 บาท

- ค่า อช. คืนละ 600 หาร 5 (อยู่ห้องละ 5 คน)เท่ากับ 125 บาท

- ค่ามื้อเย็นเฉลี่ยคนละ 200 บาท

- ค่าเหมาเรือ (2,200 หนึ่งลำ) คนละ 220 บาท

- ค่าที่พัก (7,000 สองห้อง) คนละ 1,400

- ค่าอาหาร ค่าเมา ค่าราตรี เฉลี่ยคนละ 600 บาท



:: ค่าใช้จ่ายสำหรับ 3 วัน 2 คืน บนเกาะสรรค์หลีเป๊ะ ถ้าไป 10 คน จะจ่ายคนละ :: 5,185 บาท (เกินงบมา 185 บาท)

:: แต่ก็ตีเฉลี่ยๆ ไปเลยนะครับเพื่อนๆ ว่าไปเที่ยว 5,500 - 6,000 บาท



Follow Me : https://www.facebook.com/PalapiliiThailand:: ผมเริ่มเที่ยวมา 3 ปีแล้ว เหตุผลที่เที่ยวก็เพราะมีแนวความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากพัฒนาตัวเอง อยากเห็นอะไรใหม่ๆ

ทำอะไรใหม่ๆ กินอะไรใหม่ๆ อยู่ในที่ใหม่ๆ ซึมซับวิถีชีวิตแปลกๆ ที่คนบนโลกหลายชนหลายเผ่าเค้าทำกัน ระหว่างเรียนผมก็เรียนและก็

ทำงาน Part time หาตังค์ไปเรื่อยๆ เก็บได้ซักหน่อยก็แบ่งส่วนออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ลงทุน และ ใช้ชีวิต ที่ผ่านมา 3 ปีสำหรับผม

มันเพิ่งเริ่มต้นครับ อยากให้ดูวีดีโอคคลิปสั้นๆ ข้างล่างนี้ ว่าชีวิตที่ผ่านมาของผม 3 ปี มันเป็นยังไง ทำอะไรบ้าง หวังว่าจะชอบนะครับ : )



#กินเที่ยว
ความคิดเห็น