เขลางค์นคร ลำปาง เป็นจังหวัดที่ตั้งในแอ่งที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขา มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน มีชื่อเรียกอย่างหลากหลายตั้งแต่ เขลางค์นคร, เวียงละกอน, นครลำปาง ฯลฯ ในภายหลังเป็นที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งว่า เมืองรถม้า ที่สัมพันธ์กับเอกลักษณ์ของลำปางค่ะ ทริปนี้เดินทางเดือนกุมภาพันธ์ 60 เพื่อทำบุญและชมวัดวาอารารามสวยๆของเมืองลำปาง วิ่งรถถนนสายเชียงใหม่-ลำปางค่ะ

ช่วงนี้ใบไม้สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนสี สวยงามเพลินตาดีค่ะ

เข้าสู่นครลำปางกันแล้ว

ไปชมความงามของ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดไหล่หิน หรือ วัดไหล่หินหลวงแก้วช้างยืน ตั้งอยู่ใน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ ดร.ฮันส์ เพนธ์ ได้พบคัมภีร์ใบลานที่เก่าแก่ที่สุดของวัด ระบุจุลศักราช 833 หรือก่อนพ.ศ 2514 วัดนี้เป็นวัดเล็กๆสวยงามที่ซ้อนตัวอยู่ในธรรมชาติ เคยเห็นในรูปภาพแล้วชอบค่ะ เลยมาชมความงามและทำบุญกันหน่อย

สถาปัตยกรรมวัดไหล่หินหลวง เป็นรูปแบบพุทธศาสนาแบบล้านนา ประกอบด้วยลานหน้าวัด หรือ ข่วง สำหรับกิจกรรมและปลูกต้นโพธิ์ วิหารโถง ศาลาบาตรและลานทราย และมีเจดีย์ท้ายวิหาร แบบล้านนา ซึ่งเชื่อว่าบรรจุพระบรมธาตุ มีรูปแบบจำลองภูมิจักรวาล คือวิหารเปรียบเสมือนชมพูทวีป เจดีย์เปรียบเหมือนเขาพระสุเมรุ และลานทรายเปรียบเสมือนมหานทีสีทันดรค่ะ

ทำบุญกัน

บริเวณข่วงของวัด (ข่วง หมายถึงที่โล่ง ที่สาธารณะ ลานทำกิจกรรมต่างๆ) ร่มรื่นดีค่ะ

ซุ้มประตูโขง เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เป็นงานประติมากรรมของช่างฝีมือเชียงตุง ที่มีการก่อสร้างพร้อมกับวิหารโบราณของวัดในปี พ.ศ. ๒๒๒๖ ครูบามหาป่าเจ้าร่วมกับเจ้าฟ้าเชียงตุง ร่วมกันสร้างขึ้น ลวดลายประติมากรรมที่ประดับอยู่บนซุ้มประตูโขงเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ อาทิ หงส์ นก มังกร นาค ตัวมอมค่ะ

สัตว์ต่างๆตรงซุ้มประตู

ลักษณะของวิหาร เป็นวิหารขนาดเล็กเปิดโล่ง ขนาดกว้าง ๕ เมตร ยาว ๙ เมตร มีผนังก่อทึบก่ออิฐถือปูนด้านหลัง โครงสร้างของหลังคาวิหารเป็นแบบ "ขื่อม้าต่างไหม" (ระบบโครงสร้างการรับน้ำหนักของหลังคาอาคารไม้ในล้านนา คล้ายม้านั่งวางซ้อนกันขึ้นไปรับน้ำหนักของแป กลอนลาด กั้นฝา และกระเบื้องหลังคา)

พระประธานปางมารวิชัย

พระสาวก

กรมศิลปากรได้ประกาศวัดไหล่หินหลวง เป็นโบราณสถานแล้วนะคะตั้งแต่ปี 2523 สิ่งที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน คือ วิหารทรงล้านนา พระธาตุเจดีย์ พระอุโบสถ ซุ้มประตูกำแพงแก้ว และหอธรรม นอกจากนี้ในปี 2550 ยังได้ขึ้นเป็นอาคารอณุรักษ์จากสมาคมสถาปนิกสยามด้วยค่ะ

องค์เจดีย์บรรจุอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


ในวัดมีหอนิทรรศการด้วยค่ะ

ในวัดมีชาวบ้านทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายด้วยค่ะ อุดหนุนทำบุญกับวัดได้ มีทั้งย่าม ผ้าทอ ที่ใส่สลุง ตุงต่างๆ ราคาน่ารัก

ชาวล้านนามีความเชื่อค่ะว่า "ตุง" เป็นสัญญลักณ์ของความดี ความเป็นสิริมงคล มีลักษณะเป็นผืนยาวผูกติดกับปลายไม้ หรือเสา การทำบุญถวายตุงทางภาคเหนือนั้นชาวบ้านถือว่าเป็นประเพณีที่ศักดิ์สิทธเพื่อเป็นสื่อนำวิญญาณของผู้ที่ถวายทานตุงให้ขึ้นไปสู่สวรรค์

อุดหนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนกันแล้ว เดินทางต่อไป พระธาตุลำปางหลวงกันค่ะ ห่างจากวัดไหล่หินหลวงประมาณ 6 กิโล วิวข้างทางสวยค่ะ^^

ถึงวัดแล้ว บริเวณรอบๆวัดจะเห็นรถม้าเอกลักษณ์ของนครลำปางค่ะ

วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวงอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และอุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน บริเวณโดยรอบวัดร่มรื่นดีค่ะ

องค์พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ ขนาดใหญ่ หุ้มด้วย แผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่าทองจังโก

สวยงามค่ะ มุมนี้ถ่ายตอนนกบินเป็นฝูงพอดีเลย

หนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของวัดพระธาตุลำปางหลวงที่ไม่อยากให้พลาดโอกาสไปชมให้ได้ก็คือ "เงาพระธาตุกลับหัว" ที่อยู่ด้านในของ "ซุ้มพระบาท" แต่การเข้าชมเงาพระธาตุในซุ้มพระบาทนี้มีข้อห้ามไม่ให้คุณสุภาพสตรีขึ้นไป

วิหารหลวงมี ขนาดใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2019 โดยเจ้าหมื่นคำเป๊ก ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ บนแผงไม้คอสองมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่งดงามเรื่องทศชาติและพรหมจักร



รอยกระสุนปืน ในอดีตพม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่ ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศ เจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอห้างฉัตร) วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าทิพย์จักรสุละวะฤๅไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ค่ะ

เดินทางต่อไป วัดเจดีย์ซาวหลัง ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง บนถนนลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดที่งดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปางเป็นศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า ซาว เป็นภาษาเหนือ หมายถึง 20 หลัง หมายถึงองค์ เมื่อรวมกันเป็นวัดเจดีย์ซาวหลัง จึงหมายถึง วัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่า วัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีแล้วค่ะ

องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระเจ้าทันใจ" เข้าไปไหว้พระขอพรกัน

มีต้นตะเคียน ขนาดใหญ่มีชาวบ้านมาขอโชคลาภ และแก้บนด้วยค่ะ

บริเวณวัดมีเด็กๆจากโรงเรียนระแวกข้างเคียง มาเล่นดนตรีพื้นเมือง สะล้อ ซอ ซึง ให้ฟังกันม่วนๆด้วยค่ะ สบทบทุนเพื่อช่วยการศึกษาของน้องๆกันได้นะคะ เล่นเพราะด้วย

ประวัติของวัดค่ะ



ทำบุญชมวัดวาอารามที่สวยงามกันแล้ว เริ่มเย็นย่ำ วันนี้ฝากท้องที่ ลำปางรีสอร์ทกันค่ะ มีทั้งร้านอาหาร ที่พัก คาราโอเกะ ห้องประชุมให้บริการ บรรยากาศดีมากค่ะ ธรรมชาติสวยๆ พนักงานบริการดี

ระหว่างรออาหารลง เดินเล่นชมธรรมชาติรอบๆรีสอร์ทได้เพลินๆค่ะ

สั่งอาหารมา7-8 อย่างรวมทั้งไอสกรีม หมดไปพันต้นๆค่ะ ราคาไม่แพง รสชาดดี ^^

มีเมนูให้เลือกหลากหลายค่ะเยอะแยะเลย เมนูพื้นเมืองก็มี

ห้องน้ำเป็นแบบ open air เก๋ๆค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดี

บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ น้อยใหญ่ ดอกไม้สวยๆละลานตา

ค่ำๆมีนักดนตรีมาร้องเพลงเพราะๆให้ฟังด้วย (หยุดวันอาทิตย์ค่ะ)

จบ one day trip ไว้เพียงเท่านี้ ลำปางยังมีวัดสวยงามอีกเยอะเลยไว้มีโอกาสคงได้มาเยือนอีก สวัสดีเจ้า ^^


ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆในเฟสด้วยนะคะ รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวเคยไปมา เพจ: ไปแอ่วกัน Fun Trips ค่ะ ไปแอ่วกัน Fun Trip







ไปแอ่วกัน Fun Trip

 วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.03 น.

ความคิดเห็น