เกาะสุรินทร์ จ.พังงา เป็นเกาะสวนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำตื้น ช่วงที่ดีที่สุดและมี % ที่จะพบกับอากาศดีๆ น้ำใสๆ ปะการังสวยๆ พร้อมเหล่าฝูงปลา อยู่ในช่วง กุมภาพันธ์ - มีนาคม ของทุกๆ ปี และ เราเลือกช่วงนี้มาตลอด บอกเลยว่าไม่เคยผิดหวังกับความสวยงามของเกาะนี้ ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นตากล้องฝีมือเด็ดแค่ไหน แค่เพียงพกกล้องไปสักตัวก็ได้ภาพสวยๆ มาโดยไม่ยาก และ ที่สำคัญ อย่าลืมหากล้องใต้น้ำไปด้วย มิฉะนั้นน้ำตาคุณจะไหลจากความเสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพใต้น้ำเหล่านั้น
มารอบนี้เราพักที่ BED HOSTEL ในตัวเมืองภูเก็ต เพราะ นัดเพื่อนๆ และ น้องๆ หลายคน ที่นี่ราคาประหยัดคืนละ 800 - 1000 บาท โดยจองผ่าน www.facebook.com/bedhostelphuket ซึ่งที่นี่ส่วนใหญ่คนที่มาพักจะเป็นชาวต่างชาติ มีห้องทั้งแบบ Backpacker และ Private Room เพราะ ราคาเฉลี่ยต่อคน ไม่แตกต่างกันนัก
สะพายเป้เล็กๆ เข้ามาก็พบเค้าท์เตอร์เช็คอิน พร้อมรับกุญแจ
ที่นี่ทำแบบปลอดภัยจากคนนอก เพราะมีประตูกั้นอีก 1 ชั้น ซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดเข้า
อารมณ์ทางเข้า มีความอเมริกันมาก ทำเอานึกถึงหนังอะไรสักเรื่องที่พระเอกอยู่ในคุก ฮ่าๆๆๆๆ
ห้องพักเรียงรายไปตามทาง แอบๆ ชมมีทั้งแบบเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และ ห้องสี่เตียง แต่ส่วนใหญ่เกือบทุกห้องมีคนพักหมด
ห้องที่จองเอาไว้เป็นห้องเตียงคู่ แบบ Private Bath
ชอบสุดก็คือ เครื่องนอนที่นี่ หูยยยย มันฟูๆ น่านอนเหลือเกิน ฝืนใจจากการทิ้งตัวลงบนที่นอน มาถ่ายภาพให้ชมกันก่อน
ขนาดห้องไม่เล็กและไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
ห้องน้ำกว้างขวางใช้ได้ ความสะอาดก็ถือว่าดี
ก่อนนอนออกมานั่งเล่นที่ล๊อบบี้ ที่จะมีฝรั่งวัยรุ่นที่มาพักนั่งเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยว หรือ ร่วมเล่นเกมส์ต่างๆ กัน (ส่วนใหญ่จะเป็นไพ่) และ นั่งดื่มเบียร์กันชิวๆ
บ้างก็เป็นบาร์นั่งเล่น
ภาพกราฟฟิคเท่ห์ๆ บนผนัง ช่วยให้ห้องนี้ดูดีเยอะเลย
นั่งคุย นั่งเล่น นั่งดื่ม ได้สักพัก ใกล้เที่ยงคืน ล๊อบบี้ใกล้ปิดก็กลับเข้าพักในห้องเตรียมตัวเดินทางไปเกาะสุรินทร์ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราตั้งใจเดินทางไปเอง (ขับรถ) และ จะเริ่มออกเดินทางประมาณ 5.30 น. เผื่อเวลาไว้เหลือๆ กรณีเจอรถติดช่วงเช้าใน จ.ภูเก็ต
ย้ำเลยคือ อย่าลืมชาร์จเแบตมือถือ ชาร์จแบตกล้องถ่ายภาพ ชาร์จแบตกล้องใต้น้ำ ไว้ให้พร้อมอย่าพลาด ไม่งั้นน้ำตาตกในแน่นอน
คำนวณเวลาเดินทางจาก BED HOSTEL - ท่าเรือ WOW Andaman ใช้เวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง
เราออกเดินทาง 5.30 น. ตรงเวลาเป๊ะ เพราะเกรงว่าจะมีรถติดระหว่างทาง และ เผื่อแวะเติมน้ำมันด้วย ไม่นานก็หลุดจากเกาะภูเก็ตเข้า จ.พังงา ตอนอาทิตย์เริ่มทอแสงพอดี ระหว่างทางก่อนถึงท่าเรือบรรยากาศยามเช้าดีมาก มีหมอกจางๆ กับ แสงส้มๆตลอดทาง จนทำใจไม่ได้ที่จะจอดรถแล้ววิ่งออกไปถ่ายภาพเก็บบรรยากาศการตื่นเช้า ที่ใน 1 ปี จะมีสักครั้ง
และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือ WOW Andaman ตรงตามเวลาเป๊ะ 7.30 น. และเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึง
เรามีเวลาเหลือเฟือที่จะเช็คอิน กินข้าวเช้า และ ถ่ายรูปเล่นรอบๆ ท่าเรือ
เช็คอิน !
พร้อมกรอกประกันชีวิต
กินอาหารเช้า !!
อาหารหลักๆ ก็เป็น หมี่ผัดและข้าวต้มไก่
สำหรับคนชอบกินชากาแฟ ตอนเช้าๆ ก็มีขนมปัง และ ขนมพื้นบ้านให้กิน ครับ
เราหัวเราะเยาะเพื่อนที่ตามมาหลังเพราะมัวซื้อของที่ 7-11 ทั้งที่ที่ท่าเรือนี่มีครบทุกสิ่งอย่าง
เรามีเวลาถ่ายภาพเล่นที่ท่าเรือกับแสงยามเช้าอีกนานโขกว่าที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จะเริ่มเช็คอิน
เช็คอิน / กิน ข้าว / ถ่ายภาพ แล้วก็ เดินทางกันเลยจ้า
หลังจากเดินทางออกจากท่าเรือ ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชั่วโมง ก็ถึง หมู่บ้านมอแกน ณ เกาะสุรินทร์ใต้ ซึ่งเป็นจุดแรกในการเดินทาง
มอแกนหรือชาวเล เป็นชนเผ่าที่กินอยู่กับทะเล ... สมัยก่อนชนชาวมอแกนอาศัยอยู่ในเรือร่นเร่เรื่อยไป ปัจจุบันสร้างบ้านด้วยจาก มีเสาค้ำยกตัวบ้านสูงเพราะบ้านอยู่ติดริมชายหาด บางวันน้ำขึ้นบางวันน้ำลง ตัวบ้านมุงด้วยใบจาก (มั้ง) สีน้ำตาลตัดกับสีท้องฟ้า สีเขียวของป่า และ สีครามของน้ำทะเล
ชาวเล มี 3 กลุ่มด้วยกัน ที่เกาะสุรินทร์นี้เรียก มอแกน ส่วนชาวเลที่หาดราไวย์ เรียกว่า อุรักลาโว้ย และ อีกกลุ่มหนึ่งที่เจอ ณ บ้านน้ำเค็ม จ.พังงา เรียกว่า มอแกลน ... ทั้ง อุรักลาโว้ย และ มอแกลน นั้น มาตั้งถิ่นฐานบนชายฝั่งและส่วนใหญ่ผสานเข้ากับความเจริญไปแล้วกลายเป็น กลุ่มไทยใหม่ ... แต่ที่ เกาะสุรินทร์ นั้น ยังคงเป็นกลุ่มชาวเล "มอแกน" ดั้งเดิมอยู่ และ ได้รับพระราชทานนามสกุล "กล้าทะเล" จากสมเด็จย่า ในรัชกาลที่ 9
ส่วนนางคนนี้ไม่ใช่มอแกน ... แต่เป็นมาเลย์ ... และ ทำตัวเหมือนฮิปสเตอร์เมืองไทย
มอแกน หยุดนำปะการังจากทะเลมาขาย และเปลี่ยนมาเป็นของที่ระลึก
เรือไม้ กาบางกามัน ขับเคลื่อนด้วยแรงลมและฝีพาย เป็นเรือที่ไม่มีวันจมของชาวมอแกนสมัยก่อน กลายมาเป็นของที่ระลึก และ เครื่องราง ให้เราซื้อไปไว้ในห้องทำงานเพื่อให้ธุรกิจมีแต่ไปข้างหน้าอย่างไม่มีวันล่มจม
นี่คือ จุดเช็คอิน ของหมู่บ้านมอแกน เย้ยยยยยย ไม่ใช่ !!!!! นี่คือ "หล่อโบง" หรือเสาวิญญาณบรรพบุรุษ ทั้งชาย (แอบ๊าบ) และหญิง (เอบูม) เป็นสัญลักษณ์ มอแกนมีพิธีฉลองที่สำคัญประจำปี คือพิธี "เหนียะเอ็นหล่อโบง" หรือ การฉลองเสาวิญญาณบรรพบุรุษ ..... ไปทั้งทีก็เคารพบรรพบุรุษเค้านะครับ ไม่ใช่เซลฟี่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เนื้อหาแน่นมากแล้วเรามาชมบริเวณทั่วๆ และ ความน่ารักของหมู่บ้านมอแกนกันดีกว่าครับ
เราใช้เวลา ณ จุดนี้ประมาณ 30 - 40 นาที และ ท้องเราพร้อมที่จะรับอาหารเที่ยงแล้วล่ะครับ และ เพียงไม่กี่นาทีเรือก็นำเรามายังเกาะสุรินทร์เหนือ
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกๆ ว่า ช่วงนี้อากาศดีมาก และ น้ำสวยมาก รวมถึงต้นหูกวางริมหาดใบเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม เหลือง และ แดง ทำให้เกาะสุรินทร์มีสีสันชวนมอง
คลื่นซัดหาดทรายเบาๆ
กับนักท่องเที่ยวที่ไม่หนาแน่นเหมือนเกาะอื่นๆ ความสุขประดาประดังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงท้องที่ร้องหาอาหารยามเที่ยง
ที่นี่ใช้อาหารของทางอุทยาน และ จัดไว้ในร้านอาหารอุทยาน
การจัดการของอุทยานที่นี่ดีมากๆ ดูสะอาดสะอ้าน
บูธน้ำและขนมของทาง WOW Andaman ถูกจัดไว้อีกมุมหนึ่ง ใต้ร่มไม้
เราตักมาพออิ่ม แม้ว่าอาหารจะอร่อยมากๆ ก็ตาม เพราะ ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่รอเราอยู่ในอีกครึ่งวันบ่าย
อ่าวช่องขาด ห่างจากที่รับประทานอาหารไม่ไกล เรามีเวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมง ในการพักผ่อนและเล่นน้ำที่จุดนี้
หินปากจระเข้ เป็นก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนปากจระเข้ วันนี้โชคดีที่น้ำลงเห็นก้อนหินชัดเจน กลายเป็นที่นั่งถ่ายแบบของสาวๆ
สิมิลันมีหินเรือใบ แต่ เกาะสุรินทร์ มีแลนด์มาร์คเป็นหินแม่ไก่ หรือ HEN ROCK
น้ำตรงจุดนี้ ใสเป็นประกายยั่วยวนใจสุดๆ
ถ้าไม่เล่นน้ำทะเลตรงนี้ แล้วจะไปเล่นที่ไหน
น้ำใสขนาดนี้ Gopro กล้องใต้น้ำที่หอบกันมาก็ต้องงัดออกมาใช้
เล่นน้ำกันจนพอใจแล้วมีเวลาพักผ่อนริมชายหาดอีกหลายนาทีเลย
เฮ้ยๆๆๆ เค้าให้ Relax นะ Relax คือ พักผ่อน แล้วพวกหล่อนมาเล่นอะไรกัน
Relax ชิลๆ มันต้องฟิวนี้สิ .... ดูหอย ดูปู ดูทะเล ดูต้นไม้ไป
ออกจากเกาะสุรินทร์เหนือก็ได้เวลาดำน้ำอำโลกบนผืนดิน
บอกก่อนๆ จุดดำน้ำที่นี่เค้ามี 3 จุด จุดละประมาณ 40 นาที ได้แก่ จุดดำน้ำอ่าวช่องขาด + จุดดำน้ำอ่าวแม่ยาย + จุดดำน้ำอ่าวสับปะรด
ดังนั้น ในจุดแรกนั้น เราจะประวิงเวลาสัก 10 นาที ที่หัวเรือ เพราะ สาวๆ อยากถ่ายภาพหัวเรือเก๋ๆ แบบฮิปสเตอร์
และแล้วก็ถึงเวลาลาจากโลกเบื้องบน .... ลงไปชมโลกเบื้องล่าง ในส่วนของการดำน้ำนั้นเชิญทรรศนา แบบไม่ต้องเสียเวลาอ่าน
ในบรรดาเกาะในบริเวณทะเลอันดามัน พังงา - ภูเก็ต ต้องยกให้เกาะสุรินทร์จริงๆ ในเรื่องของการดำน้ำตื้น หรือ Snorkeling และ นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว การบริการของทีมไกด์ที่จะบอกจุดดำน้ำ บอกการไหลของกระแสน้ำ ที่ทำให้เราไม่เหนื่อย
ขอบคุณ
WOW Andaman
www.facebook.com/Wow-andaman-320335971424814
สำหรับราคาทริปสุดพิเศษ และ สนับสนุนการท่องเที่ยวพังงา
ขอบคุณ Phuket.Guru & The Gang
www.facebook.com/phukettravelguru
ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
ขอบคุณ Ammata's Eyes Photography
www.facebook.com/ammataeyes
http://ammata-eyes.com/
สำหรับภาพถ่ายประกอบการรีวิว
หากคุณไม่ใช่คนพังงา แต่อยากเที่ยวพังงา
ตามผมมาที่
www.facebook.com/hellophangnga
Hello Phang-Nga
วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 07.55 น.