:: สิงค์โปร 3 วัน 2 คืน 27-29 มกราคม 2560 {Chinese New Year} ::

Page : Fieldoms

Hello : ) สวัสดีครับ ผมฟิวส์ครับ

เคยมั๊ยอยากเที่ยวต่างประเทศ แต่กลัวไปไม่เป็น เดินทางไม่ถูก กลัวหลง แล้วไหนจะเรื่องภาษาอีกประเทศ สิงคโปร์ จึงเป็นตัวเลือกแรกของผมที่อยากฝึกเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองครับ มาดูกันว่าประเทศนี้เที่ยวง่ายขนาดไหนกัน

ประเทศที่มีพื้นที่ทั้งหมด 719.1 km² ซึ่งเล็กกว่า กรุงเทพมหานคร ของเราครึ่งหนึ่ง

และมีการขนส่งที่ทั่วถึงทั้งประเทศ แค่รถไฟฟ้าอย่างเดียว ก็สามารถเที่ยวได้ทั้งประเทศแล้ว

วันนี้ ผมจัดแพลนการเที่ยวมาให้เพื่อนๆ ที่ค่อนข้างง่ายสะดวกสบาย เดินทางไม่ไกล

แถมราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ที่เที่ยวราคาค่อนข้างโอเค ใครอยากลองเที่ยวต่างประเทศดู แนะนำที่นี้ครับ ถูก ง่าย สบาย สวย ครบ

การที่เราจะไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องศึกษาข้อมูลถึงสถานที่อยากไป ค่าตั๋ว ค่าอาหาร เงินควรพกไปเท่าไหร่ดี เสื้อผ้ากี่ชุด สภาพอากาศ ผมสรุปคร่าวๆมาให้ดังนี้ครับ


- P L A N -

  • Day 1 : Merlion, Garden by the bay, Bugis St., Liang Seah St.
  • Day 2 : Sentosa, Universal, S.E.A Aquarium, Chinatown, Boat Quay
  • Day 3 : Fort Canning Park, Orchard, Duty Free Changi Airport


- ก า ร เ ดิ น ท า ง & ที่ พั ก -

  • ตั๋วเครื่องบิน Air Asia ไป - กลับ : 5000 บาท
  • เที่ยวบินขาไป : Air Asia [FD359] DMK > SIN : 7.10am - 10.30am
  • เที่ยวบินขากลับ : Air Asia [FD354] SIN > DMK : 5.15pm - 6.45pm
  • รถไฟฟ้าใน Singpore : Ez link เฉลี่ยคนล่ะ 750 บาท
  • โรงแรม Nuve ย่าน Bugis คืนล่ะ : 2800 บาท


- ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ สิ ง ค โ ป ร์ เ บื้ อ ง ต้ น -

  • สภาพอากาศ : 25 - 32 องศา คล้ายๆเมืองไทยครับ
  • ภาษา : อังกฤษ
  • อาหาร : คล้ายๆบ้านเรา หนักไปทางเลี่ยนๆหน่อย เค็ม
  • ศาสนา : พุทธ อิสลาม คริสต์ คละๆกันไปทั้งประเทศ
  • สกุลเงิน 1 SGD = 25 bath


- สิ่ ง ส ำ คั ญ ที่ ต้ อ ง พ ก เ บื้ อ ง ต้ น -

  • Passport 1 เล่ม
  • เงิน ผมพกไป 400 SGD
  • ขาแปลงปลั้กไฟ
  • มือถือที่เปิด GPS ได้ (Iphone 6s)
  • Wifi พกพา (ของผมเช่า Samurai Wifi ตกวันล่ะ 300 บาท)
  • กล้องถ่ายรูป (Fuji XA-2)

แค่นี้ก็พร้อมลุยแล้วครับ ก่อนจะลุยเรามาเข้าใจถึงแผนที่รถไฟฟ้า MRT สิงคโปร์ กันก่อนครับ โดยแบ่งเป็น 5 เส้นหลักๆดังนี้ครับ


ตอนผมไปก็นั่งรถไฟฟ้าครบทั้ง 5 สีเลยครับง่ายมากๆครับ ถ้าเทียบกับที่ญี่ปุ่นแล้ว สิงคโปร์ดู easy ไปเลย ป่ะไปเที่ยวกัน : )


จากกระทู้ที่ทำให้ผมมีชื่อขึ้นมานิดๆ กระทู้ "จากโอ่งกลายเป็นโอปป้า" ชื่อกระทู้ครั้งนี้เลยขอยกคำว่าโอปป้า มาใช้ด้วยน่ะครับ ถือเป็น signature ผมล่ะกัน อย่าหมั้นไส้ผมเลยน่ะครับ แทนตัวเองเฉยๆ ไม่ได้อินขนาดนั้นครับ ฮ่าฮ่า และกระทู้รีวิวครั้งนี้ จะมีรูปผมค่อนข้างเยอะด้วย เลยขอเป็น โอปป้าพาเที่ยวน่ะครับ ^^

อีกนิดนึง ตอนเราขึ้นเครื่อง แอร์จะแจก ใบ ตม. ของสิงคโปร์ ให้ครับ กรอกตามนี้เลยครับ


- ตารางการเที่ยวในวันแรกครับ -

  • 07.10 - 10.30 : เดินทางจาก สนามบินดอนเมือง ถึง Changi Airport
  • 10.30 - 12.00 : ถึงที่พัก Hotel Nuve ย่าน Bugis
  • 13.00 - 17.00 : Merlion, Garden by the bay, เดินห้าง Marina bay sand, Helix Bridge
  • 17.00 - 18.00 : กลับที่พัก พักผ่อน
  • 18.00 - 21.00 : Haji Lane หาไรกิน Liang Seah St. เดินช้อป Bugis St.

ขึ้นเครื่อง พร้อมเดินทางแล้วครับ ไม่ได้นั่งติดกระจกซะงั้น ฮ่าฮ่า

เห็น สิงคโปร์แล้วครับผม

อยู่บนเครื่อง กรอกใบ ตม. ให้เรียบร้อย เตรียม passport ตั๋วบิน เข้าช่องตรวจคนเข้าเมืองครับ ผู้ชายไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ผู้หญิง เค้าจะตรวจเยอะนิดนึง แต่ถ้าดูแล้วว่าตั้งใจมาเที่ยว ไม่มีปัญหาครับ

ผ่าน ตม สบายๆ พร้อมลุยแล้วคร้าบ ^^

ขึ้น Sky Train เพื่อจะเดินทางไปรถไฟฟ้า สถานี Changi Airport ครับ

เจอล่ะ รถไฟฟ้า สถานี Changi Airport


ต่อแถวซื้อ Ez Link ครับ ตอนผมไปคนต่อแถวยาวพอดูครับ รอแถวประมาณ 30 นาที รอต่อไป


ซื้อ Ez link เรียบร้อย คนล่ะ 12 SGD ครับ แล้วก็ต้องมาเติมเงินเข้าบัตรเองที่ตู้ครับ ผมเติมไปอีก 20 SGD ครับ บัตร Ez link นอกจากจะไว้ใช้นั่งรถไฟฟ้าแล้ว ยังเอาไว้จ่ายค่าอาหารในร้าน 7-11 ได้ด้วยน่ะครับ เติมเพื่อไว้ซื้อขนมก็ดีครับ


ขึ้นรถไฟฟ้า สิงคโปร์ครั้งแรก ตื่นเต้นนิดหน่อย >,,<


ถึง สถานี Bugis แถวที่พักของเราแล้วครับ


ระแวก Bugis สวยดีครับ มีห้าง ตึกสูงเต็มไปหมดเลยครับ วิวแปลกตาดี

ถึงที่พักของเราแล้วครับ Hotel Nuve โชคดีที่นี้ พนักงาน เป็นคนไทยครับ เช็คอินได้ง่ายเลย แถมแนะนำที่เที่ยวให้ด้วยครับ

ห้องพัก คืนล่ะ 2800 บาท พัก 2 คืนครับ ห้องเล็กๆสำหรับนอน อาบน้ำ มีแอร์ แค่นั้นพอครับ

เก็บกระเป๋า ล้างหน้า แต่งตัว พร้อมลุย



ข้างๆที่พัก ใกล้กับ 7-11 มากๆครับ เดินไม่ถึง 100 เมตร เจอเลย อาหารมื้อแรกที่ สิงคโปร์ ข้าวปั้น 2 ก้อน + สปาเก็ตตี้ 1 กล่อง ราคารวม 15 SGD แพงเหมือนกันแหะ

เดินทางไปหา Merlion ครับ นั่งรถไฟสายสีเขียว จาก Bugis ลง Raffles Place ไปออกทางออก H ขึ้นไปจะเจอ โรงแรม Fullerton ครับ



เดินมาด้านหลัง โรงแรม Fullerton จะมีทางม้าลายข้ามแยกใหญ่ๆ ข้านถนนก็จะไปเจอ merlion แล้ว

เจอแล้วครับ Merlion & Marina bay sands



ถ่ายจุใจแล้ว เดินผ่านโรงละคร Esplanade จะเจอสนามกีฬากลางน้ำครับ เค้าจัดงานตรุษจีนด้วย


แวะซื้อขนมกินนิดนึงครับ ถ้วยล่ะ 1 SGD

ผ่านสนามกีฬามา จะเจอ Helix Brigde ครับ สะพานสวยมากกก


ผ่านสะพานมาเข้าไปเที่ยวในห้าง Marina Bay Sands ซักนิดครับ ห้างสวยใหญ่ดีครับ มีแม่น้ำกลางห้างด้วย สามารถนั่งเรือพายได้ครับ

เดินผ่านห้าง Marina bay ข้ามไปสวน Garden by the bay สถานที่เที่ยวขึ้นชื่อของ สิงคโปร์ สวยมากๆ อากาศติดร้อนไปหน่อย

เห็นคนข้างบนแล้วอยากขึ้นไปดูข้างบนบ้าง แวะซื้อตั๋วซักแปปครับ คนล่ะ 8 SGD ครับค่าขึ้น

วิวข้างบนครับ ลมแรงมาก ใครกลัวความสูงมีเสียวนิดนึงครับ แต่คุ้มครับสวยมากวิวข้างบน

เที่ยวเรียบร้อย เดินทางกลับที่พักแล้วครับ ขาเดินกลับถ่ายซักภาพก่อนไป

กลับแล้วจ้า นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน Downtown line จาก สถานี Bayfront ไปลง Bugis ครับ ขึ้น Bugis มาเจอห้าง Bugis+ สวยดีครับ ถ่ายมาฝาก

กลับที่พัก พักผ่อนเดินมาเหนื่อย ล้างหน้าล้างตา ลุยกลางคืนต่อครับ ออกไปเดินเล่นแถว Haji Lane ก่อน แต่ไปตอนกลางคืนถ่ายรูปมาไม่สวยเลย เลยเดินข้ามไปหาไรกินที่ ถนน Liang Seah St. ครับ มีร้านอาหารเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็น บุฟเฟ่ห์ด้วย ตกคนล่ะ 20-30 SGD


กินข้าวเสร็จเราก็ไปเดินช้อปปิ้งต่อที่ Bugis St. ครับ อารมฌ์คล้ายๆ ตลาด JJ บ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นของฝากพวก พวงกุญแจ ขนม


เดินทะลุ Bugis St. จะมีเทศกาลตรุษจีนของคนสิงคโปร์พอดีครับ คนมาอยู่ที่นี้กันนั้นเอง ก็ว่า Bugis St. คนน้อยๆ

เดินเสร็จเจอร้านขายไอติมครับ อันล่ะ 1.2 SGD แปลกดีครับ เป็นแครกเกอร์ประกบไอติมเหลี่ยม อร่อยดีครับ

เดินดูบรรยากาศโดยรอบเสร็จ ก็กลับที่พัก พักผ่อนครับ



- ตารางการเที่ยวในวันที่สองครับ -

  • 07.00 - 08.00 : เดินทางจาก bugis ไป Harbour Front
  • 08.00 - 09.30 : กินข้าวที่ Vivo City เดินข้ามไป Mount Faber และไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่ Mount Faber Station
  • 09.30 - 14.00 : ชม Sentosa, Universal และเข้าพิพิธภัณฑ์ S.E.A. Aquarium
  • 14.00 - 15.00 : กลับที่พัก พักผ่อน
  • 15.00 - 18.00 : เดินทางจาก Bugis ไปเที่ยว Chinatown ชมวัดพระเขี้ยวแก้ว
  • 18.00 - 20.00 : เที่ยว Boat Quay ชมบรรยากาศ

ออกเดินทางแต่เช้า ใส่ขาสั้นพร้อมเดิน วันนี้เดินเยอะครับ

บรรยากาศตอนเช้า อากาศดีมากๆครับ


เดินทางจาก Bugis ไป Habour Front มีสลับสายที่สถานี่ Outram Park


กินข้าวเช้ากันที่ Vivo City ครับ ข้าวราดแกงจานนี้ 10 SGD = 250 บาท แพงน่ะ


กินอิ่มแล้ว เดินขึ้น Mount Faber จุดที่สูงที่สุดของสิงคโปร์ เดินขึ้นเขาเหนื่อยเหมือนกันน่ะ แต่บรรยากาศในป่า เขียวๆถ่ายรูปสวยดีครับ

ขึ้นมาจะถึงจุดสูงสุดแล้ว เห็นกระเช้าแล้ว

แวะซื้อตั๋วที่ Mount Faber Station ครับ ของผมซื้อเป็นแพคคู่ครับ ตั้งใจอยากไปดู S.E.A Aquarium อย่างเดียว ใจจริงอยากเข้า Universal ด้วยแต่ในวันตรุษจีน นักท่องเที่ยวจีนเยอะมากๆครับ เลยขอไปแค่ S.E.A. พอละกัน

โดยค่าตั๋วของ กระเช้าลอยฟ้าแบบไม่อั้น + S.E.A. Aquarium อยู่ที่ 63 SGD ประมาณ 1575 บาท

ซื้อตั๋วเรียบร้อย นั่งกระเช้าลอยฟ้าเล่นกันครับ

ผมนั่งไปกลับ 5 รอบครับ ได้ตั๋วบุฟเฟ่ห์มาแล้ว ขอนั่งยาวๆละกัน ฮ่าฮ่า วิวเมืองเค้าสวยมากๆ ชอบมากเลยครับ


นั่งกระเช้าจนหน่ำใจ ก็มาลงที่ Sentosa แล้วเดินตรงไป Universal เลยครับ ขอไปถ่ายรูปซักหน่อย

ถ่ายภาพหน่ำใจแล้ว ไปต่อ S.E.A. Aquarium กันเลย

ซื้อตั๋วจาก Mount Faber เรียบร้อย เข้าไปได้เลยครับ คนยังเยอะอยู่ แต่สวยครับที่นี้ ใครชอบปลา ดูกันเพลินๆยาวๆครับ

ตู้แรกเป็นตู้ปลาฉลามครับ ค่อยๆเดินไปน่ะ ฮ่าฮ่า

ตู้ปลาทะเล Yellow Tank ชอบมากกก

ได้ดู โชว์ปลาโลมาด้วยครับ

ถ่ายคู่กับปลาซักหน่อย

ตู้ปลาทะเลแบบซูมครับ สีชัดๆ

ตู้กลมใหญ่กลาง S.E.A. Aquarium ครับ

สุดทางจะเป็นตู้ปลาใหญ่มากๆครับ นั่งดูตรงนี้ชิลๆไป 30 นาที ดูเพลินจริงๆ

ขากลับมีปูให้ดูด้วยยย

จริงๆมีรูปเยอะกว่านี้ครับ แต่คัดมาให้ดูสวยๆเท่านี้น่ะครับ

ออกจาก S.E.A. Aquarium ไปถ่ายบรรยากาศ Sentosa มี Merlion ที่กลาง Sentosa ด้วยครับ

เสร็จแล้วนั่งกระเช้ากลับไปที่ Mount Faber Station อีกรอบครับ

กลับมาขึ้น รถไฟฟ้าที่สถานี Habour Front ครับ ตรงไป Chinatown ต่อเลย เที่ยวกันรัวๆครับ

ตึกสวยๆเยอะน่ะครับที่ Chinatown

มาถึงตลาดคนเดิน China town ครับ วันที่ผมไปมีฝนตกลงมาปรอยๆ คนเลยค่อนข้างจางตาครับ

เดินผ่านตลาดคนเดินไป เลี้ยวขวา เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอ วัดพระเขี้ยวแก้วครับ วัดสวยมากก

มาดูภายในวัดกันครับ ภายในวัดจะดีไซน์ สีแดง แทบทั้งหมดครับ




เริ่มเหนื่อย ขอนั่งพักแปปนึงน่ะครับ ^^


แวะหาอะไรกินที่ Smith St. ใกล้ๆ Chinatown ครับ

กินเสร็จก็ เดินช้อปต่อครับ

จะไปไหนต่อดี ฮ่าฮ่า

กลับที่พักไปพักก่อนครับ เริ่มหมดแรง เดินทางกลับจาก Chinatown ตรงไป Bugis เลยครับ

กลับมาที่พักเติมพลังเรียบร้อย ออกไปเดิน Boat Quay ต่อครับ เดินทางจาก Bugis ไปลง Raffle Place ครับ

ขึ้นมาเจอ โรงแรม Fullerton ในตอนกลางคืน ก็สวยไปอีกแบบเหมือนกันน่ะ

ถึงแล้วว Boat Quay จะเป็นถนนที่มีร้านอาหารเยอะมากๆ และเป็นร้านที่พรีเมี่ยมด้วย ปูตัวเบ่อเร่อออ


นั้นปูที่ไว้กินใช่มั๊ยยย ใหญ่ไปป่าววว

เดินไปเรื่อยๆจะเจอทางลอดใต้สะพานครับ ทางเดินใต้สะพานกำแพง 2 ข้างจะมี paint กำแพงไว้ครับ


ลอดใต้สะพานขึ้นมา ถ่ายรูปสะพานสีรุ้งซ่ะหน่อย

เดินทางกลับที่พักแล้วครับ หมดสภาพกันไป ฮ่าฮ่า

จากวันที่ 2 ไปด้วย วิว Boat Quay แบบพาราโนมาครับ



- ตารางการเที่ยวในวันที่สาม วันสุดท้ายครับ -

  • 07.00 - 07.30 : เดินทางจาก bugis ไป Dhoby Ghuat
  • 07.30 - 09.00 : เที่ยว Fort Canning Park
  • 09.00 - 10.00 : หาข้าวเช้ากิน เดินทางไป Orchard
  • 10.00 - 12.30 : ช้อปปิ้งที่ ION Orchard
  • 12.30 - 13.30 : เดินทางกลับที่พัก โรมแรม Nuve เก็บกระเป๋า
  • 13.30 - 14.30 : เดินทางจาก Bugis ไป Changi Airport
  • 14.30 - 17.10 : ผ่าน ตม เช็คอินตั๋วเครื่องบิน เข้าไปช้อป Duty Free
  • 17.10 - 18.30 : ถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ

เช้านี้ไปเดินเล่นสวนสาธรณะกันครับที่ Fort Canning Park เดินทางจาก Bugis ไป Dhoby Ghuat ครับ

ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดิน เดินข้ามถนนมาจะเจอ อุโมงค์ที่คนไทยชอบมาถ่ายกันเลยครับ

มุมยอดฮิต ฮ่าฮ่า


ขึ้นมา จะเป็นสวนสาธรณะที่ใหญ่มากๆครับ เดินรอบมีเหนื่อยแน่นอน


มีโรงแรมที่ Fort Canning Park ด้วยน่ะครับ


เดินถ่ายรูปยาวๆไป


ที่นี้เคยเป็นสนามรบ สมัยสงครามโลกด้วยครับ


ใหญ่มากๆครับ ถ่ายยังไงก็ไม่หมด พอแล้วครับ เดินทางไปช้อปปิ้งกันดีกว่าครับ

กลับมาลงรูอุโมงค์ที่เดิมครับ ชอบรูนี้มาก ฮ่าฮ่า

ข้างๆอุโมงค์มีทางเดินยาวอยู่ด้วยครับ

แวะกิน ก๋วยเตี๋ยวที่สถานีรถไฟใต้ดินนี้แหละครับ อร่อยใช้ได้เลยน่ะ ราคาถูกด้วย

เดินทางจาก Dhoby Ghaut ไป Orchard ครับ

คล้ายๆ เส้นสยามบ้านเรา ที่มี สยามดิส สยามเซ็นเตอร์ พารากอน เชื่อมต่อกัน

ที่นี้ก็เป็น ion orchard isetan อีกหลายๆห้าง เยอะครับ ขอซักภาพ ฮ่าฮ่า



ห้าง Isetan

อากาศดีครับวันนี้ เมฆเยอะไม่มีแดด ถ่ายรูปสวยครับ

บรรยากาศภายในห้าง ion Orchard ครับ ชั้นบนๆจะมีแต่ของแบรนด์เนม เดินไม่ค่อยสนุกครับ ต้องลงไปช้อปชั้นใต้ดิน คนจะเยอะและของกินเยอะกว่าครับ

ไปเจอ ซีสทาร์ต น่ากินมากกกกก

จัดมา 1 ถุงครับ กินอยู่คนเดียว ฮ่าฮ่า

กลับไปแพคกระเป๋าที่ โรงแรม Nuve เตรียมตัวกลับแล้วครับ

โหลดกระเป๋า เช็คอิน เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือเงินติดตัวอยู่นิดหน่อย มาช้อป Duty Free ข้างในสนามบินต่อครับ ฮ่าฮ่า

Charles & Keith แบรนด์ขึ้นชื่อของ สิงคโปร์ครับ ที่นี้ราคาถูกกว่าที่ไทยเท่าตัวครับ ซื้อกลับไปฝากที่บ้านหลายใบเลย

ต่อด้วย ของขึ้นชื่อ สิงคโปร์ หมูแผ่นครับ จัดไป ครึ่งโลครับ

จบทริปแล้วครับ ต้องเดินทางกลับแล้วจ้า เที่ยวบิน FD354 กลับกรุงเทพครับ

จบทริปเที่ยว Singapore ไว้เพียงเท่านี้น่ะครับ หากมีการพิมพ์ตกหล่นไป ขาดเนื้อหาบางช่วงไป หรือ บอกข้อมูลผิดพลาด ยังไงก็ กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน่ะครับ การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรกในชีวิตเลย หวังว่ากระทู้นี้คงมีประโยชน์แก่ผู้ที่จะไปเที่ยวสิงคโปร์น่ะครับ

ขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ของผมน่ะครับ หากชอบกระทู้รีวิวครั้งนี้ ขอกำลังใจเป็น กด + หรือ แชร์ กระทู้ให้ผมจะขอบพระคุณมากๆเลยครับ

ทริปหน้าไปเที่ยวที่ไหนอีก ฝากติดตามด้วยน่ะครับ

ไว้เจอกันทริปหน้าครับ สวัสดีครับ

Field Kreangkrai

 วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.33 น.

ความคิดเห็น