สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกแล้ว รอบนี้เราก็จะมาพาเที่ยวอีกตามเคยก็ทำไงได้คนมันชอบเที่ยวเนอะ เลยมีแต่เรื่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟัง ที่ๆเราจะมาแนะนำในครั้งนี้ก็ยังเป็นที่เที่ยว ที่พักที่อยู่ใน จ.เชียงใหม่อยู่นะคะ เพราะอย่างที่บอกรอบนี้เราขึ้นเหนือค่อนข้างนาน

วนเวียนอยู่แถวเชียงใหม่-เชียงรายเนี่ยก็เกือบเดือนแล้ว และก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพเราก็ได้มาพัก ที่โฮมสเตย์เฮือนแม่ธัญญาเป็นที่สุดท้าย จริงๆแล้วที่นี่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่พักของเราตั้งแต่แรก แต่เนื่องจากเราจะไปพักที่แม่กำปองพอดี แล้วระหว่างขับรถก็ผ่านทางนี้พอดี เลยเห็นป้ายที่พักซึ่งติดไว้ด้านหน้าทางเข้า ซึ่งเป็นโฮมสเตย์ริมทุ่งนา ซึ่งเป็นสไตล์ที่เราชอบอยู่แล้วด้วย เราเลยโทรไปสอบถามห้องพักกับ แม่ธัญญา เจ้าของโฮมสเตย์ ซึ่งมีบ้านว่างในวันที่เราลงจากแม่กำปองพอดี เราเลยได้มาพักที่นี่เพิ่มอีก 1 คืน

ทริปนี้เราจะพาไปไหนกันบ้าง

-น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด

-โฮมสเตย์ เฮือนแม่ธัญญา

-งานซะป๊ะของดีดอยสะเก็ด

ก่อนจะเข้าที่พักเราได้แวะมาที่ น้ำพุร้อนดอยสะเก็ดก่อน ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนหลายบ่อ ทั้งบ่อแช่เท้า แช่ตัว รวมถึงบ่อต้มไข่ ซึ่งบ่อแช่เท้าเราสังเกตุว่าจะมีคนเยอะกว่าบ่ออื่นๆ เนื่องจากสะดวกสบาย แต่ถ้าใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบออนเซ็นก็สามารถลงไปแช่ตัวได้ที่บ่อใหญ่กันได้เลย การแช่น้ำพุร้อนจะช่วยผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าต่างๆได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีนวดแผนไทย ร้านกาแฟเครื่องดื่ม และร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านอีกด้วย


บ่อนี้คือบ่อสำหรับต้มไข่ จะมีเหล็กล้อมไว้ไม่ให้คนลงไปเพราะบ่อนี้น้ำจะร้อนมากๆ อยู่ใกล้ๆจะได้กลิ่นกำมะถันค่อนข้างแรง เราลองซื้อไข่มาต้มดู ซึ่งจะมีร้านขายอยู่แถวๆนั้น ตระกร้าละ 20 บาท.


ความสุกของไข่ก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ เราชอบแบบไข่มะตูม ก็แช่ไว้ประมาณ 8 นาที


ก่อนจะไปเข้าที่พัก เราก็เก็บภาพมุมสูงที่บ่อน้ำพุร้อนกันซักนิด ที่นี่ถ้าเทียบกับบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพงคนจะค่อนข้างน้อยกว่า และสงบกว่า ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ



ออกจากน้ำพุร้อนขับย้อนกลับมาประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอกับป้ายปากทางเข้า โฮมสเตย์ เฮือนแม่ธัญญา เลี้ยวเข้าซอยไปอีก 300 เมตรก็จะถึงที่พักค่ะ



โฮมสเตย์เฮือนแม่ธัญญา ตั้งอยู่ที่ ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด ลักษณะบ้านพักจะเป็นบ้านไม้ มีทั้งหมด 4 หลัง หลังใหญ่ 2 หลังและหลังเล็ก 2 หลัง หลังเล็ก สามารถพักได้ 2-3 คน ส่วนหลังใหญ่ สามารถพักได้ 5-6คน บรรยากาศภายในที่พัก มีทั้งทุ่งนา ลำธาร และภูเขา เรียกว่าล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติล้วนๆเลยทีเดียว

เข้ามาถึงจะเจอกับเรือนหลังใหญ่ ซึ่งจะเป็นบ้านของแม่ธัญญา เจ้าของโฮมสเตย์ นอกจากนั้นตรงเรือนนี้ยังเป็นที่สำหรับทานอาหารเช้าและอาหารเย็นอีกด้วยค่ะ หลังจากที่เรารับกุญแจบ้านพักจากแม่ธัญญาเรียบร้อย เราจะพาไปดูห้องพักกันค่ะ



บ้านที่เราพักจะเป็นแบบเรือนไม้หลังเล็ก ชื่อ ทรายคำ ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 หลัง คือ ทรายคำ 1 และ ทรายคำ 2




มาดูกันที่ภายในห้องนอนกันบ้างนะคะ เรือนหลังเล็ก จะพักได้ทั้งหมด 3 คนค่ะ ภายในห้องจะมีที่นอน 2 ชุด คือที่นอนขนาดใหญ่ 5 ฟุต พร้อมมุ้ง กับที่นอนขนาด 3 ฟุต พร้อมมุ้ง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักจะมีแอร์ ทีวี แต่ไม่มีตู้เย็นให้นะคะ ถ้าอยากได้น้ำเย็นๆสามารถไปขอจากแม่ธัญญา ที่เรือนใหญ่ได้เลยค่ะ




ห้องน้ำที่นี่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้นะคะ


หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย เราก็มาเดินเล่นถ่ายรูปเก็บบรรยากาศภายในที่พัก ที่นี่เงียบสงบและมีความเป็นธรรมชาติมากๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบที่พักที่สงบ เรียบง่าย ได้มาพักผ่อนใช้ชีวิตแบบช้าๆ ผ่อนคลายจากงานหนักในช่วงวันหยุด เหมือนได้ชาร์ตแบตให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าอีกครั้ง ไม่ต้องบรรยายอะไรมากให้ภาพเล่าเรื่องแทนแล้วกัน





ฝั่งนึงของที่พักจะเป็นลำธาร ซึ่งจะไหลมาจากน้ำตกแม่ลาย ช่วงที่เราไปน้ำในลำธารค่อนข้างแห้งซึ่งไม่ใช่หน้าน้ำ ซึ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝนน้ำจะเยอะมากๆ น้ำใสไหลเย็นเห็นปลาเล็กๆว่ายในลำธารด้วยนะคะ


เราเก็บภาพมุมสูงของที่พักมาให้ดูกันนะคะ จะเห็นได้ว่าที่พักจะโอบล้อมไปด้วย ทุ่งนา ลำธาร และ ป่าเขา


บังเอิญว่าช่วงที่เราไปพักตรงกับช่วงที่มี"งานซะป๊ะของดีดอยสะเก็ด" พอดี ซึ่งทางอำเภอเค้าจะจัดงานนี้ขึ้นทุกปี ปีละครั้ง ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเราโชคดีมากเพราะเรามาพักที่นี่ แล้วงานเค้าจัดขึ้นวันแรกพอดี ทางแม่ธัญญาเจ้าของโฮมสเตย์ จึงชวนเราไปเดินเล่นที่งาน พร้อมกับหาอะไรทานมื้อค่ำที่นั่นกันเลยทีเดียว


สถานที่จัดงาน จะจัดบริเวณรอบๆที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด โดยจะมีขบวนแห่จาก ตำบลต่างๆ และภายในงานจะมีการประกวดธิดาดอยสะเก็ด การแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP การแสดงรำวงย้อนยุค และอาหารและผลิตภัณฑ์ต่างๆจากชาวบ้านดอยสะเก็ด


บรรยากาศภายในงานซึ่งเราไปตรงกับวันแรกที่จัดงาน มีคนมาร่วมงานกันเยอะมากๆ ของใช้และของกิน ที่ชาวบ้านนำมาจำหน่าย หลากหลายแถมดูน่ากินไปหมด เราเห็นอะไรก็ซื้อเนื่องจากยิ่งเดินก็ยิ่งหิว



สรุปได้ข้าวของติดไม้ติดมือกลับไปที่พักเพียบเลย หลังจากนี้เราก็กลับที่พัก แล้วนำของกินที่ซื้อไปนั่งทานกันที่เรือนหลังใหญ่ของแม่ธัญญา อิ่มแล้วเราก็รีบเข้านอนกัน จริงๆตอนแรกเรากะจะไปอาบน้ำแร่ ที่น้ำพุร้อนดอยสะเก็ด เพราะถ้าใครที่มาพักที่นี่ ตอนกลางคืน แม่ธัญญา เค้าจะพาไปอาบน้ำแร่ใต้แสงจันทร์ มีผ้าถุงเตรียมให้พร้อมเลย แต่เนื่องจากเรากลับมาจากงานที่อำเภอก็ค่อนข้างดึก กินข้าวเสร็จก็อิ่มจึงเริ่มง่วง บวกกับอากาศที่หนาวเราเลยเลือกที่จะไปอาบน้ำแร่พรุ่งนี้เช้าแทน


ตัดภาพมาตอนเช้ากันเลยค่ะ เราตื่นตอน6 โมงกว่าๆ อากาศค่อนข้างหนาวมากแทบไม่อยากจะลุกจากที่นอนกันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากเรามีนัดไปอาบน้ำแร่กับแม่ธัญญาตอน 6 โมงครึ่ง เลยต้องพยายามลุกขึ้นมา ก่อนจะไปอาบน้ำแร่กัน เราเก็บบรรยากาศยามเช้าของที่พักมาฝากกันนิดหน่อยค่ะ บรรยากาศยามเช้าสดชื่น มีหมอกบางๆ ลอยอยู่ตรงแนวเขา ทุ่งนาเต็มไปด้วยน้ำค้าง มองไปทางไหนก็สบายตามากๆเลยค่ะ



บ่อน้ำร้อนที่เราจะอาบกันเช้านี้ เป็นบ่อสาธารณะ อยู่ด้านหน้าทางเข้าน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด ที่บ่อนี้ชาวบ้านจะใช้ตักอาบกัน โดยชาวบ้านที่นี่จะนุ่งผ้าถุงมาอาบน้ำแร่กันทุกเช้า และช่วงเย็น บ่อนี้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ แต่เราต้องนำผ้าถุงเครื่องอาบน้ำเตรียมมาเอง ซึ่งถ้าพักที่ โฮมสเตย์ เฮือนแม่ธัญญา เค้าจะมีเตรียมให้เราหมดค่ะ ทั้งขันน้ำ ผ้าถุง 2 ผืน สำหรับอาบ และสำหรับเปลี่ยนหลังจากอาบเสร็จ


ที่นี่จะมีบ่อสำหรับอาบน้ำ 3 บ่อ แต่ละบ่อ ความร้อนจะไม่เท่ากัน มีแบบร้อนพอดีๆ 2 บ่อ และร้อนมากๆ 1 บ่อ ซึ่ง แม่ธัญญาแนะนำให้เราอาบบ่อใหญ่สุดซึ่งความร้อนจะพอดีๆไม่ร้อนมาก ร่างกายพอทนได้ แต่เราเห็นมีชาวบ้านผู้ชายอีก 2 คนนั่งอาบอยู่บ่อที่ร้อนที่สุด แต่เราไม่กล้าลองเพราะขนาดบ่อที่เราอาบเราก็ว่าร้อนแล้วนะ ควันขึ้นโขมงเชียว


อากาศค่อนข้างหนาวมากๆเราไม่รอช้ารีบตักน้ำอาบทันที ใส่เข้าไปขันแรกนี่สะดุ้งเลยค่ะ น้ำร้อนมากๆ แต่พออาบไปซักพักก็เริ่มปรับตัวได้ ทีนี้อาบเพลินแทบจะไม่อยากขึ้นกันเลยทีเดียว อ้อ ลืมบอกไปว่าบ่อนี้เค้าห้ามเอาตัว มือ เท้า ลงไปแช่ในบ่อนะคะ


หลังจากอาบน้ำเสร็จ เราก็เข้าไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบ่อด้านใน ที่สำหรับแช่เท้า และแช่ตัว มาให้ดูกันเพิ่มค่ะ ช่วงเช้าอากาศหนาว ควันขึ้นทั้ง 2 บ่อเลยค่ะ บ่อด้านในนี้ถ้าจะลงแช่น้ำต้องเสียค่าใช้จ่ายนะคะ จะไม่ฟรีเหมือนบ่อสาธารณะด้านนอก



อาบน้ำกันเสร็จเราก็กลับมายังที่พัก ซึ่งวันนี้แม่ธัญญา ได้เตรียมชุดแบบชาวไทลื้อ มาให้เราได้ใส่ด้วยค่ะ ใครที่มาพักที่นี่ถ้าอยากลองใส่ชุดแบบเราก็แจ้งกับแม่ธัญญาได้เลยนะคะ เราก็เพิ่งเคยลองใส่ครั้งแรก แฮ่ะๆ เขินเหมือนกันนะเนี่ย


มื้อเช้านี้เราได้ลองชิมอาหารจากฝีมือของแม่ธัญญา ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารเหนือมาในชุดขันโตก ซึ่งจริงๆปกติมื้อเช้าของทางที่พักจะเป็นข้าวต้มหมูเห็ดหอม กับ กาแฟสด แล้วมื้อเย็นจะเป็นอาหารพื้นเมือง แต่เนื่องจากเมื่อคืนนี้เราไปเดินที่งานซะป๊ะของดีดอยสะเก็ดมาและได้ซื้อของจากที่นั่นมาทานแล้ว เราจึงขอย้ายอาหารพื้นเมืองมากินเป็นมื้อเช้าแทน



กินมื้อเช้าบนขันโตกกับบรรยากาศทุ่งนา รวมถึงการแต่งกายแบบชาวไทลื้อ มันช่างเข้ากั๊น เข้ากัน ว่ามะ


อาหารเซ็ตนี้ประกอบไปด้วย ไก่ทอดตะไคร้ แกงผักกาดจอ น้ำพริกหนุ่ม แกงโฮะ แคปหมู และที่เราชอบมากๆคือ กุ้งห้วยทอดรสชาติจะเค็มๆอร่อยดีค่ะ ตอนแรกที่แม่ธัญญาบอกเราว่าจะทอดกุ้งห้วยให้กินเราก็ไม่รู้จักหรอก แต่แม่อธิบายว่า กุ้งห้วยก็คือกุ้งตัวเล็กๆที่อาศัยอยู่ตามลำธารน้ำที่ไหลผ่านที่พักนั่นแหละ ซึ่งจะหากินยากเพราะจะมีเป็นบางช่วงคือช่วงประมาณเดือน มกราคม-ต้นๆมีนาคมเท่านั้นเอง หูยเราโชคดีอีกแล้ว ที่มาตรงจังหวะได้ลองชิมพอดี



จริงๆที่นี่จะมีอาหารขึ้นชื่ออีกอย่างนึง คือ หน่อต้มโป่ง(น้ำแร่)ยัดไส้ วัตถุดิบที่ใช้ทำเป็นไส้ก็คือ เนื้อหมูทรงเครื่อง กับแบบดั้งเดิมของไทลื้อคือ แคปหมู แต่ช่วงที่เราไปไม่ใช่ฤดูของการต้มหน่อ เราเลยไม่ได้ชิม แต่ขอภาพจากแม่ธัญญามาประกอบให้ดูแทนค่ะ



หลังจากที่ทานอาหารเช้าอิ่มแล้ว นานๆเราจะได้เคยใส่ชุดไทลื้อทั้งที ก็ขอถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ ที่พักไว้ซักหน่อย มโนประหนึ่งว่า ตัวเองเป็นสาวชาวไทลื้อซะเลย




จบรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตาม

สอบถามพูดคุย ติดตามทริปและรีวิวอื่นๆของเรากันได้ที่

Facebook Fanpage / https://www.facebook.com/somewheresomeone/

รายละเอียดที่พัก โฮมสเตย์ เฮือนแม่ธัญญา

ที่นี่มีบ้านพักทั้งหมด 4 หลัง

-หลังใหญ่ มี 2 หลัง พักได้ 5-6 คน

-หลังเล็ก มี 2 หลัง พักได้ 2-3 คน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน ทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น

ค่าใช้จ่ายคิดเป็นหัวนะคะ ตกคนละ 600 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ อาหารเช้า,อาหารเย็น รวมถึงกาแฟสดตอนเช้า และพาไปอาบน้ำแร่ที่น้ำพุร้อนดอยสะเก็ดด้วยค่ะ

นอกเหนือจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรม รำวงย้อนยุค แบบไทลื้อ บายศรีผูกข้อไม้ข้อมือ ซึ่งคนที่เข้าพักสามารถร่วมสนุกได้ด้วยค่ะ แต่รำวงจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ

ติดต่อจองที่พัก / https://www.facebook.com/ครัวแม่ธัญญา-495052827275036/

093-6239329

095-6914141

Somewhere Someone

 วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.01 น.

ความคิดเห็น