.

.

.

.

ฝากติดตามเพจน้อยๆไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยค่ะ <3

https://www.facebook.com/some.mile



โอ๊ยยยร้อนนนนนน..

นี่แหละคำทักทายที่เหมาะที่สุดตอนนี้



รีวิวครั้งนี้เราได้ผู้สนับสนุนหลักใจดีด้านที่พัก ตั้งอยู่ที่แก่งกระจานนี่เองแหละแก

แก่งกระจาน แก่งกระจาน เคยได้ยินแต่ชื่อ ขับรถผ่านเวลาไปหัวหิน แต่ก็ยังไม่เคยไปเหยียบสักที

ครั้งนี้ได้รับการติดต่อจากเจ้าของที่พักผู้ใจดี ให้เราขนเพื่อนไปนอนกันฟรีๆแบบไม่ทันตั้งตัว เย้ๆๆๆ



และนี่คือโฉมหน้าที่พักของเรา เป็นไงละ ใครจะไปคิดว่าตั้งอยู่ที่นี้ ขับรถเข้าเขตแก่งกระจานมาข้างทางมีแต่ทุ่งหญ้าแห้งแล้ง

แล้วอีกอย่างที่สำคัญสุดๆ ราคาไม่แพงเลยจริงๆ ถ้าเทียบกับการได้ไปเที่ยวกับเพื่อนหลายๆคน มีที่ถ่ายรูปลงเก๋แบบว่าเชเวี๊ยตเด๋เด ..



ก็อย่างที่บอก เรามาเที่ยวกันแบบไม่ทันตั้งตัว แพลนอะไรไม่มีเตรียมมาทั้งนั้น แต่มันก็น่าจะง่ายๆเนาะ เที่ยวแก่งกระจานเนี่ย


ขับรถจากกรุงเทพมาถึงที่พักอย่างหิวโหย สอบถามร้านอาหารและโปรแกรมเที่ยวกับเจ้าของที่พัก



ก็เอาเป็นว่าเราจะไปหาอะไรกินกันที่ร้านริมแก่ง และก็เดี๋ยวนั่งเรือล่องลมชมวิวกัน คือมีอะไรให้ทำก็ทำหมดแหละตอนนี้

ไปถึงร้านอาหาร รสชาติโอเค ราคาเบาๆ แต่อากาศร้อนมาก มีลมเบาๆตีหน้าตลอดเวลา



วิวจากหน้าร้านสวยแบบร้อน ยอมได้ๆ กินโค้กย้อมใจกันไป



หลังจากกินอิ่มแต่นอนไม่หลับกันไปแล้ว เราก็โทรหาคนขับเรือที่นัดไว้ จริงๆท่าเรืออยู่เลยจากร้านอาหารไปหน่อยเดียว แต่พี่คนขับบอกให้รออยู่นั้นโลดดด เดวบึ่งเรือไปรั๊บบบบบบบบบบ



ทุกคนก็รีบกรูวววิ่งลงไปรอหน้าร้านฝั่งริมน้ำ แต่ๆๆๆเรือยังไม่มา ได้แต่ยืนให้แแสงแดดแผดเผา

มันร้อนมาก ถ้าไม่ติดตรงที่มีปลาเน่าตายอยู่แถวนั้น นี่อยากจะกระโดดลงน้ำตามน้องหมาไป



นั่งเรือหน้าโต้ลมร้อนไปสักพัก ก็มาถึงไฮไลท์ของเราเลยวันนี้ นั้นคือ ให้อาหารน้องลิงงงงงง



เรือขับไปยังไม่ถึงฝั่งดี อยู่ๆก็มีน้องลิงน้อยใหญ่วิ่งกรูววววกันมาาา กระโดดดดดกันมาาา ลงน้ำดังจ๋อมมมมม !!


แล้วหน้าที่ของพวกเราก็คือต้องรีบโยนอาหารลงไปให้น้องลิงให้เร็วที่สุด เพราะถ้าไม่ทันใจน้องน้องก็จะกระโดดมาเกาะเรือยังงี้ 5555



อะลิงออนเซน ไม่ต้องไปดูถึงญี่ปุ่นนนน



บ๊ายบายนะหนูลูกกก ลงไปได้แล้ววว ขนมหมดแล้วววว พวกพี่จะไปแล้วววววววววววว


และที่สุดท้ายที่แวะลงก็คือ สะพานแขวน มั้ย เขาเรียกว่าสะพานแขวนมั้ยนะ 555555



ตอนมองขึ้นไปก็เออๆไม่น่ากลัวหรอกมั้งงง แต่พอลองเดินเองเท่านั้น โหววววววว เดินนำกันก่อนเลยจ้าาา



เสร็จจากการล่องเรือชมวิวท่ามกลางอากาศร้อนๆแล้ว เราก็กลับเขาที่พักกันสักทีเหอะ ตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนเลยยยย


และนี้คือห้องโถงแรกที่ทุกคนต่างเข้าไปสำรวจกัน เป็นห้องรับรองสำหรับแขกที่มาพักนั้นแหละ แอร์โซฟาทีวี มีพร้อม



จริงๆ Mighty Mountain ไม่ได้ใช้ชื่อว่าเป็นรีสอร์ต แต่เป็น "บ้านพัก" ตอนแรกก็แอบสงสัย เลยสอบถามพี่กบ เจ้าของผู้ใจดีและน้องๆอีกสองคน


เลยได้ความว่าที่นี้ตอนแรกเลยตั้งใจสร้างเป็นบ้านพักส่วนตัว แต่ทำไปทำมานั้นแหละ เลยลองเปิดให้คนมาเข้าพักดู และหลังจากที่พวกเราได้รับการตอนรับแบบเป็นมิตรมากๆและอบอุ่นจากที่นี้ เราจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงใช้ชื่อว่า "บ้านพัก" (อันนี้เรื่องความเอาใจใส่และบริการไม่ได้อวยออกนอกหน้าจริงๆ อยากรู้ต้องลองไปใช้บริการกันเอาเอง)



บ้านพักของที่นี้มีหลังใหญ่ๆหลังเดียว ซึ่งมีสามห้องนอน [ห้องสำหรับ4คนสองห้อง / ห้องสำหรับ 2 คน 1 ห้อง] และหลังเล็กด้านล่างอีกสองห้อง เป็นห้องสำหรับ2คน ซึ่งใครจะมาเช่าแค่ห้องเดียวก็ได้ แต่น่าจะสะดวกมากถ้าเช่าเหมา เพราะได้ใช่บริการทุกส่วนอย่างเต็มที่ และเป็นส่วนตัวมากๆๆๆๆๆๆๆ เรียกได้ว่าในราคาที่เราคิดว่ามันน่าจะแพงกว่านี้ แต่จริงๆแล้วคือ เออมันไม่แพงเลยยยยย !



(สำหรับใครที่เช่าแบบทั้งหลังหลัง รวมราคาแล้วแค่ 8,000 อยู่ได้เต็มๆที่เลย 12 คน คิดๆออกมาเล่นๆคนละหกร้อยกว่าบาทเองแกกกกกก )



มีห้องครัวแยกต่างหากด้วยนะ แต่จะเปิดให้ใช้ก็ต่อเมื่อเราเช่าเหมาทั้งหลัง ใครมาเปิดกันแค่ห้องเดียวเราก็ใช้โถงใหญ่กันได้ สบายๆเหมือนกัน



ไปดูห้องนอนกันมั้ง ห้องนี้เป็นห้องที่วิวงามสุดของที่นี้ละ นอนได้4คน วิวเปิดรอบมากๆๆๆๆๆ



มีกาแฟไว้บริการด้วยนะ ร้านกาแฟเล็กๆด้านล่างที่พักเปรียบเหมือนเป็นล็อบบี้ไว้รองรับลูกค้า



ห้องถัดมา สำหรับ 4 คนเช่นกัน



และสุดท้ายสำหรับบ้านหลังใหญ่ นอนได้2คนนะห้องนี้



และถ้าเดินลงมาที่ชั้นด้านล่าง ติดทางเข้าเลย ถึงจะอยู่ล่างแต่ก็วิวดีไม่แพ้กันนะเออ


มีแบ่งโซนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่มีแค่โซฟาตัวน้อยและทีวี



และห้องสุดท้าย ห้องน้องเล็กสุดเลยของที่นี้



ตกเย็นๆ ก็มานั่งชิวดูพระอาทิตย์ตกกันได้นะ จะด้านบนระเบียงห้องพักหรือเดินลงมานั่งเล่นข้างล่างก็มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากๆ



พระอาทิตย์เริ่มตกแล้ว จริงๆชอบท้องฟ้าของช่วงหน้าร้อนนะ มันจะมีเมฆรูปร่างแปลกๆมาให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ


มองย้อนออกมาจากห้องพักของเราก็จะได้วิวแบบนี้ ตอนเย็นๆนั่งเล่นเม้าท์ชิลๆกับเพื่อน หรือจะนอนเพลินๆตากแอร์ในห้อง เปิดผ้าม่าน ดูพระอาทิตย์ตกดินกับแฟน โอ้ยยยยยยย <3



แต่ว่า.. แฟนไม่มีนี้อะดิ ก็นั่งจับเจ่ากับเพื่อนต่อไป



อวดที่พักกันแค่นี้แหละ เพราะเราจะปาร์ตี้กันต่ออ กริกริ ที่พักที่นี้ไม่ติดริมน้ำ! ฉะนั้นเราจะไม่ได้ความชิลในรูปแบบนั้น 55555


และก็อาจจะเป็นข้อเสียของที่นี้ แต่มันไม่สะทกสะท้านอะไรพวกเราเลย อยู่ไหนก็สนุกได้ แค่นี้ก็ฟินแล้วเบาเบา

ขับรถออกไปจากที่พักสองนาที ถึงเซเว่นเลย ถึงแหล่งของกินและตลาดสดด้วย ขับไปอีกหน่อยก็เข้าอุทยานแก่งกระจานแล้ว



และใครว่าไม่ติดน้ำจะเล่นน้ำไม่ได้ พรุ่งนี้เราก็จะไปเขาพะเนินทุ่งและล่องเรือยางโดดน้ำกัน เย้!!วันรุ่งขึ้นต้องแหกขี้ตาตื่นเลยตั้งแต่ตีห้า เราให้ทางที่พักนัดกับรถขึ้นพะเนินทุ่งมาให้

รถที่มารับเป็นกระบะ ด้านหลังที่นั่งไม่เหมือนสองแถวทั่วไปนะ เป็นเบาะนั่งแบบสบายๆหน่อย นุ่มนิ่มนั่งเพลิน และพี่เขาก็ดูภูมิใจกับที่นั่งแบบนี้มาก

ถึงขั้นพูดว่า ใครเห็นเราได้รถเบาะดีแบบนี้ก็ต้องอิจฉาพวกเรา ไอ้ๆพวกเรานี่สลึมสลือง่วงนอนก็ยังงงๆกันอยู่ว่าทำไมต้องขนาดนั้นนนนน



กระโดดขึ้นรถ รถออกไปได้ประมาณยี่สิบนาทีครึ่งชั่วโมงก็ยังงงๆว่าทำไมยังไม่ถึงอีกนะ

คือบอกแล้วมาแบบไม่ตั้งตัว ไม่มีแพลน ไม่ศึกษามาก่อน แต่โดยปกติที่เคยไปดูพระอาทิตย์ขึ้น นั่งรถแปปเดียวจากหน้าทางเข้าอุทยานก็ถึงยอดเขาแล้ว แต่นี้ .. ไม่ ! ชั่วโมงนึงผ่านไปก็แล้ว ท้องฟ้าเริ่มสว่าง นั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นจากหลังกระบะ สองชั่วโมงผ่านไปก็แล้วว รถเลี้ยววนขึ้นเขาไปมา สุดเขตถนนทางลาดยาง เป็นทางเสียวๆสนุกๆ จนเราได้แต่นึกในใจว่า เอาเลยยเพ่!! จะขับไปไหนก็ไปเลยเพ่!! แต่หวังว่าคงไม่หลอกไปขายนะ ฮือออออออ



สามชั่วโมงเศษๆผ่านไป เรา ก็ มา ถึง แล้ว เขา พะ เนิน ทุ่ง ทุ่ง ทุ่ง ...


ดีใจน้ำตาจะไหล แต่ไหนนน ไหนวะพี่ ไหนทะเลหมอกกก???????

(ก่อนขึ้นรถพี่คนขับบอกว่า หน้าร้อนเนี่ยแหละ ดูทะเลหมอกสวยสุดๆ หมอกจะหนาาา สวยมากๆๆ)



เหว๊ ??



สักพักก็แอบได้ยินคนขับเขาคุยกันว่า เมื่อวานไม่ค่อยมีคนขึ้นมาดูหมอก หมอกนี่หนาาเชียว ทีวันนี้คนขึ้นมาเยอะะะ หายยยไปกันหม๊ดดด


เอ่อออ ... เอ่อคือ ... นั่งรถมาสามชั่วโมงงงงงง ม่ายยยยยย เรามากับดวงกันจริงๆเล้ยยยยยย



แต่ก็โอเคๆ เราได้เห็นความเป็นเลเยอร์สลับซ้อนกันของยอดเขา ยังสวยให้อภัยกันได้ และคิดว่าถ้ามาเห็นหมอกหนาๆคงจะสวยกว่านี้มากแน่ๆ



และขากลับเราก็ได้เห็น ผีเสื้ออออออ เต็มไปหมดเลยยยย


นักท่องเที่ยวที่มาส่องผีเสื้อถ่ายรูปกันก็เยอะแยะไปหมด



ขากลับลงจากเขาใช้เวลาเร็วกว่าขาขึ้น กลับถึงที่พักก็สลบกันไปทุกคนน นอนเอาแรงตื่นมาเราจะไปเล่นน้ำกันแล้ววววว


อันนี้เราก้ให้ทางที่พักติดต่อเรือให้อีกเหมือนเดิม จริงๆใครจะติดต่อเองก็ได้เลยนะ มีหลายที่ที่ให้บริการเรืองยาง



ระหว่างรอรถมารับไปเล่นน้ำ ก็ขอกาแฟขอน้ำให้หนังตาตึงสักหน่อย



รถมารับถึงที่พักเลย เตรียมชุดไปเปียกให้พร้อมมมมมมม!!


เราได้พี่ไกด์ ชื่อว่า ดีเจน็อต กลางวันเป็นคนพายเรือ กลางคืนเป็นดีเจเปิดเพลงอยู่ที่รีสอร์ตริมแก่ง

ตอนไปถึงแดดยังส่องลงมาแรงอยู่ทำให้เห็นน้ำใสๆ น่าโดดมากๆ



ล่องเรือจะใช้เวลาชั่วโมงถึงสองชั่วโมง โดยดีเจน็อตก็จะพาแวะไฮไลท์ของที่นี้ นั้นก็คือสไลเดอร์เด้อค่าาาาา


เกือบทุกๆที่พักต้องมี เหมือนเเข่งกันว่าใครทำสไลเดอร์ยาวกว่าคนนั้นนะ และอันนี้ที่พวกเราแวะเล่นกัน ดูเหมือนจะไม่น่าเล่น แต่ขอบอกว่าโคตะระจะสนุกกกกกกก



หลังจากแวะเล่นไปเรื่อยๆ แดดก็เริ่มหาย ลมพายุเริ่มมา แต่เราอย่าไปกลัว 5555 นั่งตากลมสูดรับธรรมชาติกันไปก่อน



ก่อนถึงจุดที่เราต้องขึ้น ดีเจน็อตก็ปล่อยให้พวกเราล่องกันไปตามน้ำ โอ๊ยยย สนุกก เย็นมากๆๆ นึกแล้วอยากจะกลับไปเล่นอีก



ก่อนกลับที่พัก ขอเล่นกันต่ออีกหน่อยนะพี่ ..



ก่อนกลับขอปิดท้ายด้วยรูปที่พักพร้อมแผนที่อีกที



ใครอยากไปแก่งกระจาน ลองตามไปไปเที่ยวแบบพวกเราได้


และถ้าใครสนใจที่พักไม่ติดริมแก่งริมน้ำ แต่ก็สามารถมาชิลๆกันได้กับเพื่อนๆยกแก๊งค์ หรือจะมาแค่เป็นคู่ก็แวะมาดูที่พัก Mighty Mountain กันก่อนได้เลย



สอบถามโดยตรงได้เลยจร้าที่

https://www.facebook.com/mightymountainthailand



และก็ฝากเพจน้องอีกทีนะพี่พี่ 5555555

https://www.facebook.com/some.mile

some.mile

 วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.35 น.

ความคิดเห็น