5 DAYS : MANDALAY ( BAGAN - INLE )

4 - 8 FEB 2017

เมื่อนึกถึงพม่า เราจะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก ......



… แรงงาน ประวัติศาสตร์ ทานาคา เจดีย์ชเวดากอง ย่างกุ้ง พุกาม อาหารที่แปลกๆจากบ้านเรา มันคงไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่จะดึงดูดให้มันเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่คุณอยากเท่าไหร่ใช่มั๊ยหละะ



ลองมาดูพม่า (มัณฑะเลย์)ในแบบนี้ เผื่อมันอาจจะช่วยเปลี่ยนประเทศนี้ให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คุณอยากไปในเร็วๆนี้ก็ได้



ครั้งนี้เราไปกันสองคน ... ตามเคย





สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ตอนท้ายนะครับ



BKK - MANDALAY

การเดินทางไปพม่าเราสามารถไปได้หลายวิธี แต่วิธีที่น่าจะประหยัดเวลาที่สุดน่าจะเป็น เครื่องบิน

ผมเลือกสายการบิน MYANMAR AIRWAYS INTERNATIONAL ( 14:30 - 16:05 )

ถ้ามีโอกาศถ้าเราไปประเทศไหนลองเลือกสายการบินของประเทศนั้นดูนะครับ

เราต้องไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ



ส่วนเรื่องวีซ่าคนไทยสามารถเข้าประเทศพม่าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อท่องเที่ยวได้ 14 วัน



ส่วนเรื่องซิมการ์ดเราซื้อที่สนามบินเลยใช้ของ TELENOR โลโก้คล้ายๆกับของสีฟ้าๆบ้านเรา ราคา 15 USD ได้อินเตอร์เน็ต 5GBMADALAY - INLE



แผนของเราคือเมื่อเข้าไปถึงมัณฑะเลย์แล้วนั่งรถต่อไปที่อินเลย์เลย

เราสามารถสอบถามรถได้จากศูนย์ข้อมูลที่สนามบินแล้วจ่ายเงินที่นั้นได้เลย

รถออก 19:30 ถึงอินเลย์ประมาณ 04:00 ค่าโดยสาร 15 USD เป็นรถบัสขนาดเท่ารถบัสในไทยแต่เหมือน

ที่นั่งจะกว้างกว่านิดหน่อย



รูปคนนั่งข้างๆรถบัส.... แอบถ่ายมา



เราได้สองที่สุดท้ายมา ซึ่งเบาะหลังจากเรากลายเป็นที่วางของไปหมดแล้ว ตรงที่พี่เสื้อฟ้ายืน คือที่ของเรา



เอาหละ ....ไปกันต่อ



ระหว่างที่รอรถเราก็เดินเล่นแถว ๆ สถานีขนส่ง หาข้าวเย็นกินสักหน่อย


นี้แหละร้านอาหารของเรา .... เอาจริงๆแล้ว เรากินไม่ค่อยได้ ข้าวคล้ายๆข้าวผัดมีถั่วโรยข้างบน มันมากกก แต่ยังดียังมีกับข้าวบางอย่างที่ยังพอกินได้ : (



เรามาถึงที่อินเลย์ประมาณตีสี่ ที่นั้นหนาวมากดูจากโทรศัพท์แล้วประมาณ 12 C'

เราต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวคนละ 10 USD



จากแผนที่วางไว้คือจะไปนั่งรอดูพระอาทิตย์แล้วไปเช่าเราเที่ยวในหมู่บ้านต่อเลย กลับกลายเป็นว่าต้องไปหาห้องพักเพื่อให้ความ

อบอุ่น

โดยเมื่อลงจากรถจะคนมาถามว่ามีรถแท็กซี่หรือยัง (แต่อันที่จริงมันคือรถตุ๊กๆ) ต้องการโรงแรมมั๊ยย

ผมมีโรงแรมให้คุณนะ 18 USD , 23 USD

แน่นอนว่าเราเลือก 18 USD เป็นเตียงคู่ ห้องน้ำในตัว มีน้ำอุ่น มี WIFI ชื่อ FRIDAY INN

ประมาณ 8 โมงกว่าเราเราตื่นไปกินอาหารเช้า แล้วก็จัดการจองตั๋วเพื่อไปพุกาม ( BAGAN ) จากเคาท์เตอร์ของโรงแรมเลย

คนละ 13000 Ks รถออก 20:00 เป็นรถบัสเหมือนเดิมมมมมมมม



หลังจากนั้นเราก็ให้เขาติดต่อเรือที่จะเที่ยวในทะเลสาปอินเลย์ให้ ราคา 25,000 Ks น่าจะนั่งได้ประมาณ 4 คน แต่เราไปแค่ 2 คน

เจ้าของโรงแรมพาเราไปส่งที่ท่าเรือฟรี : )



เรือเราก็ประมาณนี้



คนขับเรือก็ประมาณนี้ ...ไม่สิ ขอเรียก กัปตันเรือ ละกัน อยู่กับพี่กัปตันก็ประมาณเกือบๆ 7 ช.ม. เลยหละ



ระหว่างทางก็ประมาณนี้



อากาศที่ประมาณ 9 โมงเช้ามันเย็นใช้ได้เลย ... ที่เรือจะมีผ้าห่มผืนเล็กๆให้



อากาศเย็นๆที่พัดผ่านหน้าของเรานั้น ทำให้ลืมไปเลยว่ามีแดดเเรงๆซ่อนอยู่เหมือนเดิม



อย่าลืมครีมกันแดดนะครับ



นี้ก็ชาวประมงของที่นี้



เคยเห็นสวนผักลอยน้ำมั๊ย น่าจะเป็นทีเด็ดของที่นี้เลยนะ กว้างมากกกก


วิธีทำคือการเอาผักตบชวาหรือผักที่ลอยน้ำได้มากองๆให้หนาๆ แล้ว สักพักก็ตักดินมากลบใส่ หลังจากนั้นก็จัดการปลูกผัก



ส่วนมากเวลาที่หมดไปจะหมดไปกับงานศิลปะ หัถกรรมท้องถิ่น เครื่องเงินบ้าง ผ้าใยบัวบ้าง ตลาดน้ำ(ที่มีบางวัน) อาหารกลางวัน (ที่รอนานมากก)



นี้ก็ผ้าไหมใยบัว ...คือทำมาจากใยบัวจริงๆ .. ราคาแพงกว่าผ้าไหม



ที่นี้ยังมีตราชั่งแบบนี้อยู่บ้าง



ร้านขายหมากก็มี



ส้มมั๊ย ... ป้าไม่ได้พูดไว้



เรานั่งไปเรื่อยๆ จะมีฝายกั้นน้ำเป็นระยะ แล้วเราก็ไปถึง SHWE INN TAIN PAGODA



วิวระหว่างทางไป SHWE INN TAIN PAGODA



ทางเดินที่นี้สวยใช้ได้เลยหละ เสาเป็นคู่ๆ เพียบ แต่ร้านขายของฝากก็เพียบเช่นกัน


ที่นี้มีค่าธรรมเนียมกล้องถ่ายรูป 500 Ks



พักทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวในทะเลสาป ( ถ้าเป็นไปได้ควรหาร้านอาหารพื้นบ้านๆทานเอง เพราะที่ร้านอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวราคาค่อนข้างสูง และใช้เวลานาน )



หลังจากนั้นเราก็แวะไปวัดแมว(ไม่)กระโดด



ขากลับยังพอมีให้เห็น



หลังจากนั้นเราก็นั่งเรือกลับมายังที่ขึ้นเรือ จัดการต่าใช้จ่าย แล้วเรียกรถตุ๊กๆมารับในราคา 3000 Ks/คน



กลับมาที่พักอาบน้ำ ชาร์จแบตโทรศัพท์และกล้อง .... แล้วก็รอรถมารับไปยังที่ขึ้นรถบัสไปพุกาม ( BAGAN )

รถที่มารับเราก็เลทไปนิดๆ



ที่ที่เราไปนั่งรอรถบัสไปพุกาม ( BAGAN )



สำหรับสถานที่ที่ควรไปดูตามที่หนังสือ LONELY PLANET MYANMAR แนะนำมาคือ

1. CULTURE MUSUEM

2. MiNGALA MARKET

3. YADANA MAN AUNG PAYA



แต่เราไม่น่าจะได้ไป .... ฮ่าๆ



ยังมีต่อนะครับINLE - BAGAN

หลังจากที่ขึ้นรถมาประมาณ 3 ชั่วโมงรถก็จอดพัก อากาศข้างนอกหนาวมากกก หนาวมากจริง ๆ .... ที่นี้เมื่อคนลงรถหมดแล้ว คนขับรถจะปิดประตูรถ ทั้งตอนที่ขึ้นมาจากมัณฑะเลย์เหมือนกัน ทำให้เราต้องยืนทนหนาวอยู่ข้างนอก ( ถ้าไปฤดูหนาวควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปดีๆ เพราะการนั่งรถตอนกลางคืนนั้นมันหนาวมาก )



เรามาถึงที่พุกามประมาณตีสี่ .....เราสองคนจัดการหารถแท็กซี่เข้าเมืองเลยทันที และราคาที่รวมกับไปดูพระอาทิคย์ขึ้นแล้วเราได้ราคามาที่ 35,000 Ks ซึ่งแพงมากๆ ( ที่จริงราคาแท็กซี่เข้าเมืองราคาอยู่ที่ 6000-9000 ks /คน ) ถ้าใครไปยังไงลองมองดูป้ายรอบๆก่อนจะไปคุยราคากับคนขับรถนะครับ ....ผมกับเพื่อนน่าจะเสียค่าโง่ไปแล้ว

การเข้าเมืองเราต้องเสียค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวคนละ 20 USD ส่วนเรื่องเสียที่ไหนเดี๋ยวรถเแท็กซี่พาเราไปเอง... อันนี้ไม่ต้องห่วง



หลังจากนั่งรถมากสักยี่สิบนาที เราก็มีถึงเจดีย์ SHWE SAN DAW ที่สำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้นของเรา เรามาถึงประมาณ 04:30 ซึ่งเรามาถึงคนแรก มันเช้ามากๆ เราเลยนั่งอยู่ในรถสักพัก .... รอให้มีคนมาขึ้นไปบนเจดีย์เป็นเพื่อน



พระอาทิตย์ขึ้นประมาณหกโมงกว่า ๆ ...



อีกสักพักบอลลูนก็มา



มาเต็มเลย



ลอยมาเรื่อย ๆ



ประมาณแปดโมงเราก็กลับไปยังที่พัก อาบน้ำ จัดการอาหารเช้า แล้วนอนพัก.... เรานัดกับคนขับรถไว้ประมาณเที่ยง ให้พาเราไปเที่ยวยังเจดีย์และที่น่าสนใจ ๆ ต่างๆ รวมถึงพระอาทิตย์ตก .... ราคา 35,000 Ks



ตรงที่ถ้าที่จริงใครมีเวลาประมาณ 2 วันการชมเมืองในพุกามเก่า ( Old Bagan ) สามารถทำได้โดยการเช้า E- BIKE ในราคา 7,000 Ks ( การชาร์จหนึ่งครั้งใช้ได้ 5 ชม. ) น่าจะคุ้มกว่า สามรถนั่งได้สองคน ...ผมยังรู้สึกเสียดายเลยที่ไม่ได้เเว๊นด้วยตัวเอง



เราไปกันหลายที่มากๆ น่าจะเป็นสิบที่เลยหละ


ผมจำชื่อวัดที่นี้ไม่ได้แต่ ...ไฮไลท์คือการดูยอดเจดีย์จากหลุมน้ำเล็กๆจากข้างเจดีย์นั้นแหละครับ

นี้คืออาหารกลางวันของผม รสชาติใช้ได้เลยหละ



ส่วนเจดีย์ที่น่าสนใจๆตามที่หนังสือ LONELY PLANET บอกไว้ก็มีประมาณนี้



1.Ananda Pahto

2.Dhammayangyi Pahto

3.Shwesandaw Paya or Buledi ( Sunset - Sunrise )

4.Upali Thein

5.Shwezigon Paya

6.Sulamani Pahto

7.Abeyadana Pahto



ตอนนี้เจดีย์ส่วนมากที่นี้มีการบูรณะซ่อมแซม ... เพราะได้รับผมกระทบมากจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ผ่านมา

ไปไหนมาไหนเราก็เลยเจอแต่ไม่ไผ่ล้อมรอบเจดีย์ไว้



หลังจากนั้นเราก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ Bulethi



สำหรับคืนนี้เรานอนกันที่ SHEW NA DI GUEST HOUSE ราคา 30 USD สามารถนอนได้ 3 คน ห้องน้ำรวม .... มีอาหารเช้า มี WIFI ทำเลค่อนข้างดีอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์มากนัก ไม่ไกลจากตลาดเช้า ไม่ไกลจากร้านอาหาร



เราตื่นกันประมาณ 04:30 ตีห้าเราเช่ารถ E-BIKE ในราคา 4000 Ks เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Bulethi อีกครั้ง ...ที่นี้มีเจดีย์สองอันที่อยู่ติดกันผมว่าลูกใหญ่ๆด้านหลังไว้ดูพระอาทิตย์ตก และลูกเล็กๆข้างหน้าไว้ดูพระอาทิตย์ขึ้น น่าจะโอเคกว่า ... ลูกเล็กที่นั่งน้อยและขึ้นยากกว่านิดนึง



เช้าวันนี้ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาสักเท่าไหร่ ... มัวแต่นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น



เราลงมากันประมาณ 07:00 เพื่อขับรถไปยัง ตลาดเช้าของที่นั้น ...



เดินวนๆไปมาสักพักก็ต้องกลับไปรอขึ้นรถไปยังมัณฑะเลย์ต่อ โดยจะมีรถมารับที่โรงแรมเพื่อไปส่งที่สถานีขนส่ง






รถออกจาพุกาม 08:30 ไปถึงมัณฑะเลย์ ประมาณ บ่ายโมงหน่อย กว่าจะเข้าไปถึงโรงแรมก็เกือบบ่ายสามโมง



การเดินทางไปยังโรงเเรมจากสถานีขนส่ง จะมีรถของบริษัทรถบัสรับเราไปส่งเลยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม.....


หลังจากล้างหน้าเก็บของเสร็จแล้ว .... เราก็เช่ารถแท็กซี่ไปเที่ยวในราคา 35000 Ks



ที่เราไปก็มี วัดประมาณสามสี่วัด เราเสียค่าเข้าไปประมาณ 10,000 Ks แต่เราสามรถเข้าได้หลายที่เลย



วัดไม้สัก ...



แล้วก็ไปสะพาน U BENG BRIDGE เป้นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก



หลังจากดูพระอาทิคย์ตกคนขับรถก็พาเราไปไหว้หระอีกหนึ่งที่ แต่ผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกเช่นเคย



และให้คนขับรถพาไปแลกเงินเพิ่มอีก 1200 บาท



ค่ำวันนั้นเรากินอาหารกันที่โรงแรม



สถานที่น่าสนใจๆ ในมัณฑะเลย์ก็มีประมาณนี้

1.Kuthodaw Pagoda

2.Mahamuni Buddha Temple

3.Shwenandaw Monastery

4.Khutodaw Pagoda

5. U-Bieng Bridge

6.Mandalay Palace



ส่วนรถแท็กซี่เราสามารถติดต่อได้จากโรงแรมMANDALAY - BANGKOK



เช้าวันถัดมาเราก็ต้องตื่นเช้าอีก ประมาณ ตีสี่ครึ่ง เพื่อจะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ MADALAY HILL เสียค่าเข้า 1000 Ks/PP



อากาศตอนเช้าที่นี้ไม่เย็นเท่าที่พุกามกับอินเลย์ แต่ก็กำลังพอดี



เรากลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมแล้วก็จัดการอาหารเช้า จากนั้นก็ ไปไหว้พระ พระมหามัยมุนี ณ เมืองมัณฑะเลย์



ที่นี้มีความเชื่อว่าหากเราลูบส่วนไหนของรูปปั้นนั้น จะทำให้เราหายปวดเมื่อยในส่วนนั้นๆของร่างกายของเรา



ที่วัดนี้ต้องใส่ขายาวเข้าเท่านั้น ...ถ้าไม่ได้ต้องเช่าสะโหล่ง คนละ 500 Ks



รูปจนรูปปั้นมันกันเลยทีเดียว



หลังจากนั้นให้รถแท็กซี่ไปส่งที่สนามบินประมาณ เก้าโมงเช้า ...

เราเสียค่ารถไป 35,000 Ks



สำหรับค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

ค่าเครื่องบิน 4750

แลกเงินไป 8100 แบ่งเป็น เงินดอลล่าห์ 100 USD ( ต้องใช้แบงค์ใหม่เท่านั้น !!! )

และที่เหลือเป็นเงินจั๊ด

ไปแลกที่นู้นเพิ่มอีกคนละ 600 บาท



รายจ่ายส่วนมากเราหมดไปกับการเดินทาง ค่าธรรมเนียมต่างๆ และที่พัก ....



หากใครเป็นคนที่กินอาหารยาก ...ผมแนะนำว่ามาม่าหรืออาหารสำเร็จรูปน่าจะเป็นทางออกที่ดี



ผมเหลือเงินกลับมา 13 USD



เป็นการเดินทางที่มันมากๆ ...นอนโรงแรมสองคืน + ครึ่งวัน นอนบนรถอีกสองคืน



ตื่นเช้าตรู่ทุกวัน ... อากาศหนาวแต่ไม่ได้เตรียมเครื่องกันหนาวไป



ข้อมูลเพิ่มเติม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[email protected]

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/chayutpong.s



หากข้อมูลไม่ถูกต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



ขอบคุณครับ

CHAYUTPONG

 วันพฤหัสที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.25 น.

ความคิดเห็น