ภูทับเบิก >> ฉบับเพื่อนออนไลน์

เคยรู้สึกไหม . . วันศุกร์ ทำงานวันสุดท้าย
แล้วคืนวันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
เราจะทำอะไร อยู่แบบไหนถึงจะสบายใจ
ฮู้วส์ .. .. .. .. ( เป่า ลม ออก ปาก )

เอาละว่ะ ชวนเพื่อนในห้องบลู เนี่ยแหละ และแล้วก็มีเหยื่อเข้ามา 1 ราย
ตกลงกันไว้ว่าไป ." ภูทับเบิก "

2 คืน 2 วัน

เกริ่นมาพอสมควร ... หลังจากที่ จขกท ชวนเพื่อในห้องบลู
( ชื่อพี่ (..ชาย..) นามสมมุติ เพศชาย อายุ 32 ปี ส่วนเรา เพศหญิง อายุ 24 ปี ไม่มีเหตุผลใดใดที่เราจะไปด้วยกันไม่ได้)
นัดกันช่วงเวลา 1 ทุ่ม ให้ไปเจอเจอกันที่ หมอชิตชั้น 1 เวลา 4 ทุ่ม

อุ๊ต่ะ พี่เขาไปถึงก่อนโทรมาบอกว่า ไม่มีรถแล้ว รถเต็ม
ด้วยความที่เรามั่นใจว่าเราต้องได้ไปไม่ว่าจะวิธีใดๆทั้งนั้น
จึงบอกพี่ชายไปว่า "หนูใกล้ถึงแล้ว รอหน่อยได้ไหม? อย่างน้อยให้ได้เจอกันบ้างก็ยังดี"
ฮิ้วว !นี้ถ้าเราเป็นหญิงสาวแสนสวย พี่ชายคงหลงรักเราไปแล้วหละ
แต่บังเอิญเราไม่ใช่สเป็คในใจของใครหลายๆคน และพี่ชายก็เหมือนกันไม่ใช่เพศที่เราจะชอบได้ 555+
(ล้อเล่นนะ..พี่ชายเผื่อหลงเข้ามาอ่าน)

เอาเป็นว่าหลังไมค์มาเราทำไงถึงได้ตั๋วรถรอบ 23.30น. รอบสุดท้ายของเพชรประเสริฐ
1 คืน แรกไปกับการเดินทาง

>>และเช้า แรก 05.30 น. เวลาคร่าวๆ ที่เราเดินทางไปถึง ลง บขส.หล่มสัก เดินข้ามถนนไปตลาดผัก
ด้วยความที่ว่าวันเสาร์นักท่องเที่ยวจะเยอะ 15 ชีวิตจึงเหมารถชาวบ้านขึ้นเขา คนละ 100 บาท ถ้วน
** เราแอบต่อราคาด้วยแระ ด้วยว่าคันก่อนได้คนละ50บาท แล้วแต่ดวงนะจ๊ **
แต่ขึ้นเขามาแล้ว เราต้องปริปากว่า " ร้อยยี่สิบหนูก็จ่ายพี่ "

ขออนุญาติเพื่อนร่วมโบกรถน๊า ขอใช้รีวิวเผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นจ้า
สมาชิกร่วมเดินทางขึ้นภูเขา

ทางนี้แหละ ที่เรามา ...

ถึงแล้ว .. ภูทับเบิก วันที่ 26 กันยายน 58
เป็นวันที่เราสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน

แสงแรกระหว่างเดินทางขึ้น ภูทับเบิก สวยใช่ไหม ใช่เลย

หลังจากที่เราเดินหาที่พักกันพอสมควรบ้านพักที่พอเหลือ ราคาจะเกิน 2 พันขึ้นไป
เราจึงตัดสินใจนอนเต้นท์ที่ "ไร่ริมผา"

ทีแรกเรากะจะเช่าเต้นท์เล็ก 2 เต้นท์ เพื่อความคล่องตัว แต่รอนานกว่าจะได้เต้นท์
จึงเปลี่ยนใจ ขอผู้ชายนอนด้วย ....ฮ่า ๆๆ ๆ

เต้นท์ใหญ่ 700 รวมที่นอน ค่ามัดจำ 100 บาท ค่าผ้าใบ 50 บาท
** อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้รับเงินค่ามัดจำนะคะ **

จุดกางเต้นท์ ไร่ริมผา

หลังจากที่เราได้จุดกางเต้นท์แล้ว เราก็เหนื่อย รวมกับบรรยากาศน่านอนซ่ะเหลือเกิน
ฝนตกบ้าง หมอกลงบ้าง งีบหลับ คือวิธีสุดท้ายที่เราควรทำ

ตื่นมาก็เดินเล่นไปทั่วถ่ายรูปบริเวณข้างกายที่เราจะเดินไหว เพราะเดินทุกครั้ง
หัวใจเราจะเต้นแรงขึ้น . . ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว แต่ ผมเหนื่อยครับพี่น้อง !

แครอท กำละ 20 บาท ยอดมะระหวาน หรือ ผักฟักแมว โลละ 50 บาท ใครจะซื้อเป็นของฝากก็ได้น๊า

เครป 30 บาท เป๊ปซี่ 20 บาท
แอบคิดว่า ถ้าเรากินหมูกะทะ ผัดกาดพวกนี้มันต้องน่ากินแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ
(( ล้อเล่น น๊า ))

ก่อนจะมืดค่ำไปก็เก็บภาพกันนิดนึง

วันที่เราไปถึง วันที่ 26 ก.ย. 58 มีทะเลหมอกให้เห็นนะคะ
ส่วนเช้าวันที่ 27 มีแค่เฆมฝน และหมอกจางๆ

หลังจากเราเก็บภาพเสร็จก็เก็บเต้นท์ แพคกระเป๋ากลับบ้านกัน
ด้วยการโบกรถ ... กลับรอบนี้เราได้เพื่อนมาเพิ่มอีก 5 คน
3ใน 5 คน มาจาก "แบกเป้เที่ยว" เป็นกลุ่มที่สร้างแรงบันดาลใจ
ให้หลายๆคนที่ไม่เคยก้าวออกนอกกะลา มาเจอสิ่งมหัศจรรย์รอบข้างที่ธรรมชาติได้สร้างไว้

กลุ่มนี้มาจากขอนแก่น และอีกหนึ่งสาวมาจากชลบุรีแต่ไปเจอเพื่อนที่ขอนแก่นก่อน

สองคนนี้มาจาก กทม. เช่นกัน เห็นว่ามาถึงตีสาม
ไม่มีรถขึ้น เหมาสกายแร๊ป 120 บาท ไปตีนภูเขา
( คือใช้คำถูกไหม? ) ถ้าผิดต้องแก้ไขอีกทีรอผู้รู้จ้า

สิ่งหนึ่งที่เจ้าของกระทู้อยากจะบอกเพื่อนๆที่หลงเข้ามาอ่านว่า
สิ่งหนึ่งที่เราทำยากและทำให้ตัวเองได้ง่ายที่สุด คือ โอกาส
ลองเถอะคะให้โอกาสตัวเองได้เจออะไร อีกหลายๆอย่างที่เรายังไม่เคยเจอ
เก็บความกลัวไว้ในกระเป๋า แล้วเอาใจที่ระมัดระวัง
ออกมาชื่นชมความงามที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้เราแล้ว
>> แต่ถ้าใครมองว่า รอเพื่อน นัดเพื่อน เวลาไม่ตรงกัน <<
ถ้าเราต้องการแค่เพื่อนเที่ยว ลองทำตามกระทู้นี้ดู
แล้วเราจะรู้ว่า เพื่อนเที่ยว ที่ ปลายทางก็มีเช่นกัน

ภาพสุดท้ายจริงๆ ขอบคุณเพื่อนร่วม(บาง)ทาง ที่ให้ของฝาก
ขอบคุณที่ทำให้เรายิ้มได้กว้างกว่าเดิม . . . แครอท ภูทับเบิก ++