"เป็นคนขี้เหงา เข้าใจบ้างซี"


คนขี้เหงาก็คือผมนี่แหละ อยากหาเพื่อนเล่นเสียเต็มแก่

สบโอกาส Log in "Best now" จะเทส "เวฟแดง"ที่ได้ซ่อมไว้ ว่าคืนค่าเดิมรึยัง


นัดแนะกับ "นู๋เดี่ยวเที่ยวตะลอน" ควบอาชาคู่กายอย่าง "Sprinterในตำนาน"


ออกจากเมืองหลวงมุ่งหน้า "เมืองปากน้ำโพ" เพื่อกดดัน"Best Now"ตอน 11โมง



เพื่อไปเจอกับ "เสี่ยวสัยมุย"ผู้ครอบครอง"รถแม่บ้านสายซิ่ง"ที่เมืองกำแพง

รวมได้ที่หมด 5 คน 4 คัน 3 ยี่ห้อ รถแต่ละคันก็นะดูเอานะ ซ่าจริงๆ



เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญสะดับรับฟังได้ ณ บัด นี้.........



ยังไงก็ขอขอบคุณรูปภาพสำหรับการเล่าเรื่องจาก "นู๋เดี่ยวเที่ยวตะลอน"และ"เสี่ยวสันมุย"


ลายน้ำผมแปะรวมไปเลยก็แล้วกันถือว่าผมมักง่าย ตามนั้น



ให้กำลังใจด้วยการเข้ามาร่วมพูดคุยด้วยกันในกระทู้ได้นะครับสายๆของวันเสาร์ออกเดินทางจากที่พัก เป้าหมายเบื้องต้นคือ บ้านพี่เบส(Best now)

ตามที่นัดกับพี่นู๋เดี่ยวไว้

ตามสเตป ยิงยาวสายเอเชีย แล้วกินข้าวที่ปั้มหอย อินทร์บุรี

แต่พอดีออกสาย คนซ้อนจะกินหัวตั้งแต่ยุดยาละ



ถึงอินทร์บุรีประมาณ 9 โมง จัดแจงทานข้าว



พอดีพี่นู๋ตามมาสมทบ แกไม่ยอมทานข้าวเช้า จะมุ่งหน้าไป"ปากน้ำโฟร์"อย่างเดียว


(ทำไมถึงเป็นปากน้ำโฟร์ไปถามแกเอง มุขแกเล่นเอง ผมไม่กล้าเล่น 55555)

เอาไงก็เอา เราไม่รู้ทาง มุ่งหน้าอย่างมั่นใจ แล้วก็เกิดภาพนี้

หลงซิ จริงๆเรื่องหลงนี่งานประจำพวกผมอยู่แล้ว จนแม่บ้านออกปาก ว่านี่สงสัยจะเป็นเหมือนกันหมด


ดูท้ายรถแก อาจจะไม่ชัด เอารูปนี่ไป

งือ อยากจะแบ้วกะเค้าบ้าง แมวนี่ก็....ทำตาใสตลอดทาง



หลงนิดหน่อยพอเป็นพิธี ก็ถึงบ้านพี่เบสตามเวลาที่วางไว้ได้พอดี 11 โมง

แรกเริ่มตั้งใจว่าจะแวะไปทักทาย แล้วจะล่วงหน้าไปพักที่ตีนดอยรอพี่เบสตามไปสมทบคืนนี้


แต่พี่เบสอาบน้ำ อาบท่าเตรียมจะไปด้วยกัน สงสัยสั่นทั้งตัวอย่างเอา"เวฟแดง"ออกมายืดเส้นเต็มแก่



เผลอแปปเดียวจัดข้าวของเรียบร้อย สังเกตถาดหลัง นั่นถาดกีวี่นะ


หาข้าวเที่ยงเป็นตามสั่งกินง่ายๆก่อนเดินทางต่อ

เลี้ยวเข้าปั้มหอย "เบนซินหมดปั้ม" ทำไปได้ยังไง เลยต้องพึ่งพา ปตท



เจอกลุ่มคลาสสิค สายเฉิ่ม นครสวรรค์ แจกSticker มาให้ติดกล่องท้าย

คือทุกกลุ่มเค้าต้องมีStickerให้ติดแล้ว ทีนี้มันมีหลายกลุ่ม มันจะไปติดตรงไหนให้มันครบ

เคยเห็นบ้างคันติดจนท่วมเลยขี่ไปได้ไม่เท่าไหร่ แถวๆโรงงานเบียร์ช้าง ต้องเบรกซะล้อล็อค

คือ อากาสมันเริ่มเข้าฤดูร้อนอะ เพลีย ยิ่งเห็นอะไรๆ ที่ลดความร้อนได้

เหมือนอยากจะพุ่งเข้าใส่



อันนี้ชาเย็นกับ้ขาวกล้อง รสชาติแปลกลิ้นดี



ยืมรูปพี่หนู คือแบบอยากให้เห็นร้าน ห่อกลับบ้านได้ด้วยนะ ใครเจอก็ลองแวะชิมดู



ระหว่างทานไอติมก็นั่งดู National Geographic ไปด้วย

ครับผม! งูเขียวปากจิ้งจกกินนกครับ ก็หาดูไม่ง่ายเท่าไหร่ คือ เมิงเป้นงู จะกินนกได้เนี่ยจะต้องมีความสามารถประมาณไหนดีเนี่ย เมิงไม่รู้ใช่มั้ยว่ามันบินได้ นกนี่ก็จริงๆเลย บินได้แท้ๆ โดนกินเฉยยยยยจริงก็แปปเดียวแหละครับ ก็ถึง ปตท กำแพง


จอดรถแอบบร่มให้เป็นระเบียบแล้วก็รอๆ ผู้ร่วมเดินทางอีกท่านคือ "เสี่ยวสันมุย"

เห็นท่าทางโดยร่วมนึกในใจได้ว่าสบายละ การเดินทางครั้งนี้ มีรูปสวยๆ แน่นอน

ถือกล้องถ่ายพริ้วเชียว

พักรถพักคนกันได้ที่ก็ ออกรถ ได้....


พี่อาร์ท(เสี่ยวสันมุย)นำทีมเลาะแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านหมู่บ้าน


ยังไม่ทันได้เสพบรรยากาศพี่นู๋เดี่ยวหักเลี้ยวเข้าร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ทันที

แกบ่นๆว่าอยากหยอดโซ่ ได้ๆๆ คนนี้เอารถมาซ่อมทุกงานอยู่แล้ว

เฮ้ย!!หยอดโซ่ถึงกับถอดล้อ 55555 ลูกปืนสเตอร์แตกจ้า อะไหล่ที่ร้านก็ไม่มี หึหึ รอซิจ๊ะ



ไม่รอดมือช่าง จบครับ งานดี รถเรียบร้อย ออกแรดต่อ



ถนนหมู่บ้านข้อดีคือขี่สนุก โค้งไปโค้งมาแต่ทำความเร็วไม่ได้เพราะเป็นเขตชุมชน

ตรงนี้ต้องระวัง แรดได้ไม่นาน เจอสะพานไม้ ได้ยินเสียงเด็กเล่นน้ำ เสียงผู้ใหญ่ตะโกนเรียกเด็ก

เอ้า!! จอดๆๆๆ ลงไปดูซิ



เด็กน้อยถือปืนยืนกลางน้ำร่ำไห้ปานจะขาดใจเมื่อพ่อบังเกิดเกล้าพรากตัวเค้ากับสายน้ำออกจากกันในเวลานี้


โธ่!!! เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นใหม่ คนพี่ก็ช่างนำพาน้องไปยืนซะกลางแม่น้ำเลย



ไหนๆ ยืนมั้งซิ

นี่เดือนกุมภาน้ำขนาดนี้ เดือนเมษาน่าจะปลูกข้าวได้กลางแม่น้ำพอดี



ไปๆ พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นใหม่นะไอ้หนู

facebiik liveกันซะทุกคน


บรรยากาศมันชิลมากซะจนอยากจะกางเต้นท์นอนตรงนี้


แต่ไม่ได้ ต้องไปต่อ



ใส่รองเท้าเข้าสิ ถอดย่ำน้ำอยู่ได้

ไปต่อครับ ยังต้องซื้อเสบียงที่ตลาดแล้วยังต้องเติมน้ำมันที่ปั้มบางจากสหกรณ์อีก


ดูจากหน้าตา ความสุขล้วนๆ ยิ้มแก้มปริ



รีบแค่ไหนดูเอง จอดรถชมวิว ถ่ายรูปอีกแล้ว
หลังจากซื้อเสบียงในSevenเรียบร่อยแล้วก็รีบมุ่งหน้าไปเติมน้ำมันซิครับ

เร็วๆ พระอาทิตย์จะตกแล้ววววววว

ไหนดูซิ ขี่เร็วได้แค่ไหน ดูเอาเอง นี่คือสภาพที่รีบ 555555 ขี่ชิลมาก ก็นะพักผ่อนอะ


เรียบร้อย ทันเติมน้ำมันพอดี ปั้มนี่คือปั้มสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นทางสู่ดอยสอยมาลัยนะครับ


เติมน้ำมันเสร็จก็มุ่งหน้าเข้าสู่ที่พักแรมในค่ำคืนนี้วนอุทยานแก่งห้วยตาก คือปลายทางของเราในค่ำคืนนี้


คือจริงๆเข้าใจว่าค้างคืนได้ แต่ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน

เพราะตอนเช้าดูแกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ไม่มีใครแจ้งแก

ที่พักคืนนี้มีเรา 3 เต็นท์ เงียบสงบดี และห้องน้ำสะอาด

ตั้งเต็นท์สิครับ ฟ้ามืดมาขนาดนี้


ไม่ทันละ เปิดไฟตั้งเต็นท์เลยละกัน


เสร็จเรียบร้อย ทะยอยกันไปอาบน้ำ ทานอาหารค่ำ เม้าท์มอย ตามประสา


อาหารหลัก มาม่าปลากระป๋อง บอกตรงๆ เค็มมาก ใส่เครื่องปรุงซ้ำ จนเข้มข้นเหลือเกินนนนน

กว่าจะได้รูปนี้บอกเลยว่าเหนื่อย คือนอกจากแสงไม่พอแล้ว คนถ่ายก็ไม่พร้อมด้วย


คือผมอยู่ในสภาพนี้ตั้งแต่กินมาม่าเสร็จ เพลียจนร่วง หลับข้างวงเหมือนเดิม ไม่เกินสามทุ่ม


สำหรับคืนนี้ฝันดีนะครับ พรุ่งนี้เช้าจะขึ้นดอยกันแต่เช้า


ตามแผนพี่เบสคือ ตีสาม ลองดูว่า ตีสามจะได้ขึ้นมั้ย



แต่ตีสามวันนี้ ผมขอลาไปพักผ่อนก่อนนะครับ ราตรีสวัสดิ์รู้สึกตัวว่ามีคนเดินรอบเต็นท์ ได้ยินเสียงคนคุยกัน ตกใจนิดหน่อย ตื่นมาตั้งสติ



หึหึ เจ้าของ"เวฟแดง"คันนี้ ทำท่าเหมือนจะหาเพื่อนขึ้นดอยตอนตีสามตีสี่

ผมลุกออกมานอกเต็นท์ดูท่าที เห็นพี่นู๋เดี่ยวหลับจนไม่รู้เรื่อง พี่อาร์ทตั้งหน้าตั้งตาถ่ายmilky way

ลักษณะไม่น่าจะมีแนวร่วมนอนต่อนิดนหน่อยแล้วฟ้าสาง มาเก็บเต็นท์



สตาร์ทเครื่องขี่วนเลยจ้าาา ไม่สำเร็จ ถถถถ

Milky way หรือทางช้างเผือก ณ วนอุทยานแก่งห้วยตาก อันนี้เสี่ยวสันมุย"เป็นคนถ่ายครั้งแรกด้วย


เก็บเต็นท์สิครับ ฟ้าสาง ล้างหน้าล้างตา เตรียมขึ้นดอย แผนคือ จะไปทำข้าวกินบนดอย


โดยฝากข้าวของอื่นๆไว้ที่ วนอุทยาน

"วางไว้ตรงนี้แหละ ไม่มีใครขโมยหรอก"เจ้าหน้าที่บอก


โธ่ หมาพี่คาบไข่ไก่วิ่งไปตั้งแต่เช้า แต่ไม่เป็นไร แลกกัน เรากรอกน้ำกินที่สำนักงานมาเต็มที่เลยวนอุทยานแก่งห้วยตาก น้ำตกแก่งตาก

ที่นี้ถ้าค้างคืนOKครับ ห้องน้ำสะอาด

แต่มาพักก็ช่วยดูแลกันด้วยนะครับ เจ้าหน้าที่มีไม่เยอะ ดูแลกันไม่พอหรอกนะครับ

เจ้าหน้าที่ใจดีคุยน่ารัก

เห็นชื่อแล้วอยากอยู่แถวนี้ต่อซัก 4 - 5คืน


ไปๆๆๆ สายแล้วๆๆๆ แดดออกแล้ววว มุ่งหน้าตีนดอยสอยมาลัย


พี่อาร์ทมองการไกล ผ่านร้านก๋วนเตี๋ยวเจ๊นา แวะเลยจ้า ด้วยความที่ต้องกิน


ร้านเจ๊นามีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว และ ร้านของชำ


วิวดีครับ ทำกับข้าวอย่างSlow life เหมาะกับฮิปเตอร์ที่ไม่ชอบอะไรที่เร่งรีบ

แต่ผมเกือบหน้ามืด ข้าวมาช้าไปนิ๊ดดดดดด



แต่วิวดี

มีปั้มหลอดด้วย


เดินทางถึงซักทีสายแวะ


ถึงแค่ตีนดอยนะ

ยิ้มทำไม มันมองเห็นมั้ย 555555


ก่อนขึ้นก็ลงทะเบียนก่อน เป็นอะไรขึ้นมาจะได้รู้รายละเอียด


คันนี้ทีเด็ด เอาจริงๆ เค้าบอกว่าถ้าหน้าฝน เละๆ จริงๆ คันนี้ก็ไม่ไหวนะ


ก่อนขึ้นก็ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายคร่าวๆ ได้ยินชื่อเพิ่มมาชื่อนึงคือ ดอยหัวหมด ฟังแล้วงงๆ ก้อือๆ ออๆ นึกเส้นทางมาในหัวไปจ้าสายแล้ว


แผนใหม่คือ กินข้าวเที่ยงบนดอย

ทุลักทุเลพอสมควร กล่าวคือShogunเป็นรถที่ลูกโตกว่าและช่วงชักสั้นกว่าชาวบ้านเค้า


เกือบๆจะเป็นเครื่องSquare (Bore x Stroke=53.5x55.2)ในขณะที่รถแม่บ้านรุ่นอื่นช่วงชักยาวกว่า

ผลคือ ต้องไล่รอบ ถ้ารอบตกกลางเนินก็ต้องมีซิกแซกบ้าง ลงเดินบ้าง ซึ่งคนซ้อนก้ไม่มีบ่นซักคำ



อันนี้ลงเดิน

อันนี้กระแถกๆขึ้นไป


พักบ้างอะไรบ้าง


ส่วนพี่นู๋เดี่ยวกับพี่เบส แกเป็น ทัพหน้า ขี่ไปรอข้างหน้าตลอด


สำหรับพี่เบสดูจะชุ่มชื่นหัวใจที่"เวฟแดง"แสนโล ได้วิ่งทางไกลซักที

มาฟังบทสัมภาษณ์ความรู้สึกในการซ้อนท้ายรถแม่บ้านขึ้นดอยสอยมาลัยกันครับ


555555เนินนี่ชันพอสมควร พี่นู๋เดี่ยวชาร์จขึ้นไป ผลคือ ไปดริฟอยู่กลางเนิน เบิ้ลๆหน่อยก็ขึ้นได้

Shogun ดูแล้วไม่น่ารอด จูงขึ้นเลยก็แล้วกัน


spark135 ก็ดันก้นนิดหน่อย


ทางบางจุดก็ไม่ได้ชันนะ แต่รถเราผิดประเภทเอง ไม่งั้นสนุกกว่านี้เยอะเลย


ขึ้นมาถึงจุดพักแรก อากาศเย็นแต่แดดแรง ช่วงบ่ายลงมาเพลียแน่ๆเลย


พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

ข้างในเพิงพัก อากาศเย็นจนแทบจะหลับพักผ่อนกันหายเหนื่อยก็ไปต่อครับ


ไปแบบงงๆทาง เจอทางแยกก็เลี้ยวไปใช้บ้างไม่ใช่บ้าง บางทีก็บรรจบกัน

จนมาเจอตรงนี้ เริ่มเข้าใจละ


เห็นป้ายนี้จะเข้าใจมากขึ้น


ตรงนี้เป็นแยกซ้ายขวา


ซ้ายมือคือ ดอยสอยมาลัย อีก 12 โล

ขวามือไปดอยหัวหมด อีกประมาณ 3 โล



ดอยหัวหมดก็แล้วกัน 3 โล หิวข้าวด้วย

ไปๆ

เห็นป้ายนี้ก็เข้าใจมากขึ้นแปปเดียวขึ้นไปกินข้าวเที่ยงที่ดอยหัวหมด


ทำกับข้าวเลยแม่ครัว หุงข้าวต้มไข่ ขนมปังนมข้น ปลากระป๋องและแกงมัสมั่น

ต้มโจ๊ก ชงกาแฟ ชงชา คือ แบกอะไรขึ้นมากินมันให้หมด แล้วก็ผูกท้ายรถกลับลงไป



มีสำนึกกันซักนิดนะครับ ข้างบนตอนนี้ขยะค่อนข้างเยอะ เพราะแบกขึ้นไปกินกันแต่ไม่รู้จักเก็บลงมาทิ้งข้างล่าง



อิ่มท้องกันได้ที่ก็ขี่รถเล่นรอบๆ ซิครับ ตามแต่ใครจะถนัด



อันนี้ด้วยความคันไม้คันมือ


คือใครๆก็อยากรู้ เต็มไปด้วยความสงสัย ในหัวมีแต่คำถาม



ขอเจ้าของSprinterขี่ซะเลย



บทสรุปคือ รถมันเลือกเจ้าของอะนะ


ขี่ยากชิบเผง คันเร่งก็แข็ง เบรคก็ตื้น เจ้าของมันขี่ได้ไงไม่รุขี่รถเล่นจนหนำใจก็ได้เวลากลับ

ลงมาด้านล่างถ่ายรูปรวมหน้าป้าย

ลงง่ายๆงี้เลยหรอ มันก้ไม่ง่ายเท่าไหร่ ไอ้ทางขาขึ้นมันชันเท่าไหร่ ลงมาก็เสียวเท่านั้นแหละ รูปเลยไม่ค่อยจะมี


เอารูปหมาไปก้แล้วกัน น่ารักเชียว

ลงมาเก็บข้าวของ อาบน้ำอาบท่าเตรียมกลับบ้าน


ออกจาก วนอุทยานแก่งห้วยตากก็บ่าย3กว่าๆ ง่วงได้ที่ แวะซิครับ สายแวะอยู่แล้ว



สั่งกาแฟกิน แปปเดียว ราบ สงสัยจะเพลียแดด กระหายน้ำเชียว

4โมงนิดๆ จึงได้มุ่งหน้าออกจากร้านกาแฟ เป้าหมายต่อไปคือ ปตท กำแพง ส่งพี่อาร์ทกลับบ้านคลาดกัน แต่มีจุดนัดพบ ก็รอที่จุดนัดพบ


พี่นู๋เดี่ยวหาย ทุกคนบอกว่าแซงมา...

???ปกติไม่น่ามีใครแซงแกได้ในคลาสรถแม่บ้าน

เรียบร้อย ส่งรุปมาว่าแวะร้านมอเตอร์ไซค์เปลี่ยนน้ำมันเครื่องหล่อห้องเกียร์


แวะทุกๆ ร้านจริงๆ 55555



ร่ำลากันเรียบร้อยก็มุ่งหน้านครสวรรค์ใจลึกว่าจะส่งแฟนขึ้นรถทัวร์กลับบ้าน

เข้าไปเช็คตารางรถตอน 2 ทุ่ม ท่ารถแจ้งว่ามีรถตอนเที่ยงคืน


ถ้ามีรถตอนเที่ยงคืนก้ซ้อนท้ายกลับด้วยกันนี่แหละ หาข้าวกินซะเลยที่ตลาดริมน้ำ

ลุกชิ้นปลาหัวนม อร่อยดี

แล้วเราก็ร่ำลาพี่เบสกันที่นี่


จากนั้น 3 คน 2คัน ยิงยาวเข้ากกรุงเทพ

ตัวผมถึงบ้าน เที่ยงคืนครึ่ง พี่นู๋เดี่ยวถึง ตี1พอดี

เหนื่อยจริงๆ คราวหลังจะวางแผนวันกลับให้ดีกว่านี้ ไม่งั้นแย่แน่ๆ



ก็ขอบคุณพี่ๆ ที่เปิดโอกาสร่วมเดินทางด้วยกัน กำลังเหงาอยากหาเพื่อนขี่รถพอดี

ความบังเอิญนี่แหละ

ทำให้เกิดความสนุกในครั้งนี้

พบกันใหม่อีกครั้งเมื่อล้อหมุนครั้งต่อไป



DarkcutiE สวัสดีครับ

DarkcutiE Travel

 วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.37 น.

ความคิดเห็น