"เซี่ยงไฮ้" เมืองที่ HIP | ART | MODERN | RETRO แบบสุดดๆๆๆ

"Shanghai หรือ เซี่ยงไฮ้" ไม่ได้เป็นแค่ชื่อขนม และไม่ใช่เมืองที่มีแต่เจ้าพ่อ !!!

เซี่ยงไฮ้ หรือ Shanghai (ชางไฮ่) ชื่อจีนว่า 上海

เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี แต่ก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง เคยถูกฝรั่งเศสเข้ามายึดครองอยู่ในช่วงเวลานึง แต่ปัจจุบันเป็นเมืองท่าที่มีเรือคับคั่งที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย.เป็นเมืองศูนย์กลางความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การลงทุน รวมถึง ด้านแฟชั่น และการท่องเที่ยว

ภายใต้การผลักดันของรัฐบาล.จนทำให้เซี่ยงไฮ้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ปารีสแห่งตะวันออก" เพราะมีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนและตะวันตกได้แบบกลมกลืน เห็นได้จากอาคารสถาปัตยกรรมในยุคอาณานิคม (เรียกโซนนี้ว่า The Bund หรือหาด Waitan) ซึ่งในปัจจุบันกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของเมือง

เซี่ยงไฮ้ที่เราไปมีอะไรบ้าง?

- รถไฟแม่เหล็ก MagLev ... เร็วที่สุดในโลก

- หาด Waitan ... ที่ว่ากันว่าเป็นปารีสแห่งเอเชีย

- นานจิงลู่ ... ถนนชอปปิ้งที่ฮิปสุดๆ แบรนด์เนมคอลเลกชั่นใหม่ๆๆมาตรึม

- พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ ...ที่รวบรวมประวัติศาสตร์จีน และของล้ำค่าโบราณมากมาย

- จูเจียเจี่ยว ... "อัมพวาเมืองจีน" ที่นี่โคตรแนว

- Shanghai Disneyland ... สุดพีค และสะอาดกว่าฮ่องกง

ใครคิดว่าจีนคือยังล้าหลัง จีนสกปรก และไม่น่าเที่ยว จากทริป 5 วัน 4 คืน เราย่อให้ดูกันใน 6 นาทีเราขอท้าพนันเลยว่า... ดูคลิปนี้จบคุณจะอยากจองตั๋วไปเซี่ยงไฮ้ทันที!!

ความ HIP | ART | MODERN | RETRO ของเซี่ยงไฮ้รวมอยู่ในคลิปนี้แล้ว

https://www.facebook.com/ibreak2travel/videos/1306717952728256/

มุมโรแมนติกของ The Bund หรือหาด Waitan ย่านริมน้ำที่ได้ชื่อว่า "ปารีสแห่งตะวันออก"

"เพราะการเดินทางทำให้โลกใบเดิมของเรากว้างขึ้น" ประโยคนี้ทำให้ผมและแฟนจับมือกันออกเดินทางไปเรียนรู้โลกกว้าง เราสองคนทำเพจเล็กๆ ชื่อ "หนีงานไปเที่ยว" และ Blog ที่ชื่อ www.ibreak2travel.com

อ่านมาถึงบรรทัดนี้เราอยากบอกว่า…ย้อนกลับไปหลายปีก่อนตอนรู้จักกันใหม่ๆ "ผม คือ นักท่องเที่ยวที่ต้องทำงานประจำ ส่วนแฟนผม คือ คนทำงานประจำที่อยากเที่ยวบ้าง" เราต่างกันเหลือเกิน แต่เมื่อมาคบกัน 2 ความต่างก็หาจุดลงตัวจนทำให้เรามาถึงจุดที่อยากทำเพจพาเพื่อนๆ คนทำงานไปเที่ยวกับพวกเราบ้างเราไปได้ ใครๆ ก็ไปแบบเราได้แน่นอน

ขอฝากร้านด้วยครับแวะไปกด Like เพจกันสักนิด เป็นกำลังใจให้พวกเราสักหน่อย จะได้รู้ว่าพวกเรายังมีคุณๆ อยู่เสมอ"ทำงานให้เป็นต้องรู้จักเที่ยวนะครับ"

https://www.facebook.com/ibreak2travel/

http://ibreak2travel.com/

สายการบิน

ปัจจุบันมีสายการบิน ที่บินตรงจากไทยไปเซี่ยงไฮ้ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Thai AirAsiaX การบินไทย, Spring Airlines, China Eastern, Shanghai Airlines, Orient Thai Airlines ทริปนี้เราใช้บริการของ Thai AirAsia X (XJ)

ขาไป (XJ760) : เราไปไฟลท์ดึก 00:15 น. ไปถึงเซี่ยงไฮ้ 05:30 น. ก็เที่ยวต่อได้เลย
ขากลับ (XJ761) : เรากลับไฟลท์เช้า 06:50 มาถึงไทย 10:15

สำหรับขากลับไทย เนื่องจากเป็นไฟลท์เช้า เราแนะนำให้ไปพักโรงแรมที่ส นามบินในคืนสุดท้ายก่อนกลับ โรงแรมชื่อ Airport Hotel แต่ถ้าไม่อยากเสียค่าโรงแรม ก็ไปนอนฆ่าเวลาเอาที่สนามบินก็ได้นะ

น้องไม่ต้องรีบนะ ค่อยๆ ทำ พี่จะยืนมองน้องไปเรื่อยๆ

การได้ขึ้นเครื่องก่อนใครนี ่ฟินสุดๆ เจอแอร์คนสวยยืนยิ้มหวานให้ด้วย ดูสิๆๆๆ

เราเดินทางมาถึงสนามบิน Pudong ตอน 05:30 น. สนามบินที่นี่ใหญ่มาก สมเป็นเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งเอเชี ย และอุณหภูมิตอนที่เราไปถึงคือ 5 องศา พร้อมฝนตกและลมแรง !!!

Maglev รถไฟระบบแม่เหล็กไฟฟ้า

รถไฟระบบแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วถึง 430 กม./ชม. เราใช้บริการ Maglev วิ่งจากสนามบินเข้าไปยังตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ แนะนำให้ดูรอบดีๆ นะ เพราะแต่ละรอบความเร็วจะไม่เท่ากัน

อยากบอกว่ามันเร็วโคตรๆ เลยอ่ะ 55555 ค่าโดยสาร 50 หยวน/ เที่ยว (ประมาณ 250 บาท) จากสนามบินเข้าตัวเมือง ใช้เวลาแค่ 10-15 นาที ถ้าจะให้ประหยัดก็ซื้อตั๋วไป-กลับอยู่ที่ 80 หยวน (400 บาท)

หลังจากซื้อตั๋วแล้วก็ต้องมาตรวจกระเป๋ากันก่อนนะ จึงจะเดินเข้าสถานีได้

ความเร็วรอบที่เราขึ้นคือ 300 กม./ชม. เร็วแค่ไหน ดูจากสีหน้ายัยหมวยดู

เราไปรอบเช้าเกิน เค้าเลยวอร์มอัพที่ 300 กม. / ชม. ก่อน แค่นี้ก็เร็วค่อดๆ แหล๋ววว!!

ขึ้นชื่อว่าจีน อะไรๆ มันก็ต้อง "ที่สุด" ตึกนี้คือ Shanghai Tower

ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในจีน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก มี 121 ชั้น (632 เมตร) เตี้ยกว่าตึก Burj Khalifa ในดูไบ แต่จุดชมวิว Shanghai Tower อยู่สูงกว่านะครัส อยู่ชั้น 118 เวลาขึ้นลิฟท์ก็แบบ... เร็วจี๋อ่ะ ชั้นล่างสุดถึงชั้น 118 ใช้เวลาแค่นาทีกว่าๆ เอง

ด้านบนถ้าฟ้าแจ่มๆ อากาศดีๆ จะเห็นไกลถึงกรุงเทพฯ ไม่ใช่!!! จะเห็นเมืองเซี่ยงไฮ้แบบเต็ มๆ ตา สวยมากๆๆๆ (ดูจากในรูปมาละ) เสียดายที่เราไม่ได้เห็น ฮือๆ TwT เพราะวันนั้นฟ้าปิด เมฆบังวิว ขาวโพลนไปหมด แต่ก็ดีนะ เพราะมันทำให้เราตั้งใจจะไปแก้มือให้ได้ 5555

บรรยากาศด้านใน

ขึ้นมาด้านบนแล้วจ้า... นี่ถ้าปกติมุมนี้จะเห็นตึกด ้านล่างเต็มเลย

ยืนมุมนี้แล้วร้องเพลง "Season Change" ของพี่บอย โกสิฯ ไปพลางๆ ก่อน... อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่าง..โอ๊โน๊ววว!!

พอฟ้ามันอึมครึม เราก็ถ่ายรูปเน้น Texture แบบนี้ก็ดีนะ ทำเป็นขาวดำซะ แล้วใส่คำพูดเก๋ๆ ลงปาย 5555

อุโมงค์เลเซอร์ (The Bund sightseeing tunnel)

ผิดหวังจากดูวิวที่ Shanghai Tower เราก็มาปลอบใจตัวเองกับอุโมงค์เลเซอร์ (The Bund sightseeing tunnel) เป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำแห่งแรกในประเทศจีน จะเป็นรถรางวิ่งลอดใต้แม่น้ำยาว 646.7 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งก็ตระการตาดีนะ ในอุโมงค์เค้ายิงเลเซอร์ เฟี้ยวฟ้าว!! เป็นลายกราฟิกต่างๆ รู้สึกเหมือนนั่งไทม์แมชชีนของโดราเอมันเลยอ่าาา

ค่าบริการเที่ยวเดียว 45 หยวน ถ้าไป-กลับ 55 หยวน

จริงๆ มันมีหลายสีนะครัส แต่ตอนนั้นมัวแต่ถ่ายวีดีโออยู่ เลยถ่ายภาพนิ่งมะทัน ยังไงไปดูคลิปวีดีโอเอานะ https://www.facebook.com/ibreak2travel/videos/1306717952728256/

ออกจากอุโมงค์เลเซอร์ เราก็จะมาถึงหาด Waitan (ไว่ทัน) ที่คนไทยเรียก "หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้" เพราะเค้ามาถ่ายหนังกันที่น ี่ มันเป็นมุมที่แบบว่าต้องมาให้ได้อ่ะ ถึงจะชื่อหาด Waitan แต่จริงๆ แล้วปัจจุบันไม่มีหาดทรายแล้วนะ ไม่ต้องเตรียมบิกินี่มา 55555

หาด Waiter มีชื่อทางการว่า The Bund

เป็นถนนริมแม่น้ำหวงผู่ เป็นแหล่งรวมทุกความศิวิไลซ์ของเซี่ยงไฮ้ ทั้งร้านอาหาร ศูนย์การค้า สำนักงาน ธนาคาร และสถานกงศุลของประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ละตึก แต่ละร้านนี่ก็เก๋ไก๋ หรูหรากันสุดๆ สถาปัตยกรรมของตึกย่านนี้ดูยังไงก็หมือนอยู่ยุโรป ซึ่งไฮไลท์ของหาด Waitan คือช่วงเวลาพลบค่ำนะจ๊ะ

พอแสงอาทิตย์เริ่มลับไป แสงของเมืองก็เฉิดฉาย... โอ๊ววว โรแมนติกมากๆๆๆ ดูจากในรูปสิ คนเยอะมาก แต่เมืองก็สวยมากกกก