เข้าช่วง ซัมเมอร์แบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคง"คิดถึงทะเล"
ไม่ใช่เพราะ อกหัก อยากหนีรัก.......แค่อยากหนีร้อน ไปนอนรับลมเย็นๆ
ทริปนี้เราเลือกไป แคมปิ้งที่สัตหีบกันค่ะ น้ำทะเลใสๆที่อยู่ใกล้ๆกรุงเทพ
แพ็คกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ออกเดินทางกันได้เลยยยยยยยยยยยยย
*******************************************************************************
ฝากติดตามผลงานเพจ FB: เที่ยวนอกบ้าน
https://www.facebook.com/travelandoutdoors/
ขอบคุณสำหรับทุกไลค์และแชร์ค่ะ ^V^
******************************************************************************
Day 1 :
07.00 น. สตาร์ทจากกรุงเทพ เราขอตั้งชื่อทริปนี้ว่า "ชิลล์..ชิลล์ทริป" คือชิลล์ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางกันเลยทีเดียว ตามแพลนต้องออกตั้งแต่ 05.30 น. นี่เลทไปแค่1.30 ชม.เอ๊งงงงงงง....คือ.....ชิลล์ไปมั๊ย ^V^
เช้าวันเสาร์แบบนี้อากาศดีมากค่ะ พระอาทิตย์ยังไม่มาทำงานเล๊ยยยยยยย
10.00 น. มาถึงแล้วววววว "วัดช่องแสมสาร" หลังจากหลงทางกันนิดหน่อย และทะเลาะกะกูเกิลแมพพอประมาณ วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในอำเภอสัตหีบ ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เชื่อกันว่า หากใครอยากขอพรให้ประสบความสำเร็จหน้าที่การงาน เสริมดวงชะตาให้ร่ำรวยปังๆ หรือล้างสิ่งอัปมงคลทั้งหลาย ต้องมาลอด "โบสถ์พระราหู" แห่งนี้ค่ะ พร้อมแล้วอย่ารอช้า เข้าไปด้านในกันเล๊ยยยยยย
ก่อนเข้าอุโบสถจะมีจุดให้ แลกเหรีญสำหรับหยอดพระประจำวันเกิด ชุดละ 20 บาท เมื่อชำระเงินแล้วเราจะได้ ถ้วยใส่เหรียญ บทสวด และบัตรสำหรับรับวัตถุมงคลค่ะ
ขั้นตอนมีง่ายๆ คือ
1.หยอดเหรียญใส่บาตรพระประจำวันเกิด
2.ปิดทองพระพุธ ---หลวงปู่ทวด----และลูกนิมิตร
3.เดินรอบพระอุโบสถ วนขวา 3/5/7/9 รอบ แล้วแต่กำลังขาและแรงศรัทธาของแต่ละคน โดยท่องตามบทสวดที่ได้รับมาตลอดการเดินค่ะ
หลังจากลอดโบสถ์เสร็จ ใครอยากอธิษฐานขออะไรให้มากระซิบที่ "รูปปั้นหนู" ทริคคือให้เอามือปิดหูหนูไว้ข้างหนึ่ง เพื่อไม่ให้คำอธิษฐานของเราทะลุออกไปค่ะ (ตามตำราเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา) ซึ่งมีความเชื่อว่าหนูจะนำข้อความดังกล่าวไปทูลพระพิฆเนศเพื่อดลบันดาลให้สิ่งที่เราขอนั้นเป็นจริง
ก่อนออกจากวัดแวะนมัสการ "พระพุทธรูปท้าวมหาพรหม ปางสวัสดี" ซึ่งเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ขนาดความสูง 7.80 เมตร หน้าตักกว้าง 4.99 เมตร พระพักตร์จะหันไปทั้งสี่ด้าน ใครจะขอพรเรื่องไหน ให้ไปยืนตรงหน้าองค์ท่าน ณ ทิศนั้นๆค่ะ
โดยทิศเหนือ ===> ขอพรเรื่องการงาน
ทิศใต้ ===> ขอพรเรื่องเกียรติยศ ชื่อเสียง
ทิศตะวันออก ===> ขอพรเรื่องครอบครัว สุขภาพ และขอให้มีบุตรสืบทอดสกุล
ทิศใต้ ===> ขอพรเรื่องโชคลาภ อนาคต
ไหนๆก็มาแล้ว...เราไม่อยากเสียเที่ยว ขอให้ครบทั้ง 4 ทิศเลยละกัน ^V^
ไหว้พระเสร็จแวะรับ น้ำดื่มแจกฟรี ตรงบันไดที่เรามาไหว้ท้าวมหาพรหมได้เลยค่ะ น้ำเก็กฮวยเย็นๆ ดื่มตอนอากาศร้อนแบบนี้ดับกระหายได้เป็นอย่างดีเลย
11.00 น. แน่นอนว่ามาทะเลก็ต้องทานอาหารทะเลสดๆ ทริปนี้เราแวะซื้อกันที่ "ตลาดสดช่องแสมสาร" ใครอยากทานอะไร เลือกได้เลยค่ะ
สดแค่ไหนถามใจดู
เนื่องจากหาดที่เราจะไปไม่อนุญาติให้ประกอบอาหาร เราจึงให้ร้านที่ซื้อของสดจัดการให้เบ็ดเสร็จ (คิดค่าบริการต่างหาก)
****ถ้าสั่งออเดอร์หลายอย่างแนะนำให้เช็คของให้ดีนะคะว่าได้ครบหรือเปล่า รอบนี้เราพลาดไม่ได้เช็คทำให้ได้ของไม่ครบค่ะ****
13.30 น. ตรงไปโรงเรียนชุมพลทหารเรือ เราต้องทำการแลกบัตร ณ.จุดนี้ ก่อนเข้าด้านใน
เมื่อไปถึงต้องนำรถไปจอด ชำระ ค่าบำรุงสถานที่คนละ 50 บาท จากนั้นเดินไปขึ้นรถ 2 แถว ซึ่งจะมีบริการรับ-ส่ง ตลอดทั้งวันค่ะ
มาถึงแล้ว "หาดทรายแก้ว" คนไม่เยอะมากอย่างที่คิด
หาดทรายสีขาว ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า สวยงามไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
14.00 น. กิจกรรมแรกของพวกเราเมื่อมาถึงชายหาดก็คือหาทำเลดีๆ สำหรับปักหลักยาวๆ สาวๆยืนจองพื้นที่ หนุ่มๆก็ทำหน้าที่ขนเก้าอี้กันไปค่ะ (ค่าเช่าเก้าอี้ตัวละ 30 บาทนั่งได้ทั้งวัน ตอนกลับถ้ายกเก้าอี้มาคืน จะได้เงินคืนตัวละ 10 บาทนะคะ)
มีอาณาเขตเป็นของตัวเองแล้ว ภารกิจหลักที่สำคัญของพวกเราคือ
"กิน" ค่ะ อาหารมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้จะอดใจได้ไง
เราอยากบอกว่า "แก้วน้ำมีฝาปิด" แบบนี้ มันดีสำหรับทริปชายหาดจริงๆนะ กันฝุ่นกันทรายดีมากจริมๆ ^V^
อิ่มท้องแล้วก็คว้ากล้องไปส่องหาอาหารตาบ้างค่ะ ^V^
กิจกรรมทางน้ำที่หาดนี้ค่อนข้างหลากหลายมาก ใครชอบ ว่ายน้ำก็ว่ายไป
ว่ายเหนื่อยแล้วก็มา นั่งพัก
บ้างก็มา
นอนอาบแดด นั่งอาบแดด หรือยืนอาบแดด รับวิตามินดีกันไปเต็มๆ
ใครชอบหนักๆก็จัดไปค่ะ เจ็ทสกี
บานาน่าโบท
พายเรือ คายัค
น้องๆหนูๆก็ได้สนุกกันเต็มที่ ก่อเจดีย์ทรายแข่งกัน
นางเงือกก็มานาจา ^V^
บางคนก็เล่น
ฟุตบอลชายหาด
บ้างก็เป็น จิตรกรน้อย ใช้ผืนทรายแทนผืนผ้าใบ ยิ่งผืนผ้าใบกว้าง จินตนาการของน้องก็ยิ่งไปได้ไกล ^V^
ใครทำกิจกรรมหนักหรือเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยก็ไม่ต้องกังวล ทางกองอำนายการจะมี ยาสามัญประจำบ้าน ไว้บริการด้วยค่ะ
17.30 น. นั่งชิลล์ไปเรื่อยๆ จนเกือบ 6 โมงเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตก แสงกำลังสวย บรรยากาศดีมากจนไม่อยากลุกไปไหนเลย
แต่เราก็ต้องไป.......ไปต่อแถวรอรถ 2แถว เพื่อกลับไปเอารถที่ลานจอดด้านล่าง ....ตามมารอรถด้วยกันทางนี้ค่า (วันธรรมดาทางหาดอนุญาติให้ขับรถขึ้นมาได้ แต่วันหยุดอนุญาติให้รถเข้าได้หลัง 6 โมงเย็นเท่านั้นค่ะ)
ระหว่างขับรถกลับขึ้นมา เจอ
เรือประมงกำลังเตรียมพร้อมสำหรับออกหาปลาในคืนนี้
พระอาทิตย์กำลังจะโบกมือลาไปแล้ว เป็นสัญญาณเตือนว่าปาร์ตี้เล็กๆของพวกเราใกล้เข้ามาทุกที เราต้องรีบกางเต็นท์และเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับคืนนี้ค่ะ
19.00 น. ปรกติร้านค้าที่หาดจะเปิดถึง 1 ทุ่ม คนที่มาค้างสามารถสั่งอาหารมาทานที่บ้านพัก หรือที่เต็นท์ได้ค่ะ แต่วันนี้ไม่ปรกติเพราะทุกร้านพากันปิดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเย็น (สงสัยขายดี) ทำให้เราต้องออกไปที่ตลาดพื่อหาซื้อมื้อเย็นอีกครั้ง (รถทุกคันที่ขับออกไปต้องกลับเข้ามาก่อน 4 ทุ่มนะคะ)
อาหารพร้อม เครื่องดื่มพร้อม และคนก็พร้อมมาก เป็นมื้อเย็นเบาๆ เคล้ากับเสียงหัวเราะ สมกับ
"ชิลล์...ชิลล์ทริป" ของพวกเราจริงๆ
นั่งเมาท์กันไป มองไฟจากเรือหาปลาไป
ดึกๆ ถ้าใครนอนไม่หลับ ลองจูงมือแฟนออกมานั่งชมจันทร์แบบนี้สิค่ะ บรรยากาศโรแมนติคมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ^V^
Day 2 :
06.30 น. ตื่นเช้ามาอย่างแรกที่ต้องทำคือรีบเก็บเต็นท์ (ตามกฏให้เก็บก่อน 08.30 น.)
เสร็จแล้วไปเก็บรูปรัวๆ บรรยากาศชายหาดที่คนน้อยๆแบบนี้ สวยมากจริงๆค่ะ
ข้อดีอีกอย่างของการมาค้างแรมคือ เราสามารถมาเล่นน้ำทะเลได้ตั้งแต่เช้า โดยที่คนไม่พลุกพล่าน และแดดไม่แรงมาก เหมือนทะเลเป็นของเราคนเดียว ^V^
หาดทรายแก้ว....เป็นอีกหนึ่งหาดที่เรารู้สึกประทับใจ กับหาดทรายสีขาว น้ำทะเลใส เดินทางใกล้ๆ แถมค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก.....มาเที่ยวกันนะ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่ผิดจากที่เราพูดเลยจริงๆ ^V^
**********************************************************
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ (ไม่รวมทำบุญและของฝาก)
- ค่าน้ำมันรถ + ทางด่วน = 1,140/4 (คนละ 285)
- ค่าบำรุงสถานที่ = 50 บาท
- ค่ากางเต็นท์ (เราเอาเต็นท์ไปเอง) = 50 บาท/หลัง (คนละ 25 บาท)
****ถ้าเช่าเต็นท์ + เครื่องนอน หลังละ 300 บาท****
- ค่าเช่าเก้าอี้ 2 วัน = 40 บาท
- ค่าอาหาร + เครื่องดื่ม = 2,200/4 (คนละ 550 บาท)
เฉลี่ยคนละ 950 บาท
เที่ยวนอกบ้าน
วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.35 น.