เที่ยวกาญจนบุรี ใน1วัน

กาญจนบุรีจังหวัดนี้มีที่เที่ยวเยอะมาก รวมถึงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากเช่นกัน

รวมถึงกระทู้เที่ยวกาญจนบุรีก็คงมีมามากเช่นกัน

แต่วันนี้เรามีเวลาแบบเร่งรีบที่จะไปกาญจนบุรีแบบวันเดย์ทริป

เพราะแค่อยากไปเที่ยวเฉยๆ โดยจุดเริ่มต้นของการเดินทางเริ่มจากกรุงเทพมหานคร

โดยจุดมุ่งหมายคือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก สะพานข้ามแม่น้ำแคว เมืองมัลลิกา หมู่บ้านช้างเมืองสิงห์ และปราสาทเมืองสิงห์ เป็นทริปที่อัดแน่นมาก โดยเราไปรถส่วนตัวกันครับ

สถานที่แรกที่เรามาถึงในช่วงเช้า คือสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

บรรยากาศเงียบสงบมาก

โดยที่นี้คือสถานที่ที่ฝังศพของเชลยศึกที่เสียชีวิตในการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2

โดยได้บรรจุศพของเชลยที่เสียชีวิตไว้ที่นี้ถึง6,982หลุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนทางฝั่งยุโรป

บริเวณป้ายที่หลุมฝังศพจะมีดอกไม้ประดับตกแต่งสวยงาม และที่หลุมฝังศพอยู่ติดๆกันแบบนี้ได้ เพราะเขาฝังศพไว้ในแนวตั้งในท่ายืน

เราออกเดินทางมาต่อในแลนด์มาร์คจุดสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี

นั้นคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว

ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
ประวัติของที่นี้ไม่ขอพูดถึง เพราะมีหลายที่ได้ลงไว้มากมาย
แต่ที่นี้มีชื่อเสียงเพราะว่าภาพยนตร์เรื่อง THE BRIDGE ON RIVER KWAI
ที่ได้เข้าฉายเมื่อปีพ.ศ.2500 ทำให้ชาวต่างชาติสนใจสะพานแห่งนี้มากขึ้น

ลองนึกดูกว่าสะพานแห่งนี้จะเสร็จคงจะเสียเลือดเสียเนื้อมากมาย

จนมีคนเคยบอกว่าให้ลองนับไม้หมอนรถไฟดูว่ามากขนาดไหน เพราะจำนวนไม้หมอนรถไฟก็เทียบเท่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้สร้างสะพานแห่งนี้

พักถ่ายรูป เสพบรรยากาศที่นี้อยู่พักนึง

เราก็ออกเดินทางกันต่อมาที่อำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองประมาณ30กิโล

เราก็มากันที่สถานที่เที่ยวแห่งใหม่นั้นคือ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124

ที่นี้คือเมืองจำลองที่จะพาเราย้อนยุคไปในสมัยของรัชกาลที่5

โดยค่าเข้าชมของที่นี้

โปรโมชั่นค่าเข้าชมเดือนกุมภาพันธ์ 2560

ผู้ใหญ่ 200 บาท/ เด็ก, ผู้สูงอายุและผู้พิการ 100 บาท

ค่าเข้าชม+ สำรับเย็น + ชมการแสดง ราคา ผู้ใหญ่ 700 บาท เด็ก 350 บาท (โปรโมชั่นลด 10%)

ซึ่งต่อจากนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ภายในมีบริการให้เราเช่าชุด

แต่ตอนที่ไปคนเยอะมาก เลยไม่ได้เปลี่ยนชุด ตอนเดินเที่ยวก็จะรู้สึกแปลกแยกนิดๆ

แต่ใครที่มาแล้วไม่รีบ แนะนำให้เช่าชุดไทยแต่งเดินเที่ยว ถ่ายภาพดูจะสนุกไปอีกแบบ

ที่นี้จะต้องแลกเงิน โดยจะเป็นเงินที่มีรูตรงกลาง เหมือนในสมัยนั้นกันเลยทีเดียว

โดยส่วนตัวอาหารด้านในเมืองมัลลิกา ราคาไม่แพงหากเทียบกับสถานที่เที่ยวอื่นๆ

เสร็จสิ้นจากเมืองมัลลิกาเราก็เข้ามาในซอยข้างๆเมืองมัลลิกา ขับเข้ามาไม่ไกล

ก็จะพบกับอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

ซึ่งเป็นปราสาทที่มีศิลปะของขอม

ค่าเข้าชมสำหรับ คนไทย 10 บาทรถยนต์ 50 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท

โดยประวัติของสถานที่ขอบอกเลยว่าไม่รู้

แต่บรรยากาศตอนไปครึ้มๆ บรรยากาศดูขลังมาก

ผ่านไปสี่ที่ก็บ่ายแก่ๆแล้ว เราจึงไปกันที่ ที่สุดท้าย ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับปราสาทเมืองสิงห์และที่สุดท้ายของทริปนี้ เราไปกันที่ หมู่บ้านช้างเมืองสิงห์

โดยที่นี้มีช้างให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นนั่งเล่นชิวๆ หรือแวะมาให้อาหารช้าง แต่สิ่งที่เราเลือกทำ เด็ดกว่านั้น เพราะเราเลือกแพ็คเกจ พาช้างไปอาบน้ำ

ทางเจ้าหน้าที่จะให้เรานั่งไปบนหลังช้าง เพื่อพาลงไปที่แม่น้ำแคว โดยที่เจ้าหน้าที่จะปล่อยเรานั่งบนหลังช้างตามลำพัง ซึ่งจำกัดนั่งได้2คน (แต่เพื่อนสามารถไปรอที่แม่น้ำเพื่อจะเล่นกับช้างได้)

เอาหละสิทุกทีการนั่งช้างก็จะนั่งบนสัปคับและจะมีควาญนั่งไปด้วย
แต่อันนี้คือได้นั่งบนตัวของน้องช้างเลย
แล้วช้างก็จะพาเราเดินตามทางลงไปที่แม่น้ำแคว ซึ่งทางก็แอบชันนิดนึง เพื่อความสนุก

เรียกได้ว่ากว่าจะลงถึงแม่น้ำก็มีหวาดเสียวกันบ้าง
แต่ก็สนุกดี นั่งไปสักพักก็จะเริ่มชินไปเอง อิอิ

เมื่อถึงแม่น้ำแคว เจ้าหน้าที่(ควาญช้าง)จะขึ้นมานั่งกับเรา และพาเราได้มุดน้ำ

คือการที่เรานั่งบนหลังช้างแล้วเจ้าหน้าที่จะให้ช้างมุดน้ำ ก้มหน้า แหงนหลัง

เรียกได้ว่าน้องช้างฉลาดมาก ส่วนเราก็เกาะน้องช้างและมุดน้ำทั้งหน้าและหลังกันสนุกสนาน เปียกกันไปตามๆกัน

โดยเราสามารถจับน้องช้างได้ กอดได้ น้องช้างก็จะเล่นกับเรา โดยการใช้งวงพ่นน้ำใส่เรา และก็ส่งเสียงร้องแปร๋นๆใส่เรา น่ารักมากกก

ตัวเปียกๆกอดน้องช้างเล่นอยู่ในแม่น้ำแควท่ามกลางธรรมชาติเป็นบรรยากาศที่ดีมากเลย ฟินสุดๆ

เมื่อเล่นกับน้องช้างเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นหลังช้าง และน้องช่างก็จะพาเราวนไปส่งที่เดิม โดยจะมีอาหารเตรียมไว้ให้ สำหรับป้อนช้างตัวที่เราไปเล่นกับมันมา เหมือนเป็นการให้รางวัล

โดยแพ็คเกจนี้ราคาอยู่ที่300บาท บอกตรงๆเลยว่าคุ้มมากและสนุกมาก ยิ่งตอนมุดน้ำสนุกสุดๆ

ความสนุกของการเล่นน้ำกับช้างสามารถดูได้ในคลิปเลย