ผมเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะครับ พอดีเป็นตัดต่อ นั้นผมขอตัดภาพไปที่สนามบิน และจากนั้น SPEED ภาพ อีกหลาย ๆ ภาพระหว่างอยู่บนเครื่อง



ผมตื่นเต้นมากกกก (ก.ไก่ล้านแปดแสนตัว) เพราะนี่เป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรกของผม



ระดมรัวชัตเตอร์แบบไม่บันยะบันยังริมหน้าต่าง อย่างเหงาหงอย



การนั่งเครื่องครั้งแรกมันให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเครื่องเล่นเสียว ๆ ที่สวนสนุก ผมชอบก้อนเมฆมันเหมือนสายไหมขนาดยักษ์



อยากกระโดดลงไปนอนเกลือกกลิ้งเหมือนโซฟาที่บ้าน



เคยแต่แหงนหน้ามองมัน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้ก้มมองมัน



อ่าห์...เชียงใหม่ เชียงใหม่จริง ๆ ใช่ไหม (อยากตะโกนถามกลัวเค้าหาว่าบ้า) ห้ะ!! … จะสี่โมงแล้ว ไม่ต้องตื่นเต้นตามเสียงของผมนะ เจ้าของที่พักบอกรถที่จะมาจอมทองหมดสี่โมงเย็น ผมโบกรถแดงหน้าสนามบินไปลงที่ประตูเชียงใหม่ เพื่อต่อรถไปจอมทอง-คันสีฟ้า(คันสีฟ้าคือรถเชียงใหม่-ฮอด) คนขับไม่รู้ว่าผมรีบเพราะผมไม่ได้บอกว่ารีบ เออ...หว่ะ เอ้า..น่าจะทันน่า นั่นไงทันจริง ๆด้วย -- รถสีฟ้าออกไปแล้ว คนขับบอกผมว่ามันไปยูเทิร์น วิ่งไปรอดักข้างหน้าได้ นั่นไงสีฟ้ามาแล้ว



รอผมด้วยนะ !!



'ผมโบกไม้โบกมือให้คุณลุงเห็น คุณลุงใจดีจอดรอด้วย '



ขึ้นรถมาก็ได้ยินแต่ภาษาเหนือช่างไพเราะจริง ๆ จ้าว....



ลงรถปุ๊ปก็แวะทานก๊วยเตี๋ยวปั๊ป (ลงรถที่ อ.จอมทองหน้า ธ.ออมสิน นั่งรถชั่วโมงครึ่งโดยประมาณนะ-บอกกระเป๋าว่าลงท่ารถจอมทองก็ได้ครับ)



ไม่ไหวจริงๆ ไส้จะขาด ร้านที่ผมทานอยู่หน้า ธ.ออมสิน นะครับ 4กะโหลก รสชาติถือว่าใช้ได้



ไปครับเดินทางต่ออีก 400 เมตรไปที่พัก เจ้าของจะมารับแต่ไม่เอาอยากเดินครับ ดูสิ..มันหน้าเดินไหมล่ะ เดินไปที่พักซักกิโลยังไหว "ทุ่งหญ้าที่น่าเกลือกกลิ้ง"



ทางเข้าที่พัก



นี่ครับที่พักผม ' เฮือนพักต้นตาล ' แต่ผมไม่ถ่ายข้างในนะ(เปิดดูจากกูเกิ้ลน่าจะสวยกว่าที่ผมถ่าย)


5 กะโหลกครับสำหรับราคา 500 บาทถ้วน เราว่าคุ้มมาก ๆ นะ เจ้าของน่ารักใจดี



เก็บของเสร็จยังไม่อาบน้ำครับเพราะมืดแล้ว รีบออกมาหาอะไรกิน แนะนำให้เดินไปหน้า ธ.ออมสิน เหมือนเดิมแล้วจะเห็นร้านที่เขียนว่า ' ลุงแอ๊ดลาบขม ' จัดไปสิครับลาบเนื้อควาย บอกเค้าคั่วด้วยนะ ไม่งั้นจะมาดิบ ๆ ขอผักมาเยอะ ๆ ด้วยครับ เอาไว้ไม่ให้มันคาวเนื้อ



เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการเช่ารถที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ข้างๆ เซเว่น มัดจำ1000 ค่าเช่า 300บาท/วัน


ขับมาจอดหน้าวัดเดินเล่นถ่ายรูปชิวๆ ก่อน



แวะทานโจ๊กหมูหน้าวัด กับอากาศดี ๆ ที่นี่ก็ไม่ได้ถึงกับ Slow Life อะไรหรอกเค้าก็ใช้ชีวิตปกติของเค้า เราก็นั่งมองก็มีความสุขแล้ว อิจฉาคนต่างจังหวัดนึกถึงตอนเด็กเราดิ้นรนมากรุงเทพฯ เพราะอะไรกันนะ ฮ่า ๆ ดราม่าเฉย



ยังไม่อิ่ม ไปร้านพิซซ่าต้นไม้ต่อ ...........ห้ะ..........ร้านยังไม่เปิด แวะดูวัวกินหญ้าไปก่อน


แต่จริง ๆ จะรอก็ได้นะ 10.00 น. ก็เปิดแล้วแต่คือตอนนี้ 09.00น. ประกอบกับเราไม่มีแผน ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องมาคืนรถเช่าอยู่ดี แล้วค่อยแวะกินแล้วกันเน๊าะ (เหมือนโจ๊กจะไม่อิ่มนะ แฮ่..) : )



เดินทางไป อ.ฮอด ระหว่างทางก็แวะหมู่บ้านอะไรไม่รู้ ขับไปเรื่อยถ่ายรูป(รัว)ตามประสาเด็กไม่เคยมาเหนือ ตื่นเต้นอย่างกับไปต่างประเทศ ><"



และแล้วก็มาถึงฮอด (กว่าจะถึงเดี๋ยวจอด-เดี๋ยวจอด ถ่ายรูป )คิดฮอดหลาย ๆ เด้อออ..



ตามเสต็ปหาที่พักก่อนไปออบหลวง (ค่าที่พัก500บาทถ้วน เน้นราคาประหยัด)



สวัสดีครับมาติดต่อห้องพักครับ อ้าวพูดด้วยไม่ยอมพูดด้วย



รถที่เช่ามาครับ พร้อมลุย ลุยมาได้ซักพักก็...



ป้า ๆ ชุดแฮปปี้มิว 1 ชุด



บรรยากาศรอบ ๆ( ผมแทบจะไม่ได้แตะมือถือเลย แต่ก็ดีมีเวลาอยู่กับตัวเองอยู่กับธรรมชาติ )



ถึงแล้วออบหลวง นั่งพักนอนพัก เกือบจะหลับ ตอนเราเดินมาไม่มีคนเลย เงียบจนหน้ากลัว กลัวว่ามันจะเหงาเกินไป



กลับครับ - - รู้สึกว่าง่วงนอนมาก ๆ กินกาแฟแล้วขับรถกลับ ที่นี่ขับรถกันเร็วมาก ขับไม่แข็งก็ระวัง ๆ กันด้วยน้า คือเราก็เป็นคนขับรถช้าและระวังตัวอยู่แล้ว การเดินทางแต่ละครั้งเลยรู้สึกว่าเหนื่อยมาก ๆ เข้าที่พักเหอะไปนอนเอาแรง ตอนเย็นค่อยขับรถเล่นถ่ายรูปต่อ zZZ



ที่นี่เรารู้สึกว่าขับมอไซด์แล้วมันเพลิน ๆ ดี เช้า ๆ จะหนาวมาก พอเริ่มมีแดดก็จะร้อนมาก แต่ถ้าเข้าไปในที่ที่มีต้นไม้เยอะ ก็เย็น ๆ อีก นี่เรามาช่วงต้นเดือนตุลาคมนะ



-หลังจากชาจแบตคนเสร็จเราก็พร้อมลุยต่อ ด้วยการที่ไม่ได้มีแผนอยู่แล้วเราอยากไปไหนก็ไป ก็ถาม ๆ จากเพื่อนที่เคยมาก่อน เลยง่ายเรื่องที่พัก-ขึ้นรถ-ลงรถ ไม่งั้นเราก็เอ๋อ-เหมือนกัน



ภาพแรกหลังจากขับมอไซด์ออกมา เรามาทางที่ป้ายเขียนว่าไปผาสิงห์เหลียว แต่เราไปไม่ถึงเพราะป้าข้างทางที่เราจอดถามบอกว่ามันมืดแล้วไม่มีคน ถ้ามีหมู่มาเยอะ ๆ ค่อยมาจะดีกว่า( คุณป้าพูดเป็นภาษาเหนือพยายามจับใจความ )



เจอตลาดอะไรก็แวะไปเรื่อยได้เข็มขัดมาเส้นนึง 20 บาท



แวะกินข้าวก่อนเข้าที่พักเพราะตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว จำชื่อร้านไม่ได้ รู้แต่ว่ามีเจ้าสองตัวนี้อยู่



และแล้วก็จบไปอีกหนึ่งวัน ดีที่ไม่มีเรื่องงานมาทำให้เราปวดหัว ได้ใช้ชีวิตกับสมองโล่ง ๆ เที่ยวอย่างมีความสุข



..


..

วันใหม่ กับอาหารเช้าง่าย ๆ กับบรรยากาศง่าย ๆ ที่ตื่นมาก็เห็นเลย



กินเสร็จก็ขับรถกลับจาก อ.ฮอด มา อ.จอมทองครับ เพื่อมาคืนรถก่อนเที่ยง เราตื่นเช้าเลยมีเวลาแวะตามหมู่บ้านใน อ.จอมทอง ขับไปตามซอกซอยหาโจ๊กกิน แต่ไม่มี เลยมาจบที่>>กล้วยปิ้ง



เราแช่อยู่ตรงนี้นานหน่อยเพราะตั้งใจจะไปกินพิซซ่าก่อนคืนรถ ก็เหมือนเดิมเราจอดรถเดินเล่นถ่ายรูป เราชอบตัวเมืองที่ไม่เจริญมาก แต่ต้นไม้เยอะ ๆ แต่คงอีกไม่นานหรอกเมื่อการท่องเที่ยวบูม ๆ ก็ต้องมีการสร้างเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับสร้างอะไรด้วย



“ ถ้าหยุดความเจริญไว้แค่นี้ได้เราก็ถือว่านั่นแหละคือความเจริญแล้ว คล้าย ๆ ความสมบูรณ์ในความไม่สมบูรณ์ "



ได้เวลาไปร้านพิซซ่าละ แอบสงสัยอยู่อย่างพี่โน้ตอุดมมาที่นี่ใช่ไหม



Slow Life จริง ๆ เห็นแล้วอยากเดินไปต่อแถวตามมัน พี่เจ้าของร้านบอกว่ามีเป็ดอยู่ตัวนึงพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับฝูงห่าน ถ่ายรูปมาด้วยตอนมันเล่นน้ำ น่ารักดี ' ในทุก ๆ ที่ต้องมีการปรับตัว '



พิซซ่ามาแล้ว เยอะมากมีหน้า Salmon ผสม Stefano Beef อย่างล่ะครึ่ง


และก็ฮอทด็อกอีกหนึ่งจาน ร้อนอร่อยจนปากพอง



อิ่มแล้วก็จ่ายค่าเสียหาย ชุดนี้เบา ๆ 900 พร้อมน้ำผลไม้อีก 2 แก้ว องุ่นแดงปั่น กับ มิกเบอรี่



คืนรถรับเงินค่ามัดจำคืน >> รอรถเหลือง เพื่อกลับเข้าตัวเมืองไปเช่ามอร์ไซด์ต่อ >> ตั้งใจไปแม่กำปอง >> ขี้แตก >> ไปเข้าห้องน้ำในวัด >> นั่งรถเหลืองคันเดิม >> รถออก



ลุยต่อกันแบบไม่ต้องหยุดหายใจกันเลย บ่ายสองครึ่งแดดเปรี้ยง ๆ กับที่หมาย ' แม่กำปอง ' ระหว่างทางฝนตกแดดออกค่อยยังชั่ว เราว่าแบตคนหมดล่ะ ถึงตอนนี้เราอยากกลิ้งตัวไปล่ะ โคตรเพลีย



ขอเติมพลังหน่อย คุณป้าคนขายบอกอีกไกล( มีความรู้สึกขาไปดูไกลกว่าขากลับ )



เห็นภาพนี้เริ่มมีแรงขับต่อ แต่ปัญหาคือยังไม่ได้จองที่พักล่วงหน้า เราเริ่มสังเกตว่าคนเยอะมาก ๆ วันนี้วันเสาร์ด้วย คนเยอะจริง ๆ กลุ่มบิ๊กไบค์เอย กรุ๊ปจีนเอย รถยนต์ รถตู้ วัยรุ่นหนุ่มสาว บ้างเป็นคนมีสีไม่แดงก็เหลือง บ้างดูเป็นระดับเศรษฐีถามว่ารู้ได้ไง ก็เห็นเค้านั่งรถตู้เบนซ์มา มีคนขับพร้อม ตอนแรกยังงงเรามาผิดที่ป่าวว่ะ เพราะตอนแรกที่อ่านรีวิวของสาวคนนึงที่เคยมา มันเงี๊ยบเงียบ มันมีเสน่ห์มาก เราอยากให้แม่กำปองเป็นแค้กก้อนหนึ่งแล้วเรากินเข้าไปเลยตอนนี้ และคงเหลือไว้ซึ่งความเงียบงัน



เราขับลงมาหาที่พักด้านล่างดีกว่า



บ๊ายบายแม่กำปอง ถ้ามีโอกาสจะมาวันธรรมดานะ



ขับหาที่พักอยู่นานจนตอนนี้จะทุ่มนึงแล้ว ก็มาได้ที่คอกม้า เหว่ยยย..!! ให้ตายซิขับไปเข้าทางด้านหน้าสิว่ะ



- ผ่านไปอีก 1 วัน -



นี่ล่ะครับที่พักที่ผมนอนเมื่อคืน The Log of Paradis Resort 500 บาท/คืน (ออกมาถ่ายตอนเช้า) ห้องน้ำรวมแต่มีผมไปใช้อยู่คนเดียว ถ้ามีคนอื่นก็ผีแล้วครับ เพราะเมื่อคืนมีผมเช่าอยู่คนเดียว



โอเคเลยนะมีทีวี แอร์ ตู้เย็นที่ไม่ได้เสียบปลั๊กมาน่าจะนานพอสมควร บรรยากาศรอบ ๆ ดูเก่าไปหน่อย แต่ก็สบาย ๆ กันเอง ข้าง ๆ มีที่พักแบบกระโจม 500/คืน



ออกจากที่พักตรงไปบ่อสร้าง เดินดูร่ม ได้พวงกุญแจเป็นของฝากเพื่อน



วันนี้ก่อนกลับตั้งใจขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ แวะจุดพักรถดูพี่เค้าวาดรูป พี่คนนี้ร้องเพลงจีนด้วยนะ เรียกได้ว่าลูกค้าจีนนี่มาไม่ขาดสายเลยเอาใจกันแบบนี้



เห็นคนจีนเค้ายืนถ่ายกันเต็มเลย เบียดๆ ไปเอาสัก 2 รูป



ขับเลยวัดพระธาตุดอยสุเทพตรงตามทางไปเรื่อย ๆ ครับขากลับค่อยแวะไหว้ครับ อากาศตอนนี้คือมันเย็นมาก เหมือนอยู่ในหน้าหนาวเลย คือต้นไม้ยิ่งเยอะมันยิ่งหนาว



ขับทนหนาวมาถึงจนได้หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน คือแค่อยากมาถ่ายรูปเล่น จิ๊บกาแฟซักถ้วย



ขากลับแวะไหว้พระธาตุดอยสุเทพครับ คนเยอะมาก ๆ วันอาทิตย์


ระหว่างทางสังเกตเห็นฝรั่งหรือคนจีนบางคนเดินด้วยอ่ะคือน่าจะเดินมาจากข้างล่าง คือโคตรฟิตเลย ถ้ามาเช้า ๆ เราว่าก็เดิน chill ดีนะครับ เพราะว่ามันไม่ร้อนมากคือสิบเอ็ดโมงมันก็ไม่ร้อนนะ (ต้นไม้เยอะดีอย่างนี้นี่เอง)



ตอนนี้ถึงเวลาเอารถไปคืนครับ และเดินออกมาถนนคนเดินซึ่งไม่ไกลจากที่คืนรถมาก ของกินเยอะถ้าอยู่ต่ออีก2-3วันนี่มีน้ำหนักขึ้นเหมือนกันนะ


ได้เวลากลับกรุงเทพฯแล้ว นี่เราต้องจากกันแล้วใช่ไหมเชียงใหม่...



กำลังสนุกเลยแต่ก็เอาหน่ะ 3 คืน 4 วันที่ได้อยู่ที่นี่ก็คุ้มมากแล้ว กลับไปใช้ชีวิตพนักงานประจำกันต่อ เชียงใหม่จ๋าหนูลาก่อน



ROAD MOVIE

 วันพฤหัสที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.57 น.

ความคิดเห็น