สำหรับครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อนนั่นเอง
อยุธยาเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว
ที่ตั้งกระทู้ว่า ไหว้พระอยุธยา 9 วัด ไม่ใช่ในวันเดียว เพราะเราถ่ายภาพสะสมมาเรื่อยๆ
เราไม่สามารถไป 9 วัดในวันเดียวได้ คิดว่ามันเร่งรีบเกินไปโดยแทบไม่ได้ดูบรรยากาศรอบๆเลยด้วยซ้ำ
เสน่ห์ของอยุธยา มันคือโบราณสถานเราจึงใช้เวลาอยู่แต่ละวัดค่อนข้างจะนานวันนึงอาจจะได้ 3-4 วัดโดยประมาณ
มาดูแผนที่กันก่อนและจะได้วางแผนกันถูก ว่าควรจะไปวัดไหนก่อนหลัง แต่ตอนเราไปจะไม่ได้เรียงกันนะ
อยากไปวัดไหนก็ไป ไม่ได้ฟิกว่าต้องไปวัดนี้วัดนั้นก่อน แต่ถ้ามาจากกรุงเทพวัดแรกที่จะเจอคือ วัดไชยวัฒนาราม
ขอเริ่มรีวิวเลยละกัน โดยจะอธิบายประวัติ ค่าเข้าชมและเวลาทำการแบบคร่าวๆ พอนะเพราะเราก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้เท่าไหร่
ข้อมูลทั้งหมดเราหาจาก website ต่างๆ
วัดที่ 1 วัดพระศรีสรรญเพชญ
วัดพระศรีสรรเพชญนั้นเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ เดิมเป็นวัดเพื่อประกอบพิธีสำคัญต่างๆ
และเป็นที่เก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์ เปรียบได้กับวัดพระแก้วนั่นเอง โดยมีพระศรีสรรเพชญดาญาณ เป็นพระประธานแห่งวัดนี้
ภายหลังเมื่อเสียกรุง ปี พ.ศ. 2310 พม่าเผาได้ลอกทองคำไปหมดทำให้องค์พระเสียหาย ในสมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน(วัดโพธิ์)
จุดเด่นคือ เจดีย์สีขาว 3 องค์ตั้งเรียงกันสวยงาม วัดนี้เป็นวัดที่เราชอบมากที่สุด
เพราะตัวเจดีย์นั้นสวยมาก บรรยากาศรอบๆวัดนั้นก็ร่มรื่นมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะเลยครับ
สำหรับใครที่ชอบถ่าย วัดนี้พลาดไม่ได้รับรองว่าได้มุมสวยๆเด็ดๆแน่นอน
เปิดเวลา 08.30–16.30 น.
คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 30 บาท
วัดที่ 2 วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุเรียกว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้ เป็นวัดที่จะพบเห็นชาวต่างชาติมากที่สุดวัดนึง
ในสมัยก่อนวัดมหาธาตุจัดว่าเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในกรุงศรีอยุธยา เพราะนอกจากยังเป็นที่
ประดิษฐานพระบรมธาตุกลางเมืองแล้ว ยังเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย
วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้าง และ ดูแลตลอดเวลา
ครั้งเมื่อเสียกรุงในปี 2310 วัดมหาธาตุถูกไฟไหม้เสียหายมาก และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดมหาธาตุก็ได้กลายเป็นวัดร้าง
จุดเด่น เศียรพระพุทธรูปในต้นไม้ จัดว่าเป็นมุมที่ทุกคนที่ไปวัดนี้ต้องถ่ายรูป
แต่ในส่วนมุมอื่นๆก็สวยงามไม่แพ้กัน
เปิดเวลา 08.30–16.30 น.
คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 30 บาท
วัดที่ 3 วัดธรรมิกราช
ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระยาธรรมิกราชโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้าง จึงสันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นก่อนที่จะสถาปนากรุงศรี
อยุธยา เดิมชื่อวัดมุขราช ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อตามผู้สร้างเป็นวัดธรรมิกราช.
จุดเด่น เจดีย์สิงห์ล้อม 52 ตัว ถึงแม้พระเจย์ดีและตัวสิงห์จะชำรุดไปตามการเวลา
แต่ก็มีสิงห์บางตัวที่ยังคงสมบูรณ์สวยงาม
สำหรับใครที่อยากไปทำบุญถวายสังขทาน ก็สามารถไปที่วัดนี้ได้
ไม่เสียค่าเข้า
วัดที่ 4 วัดหน้าพระเมรุ
วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นวัดที่พม่าใช้ตั้งฐานบัญชาการจังเป็นวัดเดียว
ในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา
และอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช
มีนามว่า“พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยา
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการปฏิสังขรณ์วัดนี้โดยรักษาแบบอย่างเดิมไว้
และได้เชิญพระพุทธรูปศิลาสีเขียวหรือพระคันธารราฐประทับนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดี
จากวัดมหาธาตุมาไว้ในวิหารสรรเพชญ์
จุดเด่น พระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ ในจุดที่เราชอบจะเป็นต้นไม้ขึ้นล้อมเจดีย์ไว้มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
เปิดเวลา 08.00-18.00 น.
วัดที่ 5 วัดภูเขาทอง
วัดภูเขาทองเป็นวัดโบราณของอยุธยา เป็นเจดีย์สูงใหญ่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
และยังเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำวัดอยู่
เมื่อปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนอง แห่งเมืองหงสาวดี ได้ยกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ
จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่แบบมอญขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์ที่วัดนี้ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ
ได้ทำการปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ใหม่ เปลี่ยนรูปจากเจดีย์มอญเป็นรูปเจดีย์ย่อไม้สิบสองที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนั้น
ส่วนฐานนั้นเป็นศิลปะมอญอยู่
วัดที่ 6 วัดใหญ่ชัยมงคล
จากที่ไปมาหลายวัด วัดใหญ่ชัยมงคงนี่เป็นวัดที่ฮิตมากวัดนึงเลย คนนิยมมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ค่อนข้างเยอะ
จุดสนใจของวัดนี้คือเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาอีกด้วย
วัดใหญ่ชัยมงคงเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น
จุดเด่น เจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา และแถวพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานเรียงรายอยู่ในระเบียงคดที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก
เปิด-ปิด 8.30-16.30 น.
วัดที่ 7 วัดราชบูรณะ
วัดราชบูรณะ ตั้งอยู่ในเกาะอยุธยา ทางด้านทิศเหนือของวัดมหาธาตุ
ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1967
วัดนี้เป็นวัดที่ใช้ ถวายเพลิงพระศพพระเชษฐาทั้ง 2 พระองค์ คือเจ้าอ้ายพระยา และเจ้ายี่พระยา ซึ้งทรงทำยุทธหัตถี
แย่งชิงพระราชสมบัติจนสิ้นพระชนม์พร้อมกัน ส่วนบริเวณที่สิ้นพระชนม์โปรดให้ก่อเจดีย์เพื่อเป็นอนุสรณ์ขึ้น 2 องค์
และในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดราชบูรณะมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง
จุดเด่น วัดราชบูรณะ ยังเป็นกรุมหาสมบัติขนาดใหญ่ ที่เก็บสมบัติและของมีค่าไว้มากมาย อาทิ เช่น พระแสงขันธ์
มงกุฎ และมงกุฏราชินี เสื้อทองคำ และพระพุทธรูปต่างๆ พระแก้ว พระทองคำ พระนาก เป็นต้น
เปิดเวลา 08.30–16.30 น.
ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท
วัดที่ 8 วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนารามเป็นอีกหนึ่งวัดที่เราชอบมากที่สุดไม่ว่าจะไปอยุธยากี่ครั้งก็จะต้องขอแวะวัดด้วยทุกครั้ง
วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นวัดหนึ่ง ที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆใน จ.อยุธยา
เรียกว่าเป็นวัดที่สวยมากวัดนึงเลย
วัดไชยวัฒนารามเดิมเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ใช้วัดนี้
ในฐานะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสีสำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์และขุนนางผู้สูงศักดิ์
ในปี พ.ศ.2299 กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)
กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้ถูกกล่าวโทษว่าเสด็จเข้ามาทำชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลย์
ในพระราชวังหลายครั้ง สืบสวนได้ความเป็นสัตย์จริง จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้ง
สองพระองค์จนดับสูญแล้วนำศพไปฝังไว้ ณ วัดไชยวัฒนารามทั้งสองพระองค์
เปิดเวลา 08.30–16.30 น.
คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 30 บาท
วัดที่ 9 วัดพุทไธศวรรย์
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่ง
เมื่อเสียกรุงฯ ในปี พ.ศ. 2310 วัดพุทไธศวรรย์ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มิได้ถูกพม่าทำลาย
เหมือนวัดอื่นๆ ทุกวันนี้จึงยังมีโบราณสถานไว้ชม
จุดเด่น วิหารพระนอนขนาดใหญ่ ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ให้ชม
จบแล้ววววววสำหรับการีวิว 9 วัดใน จ.อยุธยา จะเห็นได้ว่าองค์พระส่วนใหญ่นั้นจะถูกทำลายจนหมดแล้ว
เมื่อครั้งเสียกรุง น่าเสียดายมากถ้าไม่เกิดสงครามคงจะมีความงดงามอยู่มาก เพราะฉะนั้นเราคนรุ่นหลังต้องช่วยกัน
รักษามรดกของประเทศเราไว้ด้วย และช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะจ๊ะ
สุดท้ายนี้ ขอฝากเพจ ท่องเที่ยวน้องใหม่ : 'วันนี้เที่ยวไหนดีนะ' กับคอนเซป เที่ยวได้ง่าย ตามรอยได้สบายๆ ด้านล่างเลย
https://www.facebook.com/whereuwannago/
วันนี้ เที่ยวไหนดีนะ
วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.43 น.