เกาะสีชัง

เกาะสีชัง เป็นสถานที่น่าสนใจอีกที่นึงที่น่าค้นหา ท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบสงบ อากาศอันบริสุทธิ์ มีสถานที่เที่ยวอันงดงาม มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

ระยะทางจากกรุงเทพ - ท่าเรือจรินทร์ ประมาณ 100 กม. ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.30 ชม.

ขับรถออกจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ เข้าอำเภอศรีราชา ใช้ถนนสุขุมวิท เลี้ยวขวาสู่ถนนเจิมจอมพล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุรศักดิ์ ขับตรงไปเรื่อยๆ ถึง "โรงเจ" ศรีราชา

จอดรถฟรี ที่จอดรถกว้างขวาง

ด้านในมีรถตุ๊กๆ ไว้คอยอำนวยความสะดวกสำหรับท่านที่จอดรถเรียบร้อยต้องการเดินทางไปยัง "ท่าจรินทร์"

ทางไปท่าเรือจรินทร์

ค่าบริการรถตุ๊กๆก็ 50 บาทเท่านั้น

ถึงแล้ว " ท่าเรือจรินทร์ "

เรือประมงบริเวณท่าเรือ

ซื้อตั๋วเรือโดยสาร ราคา 50 บาท/คน/เที่ยว

มาทันเรือรอบ 10 โมงพอดี

เรือมี 2 ชั้น

เก้าอี้ที่นั่งพร้อมเสื้อชูชีพ

บรรยากาศภายในเรือ

เรือติดแอร์ด้วย แอร์แรงมากหนาวเลย

ภาพนี้ยืนยันได้ว่าหนาวจริง ^_^

เรือโดยสารใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที

ถึงแล้ว เกาะสีชัง

เกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ที่เป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร

เกาะสีชัง จ.ชลบุรี | KOHSRICHANG Chonburi Province, Thailand

เอาละครับสำหรับคนที่เพิ่งเคยมาครั้งแรกอย่างผม มุ่งหน้าสู่แผนที่ก่อนเลย

บริเวณท่าเรือ

บริเวณท่าเรือ

การเดินทางบนเกาะ

รถสองแถว
รถสกายแลป
รถมอเตอร์ไซค์เช่า

รถสองแถว บริการพาเที่ยวรอบเกาะ หรือเที่ยวตามจุดต่างๆ บนเกาะ

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มา 7-15 คน
ไม่จำกัดเวลาเที่ยวในแต่ละจุด

รถสกายแลป 250 บาท

โดยจะไปจุดสำคัญบนเกาะ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ - ช่องเขาขาด - รอยพระพุทธบาท - หาดถ้ำพัง - พระจุฑาธุราชฐาน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองที่พักไว้ก็มีบริการรับนักท่องเที่ยวจากท่าเรือ

มอเตอร์ไซค์เช่า

อัตราค่าบริการเช่ามอเตอร์ไซค์

1 ชม. 80 บาท
1 วัน 250 บาท
ค้างคืน 300 บาท

แน่นอนครับอย่างผมเลือกมอเตอร์ไซค์

ข้อดีคือไปได้ทุกที่ที่เราอยากไป จะถ่ายรูปนานแค่ไหนก็ได้
ข้อเสียคือร้อน ฮ่าๆ

ได้ Zoomer X มา พร้อมน้ำมันเต็มถัง

บิดมอเตอร์ไซค์จากท่าเรือมาตามถนนเรื่อยๆ

ร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ

ด้านข้างมีร้านขายหมวก ขายแว่น ของที่ระลึกต่างๆ

ท่าเทียบเรือท่องเที่ยว เกาะสีชัง

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดาชาวบ้านและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง ศาลเจ้าเป็นอาคารใหญ่ลักษณะทรงวิหารจีน ส่วนองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่จะอยู่ภายในถ้ำบนเขา

ศาลเจ้าแม่กวนอิม ข้างๆ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นอยู่ในถ้ำด้านบนจะต้องขึ้นบันไดไปหลายขั้นพอสมควร

สำหรับผู้ที่มาสักการะบูชาที่เดินไม่ไหวทางศาลก็มีรถรางไว้บริการให้นั่งขึ้นไป

บรรยากาศด้านบน

บรรยากาศด้านบน

วิวเกาะสีชังบนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

วิวเกาะสีชังบนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ มองเห็นประภาคารและท่าเรือ

ท่าเรือเกาะสีชัง

มองเห็นเรือบรรทุกสินค้า เรือโดยสารอยู่ในทะเล

ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่

เจ้าพ่อเขาใหญ่ จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำในเรื่องการไหว้

ด้านใน

ทางไปนมัสการ องค์พุทธเจ้าหลวง ร.๕ และองค์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ศาลองค์พุทธเจ้าหลวง ร.๕ และองค์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ออกจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่มุ่งหน้าสู่ รอยพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาท

ตั้งอยู่บนยอดทางทิศเหนือของเกาะ อยู่ที่เดียวกันกับ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แต่อยู่เหนือขึ้นไปด้านบนยอดเขาบนเขาจะเป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทที่ อัญเชิญมาจากอินเดีย

ทางขึ้นค่อนข้างชัน ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ด้านหน้ามีร้านขายธูป เทียน ดอกไม้

บริเวณด้านหน้า

ทางขึ้นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

สถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท

บนยอดเขาที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท สามารถชมวิวเกาะสีชังได้โดยรอบ

รอยพระพุทธบาท

รอยพระพุทธบาท

มองเห็นสระน้ำจืดขนาดใหญ่

ทางลงจากรอยพระพุทธบาท

ออกจาก รอยพระพุทธบาท มุ่งหน้าสู่ ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด)

ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด)

มีลักษณะเป็นช่องเขาขาดออกจากกัน เป็นหน้าผาสูง ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า บรรยากาศเงียบสงบ ลมแรงตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

บันไดสามารถเดินขึ้นไปผ่านพลับพลา 2 หลัง และเดินขึ้นบนยอดเขาได้

ในบริเวณนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพลับพลารัชกาลที่ 5 โดยสามารถมองทิวทัศน์ได้รอบ เห็นทั้งเกาะ หน้าผา และทะเล ซึ่งพระองค์ทรงใช้เป็นหอดูดาวด้วย

ที่แลราชโกษาและศิลาสรรพสาตร์

ตั้งอยู่ตรงยอดมหาวชิราวุธ ก่อสร้างเมื่อรัตนโกสินทร์ศก ๑๑๐ (พ.ศ.2434) ศิลาสรรพสาตร์ หรือแท่นที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นหอสำหรับดูดาวทอดพระเนตรวะนะสฐาน ทอดพระเนตรพระอาทิตย์ตก และทอดพระเนตรน้ำทะเลซัดพลุ่งขึ้น ที่เทือกศิลามหาวชิราวุธสวยงามมาก

*** พระราชอุทยาน (วะนะ) อัษฎางคะวัน ***

สะพานวชิราวุธ

สะพานวชิราวุธ

เป็นสะพานสีขาวยื่นลงไปที่แหลม เพื่อเป็นทางเดินไปชมวิวทะเลบริเวณแหลมเขาขาด

บริเวณช่องเขาขาด

แหลมมหาวชิราวุธ

เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีสะพานที่ทอด ยาวยื่นออกไปยังแหลม นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาที่นั่นกันมากเพราะเป็นโขดหินมากมายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ ฝูงปลาหลายชนิด

ออกจาก ช่องเขาขาด มุ่งหน้าสู่ พระจุฑาธุชราชฐาน

พระจุฑาธุชราชฐาน

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับเมื่อเสด็จแปรพระราชฐาน หรือตากอากาศของพระบรมศานุวงศ์

บริเวณทางเข้าด้านหน้า

พระจุฑาธุชราชฐาน

ถนนอัษฎางค์

สะพานอัษฎางค์

อยู่ในบริเวณพระตำหนัก เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขื้นเทียบเรือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง

สะพานอัษฎางค์ เรือนไม้สีขาวยื่นไปในทะเล

หาดท่าวัง เล่นน้ำไม่ได้ แต่สามารถมองวิวทะเลได้อย่างสวยงาม

ฐานพระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์

เหตุการณ์วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 การก่อสร้างพระที่นั่งและตำหนักต่าง ๆ ก็ชะงักลง พระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งเครื่องไม้สักทอง 3 ชั้นถูกรื้อและสร้างขึ้นใหม่ ในพระราชวังดุสิต ชื่อพระที่นั่งวิมานเมฆ

บรรยากาศริมทะเล

เรือนไม้ริมทะเล

สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้ปรับปรุงเป็นที่ประทับแรมของราชวงศ์ ปัจจุบันได้กลายเป็นร้านกาแฟ อาหารว่างให้พักผ่อน จิบกาแฟ ทานของว่างไปมองทะเลไป

เรือนวัฒนา

สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นอาไศรยสถาน เมื่อ พ.ศ. 2432 เพื่อเป็นที่พักฟื้นสำหรับชาวไทยและต่างประเทศ ต่อมาก็ใช้เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์

บ่อน้ำและสระน้ำในพระจุฑาธชราชฐาน

เนื่องจากบนเกาะสีชังนั้นไม่มีแหล่งน้ำจืด จึงจำเป็นต้องสร้างบ่อเพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้

บรรยากาศรอบๆ

ออกจาก พระจุฑาธชราชฐาน มุ่งหน้าสู่ แหลมงู - ท่ายายทิม

ท่ายายทิม

อยู่ทางใต้ของเกาะสีชัง เดิมทีท่ายายทิมเป็นท่าเทียบเรือที่สำคัญสำหรับขนส่งหินที่ได้จากการระเบิดภูเขาบนเกาะสีชัง ปัจจุบันหยุดการระเบิดหินไปแล้ว

ร่องรอยของการระเบิดหิน ท่ายายทิม

แหลมงู - ท่ายายทิม

แพลอยอยู่กลางทะเล

แหลมงู - ท่ายายทิม

สุดทางใต้ของเกาะที่รถจะวิ่งมาได้

ออกจาก แหลมงู - ท่ายายทิม ย้อนกลับไปทางเดิม ทางลงมาตรงนี้จะเป็นหินขรุขระนะครับ

ถึงทางแยกก่อนถึงโรงขยะ เลี้ยวลงไปทางด้านซ้าย

แวะถ่ายรูปไปเรื่อย

แวะชมซากเรือประมง

ชอบบรรยากาศตรงนี้มาก ไม่ค่อยมีคน ลมพัดแรง วิวดี

Moroc Home Resort Koh Sichang (โมร็อกโฮม)

ที่พักสไตล์คลาสสิกผสมโมเดิร์น เป็นที่พักอีกหนึ่งแห่งที่มีความเป็นตัวของตัวเอง สามารถมองวิวได้อย่างสวยงาม บรรยากาศร่มรื่น และสีของอาคารที่สดใส

Moroc Home Resort ที่พักเป็นหลัง

ตึกใหญ่ของที่พัก สีชมพูสดใส

สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง, ระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง , โทรทัศน์ , เครื่องปรับอากาศ

มุ่งหน้าต่อ ถ้ำจักรพงษ์

ถ้ำจักรพงษ์

มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่สามารถมองเห็นได้แต่ไกลมีสีเหลืองอร่าม นิยมเรียกกันว่า "พระเหลือง" ปัจจุบันพระเหลืองประดิษฐานอยู่ในเขตพื้นที่ของ "สำนักสงฆ์ถ้ำจักรพงษ์" ถ้ำซึ่ง "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ" ทรงเป็นผู้ค้นพบ

ใต้พระพุทธรูปมีโพรงถ้ำลึกลงไป ความยาวประมาณ 30 เมตร มีรากไม้ที่งอกยาวทะลุจากเพดานถ้ำลงมา

ทางลงถ้ำจักรพงษ์ เณรนำทางลงไปพร้อมให้คำบรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา

ภายในถ้ำจักรพงษ์

พระพุทธรูปปางไสยาสน์และพระพุทธรูปปางมารวิชัย

หลวงพ่อโตถ้ำจักรพงษ์

เมื่อเดินลงไปข้างล่างสามารถเดินทะลุออกมาขึ้นอีกทางได้ไม่ต้องย้อนกลับขึ้นทางเดิม ขึ้นมาตรงหน้าพระเหลืองพอดี

รัชการที่ 5 เคยเสด็จประพาส และพระราชทานนามให้

ออกจาก ถ้ำจักรพงษ์ มุ่งหน้าสู่ร้าน Flower Blue Coffee & Bistro

Flower Blue Coffee & Bistro

ร้านกาแฟน่ารักๆ สไตล์โมเดิร์นในบรรยากาศสบายๆ

บรรยากาศหน้าร้าน

บรรยากาศหน้าร้าน

โซน OUT DOOR

บรรยากาศร้าน

กาแฟหอมอร่อย Iced cappuccino ราคา 60 บาทเท่านั้น

ภายในร้านตกแต่งเรียบง่าย

ออกจากร้าน Flower Blue Coffee & Bistro มุ่งหน้าสู่ แหลมจักรพงษ์

ซ้ายมือเป็นทางลงหาดถ้ำพัง แต่ผมมุ่งหน้าไป แหลมจักรพงษ์ก่อน ถนนสู่แหลมจักรพงษ์ เป็นถนนคอนกรีตอย่างดี

แวะถ่ายรูป

แหลมจักรพงษ์

เป็นแหลมที่อยู่ช่วงกลางของเกาะสีชังทางด้านทิศตะวันตกถัดไปจาก หาดถ้ำพัง เป็นแหลมที่ยื่นไปในทะเล และมีลักษณะเป็นหน้าผา โอบล้อมอ่าวอัษฎางค์ มีศาลาพักร้อนสร้างเป็นรูปกระโจมมุงกระเบื้อง