Lazy Coup พาไปแอ่วเหนือม่วนใจ๋ 💖💖 ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขอบอกว่า ณ จุดๆ นี้ มีแหล่งท่องเที่ยวข้างในหลากหลายสถานที่มว๊ากกก 👏 (เรือนดอกไม้ / เรือนกุหลาบตัดดอก / สวนบอนไซอ่างขาง / โรงงานชาอ่างขาง / แปลงรวบรวมพันธุ์ไผ่อ่างขาง /อาคารศูนย์ข้อมูลอ่างขาง /สวน ๘๐ /สวนคำดอย / สวนหอม / สวนกุหลาบอังกฤษ / สวนสมเด็จ /แปลงบ๊วย /โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผักเมืองหนาว /แปลงสาธิตไม้ดอกกลางแจ้ง/โรงเรือนกุหลาบตัดดอก /พระธาตุดอยอ่างขาง / บ้านขอบด้ง / บ้านนอแล ฯลฯ) 🚗🚙 มาที่นี่ที่เดียว สามารถเที่ยวแบบฟินๆ ได้ประมาณ 2 วันเลยนาจา :D

มามะ มาดูรูปคร่าวๆ ป้ายยาบรรกาศรวมๆ กันก่อนสักที สองที

พร้อมแล้ว เรามาลุยกัน !!!

Link สำหรับสถานีเกษตรอ่างขาง : Google Map

ภาพแผนที่การเดินทางเพื่อไปเที่ยวสถานีเกษตรหลวงอ่างขางนะคะ ( Cr. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง)

เมื่อดูจากแผนที่จะพบว่าจากเชียงใหม่ เราวิ่งจากถนน 107 มาถึง กม.79 แยกนี้เราต้องตัดสินใจแล้วว่า จะเลี้ยวซ้ายไปทางเบอร์ 1 (ถนน 1178) หรือ ไปตรงทางเบอร์ 2 กันดี เราจะมาเปรียบเทียบให้ฟัง
เบอร์ 1 (ถนน 1178) แคบ แต่ไม่ชัน ขับไปเรื่อยๆ ไม่ลำบากมาก แต่ถนนเส้นนี้แทบไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยจ้า ดังนั้นถ้าไปเส้นนี้อย่าเดินทางตอนกลางคืนนะ เผื่อรถเสียขึ้นมาจะติดต่อใครไม่ได้เลย
สำหรับเบอร์ 2 เป็นถนนที่ใช้กันเป็นประจำ แต่ค่อนข้างลาดชันมาก มีรถสองแถวให้เช่า จริงๆ จะขับเองก็ได้นะ แต่เน้นว่า ต้องระวังเป็นพิเศษจ้า

สำหรับเรื่องที่พัก 🏡 เรานอนที่สถานีเกษตรอ่างขางเลย ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจสุด เพราะ !!!
1.ราคาถูก 💸 (เค้านอนบ้านริมดอย+เตียงเสริม ราคา 4900 บาท นอนได้ 6 คน ตกคนละ 817 บาท)
2.ในราคา 817บาทต่อคน มีบุฟเฟ่ อาหารเช้าและเย็น ของโครงการหลวง ซึ่งอร่อยสุด
3.การตกแต่งสถานที่ดีงามมาก ไม่เหมือนอยู่ประเทศไทยเลยทีเดียว เข้ามาเช็คอินตอนเย็น เจอเตาผิง เปิดเพลงแจ๊ส ดีงามมาก กราบบบบ!!!

บ้านพักมีหลายราคา หลายแบบ เข้าไปเช็คกันได้ที่เว็บ : http://www.angkhangstation.com
ตามไปจองได้ที่เบอร์ 053-969-476 ถึง 78 กด 1
บ้านนี้หลังใหญ่มาก ไม่แน่ใจว่า ชื่อบ้านอะไรนะคะ

แต่หลังจิ๋วแบบนี้คือบ้านที่เราพักกัน ชื่อ บ้านริมดอย (ราคา+เตียงเสริม ราคา 4900 บาท นอนได้ 6 คน ตกคนละ 817 บาท)
สไตล์บ้านเล็ก ใน ป่าใหญ่เลยทีเดียว

ข้างๆบ้าน แต่ละหลัง จะมีเก้าอี้ โต๊ะ ให้มานั่งเล่น รับอากาศบริสุทธิ์ แบบ out door

เอาล่ะ จุดล็อบบี้ที่พูดถึง ตกแต่งด้วยเตาผิงอุ่นๆ เปิดเพลงแจ๊สประกอบ ดีงามมากจริงๆค่ะ

ตรงส่วนนี้จะตกแต่งไปด้วยรูปในหลวง ร.9 พ่อของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อเป็นการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดพระเนตรเห็นว่า ชาวเขาส่วนใหญ่ปลูกฝิ่น และยากจนมากๆ พระองค์โปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงแห่งนี้ขึ้น เพื่อวิจัย ทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ และให้ความรู้แก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพนั่นเอง

สำหรับที่ทานอาหารก็อยู่ระแวกเดียวกันกับล็อบบี้เลยค่ะ

ตอนกลางคืน หนาวมากเลยนะ แต่ต้องระวังอากาศเปลี่ยนแปลง เพราะตอนเช้ากับตอนกลางคืนต่างกันค่อนข้างเยอะนะครัช ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่หลากหลายไว้หน่อยน้า <3 แอบบอกไว้ ด้วยความ เ ป็ น ห่ ว ง อิอิ

หลังจากนอนหลับสนิท เราก็ตื่นตั้งแต่ตี เพื่อออกไปถ่ายดาวแต่เช้ามืด ณ จุดชมวิว ม่อนสน โดยที่ยัง... ไม่ได้อาบน้ำ
Google map จุดชมวิวม่อนสน

หลังจากนั้นเราก็ได้ขี่ล่อเล่นคู่กับแสงเช้า ใกล้ๆ กับบริเวณ ขอบด้ง ระหว่างทางที่จะไปไร่สตอเบอรี่ นอแลนั่่นเอง

และเมื่อเราไปถึงนอแล เค้าปลูกสตอร์เบอร์รี่กันเป็นแบบขั้นบันไดตามไหล่เขา มาคู่สายหมอก และแสงลอดจากต้นไม้ใหญ่
Google Map บ้านนอแล

แอบซื้อสตอร์เบอร์รี่กลับมาด้วย

เบื้องหลัง...

หลังจากนั้นเราก็กลับมาอาบน้ำอาบท่ายังที่พัก และเดินถ่ายรูปเล่น ณ สวน 80 ปี จะมีดอกไม้หลากหลายพันธ์ให้เราชื่นชม ทักทาย และยิ้มให้ เสพสเน่ห์ของต้นไม้แต่ละต้น ที่มีสเน่ห์เฉพาะตัว รวมถึงนก ผีเสื้อต่างๆ ยังหลงสเน่ห์ มาที่สวนแห่งนี้...

สิ่งที่เราตั้งใจมาที่นี่ อีกจุดหนึ่ง คือ สวนบ๊วย ต้นไม้ใหญ่ที่รูปทรงแปลกตา

รีวิววันนี้รูปเยอะนิดนึงนะคะ เพราะสถานที่แต่ละจุดมีความหลากหลาย และมีเสน่ห์แตกต่างกันมากๆ
สามารถติดตามรีวิวครั้งต่อๆ ไปได้ที่ FB fanpage : www.facebook.com/lazycoup

ขอบคุณมากๆค่ะ <3