ถ้าที่ภูเก็ตมีศรีพันวา... ที่สมุยก็มี ' W RETREAT KOH SAMUI (ดับเบิ้ลยู รีทรีต เกาะสมุย) ' นี่แหละที่ ชิค, คูล, หรูหราน่าไปเยือนที่สุด! เราคิดว่าหลายคนคงเคยเห็นรูปหรือเคยได้ยินชื่อโรงแรมนี้ แล้วอยากไปที่นี่บ้าง แต่หลังจากเสิร์ชดูแล้วเห็นราคา...ที่ปาไปคืนละกว่าสองหมื่นบาท! ทำให้ใครหลายคนได้แต่มองผ่านโรงแรมนี้ไป หลังจากเราแคะกระปุกและได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่นี่เมื่อปีที่แล้ว เลยอยากกลับมารีวิวและแชร์ทริกง่ายๆสั้นๆให้ไปเยือนที่นี่ได้แบบไม่ไกลเกินเอื้อม...


วิธีไปเยือน Woo Bar ในราคาหลักร้อย

หลายคนคงรู้ว่าโรงแรม W RETREAT KOH SAMUI (ดับเบิ้ลยู รีทรีต เกาะสมุย) แพง... แต่น้อยคนที่จะรู้ว่ามีวิธีไปสัมผัสความสวยงามและหรูหราของที่นี่ได้ในราคาหลักร้อยเท่านั้น! อ่านแค่ 10 ข้อนี้รู้เรื่องจบปึ้ง!

  1. ที่นั่งเบาะกลมๆที่มีน้ำล้อมรอบอย่างในภาพที่เราเห็นกันคือส่วนหนึ่งของ "วู บาร์" (Woo Bar) หนึ่งในบาร์ของโรงแรมดับเบิ้ลยู รีทรีต เกาะสมุย อยู่ติดกับบริเวณ Lobby ของโรงแรม
  2. มานั่งกิม/ดื่มที่บาร์นี้ได้ แม้ไม่ได้มาพักค้างคืนที่โรงแรมนี้
  3. สำหรับใครที่ไม่ได้พักที่นี่ ต้องจ่ายค่าบัตร 600 บาท เพื่อเข้าวูบาร์ แต่!! ช้าก่อน...มันไม่ใช่การเสียค่าบัตรเปล่าๆ เราสามารถใช้มูลค่า 600 บาทนี้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มได้!
  4. สั่งอาหาร/เครื่องดื่มเกิน 600 บาทก็จ่ายเงินเพิ่ม แต่ถ้าไม่ถึง 600 บาทไม่ทอนนะจ๊ะ (ตามความเข้าใจของเราทางโรงแรมคงเก็บค่าบัตรเพราะต้องการให้คนที่มาที่นี่ได้ใช้บริการของบาร์บ้าง ป้องกันไม่ให้ที่นี่เต็มไปด้วยคนที่แค่แวะมาเซลฟี่ถ่ายรูปแล้วกลับ)
  5. ราคาค้อกเทลแก้วละประมาณ 300++ บาท, เบียร์ขวดละประมาณ 200++ บาท, น้ำอัดลมกระป๋องละประมาณ 100++ บาท, น้ำเปล่า/น้ำแร่ประมาณ 100++ บาท อาหารเป็นแนวของทานเล่นเบาๆเริ่มที่ 300++ บาท
  6. มีโปรโมชั่นดื่ม Mojito ได้ไม่อั้น 3 ชั่วโมง ราคา 1,300++ บาท
  7. ทุกวันพุธ 6 โมงเย็นเป็นต้นไปมีกิจกรรมเจ๋งๆคือ " 50/50 " หรือเราเรียกเองว่า "เกมส์ทายหัวก้อย" วิธีการเล่นก็ง่ายมากหลังจากที่เราสั่งเครื่องดื่ม พนักงานจะมีการโยนเหรียญทายหัว/ก้อย ถ้าเราทายถูก ก็ได้ดื่มแก้วนั้นฟรี! ถ้าทายผิดก็จ่ายเองปกตินะจ๊ะ
  8. วูบาร์ เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. ถึง เที่ยงคืน เบอร์โทร 077-915-999
  9. ไม่อนุญาตให้นำอาหาร/เครื่องดื่มจากภายนอกมารับประทาน
  10. มีทั้งบริเวณ Indoor และ Outdoor ก่อนไปอย่าลืมเช็คสภาพอากาศ เพราะถ้าฝนตกก็อดฟินกับวิวนี้นะ


ตัวอย่างเมนูอาหาร/เครื่องดื่ม

ดูราคาเมนูอาหาร/เครื่องดื่มทั้งหมดของวูบาร์ได้ที่ Instagram @woobarkohsamui (https://www.instagram.com/woobarkohsamui)


Free Flow Mojito ราคาคนละ 1,300++ บาท ดื่มได้ไม่อั้น 3 ชั่วโมง

Thai Dragon Cocktail ราคา 380++ บาท

Burger เนื้อ ราคา 480++ บาท

ไอศกรีมวานิลลา + ช็อคโกแลตบราวนี่ ราคา 280++ บาท

น้ำสับปะรดผสม Coconut Syrup ราคา 270++ บาท


สัญลักษณ์ W ที่ใครมาที่นี่ยังไง๊ยังไงก็ต้องถ่ายรูปไว้เก๋ๆ

ทางเดินเข้าวูบาร์และล้อบบี้ของโรงแรมช่วงกลางคืน



W RETREAT KOH SAMUI

ห้องสวยเลอค่าสมราคา เป็นวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทั้งรีสอร์ท

ในส่วนห้องพักที่โรงแรมนั้น ขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ค่อยได้ถ่ายภาพภายในห้องพักมาฝากเพื่อนๆสักเท่าไหร่ แต่จะอธิบายให้เห็นภาพคร่าวๆเกี่ยวกับประสบการณ์ตอนไปพักที่นี่ให้ฟังนะ

โรงแรม W Retreat Koh Samui เป็นโรงแรมใน แบรนด์ W Hotel ที่มีโรงแรมอยู่ทั่วโลก เมื่อก่อนเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงแรมเครือ Starwood Hotel & Resort ที่ตอนนี้รวมเข้ากับกลุ่มโรงแรมเครือ Marriott เรียบร้อยแล้ว ที่ประเทศไทยมีโรงแรมแบรนด์ W อยู่ 2 ที่คือที่กรุงเทพและที่เกาะสมุย โดยจะมีเอกลักษ์ที่โดดเด่นมากๆในเรื่องการตกแต่งที่ทันสมัย และเหมาะกับคนที่ชื่นชอบปาร์ตี้ + แฟชั่น


โรงแรม W Retreat Koh Samui อยู่บริเวณฝั่งหาดแม่น้ำของเกาะสมุย ห่างจากสนามบินประมาณ 20-25 นาที และประมาณ 15 นาทีจาก The Wharf & Fisherman's Village แหล่งช้อปปิ้งและรวมร้านอาหารอร่อยๆหลายๆร้านบนเกาะสมุย

บริเวณ Lobby ของโรงแรม

วิวทะเลสุดลูกหูลูกตาจากบริเวณ Woo Bar


เราพักที่ห้อง Jungle Oasis Villa เป็นห้องเริ่มต้นของที่นี่ แต่กว้างขวางถึง 163 ตารางเมตร แถมสิ่งอำนวยความสะดวกยังครบครันยังกับห้องสูงสุดของโรงแรมบางที่ มีทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัว อ่างจากุชชี่ ทีวี ตู้เย็น โซฟา และอะไรต่างๆนานาอีกเพียบ!

ตอนกลางคืนแม่บ้านจะมาจัดเตียงให้ และเปลี่ยนชุดให้น้องหมีบนเตียงเราด้วย ^^


สระว่ายน้ำหลักส่วนกลางของที่นี่เรียกว่า WET ลึก 1.3 เมตร มีเตียงให้นอนอาบแดดนอนชิลริมสระอยู่สิบกว่าเตียง แต่แขกตรงสะว่ายน้ำที่นี่ไม่เยอะและไม่แน่นมาก อาจเป็นเพราะทุกห้องมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเอง แขกจึงชิลอยู่ในห้องมากกว่า


อีกหนึ่ง ไฮไลท์สิทธิพิเศษของแขกที่มาพักที่นี่คือ จะมีจุดบริการไอติม และน้ำดื่ม/กาแฟเย็น/น้ำอัดลมฟรี เรียกว่า SWEET SPOT เดินมาหยิบกินเพลินๆดื่มชิลๆคลายร้อนได้ตลอด ซึ่งไอติมที่มีให้ก็ไม่ใช่ไก่กาอาราเร่ที่ไหน มีทั้ง Haagen-Dazs, Movenpick, Magnum, และอื่นๆสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย


มาทะเลใครๆก็อยากเลือกโรงแรมที่ติดหาดเนาะ และที่นี่ก็โชคดีมากตรงที่ ลักษณะที่ตั้งของ โรงแรมมีทั้งวิวมุมสูง และติดหาด และบริเวณหาดก็เป็นส่วนตัวมากๆ เพราะโรงแรมอยู่ที่ปลายแหลมของหาดพอดี คนที่เข้าพักที่โรงแรมนี้เลยเหมือนได้หาดส่วนตัวไปเต็มๆ!

สาวๆที่ชอบถ่ายรูปต้องชอบที่นี่มากแน่นอน ที่โรงแรมมีมุมให้ถ่ายรูปและนั่งเล่นเยอะมากจริงๆ จนไม่อยากออกไปไหนเลย


มีเรือ Kayak ให้พายเล่นฟรี และมีเสื้อชูชีพทั้งไซส์ผู้ใหญ่และเด็ก ปลอดภัยหายห่วง! ^^


วิวจากห้องอาหาร The Kitchen Table ทานอาหารเช้ากับวิวแบบนี้ ฟินลืมจ้า!

ไหนๆก็มาที่นี่แล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะลองชิมอาหารญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร NAMU ซึ่งบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง ถึงจะเป็นห้องอาหารที่อยู่บนเกาะ แต่วัตถุดิบก็ยังสดใหม่ อร่อยสมชื่อ เรื่องราคาก็สมเหตุสมผลพอกับร้านอาหารญี่ปุ่นดังๆดีๆในกรุงเทพ ใครที่สนใจอยากแวะไปชิม ก็คลิกดูราคาและเมนูก่อนได้


ใครชอบดูพระอาทิตย์ตกดินก็ไม่ต้องออกไปไหนไกล มาจับจองที่นั่งตรงหาดนี่แหละ เห็นพระอาทิตย์ตกดินชัดๆ สวยสมใจ โรแมนติกอย่าบอกใครเลยทีเดียวเชียว!



ปล. เราไปพักเองจ่ายเองเมื่อปลายปี 2016 ไม่ได้มีสปอนเซอร์แต่อย่างใด... เพราะฉะนั้นวางใจได้เลย ไปที่นี่สวยจริงฟินจริง อยากให้คนไทยได้ลองไปสัมผัสบรรกาศสวยๆแบบนี้กันเยอะๆ!


ถ้าชอบรีวิวนี้ อย่าลืมกดไลค์และแชร์เป็นกำลังใจให้เรานะ :)



ติดตามอ่านรีวิวอื่นและแวะไปคุยกับเราได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้

Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer/

Instagram: https://www.instagram.com/bestiewanderer/




ความคิดเห็น