ทริปนี้เกิดขึ้นจากที่ว่า กุมภาพันธ์ปีหน้าตั๋วที่เข้าชมสถานที่ Angkor Pass จะขึ้นราคาอีก 30$ จากที่ราคา40$ จะขึ้นเป็น70$ ราคาสำหรับ3วัน เราเลยรีบไปก่อนละกัน บินใกล้ๆชั่วโมงเดียวถึง เลยจัดการจองตั๋วกันเลย รอบนี้บินกับสายการบินแอร์เอเชีย สมาชิกสำหรับทริปนี้ พ่อ แม่ และชะนีน้อยเอง

เมืองที่เราจะไปเยือนคือ เสียมเรียบ หรือบางคนเรียกเสียมราฐ หลายๆคนอาจจะสับสน แต่จริงๆคือที่เดียวกันค่ะ


วิธีการเดินทางมีหลายแบบให้เลือกเลยค่ะ

1.รถบัส ผ่านข้ามแดนที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ ด่านปอเปต และสู่เสียมเรียบ ราคาประมาณ700กว่าบาท

2. รถตู้จากกรุงเทพ จอดที่ตลาดโรงเกลือ ใช้เวลาประมาณ3ชม. หลังจากนั้นก็ต้องต่อรถเข้าไปชายแดนค่ะ

3.รถไฟ กรุงเทพ-อรัญประเทศ ราคาประมาณมาก แต่อาจจะใช้เวลานานซักหน่อย ใครอยากชิวๆลองดูค่ะ

4.เครื่องบิน เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดค่ะ มีบินตรงจากกรุงเทพทุกวันค่ะ มีให้เลือกหลายสายการบินเลย แต่ทริปนี้เราเลือกบินกับแอร์เอเซียค่ะ เพราะราคาถูกสุดแล้ว



สำหรับวีซ่า สำหรับคนไทยสามารถอยู่ในประเทศกัมพูชาได้14วันค่ะ โดยไม่ต้องขอวีซ่า




สิ่งที่ควรเตรียมก่อนจะบิน



1.หมวกกันแดด สำคัญมากนะคะ เพราะแดดที่เสียมเรียบแรงมาก ใส่ไว้กันเป็นไข้แดดก็ดีค่ะ เพราะทั้งทริปเราต้องเดินตากแดดหลายวันเพราะส่วนใหญ่เป็นสถานที่ ที่ต้องเดินจากแดดตลอดค่ะ

2.ร่ม สำหรับใครที่พาผู้ใหญ่ไปด้วย แนะนำให้พกร่มกันยูวีนะคะ

3.ครีมกันแดด ขาดไม่ได้บอกแล้วแดดแรงจริงๆ

4.เสื้อแขนยาว ถึงอากาศจะร้อนแต่ผิวเราก็อาจจะไหม้ได้ แนะนำเสื้อของยูนิโคล่เลยค่ะ มีหลายแบบที่กันยูวีจากแสงแดด

5.น้ำดื่ม เพราะอาจจะคอแห้งได้เพราะอากาศร้อน

6.เสื้อกันหนาว สำหรับที่จะไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว ตอนค่ำๆหรือช่วงหนาว อากาศจะเย็นหน่อยๆค่ะ

7.รองเท้าผ้าใบ ที่แนะนำให้ใส่ผ้าใบเพราะเราต้องเดินกันเยอะมากจริงๆ แนะนำให้ใส่คู่ที่เราคิดว่าเดินถนัดและสะดวกเท้าที่สุด



ซิมโทรศัพท์

แนะนำให้ไปซื้อที่สนามบินปลายทางสะดวกกว่าค่ะ ดีกว่าใช้ซิมหรือเปิดรูมมิ่งบ้านเราไป ราคาก็ไม่แพงมากด้วยค่ะ เริ่มต้นที่ 4$



ตั๋วAngkor Pass

ตั๋วใบนีใบเดียวสามารถใช้เข้าชมปราสาทในเมืองเสียมเรียบ ตั๋วมี3ประเภทนะคะ

1.ตั๋ว1วัน 20$

2.ตั๋ว3วัน 40$ (ตั๋วมีอายุ7วันค่ะ) ถ้าวันไหนไม่เข้าก็ไม่เป็นไร

3.ตั๋ว 5วีน 60$

ยกเว้นเกาะแกร์ จ่ายเพิ่ม 10$ ,พนมกุเลน ต้องจ่ายเพิ่ม 20$ และ ปราสาทเบ็งเมเลีย ต้องจ่ายเพิ่ม 5$

ส่วนใครที่อาจจะไป 4วัน3คืน แบบชะนีน้อย ถ้าไปหลัง17.00น. เค้าจะไม่นับตรวจเราค่ะ คือเข้าฟรีนั้นเอง



การเดินทางในเสียมเรียบ

1.ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะนิยมปั่นจักรยานเที่ยวกัน แต่มันค่อนข้างจะไกลและใช้แรงเยอะเหมือนกัน

2.เหมาตุ๊กตุ๊กเที่ยว สะดวกค่ะราคาก็ไม่แพง แต่ถ้าใครเหมารถตุ๊กตุ๊กแนะนำอาจจะต้องพกผ้าปิดจมูกนะคะ เพราะฝุ่นเยอะมาก

3.เช่ารถตู้ แบบที่เราเช่า ราคาต่อวัน 30$-40$ เท่านั้นเองรวมน้ำมันแล้วถือว่าถูกมากๆ

DAY1

ได้เวลาเดินทางกันแล้ว ก่อนขึ้นเครื่องก็ดันทำเรื่องอีกแล้ว ตอนเชคอินโหลดกระเป๋าแล้วดันลืมมือถือไว้ เพิ่งมานึกขึ้นได้ตอนจะขึ้นเครื่องแล้ว โชคดีมากที่พี่พนักงานเก็บมือถือแล้วรีบเอามาให้ที่เกท ไม่งั้นคงแย่ ขอบคุณพนักงานภาคพื้นดินของสายการบินแอร์เอเชียทุกคนมากค่ะ

ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้ว ไฟท์นี้แน่นไปด้วยชาวต่างชาติแน่นลำ

จากกรุงเทพใช้เวลาบินไปเสียมเรียบแค่1ชม.เท่านั้นเอง แอร์จะแจกเอกสารใบตรวจคนเข้าเมือง แนะนำให้เครื่องแต่ตั้งบนเครื่องเลยค่ะ

เครื่องค่อยๆลดระดับลงสู่สนามบินแล้ว แดดแรงใช้ได้

หลังจากลงเครื่องเดินไปเข้าคิวได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปผ่านเคาท์เตอร์วีซ่า เพราะคนไทยสามารถเข้าประเทศกัมพูชาได้เลย อยู่ได้แค่14วันเท่านั้น



หลังจากนั้นก็ไปรับกระเป๋าแล้วจะเห็นเคาท์เตอร์แลกเงินอยู่มุมซ้ายมือ สามารถเอาเงินไทยแลกได้เลยค่ะ ด้านข้างจะเป็นรถเช่า

เดินพ้นประตูออกมาจะเห็นคนมุงซื้อซิมกันเลยค่ะ2เจ้า เลือกกันได้เลย แต่เราเรื่องอันนี้เพราะคนมุงเยอะดี ราคาจะมีอินเตอร์เน็ตอย่างเดียว (แบบไม่จำกัด)หรือจะเอาแพคเกจรวมโทรก็ได้ตามนี้ค่ะ

หลังจากนั้น คุณสว่าง คนขับรถชาวกัมพูชาของเรายืนชูป้ายรออยู่แล้วค่ะ

หิวแล้วไปหาข้าวมื้อเที่ยงทานกันดีกว่าค่ะ ร้านนี้คนแน่นมากส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์ค่ะ มีทั้งด้านนอกและห้องแอร์ อากาศแบบนี้เลือกนั่งห้องแอร์ไปเลย อาหารเบสิกมาก ไข่เจียว ต้มยำ ผัดผัก ยังไม่หิวเท่าไหร่แต่ก็ต้องเติมพลังไปก่อน

ไปเช็คอินกันที่โรงแรมเลย โรงแรมที่เราจะนอน3คืนนี้ คือ โรงแรมEmpress Angkor Hotel โรงแรม5ดาว

ตอนนี้ราคาโปรโมชั่นอยู่ด้วย จองห้องสำหรับครอบครัวไว้ค่ะ พนักงานก็ให้มานั่งทานน้ำรอก่อน ตอนที่เค้ามาเสริ์ฟน้ำให้ตกใจมาก เห็นน้ำมีนิดเดียวนึกว่ามีคนกินไปก่อนแล้ว แต่จริงๆเค้าเสริ์ฟแค่นี้เอง ได้น้ำเย็นๆค่อยชื่นใจ

พาชมห้องกันซักหน่อย ห้องสำหรับครอบครัว

แดดแรงมากขอนอนงีบซักแปปละกัน เย็นๆจะไปซื้อตั๋วกัน



ตอนแรกแพลนไว้ว่าซื้อตั๋ว Angkor Pass เสร็จ จะรีบไปบาแค็ง แต่สรุป กว่าช่องเปิดขายตั๋วสำหรับ3วัน เริ่มใช้วันถัดไปจะเปิดขาย 16.45น.ขึ้นไป เราเลยจำเป็นต้องรอกันนานเลย

สรุปได้ตั๋วมาก็เลยตัดสินใจไปอังกอร์วัดแทนก็แล้วกัน คนแน่นมาก

เพราะเนื่องจากวันทีเรามาเป็นช่วงเทศกาลWater Festival พอดีคนจากเมืองอื่นก็เลยมาเที่ยวงานกัน มุมนี้เป็นมุมที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด แต่เราตื่นไม่ไหวเอาพระอาทิตย์ตกไปละกัน พระอาทิตย์ตกฝั่งโน้น แต่เรามาเอาแสงฝั่งนี้แทน แบบนี้ก็ได้หรอ ได้ดิ เป็นบ้า

ผู้กำกับชะนีน้อย คือคุณพ่อนั้นเอง ยืนบอกมุมลูกสาวอยู่ข้างๆ

มุมต่ำๆหน่อย

แสงพระอาทิตย์จากฝั่งโน้น สาดแสงมาถึงฝั่งนี้เลย คนแน่นมากๆ

พอพระอาทิตย์ตก มืดแล้ว เค้าก็จะเริ่มประกาศให้นักท่องเที่ยวออกแล้ว เพราะใกล้เวลาที่ประตูจะปิดแล้ว พอมืดแล้วน่ากลัวมาก เพราะในอังกอร์วัดไม่มีไฟเลย

คุณสว่างวคนขับรถก็มาส่งเราที่โรงแรม ชะนีขึ้นไปเก็บของแล้วก็นั่งตุ๊กตุ๊ก ไปPub Streetดีกว่า ค่ารถคันละ$4 ยั่งได้3คน รถติดมาก นี้เราตัดสินใจนั่งรถตุ๊กตุ๊กเพื่อความสะดวกแล้วนะ คนแห่ไปงานกันเยอะเหมือนกันนะเนี่ย

ถึงแล้วPub Street คล้ายๆข้าวสารบ้านเรา แต่คนเยอะกว่ามาก ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติทั้งนั้นเลย แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดเทศกาลคนเลยเยอะมากปกติมาก

ไอติมผัด แห่ง ผับสตรีท คนแน่นไปหมด

น้ำผลไม้ปั่นมีเป็นร้อยเจ้าได้

ไปที่ไหนไม่เคยพลาดโรตีเลย ชิ้นละ $1 จากที่สังเกตทุกอย่างเริ่มต้นที่$1หมด

เนื่องจากคนในผับสตรีทแน่นมาก เราเลยเดินออกมากินถนนด้านข้างกัน กินเป็ด หมูกรอบก็แล้วกันง่ายๆ

แวะซื้อนมที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตซักหน่อย ของส่วนใหญ่ก็นำเข้าจากไทยหมดเลย

อิ่มแล้วกลับโรงแรมกัน ค่ารถ$4 เหมือนเดิม

ถึงโรงแรมแล้ว คนขับน่ารัก

เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอน วันนี้รอแช่น้ำอุ่นแล้วรีบเข้านอนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องลุยกันต่อ

DAY2

ทางเข้านครธม ประตูกำแพงปราสาทรถอาจจะติดจุดนี้นิดหน่อย เพราะเนื่องจากประตูแคบและคนไปได้เพียงเลนเดียวเท่านั้น

1.ปราสาทบายน (Prasat Bayon)

จะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจตั๋วอยู่

ปราสาทนี้เป็นปราสาทที่มีใบหน้าบนยอดปราสาทมากมาย ดูแล้วก็แอบน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ดูขลังดีทางด้านหน้าปราสาท

ภาพแกะสลักนูนต่ำ

บริเวณด้านข้างของปราสาท

2.ปราสาทบาปวน(Prasat Baphoun)

อดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ทองคำแต่ปราสาทนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของอังกอร์ธมนะคะ คนที่สร้างก็คือคนเดียวกับที่สร้างกบาลสะเปียนในสมัยรัชกาลของพระเจ้าอุทัยทิตยวนมันที่2 เพื่อใช้เป็นศาสนสถานประจำรัชกาลเดินชมแต่ด้านนอกเพราะอากาศร้อนมาก

3.ลานช้าง (Elephant Terrace )

สถานที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆ การสวนสนามของกองทัพหลวง การซ้อมรบ หรือการเฉลิมฉลองในพิธีสำคัญต่างๆ

ทานมื้อเที่ยงที่Khmer Restaurant ร้านอยู่ติดกับทรงสระเลยค่ะ ทัวร์มาลงแน่นร้านอีกเหมือนกัน

หน้าร้านติดกับทรงสระเลยค่ะ

5.ปราสาทตาแก้ว (Prasat Takeo)

ถ่ายรูปด้านนอกไม่ได้เดินเข้าไปด้านใน ปราสาทนี้จะสังเกตได้กว่าไม่ค่อยมีลวดลายมากนะเนื่องจากว่าเนื้อหินของที่นี่แข็งเกินไปทำให้แกะสลักลายได้ยาก

6.ปราสาทตาพรม (Prasat Ta Prohm) อีกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลยที่จะมาดูต้นสะปงยักษ์กับปราสาทตาพรหม ฉากหนังเรื่องทูมไรเดอร์ ที่แองเจลิน่า โจลี่เป็นคนแสดง

7.ปราสาทเปรี๊ยะคัน (Prasat Preah Khan) อนุสรณ์แห่งชัยชนะ

8.พระอาทิตย์ตกที่ปราสาทพนมบาแค็ง จากที่เราพลาดไปเมื่อวานแล้ววันนี้เราจะไม่พลาดอีก ถึงทางขึ้นเขาตั้งแต่4โมงเราคิดว่าเราว่าก่อนเวลาแล้วนะ ต้องใช้เวลาเดินขึ้นยอดเขาอีกกระเป๋ากล้องก็หนักมาก ไม่ต้องกลัวเหงาคนเดินขึ้นไปเพียบเลย ใช้เวลาเดินถึงยอดประมาณ20นาที ต้องต่อคิวเพื่อขึ้นไปบนปราสาทอีก ตอนนั้น16.30น.แล้ว พระอาทิตย์จะตกประมาณ17.30น. คงทันแหละอีกตั้งชม. คนแน่นและวุ่นวายมาก คือถ้าคนบนปราสาทไม่ลงมาคนที่ต่อคิวก็จะขึ้นไปด้านบนไม่ได้ เพราะเค้าจำกัดคนขึ้น เซงเลย สรุปก็ได้ขึ้นจนวินาทีสุดท้ายแล้วพระอาทิตย์ก็ตกไปนานมากแล้วค่ะ เดินขึ้นมาตั้งเหนื่อย ยืนรอคิวก็นานโครต เป็นเพราะเรามาช่วงเทศกาลด้วยแหละ เดินคอตรงกลับรถ ระหว่างเดินลงมีพี่ผู้ชายเป็นตากล้องชวนคุยมาเรื่อยๆเค้ามาจากพนมเปญ เค้าก็แนะนำสถานที่เที่ยวให้ พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวนอกเมืองกัน วันนี้เป็นวันSuper Moon พระจันทร์ดวงใหญ่เต็มตามากเลนส์ซูมได้แค่นี้จริงๆ แต่เห็นด้วยตาเปล่าอลังมากค่ะ



ปีนี้ไม่ได้ลอยกระทง ก็ไหว้ขอพรหน้าโรงแรมแทนละกัน

DAY3



วันนี้เราจะออกไปเที่ยวนอกเมืองกัน ไปชมธรรมชาติและอารยธรรมกัน กบาลสะเปียน (Kbal Spean)แนะนำสำหรับสายลุยและถึกเท่านั้น เพราะเราต้องเดินขึ้นเขาเข้าป่ากัน 1500เมตร ไปกลับเท่ากับ3กม. ระยะทางไม่ไกลแต่ทางโหดมาก ไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุนะคะ อย่าลืมหมวก และพกน้ำดื่มขึ้นไปด้วย เดินไปได้ครึ่งทางถอดใจมากเพราะอากาศร้อนและเหนื่อยมาก แต่แม่บอกว่าไหนๆก็มาแล้วเอาให้ถึงลูก นี้บอกเลยว่าป่วยตั้งแต่มาวันแรก ร่างกายเพลียมาก

เดินต่อไป

ในป่านี้ผีเสื้อเยอะมาก แสดงว่าป่านี้สมบูรณ์อยู่

บางช่วงเดินสะดวกหน่อยเพราะมีบันไดให้ แต่ก็สูงชันมาก เดินระวังกันด้วยนะ

เริ่มได้ยินเสียงน้ำตกแสดงว่าใกล้ถึงแล้ว

หินด้านบนซ้าย จะเป็นรูปสลักพระวิษณุอนันตศายิน ส่วนด้านขวาพระศิวะและพระอุมาทรงโคนนทิ

รูปแกะสลักพระวิษณุอนันตศายิน

พระพรหม

เดินมาทางด้านล่างฝั่งน้ำตก พระวิษณุ8กร

รูปศิวลึงค์ยาวมาก

รูปสลักพระศิวะและพระอุมาทรงโคนนทิ

ไกด์บอกว่าเป็นพญากบ บางคนก็บอกว่าเป็นเต่าเลยไม่แน่ใจว่าคืออะไรกันแน่ แต่เค้าเชื่อกันว่าเป็นคนเฝ้าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้

จระเข้

พระพิฆเนศ

ยันต์ศักดิ์สิทธิ์มีอายุหลายพันปีแล้ว

จุดสุดท้ายคือน้ำตก ใครส่วนใหญ่เหนื่อยจากการเดินก็จะมานั่งปิคนิคทางข้าวเล่นน้ำกันที่นี้

ปราสาทบันเตียสะเรย (Prasat Banteay Srei) ปราสาทนี้จะไม่สูงเลย เป็นทรงเตี้ยสร้างโดยพราหมณ์ลวดลายอ่อนช้อยสวยงามมากสร้างด้วยหินทรายสีชมพู

ปราสาทเนียกปวน (Prasat Neak Peam)

หรือปราสาทกลางน้ำปราสาทนี้เราต้องเดินสะพานยาวกลางน้ำไปเลยเดินไปยาวอยู่ต้องเดินตากแดดไปตลอดทาง คนเยอะเหมือนเดิม

มื้อเย็นวันนี้ไปทานกันที่ ตลาดเก่า Old market

เห็นคนรุมร้านรถเข็นกันก็เลยลองทานผัดก๋วยเตี๋ยวกับน้ำมะม่วงปั่น

กินเสร็จก็เลยไปเดินรอเวลารถมารับ ที่ไหนได้ร้านเด็ดอยู่ด้านข้างตลอดนี้เองแถมราคาก็ถูกมากๆด้วย พลาดแล้วเรา

ปากซอยของกินอยู่ซอยนี้เลย สังเกตมีธนาคารอยู่ปากซอย

โรตีอีกแล้ว

วันนี้ค่ารถไปกลับ แค่6$ ยิ่งอยู่ยิ่งถูกลดเรื่อยๆ

DAY4

1.ปราสาทแม่บุญตะวันออก (Prasat East Mebon)



2.ปราสาทแปรรูป (Prasat Pre Rup)

อยากจะบอกว่า ด้านข้างมีบันไดเดินสะดวกกว่าด้านหน้าเยอะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

ด้านหน้าปราสาท

3.อังกอร์วัด (Angkor Wat)

วันนี้เราจะมาสำรวจอังกอร์วัดอย่างเจาะลึกและละเอียดกันค่ะ เข้าใจละว่าทำไมถึงได้Unesco เพราะภาพนูนต่ำภายในอังกอร์วัดยาว และมีหลายลายมากค่ะ ภาพแต่ละภาพก็มีความหมายและสื่อแตกกต่างกันออกไป



พระวิษณุ8กร

นางอัปสรยิ้มเห็นฟัน

ด้านข้างอังกอร์วัดมีลิงด้วยนะคะ

พร้อมแล้วไปสำรวจด้านในกันเลยดีกว่าค่ะ

ทางเดินเข้าอังกอร์วัด ยาวมากเลย

สำรวจด้านข้างกันก่อนเลยดีกว่า

หม่อมแม่เดินนำ แถมเป็นไกด์อธิบายความหมายของภาพแกะสลักให้ฟังด้วย ยกความดีความชอบให้คุณแม่เลยค่ะ น่ารัก

ประตูเยอะมาก เยอะมาก

บริเวณด้านหลัง ตัวปราสาทคนต่อคิวขึ้นกันแน่นมากเลย

นางอัปสรามาเป็นหมู่คณะเลยค่ะ

วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสมาก

มุมมหาชนอีกซักรอบ

ที่นี้ก็มีบอลลูนนะ ไม่แพงด้วย

แบกขากล้องจนกล้ามขึ้นหมดละทริปนี้

ได้เวลากลับกันแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่เริ่มประกาศให้ออกแล้ว

ได้เวลากลับกันจริงๆแล้วนะที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้

วิวบริเวณด้านหน้าของอังกอร์วัด

จบทริปแล้วเดินทางมาสนามบินค่ะ ใครอยากเช่ารถเที่ยวเสียมราฐติดต่อคุณสว่างได้นะคะ ราคาประมาณ30$-40$ ต่อวัน

มาถึงเร็วอาจจะต้องทนหิวหน่อย เพราะร้านอาหารจะอยู่ด้านในหมดเลยค่ะ เราจะเข้าไปได้หลังจากแต้มขาออกก่อนค่ะ

มื้อสุดท้ายฝากท้องไว้ที่ Yoshinoyaก็แล้วกัน

ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว

ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ รับเครื่องดื่มมูลค่า60บาทฟรีหมดเลยสบาย

จบทริป... ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันจนจบนะคะ ทริปนี้อาจจะไม่สบายไปบ้าง แต่ก็ตั้งใจทำเหมือนเดิมนะถ้าใครมีอะไรจะถามเพิ่มเติม

อินบ็อกมาหากันได้นะคะ ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามมาทุกกระทู้นะคะ

ชะนีน้อยตะลอนทัวร์

 วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.28 น.

ความคิดเห็น