ทริปนี้เป็นทริปแรกที่มาเขียนรีวิว และเป็นทริปไปภูเก็ตครั้งแรก ><

การเดินทั้งครั้งนี้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากหาดใหญ่ คู่กับแอปแผนที่ Google map และ แอป Sygic(สำรองไว้กรณีเน็ตมีปัญหา เพราะไม่ต้องใช้เน็ต) มีผู้ร่วมทริป 4 คน เป้าหมายหลักร่วมกันคือ ดูปลาโลมาในธรรมชาติ!!!!!

อุปกรณ์ที่ใช้บันทึกภาพประกอบด้วย กล้อง Nikon AW100 เอาไว้สำหรับใต้น้ำ กล้อง canon 1100D และเลนส์ 18-55 mm กับ 55-250mm โทรศัพท์มือถือ Wiko

เนื่องจากไปถึงภูเก็ตก่อนที่จะไปล่องนาวา 1 วัน จึงมีเวลา เที่ยวในเมืองพอสมควร

หลังจากเดินทางมานาน 5-6 ชั่วโมงเราก็ไปเก็บของเข้าที่พัก โดยเราพักกันที่ป่าตอง ชื่อ Apk resort and spa พอเก็บเรียบร้อยก็ออกมาเที่ยวกันต่อ

วิวจากที่พัก

ต่อจากนั้นเราก็ไปที่จุดชมวิวชื่อดัง นั่นคือก็ "แหลมพรหมเทพ" นั่นเอง

เราอยู่รอจนพระอาทิตย์ใกล้ตก แต่ก็โชคร้ายที่เมฆเยอะจนไม่เห็นพระอาทิตย์ตก T_T

จากนั้นเราก็ไปเดินช๊อปปิ้ง และหาของกินกันที่ Chillva Market โดยที่ตลาดแห่งนี้ จะเปิด 17.00-23.00 ปิดวันอาทิตย์ สำหรับวันจัทร์-อังคาร จะเป็นตลาดนัดมือสอง ส่วนวันพุธ-เสาร์ จะเป็นตลาดนัดสุดชิคชิลล์วิลล่า พวกเราไปกันวันพฤหัสบดี-วันเสาร์ จึงได้เดินแค่ตลาดนัดสุดชิคชิลล์วิลล่า

ช่วงเช้าวันต่อมา.....

ก่อนออกเดินทางออกจากท่าเรือมีเมฆฝนมาให้ใจหายพอเป็นพิธี ณ ตอนนั้นบอกเลยว่ากลัวมากกกกกกกก กลัวจะไม่ได้เห็นโลมา กลัวจะไม่ได้ดำน้ำ กลัวคลื่นแรง กลัวเมาเรือ555


พอออกจากท่าเรือมาสักพักฟ้าก็เริ่มสดใสขึ้น และไกด์บนเรือก็บอกว่าคนบนฝั่งโทรมาบอกว่าในเมืองฝนตกหนักมาก และบอกอีกว่าถ้าจะออกนอกฝั่งไปดำน้ำ ไม่ควรดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าให้ว้าวุ่นใจ เพราะจะเชื่อถือไม่ได้ แต่ถ้าเป็นในเมืองก็เชื่อถือได้พอสมควร

ข้างหน้าคือเป้าหมายแรกของเรา เกาะไม้ท่อนนั่นเอง!!!!

เกาะนี้ไกด์บอกว่าถ้ามองจากด้านบนจะเหมือนท่อนไม้ และยังบอกอีกว่าเป็นเกาะเดียวที่โอกาสเจอโลมาเยอะที่สุด เพราะมีความอุดมสมบูรณ์มาก อยู่ดี อาหารการกินก็ดี ไม่มีโลมาตัวไหนที่มันอยากจะออกจากบริเวณเกาะนี้หรอก (โลมาไม่ได้กล่าว แต่ไกด์เป็นคนบอก) ที่มีโลมาอยู่ 2 ฝูง รวมกันประมาณ 10กว่าตัว และล่าสุดเพิ่งมีสมาชิกใหม่มาในฝูงเป็นลูกโลมาเกิดใหม่ 1 ตัว ซึ่งปกติแล้วลูกโลมาจะว่ายอยู่ข้าง ๆ แม่ (เห็นแต่ถ่ายไม่ทัน T_T)

พอเริ่มเข้าใกล้เกาะขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นอะไรบางอย่างข้างหน้า

มาแล้ววววว!!! เป้าหมายหลักของทริปนี้ ไม่คิดว่าจะโผล่มาให้ดูอย่างง่ายดาย

เหมือนว่าจะออกมาต้อนรับเรา แต่จริงๆ แล้วมันชอบมาเล่นคลื่นที่เกิดจากการแล่นเรือ และเรือที่เราใช้เดินทางก็เป็นเรือยอร์ช แบบไม่มีใบ ซึ่งมีใบพัดขนาดเล็ก และดับเครื่องปล่อยไหลตามแรงเฉื่อยเมื่อใกล้โลมา ซึ่งโลมาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากใบพัด

พอโลมาเริ่มออกห่างจากเรือ ไกด์ก็บอกให้เราผิวปากเพื่อเรียกมัน แต่ไม่มีใครผิว เพราะกลัวโดนไกด์หลอก555 ในเมื่อไม่มีใครผิว ไกด์ก็จัดให้ ผิวปากเองเลย ปรากฎว่ามันมาครับ แล้วใกล้กว่าเดิมด้วย ทำเอาอึ้งเลยไม่คิดว่าจะใช้วิธีการเรียกแบบนี้ได้555


พอโลมามาเล่นคลื่นสักพักมันก็ไป เราก็เดินทางกันต่อโดยเข้าใกล้เกาะไม้ท่อนมากขึ้นจนเห็นแนวปะการัง ไกด์จึงแจกเสื้อชูชีพ และสน็อกเกิลให้เราเพื่อดำดูปะการัง

พอลงน้ำเหล่าปลาสลิดหินก็ออกมาทักทาย ตามที่เคยทำตอนมีคนให้อาหารมัน แต่ตอนนี้เค้าไม่ให้มีการให้อาหารอีกแล้ว คงจะผิดหวังกันทั้งฝูง555

ปลาดาวที่ซ่อนตัวอยู่ที่ซอกปะการัง มองแวบแรกก็แอบหลอนนิดๆครับ = ="

ที่นี่มีหอยเม่นน้อย ปลิงทะเลก็ไม่ค่อยเห็น ไม่เหมือนแถบอ่าวไทยที่มีเยอะกว่า

ปลานกแก้วกำลังกินซากปะการัง พอมันถ่ายออกมาก็จะเป็นทรายในทะเล


ต้องว่ายออกจากจุดจอดเรือพอสมควรถึงจะเจอบ้านของปลาการ์ตูน หรือน้องนีโม่ (ใครที่ว่ายน้ำไม่แข็งไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เห็นไกด์จะเป็นคนพาไปโดยให้เกาะห่วงยาง แล้วไกด์ลาก)


บริเวณนี้มีบ้านนีโม่อยู่ 2 หลัง จริง ๆ อาจมีเยอะกว่านี้แต่ไกด์พามาดูแค่ 2 หลัง (มีคนแนะนำว่าถ้าอยากเห็นเยอะๆ ให้ลองไปหลีเป๊ะดู ไม่ต้องออกทริปดำน้ำไกลๆ ก็สามารถเจอที่หน้าหาดได้เลย ผมเองก็ยังไม่เจอไป)


พอเยี่ยมนีโม่เสร็จ เนื่องจากออกมาไกลเรือ ใครที่ขี้เกียจว่ายน้ำก็จะมีเรือยาง ของเรือที่เราไปทริปด้วยมารับไปขึ้นเรือหลัก และในรูปก็คือ ไกด์คนสวยของทริปนี้

หลังจากส่องโลมา ดำน้ำบริเวณเกาะไม้ท่อน เยี่ยมนีโม่แล้ว เราก็ล่องนาวาต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงเกาะราชา ที่นี่มีทะเลแหวกเล็ก ๆ หาดทรายขาว แต่ปะการังไม่ค่อยสวยเท่าที่เกาะไม้ท่อน และที่ต้องระวังคือแถว ๆ นี้มีแมงกระพรุน รวมถึงทางขึ้นหาดเป็นหิน ซึ่งพวกเราทั้ง 4 คนโดนหินบาดทุกคน บางคนที่มือ บางคนที่เข่า บางคนที่เท้า แล้วแต่ว่าล้มท่าไหน555

ไกด์บอกว่าที่เกาะราชามีเต่าทะเลอยู่ ถ้าโชคดีก็จะเห็น แต่เราโชคไม่ดีเท่าไหร่ T_T อดเจอ

พอเรือจอดสักพักหนึ่ง ก็มีการเอาสไลด์เดอร์เป่าลมออกมาให้เล่นโดยติดอยู่กับเรือ

อย่างที่บอกไปคือต้องระวังแมงกะพรุน ถ้าโดนคงเจ็บปวดไม่น้อยเลย แต่เราก็สามารถแจ้งไกด์ได้ว่ามีแมงกะพรุน ทางไกด์ก็จะจัดการโดยการใช้ตีนกบดันมันลงไปลึก ๆ แต่ก็มีบางตัวที่ดื้อลงไปแล้วก็กลับขึ้นมา ราวกับมาดูว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่

มีการมาลองตอดเล่นๆ



หลังจากฝ่าดงหินมาขึ้นฝั่ง ก็เจอทะเลแหวกเล็ก ๆ ที่พอน้ำขึ้นหาดทรายขาวๆ ก็จะหายไปเหลือเป็นเกาะเล็กๆ อยู่

ไกด์อีกคนที่คอยดูแลเราจนขึ้นเรือจนหมด และพร้อมเดินทางต่อ

หลังจากนั้นก็เดินทางกันต่อไปที่แหลมพรหมเทพ เพื่อดูพระอาทิตย์ตกจากบนเรือ แต่ก็โชคร้ายที่เมฆเยอะ เลยอดดู T_T

แต่ก็ได้เอาภาพแหลมพรหมเทพที่มองจากทะเลมาฝากแทน ^^


ขอบคุณที่ทนอ่านรีวิวของผมจนจบนะครับ ผิดพลาดประการใด ขอน้อมรับไว้ พร้อมปรับปรุงแก้ไขในครั้งหน้า และหากมีทริปอีก จะมารีวิวเรื่อย ๆ นะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ^_^







เที่ยวไปเรื่อย

 วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 22.40 น.

ความคิดเห็น