ไปเที่ยวเหนือช่วงสิ้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา อากาศยังหนาวๆ ทริปนี้เราไปกันที่จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ
3 คืน 3 ที่พักสไตล์ล้วนต่างกันทกที่ มาชิลๆกับที่พักในตัวเมืองคืนแรกของเราก่อนดีกว่า
เราเลือกพักกันที่ แคนทารีฮิลส์ เชียงใหม่ ทำเลดีย่านนิมมาน ซอย 12
ซึ่งถนนนิมมานเหมินทร์ได้ชื่อว่าเป็น Hip Street ของ จ.เชียงใหม่
มีที่เที่ยวที่กิน เดินได้ทั้งวันก็ไม่เบื่อ
รวมทั้งร้านแฟชั่นสุดฮิต อินเทรนด์ หลายๆ ร้านก็อยู่ในบริเวณนิมมานเส้นนี้ด้วย
ถือว่าเป็นทำเลดี ทำเลเยี่ยมของเชียงใหม่แห่งหนึ่ง เมื่อมีคนมาเที่ยวมากขึ้น
ปัญหาที่ตามมาคือ รถติดค่ะ ปัญหานี้แก้ไขด้วยการเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานในย่านนี้จะฟินกว่ามากนะจ๊ะ
ขอบอกๆ แค่คิด ก็ฟินแล้วววว
แต่ก่อนจะเข้าที่พักคืนแรกของเรา ไปอิ่มตัวแตกกันก่อนเลย ที่นี่ๆ
Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่ง
Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่ง อยู่ในอำเภอหางดงนะคะ ตอนแรกเราก็งงๆ คำว่ากาดฝรั่งทำไมถึงชื่อนี้ พอมาเยือนแล้ว
พบว่า รอบๆ จะมีหมู่บ้านชาวต่างชาติ หรือที่เรียกว่า ฝรั่งเยอะนั่นเอง ถึงได้มีคำติดปากเรียกว่า สาขากาดฝรั่ง
Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่ง เห็นว่าเปิดใหม่ด้วยขอไปชิม เอ๊ย ยลโฉมกันหน่อย
เราเคยไป Cafe' Kantary สาขาอื่นๆ มาแล้ว เช่น อยุธยา และระยอง การตกแต่งร้านแต่ละร้านต่างกันมากค่ะ
แต่ยังคงคอนเซ็ปต์มีเมนูอร่อยๆ คล้ายๆ กัน และเป็นเมนูที่เราชอบด้วย นั่นคือแก้วน้ำโลโก้ของ Cafe' Kantary
พื้นที่ของ Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่งมีอยูู่สองชั้นค่ะ แบบ indoor กับ outdoor ข้างบนจะเป็นไฟสวยๆ มุ้งมิ้งหน่อย
สำหรับสาวๆ มาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่ก็ไม่เลวนะเออ ส่วนเราสวยๆ แบบที่สว่าง ขอมานั่งข้างนอกดีกว่าค่า
เพราะช่วงหน้าหนาวอากาศเชียงใหม่ก็อยู่ในอุณหภูมิที่อุ่นๆ กันอยู่นะ มานั่งรีแล็กซ์ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ
แล้วตามด้วยเมนูอร่อยๆ เหล่านี้ มาเริ่มกันเลยดีกว่า
Hokkaido Sashimi salad...เป็นสลัดผักแบบฮอกไกโด โดยจะมีผักสดทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค สาหร่ายทะเล
เนื้อปลาแซลมอนและเนื้อปลาโอสดหั่นสไลซ์เป็นชิ้นยาว หนวดปลาหมึกยักษ์ ราดด้วยน้ำสลัดแบบฮอกไกโด
ที่ปรุงมาจากบัลซามิก และน้ำมันงารสเปรี้ยว มัน เค็ม หวาน ยกมาเสิร์ฟจานใหญ่มากกกกก หากถามว่าเราทานหมดมั้ย
ไม่เลยค่า แบบว่าเยอะอ่ะ 555
ตามด้วยเมนูแบบเส้นๆ สปาเกตตี้ 2 สีผัดขี้เมา ที่ใช้เส้นสปาเกตตี้สีเหลืองและสีดำ เพิ่มความโดดเด่นน่าสนใจ
ปรุงด้วยพริกไทยอ่อนเผ็ดร้อน และใบกะเพรา รสชาติจัดจ้าน ปรุงรสให้ถูกปากคนไทยจริงๆ ค่ะเมนูนี้
Smoke Salmon Pizza...เป็นพิซซ่าปลาแซลมอนรมควัน ที่ปรุงมาจากแป้งพิซซ่าแผ่นบางเบาแบบโฮมเมดตามสไตล์อิตาเลียน
วางด้านบนด้วยสโมคแซลมอนอบจนสุกกรอบได้ที่ โรยหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนรสมันเค็มและผักร็อคเก็ต
เมนูนี้เราเชื่อว่าเป็นเมนูสุดฮิตของ Cafe' Kantary เค้าด้วยนะ แป้งบางและปรุงรสมาถูกปาก แบบว่าเราไม่ต้องปรุงเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ตามด้วยของโปรดเราค่ะ แอบราดน้ำผึ้งไปเรียบร้อยแระ
ฮันนี่ โทสต์
ชอบๆ ที่ขนมปังก้อนใหญ่อบมาอุ่นๆ ร้อนๆ ทานได้ง่ายมาก
ติดใจตรงนี้ ที่อื่นเห็นบางๆ นิดๆ แต่ที่นี่ หนานุ่มหอมมาก เราชอบ จึงยกให้เป็นเมนูโปรดของเราได้อย่างง่ายดาย
เมนูปิดท้ายของร้าน Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่งนะคะ แพนเค้กสตรอว์เบอร์รี่จ้าาาา
ครั้งแรกทานที่สาขาอยุธยา ติดใจมากค่ะ คิดในใจไว้เลยว่า ถ้ามีโอกาสจะสั่งอีก ที่ไหนได้ มาเจอที่สาขากาดฝรั่งเค้าด้วย
เราจึงไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง
ตอนนี้คือออกมาจาก Cafe' Kantary สาขากาดฝรั่งแล้วนะคะ ขับรถเข้ามาในเมืองเหมือนเดิม
ที่พักของเราคืนนี้ แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ค่ะ เราพักที่นี่ 1 คืน
ข้อมูลโรงแรม
Kantary Hills, Chiang Mai44, 44/1-2 Nimmanhaemin Road, Soi 12, Suthep, Muang, Chiang Mai 50200, Thailand.Tel: +66 53 22 2111, +66 53 40 0877Fax: +66 53 22 3244e-mail: [email protected]
แผนที่ http://www.kantarycollection.com/kantaryhills-chiangmai/html
ดูจากแผนที่ ทำเลที่ตั้งใกล้สนามบินมากเลยนะคะ ไม่แปลกใจแล้วล่ะว่า ย่านนี้เค้าฮิตกันจริงๆ
เข้ามาถึงเขตโรงแรมเรามีงงค่ะ แบบว่า ประตูโซนหน้าที่ถึงก่อนจะมีป้ายแคนทารีด้วย นั่นคือเป็นตึกใหม่ ตึก 2-3 ที่สร้างใหม่
ต้องขับผ่านป้ายตึก 3 เข้ามาอีกจะเจอป้ายแคนทารี เรามาเช็คอินกันตรงนี้ค่า
โรงแรมเค้าใหญ่โตอย่างมากจริงๆ
การตกแต่งเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ สไตล์แคนทารีค่ะ ซึ่งแต่ละที่ที่เราพักมา สังเกตว่าจะตกแต่งหลายโซนต่างกันนิดๆ
แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นแคนทารีอยู่เช่นเดิม
ภายในล็อบบี้กว้างๆ
เรามาเช็คอินหลังบ่ายสอง ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวและรับคีย์การ์ดขึ้นห้องพัก
ห้องพักของเราอยู่ชั้น 5 ค่ะ ระบบความปลอดภัยของแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ คือต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้น
ถึงจะสามารถเสียบและกดลิฟท์ขึ้นไปยังห้องพักชั้นที่ได้พักได้ รวมถึงชั้น 3 พื้นที่ส่วนกลาง เป็นฟิตเนส และสระว่ายน้ำ
เปิดประตูห้องพักเข้ามาแล้วค่า
สำหรับห้องพัก แคนทารีฮิลส์ เชียงใหม่ มีทั้งหมด 3 แบบ
ได้แก่ Studio , One Bedroom และ Two Bedroom Suite
แต่ละแบบจะแตกต่างกันในเรื่องของขนาดห้อง จำนวนห้องนอน และเครื่องอำนวยความสะดวกภายในห้องค่ะ
เราพักแบบ One Bedroom ค่ะ ที่แยกสัดส่วนห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวออกอย่างชัดเจน
มุมครัวมีโต๊ะทานข้าวด้วย อุปกรณ์เครื่องครัว แบบครัวเบาๆ ครบครัน มีเครื่องซักผ้าอีกด้วย
แบบนี้แหละเราชอบมาก แต่ก็ไม่เคยได้ซักเลยเช่นกัน 555
ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น ห้อง Type นี้จะมีทีวีให้ 2 เครื่องที่ห้องน้่งเล่น และห้องนอนค่ะ
มีโต๊ะทำงานให้อีกด้วย แต่เรามาพักที่นี่ก็ไม่ได้ใช้เช่นกัน อิอิ
ระเบียงห้องพักสามารถเปิดออกไปชมวิวรอบนอกได้เลย ห้องพักเราเปิดมาเจอวิวนี้ สระว่ายน้ำที่อยู่ในพื้นที่ชั้น 3
และสามารถมองลงไปด้านล่างเห็นที่จอดรถกลางแจ้งด้วย มองไปอีกฝั่งตรงข้าม
เป็นที่จอดรถของแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ เช่นกัน ยังไม่พอนะคะ เรื่องที่จอดรถของที่นี่มีชั้นใต้ดินอีกด้วยนะเออ
เป็นอันว่า หากนำรถมาเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอด สะดวกมากจริงๆ ค่ะ
เดินเข้ามาในห้องพักต่อมาที่ห้องนอนกันบ้าง
ที่นอนเตียงคิงส์ไซส์ขนาด 6 ฟุตแบบกว้างๆ หัวเตียงโคมไฟสองจุด มีนาฬิกาปลุกดีไซน์สวยด้วยเราชอบนะนั่น
พื้นเป็นไม้ขัดมันแลดูอบอุ่นจริงๆ แหละ การนอนค่ำคืนนีไม่รู้เป็นไร
หากได้นอนที่สบายๆ แบบนี้ทำให้เรามีความรู้สึกว่า ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนของการนอนที่นี่ช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
จริงๆ นะคะ เป็นบ่อยมาก 555
ภายในห้องน้ำ ประตูเข้าอยู่ภายในห้องนอนด้วยกันเลย มีอ่างอาบน้ำ อ้อ มีสายชำระด้วยค่ะ สำหรับคนไทยหลายคนที่เราสัมผัสมาได้คือ ขาดสายชำระไม่ได้เลย โรงแรมไหนมี เท่ากับว่าดีต่อใจจริงๆ เพราะพี่ไทยเราจะติดกับสายชำระกันด้วยไง 555
แสดงให้เห็นว่า โรงแรมในเครือแคนทารีแห่งนี้ ก็ยังคงโฟกัสไว้ที่ลูกค้าที่เป็นคนไทยเช่นเดียวกันนะคะ
เราเดินมาสำรวจภายในโรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ กันต่อค่ะ กดลิฟท์มายังชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง
ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง
สระว่ายน้ำและส่วนของฟิตเนส เราว่ามีความเป็นส่วนตัวให้กับแขกที่เข้าพักนะคะ
เพราะสงวนให้แขกเท่านั้น ไม่ใช่บุคคลภายนอกก็มาใช้บริการด้วยได้ จึงทำให้คนไม่พลุกพล่าน
จึงถือว่ามีความเป็นส่วนตัว เล่นน้ำได้อย่างสบายใจจริงๆ
เราลงมาสำรวจพื้นที่ส่วนกลางด้านล่างต่อ
แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ มีห้อง Executive Lounge ด้วยซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของโรงแรมในเครือแคนทารี
ที่ให้ลูกค้าที่เข้าพักมานั่งพักผ่อนได้ฟรีๆ มีขนมและเครื่องดื่มให้ฟรีๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
กับที่นั่งหลายมุม หลายโซน พร้อมแอร์เย็นๆ เมื่อมาถึงตรงนี้ทำให้เรารู้สึกว่า
การที่เราพักที่นี่ 1 คืนดูน้อยไปจริงๆ แล้วล่ะ เพราะหลายพื้นที่เรามีความรู้สึกว่า อยากมาใช้บริการและอยากพักผ่อนแบบเต็มที่จริงๆไง อย่างเช่น Executive Lounge ห้องนี้แหละค่ะ หลายที่เราพลาด และที่นี่เราก็พลาดด้วยเช่นกัน 555
มาในส่วนของห้องอาหารภายในโรงแรมแคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ กันบ้าง
มีส่วนพื้นที่ที่เป็นบาร์ด้วยนะเออ สีสันแสงไฟหลากสีก็มาเลยจ้า
แต่คืนนั้นเรามานั่งในพื้นที่ส่วนของห้องอาหารค่ะ แปลกมั้ยทีคืนนี้เราไม่สามารถทานอาหารได้เยอะเหมือนเคย
ไม่ต้องแปลกใจกันแล้ว เพราะว่ากลางวันเราจัดหนักขนาดนั้นด้วยไง 555 คืนนี้ต้องเบาๆ แบบนี้แหละค่ะ อิอิ
นี่เลย เมนูข้าวต้มปลา ตามด้วยทอดมันกุ้ง แค่นี้จริงๆ มื้อเย็นของเรา
ที่ห้องอาหารชั้น 1 ของ แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ จะเป็นห้องอาหารห้องเดียวตั้งแต่อาหารเช้า ยันดินเนอร์ได้เลย
ส่วนของอาหารเช้ามีหลากหลายตามสไตล์ของแคนทารี เช่นเดียวกันค่ะ
อาหารเช้าในวันนั้นเราไม่ได้ทานนะคะ เราแวะเข้ามาเก็บภาพไลน์อาหารเช้าให้ดูนิดหน่อยตั้งแต่ 6 โมงเช้า
เพราะเราออกไปล่าเสือค่ะ เสือยังไง เดี๋ยวมาบอกตอนท้ายๆ
ตอนนี้แวบกลับเข้ามายัง แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ พร้อมทั้งเช็คเอาท์ออกมาตอนบ่ายๆ กันแล้วจ้า
ก่อนจะออกจากซอยนิมมาน เรามาแวะทานอะไรอร่อยๆ กันก่อนเดินทางนั่นคือ เราแวะมาที่ Cafe' Kantary
ซึ่งอยู่ในส่วนพื้นที่ของ Kantary Terrace เป็นสถานที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งไว้ที่เดียวกัน
คือเรียกได้ว่า ทั้งนิมมานซอย 12 เนี่ยเป็นของ Kantary ทั้งหมดเลยก็ว่าได้
พอเข้ามา Cafe' Kantary แห่งนี้ชี้ชัดได้เลยว่า การตกแต่งร้านแต่ละแห่งนั้นต่างกันจริงๆ ค่ะ
ช่วงที่เราไปเป็นตรุษจีนด้วยจึงมีการประดับโคมสีแดงแบบจีนๆ ให้เข้ากับเทศกาลด้วยเช่นกัน
มีที่นั่งกันหลายจุดเช่นเดิม ส่วนเมนูที่นี่เน้นเป็นของหวาน เค้ก และไอศกรีมนะคะ
เราจึงสั่งพายฟักทอง และพายแอปเปิ้ลมาทาน ขนมเค้าอร่อยมากจริงๆ นี่แหละ ที่ทำให้เราทิ้งท้ายวลีเด็ดๆ ให้กับ Cafe' Kantary ว่า
"Cafe' Kantary ชื่อนี้คุณมั่นใจ"
และขอยกนิ้วให้กับเมนูนางเอก ปิดท้ายรายการด้วยซะเลย
ข้าวเหนียวมะม่วงราดน้ำกะทิหอมๆ มันๆ อร่อย จานนี้หมดเกลี้ยงนะขอบอกๆ อยากให้แคนทารี ทุกสาขามีเมนูนี้จัง
เพิ่งได้มาทานที่สาขาซอยนิมมาน 12 นี่แหละค่ะ มีเมนูนี้ด้วย
และปิดท้ายๆ จริงๆ กับเมนูเครปผลไม้รวมยกมาให้จานใหญ่มาก
อิ่มจนลืมอ้วนไปเลยกับ แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ 555
มาเฉลยๆ กันค่า เราพักที่ แคนทารี ฮิลส์ เชียงใหม่ และออกไปล่าเสือ คือดูดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนค่ะ
ออกไปตั้งแต่ 6 โมงเช้า กลับมาบ่ายโมงกว่าๆ ลงภาพให้ไว้หน่อยหนึ่ง จะบอกว่าพักในเมืองก็สามารถขับรถขึ้นไปบนนั้นได้ทันแบบสบายๆ นะคะ
แล้วเราจะมาเล่าการล่าเสือให้ฟังแบบละเอียดๆ อีกครั้งหนึ่งในพื้นที่แห่งนี้กันจ้า
ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ
จัดเต็มทุกพื้นที่รีวิว ทุกทริป ที่นี่..
Rinsa Yoyolive
RinSa YoyoLive
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.34 น.