สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอสวัสดีทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านก่อนนะคะ

นี่เป็นรีวิวแรก และเป็นการไปเที่ยวต่างบ้านของเราครั้งแรกค่ะ !

ถ้าผิดพลาดประการใดหรือข้อมูลไม่ครบต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะตอนเขียนค่อนข้างจะหลงๆลืมไปหน่อยค่ะ

เข้าเรื่องเลยดีกว่า ทะแด้มมมม !

เราจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย จองล่วงหน้าหลายเดือนมากในราคา ไปกลับ ไม่ถึง 2000 บาท ลงสนามบินที่โฮจิมินห์ โดยไป 4 วัน 3 คืน

DAY 1 : เราเดินทางถึงเวียดนามใต้ โฮจิมินต์ตอนประมาณ 11.00 กว่าๆ หลังจากนั้น ก็ เตรียมเงิน เพื่อแลกเงิน เวียดนามดอง และซื้อซิมที่สนามบินเลยค่ะ

จากนั้นเราขึ้นรถเมล์สาย 512 สีเขียวๆที่สนามบินไปลงที่ไซง่อน ค่ารถเมล์ประมาณ 5 บาทไทยมั้งถ้าเราจำไม่ผิด หรือที่เรียกๆกันฟามงูหลาว เดินเล่น แถวในนั้น ดูแผนที่แล้วเดินตามแผนที่ เราเที่ยวในเมืองโฮจิมินห์ก่อนวันแรก

หอไปรษณีย์กลางเมืองโฮจิมินห์

โบสถ์นอร์ทเธอดาม

พิพิธภัณฑ์สงครามเวียดนาม

เสน่ห์ของเวียดนามอีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือมอเตอร์ไซค์นั่นเอง ที่นี่ขี่มอเตอร์ไซค์กันเยอะมาก การจราจรเต็มไปด้วยมอเตอร์ไซค์แม้กระทั่งฟุตบาททางเดินก็ขึ้นมา เดินๆไปต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างมากเพราะเราจะได้ยินแต่เสียงบีบแตรทั่วไปหมด ถือว่าเป็นเสน่ห์ของที่นี่เลยทีเดียว



หลังจากเดินเที่ยวก็หาซื้อ ตั๋วรถเมล์นอนไปอีกเมืองคือเมืองดาลัดและเดินหาซื้อทัวร์วันเดย์ทริปที่เมืองดาลัดค่ะ ขออภัยนะคะรูปถ่ายมาค่อนข้างน้อย หลงๆลืมๆ เราขึ้นรถประมาน 23.00 จะถึงเมืองดาลัดประมาน ตี 4 กว่าๆ เราจองที่พักที่ดาลัด 1 คืน ชื่อ โรงแรมทิวลิป ซึงจะมีรถรับส่งไปส่งถึงโรงแรมเลยค่ะ ที่พักที่ดาลัด ราคา 900 บาทไทย เท่ากับประมาณ 488700 VND ขอเล่าเรื่องอาหารที่เวียดนามหน่อยนะคะ ด้วยความที่เราไปถึงบ้านเค้าแล้วอาหารขึ้นชื่อของประเทศเวียดนามก็คือ เฝอ เราเลยเดินหาร้านอาหารเพื่อจะทาน แต่ผลปรากฎว่าเราทานไม่ได้เลย เป็นเพราะรสชาติจืดหรือเราไม่คุ้นกับอาหารประเทศเค้าก็ไม่รู้ แล้วอาหารทุกประเทศรสชาติของผงชูรสเยอะมาก คือทานไปเฝื่อนลิ้นมากๆเลย เข้าเรื่องต่อดีกว่าค่ะ

หลังจากที่เราเช็คอินเข้าที่พัก ที่เมืองดาลัดเรียบร้อย ก็มีไกด์มารับเราที่หน้าโรงแรมที่เราซื้อวันเดย์ทริปกันไว้ ตอนประมาณ 8.00 น พาเที่ยวทั้งวันจนถึง 15.00 น เลยค่ะ


DAY2 : เมืองดาลัด

น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัทไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เรานั่งรถราง(Roller Coaster) ที่ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับการเคลื่อนทีไปตามรางจากด้านบนสู่น้ำตกเบื้องล่าง แทนการเดินลงมาชมน้ำตก ตั๋วไป-กลับ ราคา 45,000 ดอง (68บาท)

ดื่มน้ำเต้าหู้ตอนกลางคืนที่ตลาดดาลัด บรรยากาศดีมาก อากาศจะเย็นๆ เจอคนไทยเยอะมาก ทั้งคนเวียดนามก็พูดภาษาไทยเราได้นะคะ เดินๆ ไปเค้าก็พูด ไก่ย่าง น้ำฟักทอง ไหมครับ เรายังแอบหัวเราะเลย สงสัยเป็นถิ่นคนไทยไปสะแล้วเมืองนี้

ที่ตลาดดาลัดตอนกลางคืนมีถนนคนเดินด้วยนะคะ คล้ายๆถนนคนเดินบ้านเรา อากาศที่เมืองนี้จะหนาวๆ เย็นๆ กว่าเมืองอื่นๆ (เวลาที่ประเทศเวียดนามกับประเทศเราตรงกันเลยนะคะ)

บรรยากาศตอนเช้าที่ตลาดดาลัด ก่อนที่เราจะต้องขึ้นรถเมล์ย้ายเมืองไปที่เมืองมุยเน่


วัดตั๊กลัม (Thien Vien Truc Lam)


DAY3 : มุยเน่

เราเดินทางจากเมืองดาลัดตอนประมาณ 8.00 น. มาถึงมุยเน่ก็เกือบจะบ่ายแล้วเพราะระหว่างทางที่มามีขึ้นเขาด้วยเราจำไม่ได้เพราะเราหลับ ฮ่าๆ เราเลยซื้อวันเดย์ทริปอีกตามเคย ในที่นี้เราไปเจอพี่คนไทยด้วยกัน เราเลยตกลงไปเที่ยวกับพี่ๆ เค้า โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ที่มุยเน่เราพักเป็นโฮลเต็ลไม่ได้จองไว้ด้วย แต่พี่ๆกลุ่มนั้นเค้าจองไว้เลยตกลงพักที่เดียวกัน ในราคาตกคนละ ไม่ถึง 300 บาท

แวะเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงที่เมืองมุยเน่

ไปทะเลทรายขาว เราจะต้องขึ้นรถจิ๊บขึ้นไป เราจำราคาไม่ได้แต่รู้ว่าราคาแพงพอได้ ถ้าคิดเป็นเงินไทยน่าจะตกคนละเกือบ 200 บาท แต่ทำไงได้ก็ต้องขึ้นเพราะเราไม่สามารถเดินขึ้นเองได้ พอขึ้นไปถึงความรู้สึกแบบว่าคุ้มมากที่ได้มา ท้องฟ้า ทะเลทรายขาว กับลมพัดเย็นๆ


ไป fairy stream

หลังจากวันเดย์ทริปจบลงไกด์ทัวร์แนะนำเราไปทานอาหารทะเลเพราะที่นี่อาหารทะเลถูกมาก กินกันแบบอิ่มหนำสำราญ หมดไปไม่ถึง 4000 บาทไทย หารกัน 7 คน แล้วก็เป็นมื้ออาหารที่ทานกับพี่ที่รู้จักกันใหม่ๆแต่อาหารมื้อนั้นเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเลย

เช้าวันถัดมาเราก็นั่งรถนอนจากมุยเน่กลับมาที่โฮจิมินห์นั่งรถเมล์สีเขียว 512 ไปสนามบินเหมือนเดิม เพื่อเดินทางกลับบ้าน

การไปเที่ยวต่างประเทศของเราในครั้งนี้ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทางทั้ง 2 คน ไปลำบากด้วยกันในต่างถิ่นที่ทานอาหารกันไม่ได้เลยแต่นั้นแหละคือมิตรภาพที่หาจากที่ไหนไม่ได้

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านรีวิวเด็กบ้านๆคนนึงนะคะ









กาลครั้งหนึ่ง

 วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.18 น.

ความคิดเห็น