สวัสดีครับ ทริปที่ผมจะมารีวิวในวันนี้เป็นทริปที่ผมได้ไปเมื่อวันที่มาเมื่อวันที่ 24-26 ธันวาคม 2559 ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวฮ่องกงเป็นครั้งแรกในชีวิต โดยการไปกับทัวร์ 3วัน2คืนครับ ซึ่งจุดประสงค์หลักของการไปเที่ยวในครั้งนี้ก็คือการไปไหว้พระขอพรและขอลูกครับ

เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการนั่งแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ พอถึงสนามบินเจอไกด์ทัวร์และเช็คอินเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางไปยังเกททันทีเลยครับแต่ระหว่างทางหิวๆก็เลยหาอะไรรองท้องซักหน่อยก่อนขึ้นเครื่องบิน เมนูที่ผมสั่งเป็นสปาเก็ตตี้ขี้เมา ส่วนของแฟนเป็น ผัดมักกะโรนีกุ้ง รสชาติก็พอได้ แต่ราคาแพงเอาการอยู่ 2จานนี้ปาเข้าไปเกือบ600บาทแล้ว แต่ตอนนั้นมันหิวมากและเดินดูอยู่หลายร้านแต่ไม่รู้จะกินอะไรดีก็เลยต้องตัดใจกินนะครับ


หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เดินไปที่เกทกันเลยครับ


นั่งรอสักครู่พนักงานก็เรียกขึ้นเครื่องครับ ซึ่งทริปนี้ผมบินกับสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์


เครื่องเทคออฟ ประมาณ14.00น. ก็นั่งไปได้ซักพักแอร์ก็นำของกินมาเสิร์ฟ ของผมเป็นขนมปัง,เนื้อปลากับข้าวและไวน์ขาว1ขวด


ส่วนของแฟนสั่งเป็นขนมปัง,เนื้อไก่กับมันฝรั่ง และน้ำส้มครับ


พอหนังท้องตึงปุ๊ปหนังตาก็หย่อนปั๊ปเลย 555 ก่อนนอนก็เลยถ่ายวิวข้างนอกซักเล็กน้อยพอเป็นพิธี


เครื่องแลนด์ดิ้งถึงสนามบิน Chek Lap Kok ประมาณ 16.00น.หลังจากนั้นก็เดนทางไปยังตม.หลังจากผ่านตม.เรียบร้อยก็ไปรอขึ้นรถโค้ช เพื่อเดินทางไปยังเดอะพีค ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดหมายปลายทางสุดแสนประทับใจของฮ่องกง


หลังจากนั่งรถโค้ชเสร็จเราก็จะเดินทางมารอขึ้นพีคแทรม ซึ่งการขึ้นไปสู่เดอะพีคโดยรถรางจะใช้เวลาประมาณ7นาที อยากจะบอกว่าคนรอรถรางคนเยอะมากๆและตอนรถรางมาถึง เวลาเราจะขึ้นรถจะมีแรงดันแรงเบียดจากทุกทิศเลย แบบว่าแย่งกันขึ้นรถ ขนาดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆดันซะผมเซเลยไม่รู้จะรีบอะไรกันขนาดนั้น 555


เมื่อขึ้นมาถึงข้างบน ถึงเดอะพีคจะไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดแต่ก็ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด เพราะสามารถมองเห็นวิวของเกาะฮ่องกงได้ทั้งหมด ได้เห็นสีสันไฟยามค่ำคืนของผั่งเกาลูน ซึ่งวันที่ผมไปข้างบนอากาศหนาวมากๆ ถ่ายรูปไปมือสั่นไป บางทีถ่ายๆอยู่ลมมาทั้งแรงและเย็นจนน้ำตาผมไหลเลย ที่จริงผมถ่ายรูปตอนอยู่ข้างบนเยอะเลยแต่ส่วนมากเป็นรูปเดี่ยวของแฟนกับรูปคู่ผมเลยไม่ได้เอามาลงให้ชมกันครับกลัวจะเสียอรรถรส อิอิ


หลังจากเดินถ่ายรูปเล่นซักพักก็ได้เวลาเข้าที่พักแล้วครับ ทริปนี้ผมนอนที่โรงแรม STANFORD HOTEL อยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งย่าน Mongkok ครับ


หลังจากเก็บของเสร็จก็ได้เวลาออกไปเดินเล่นกันแล้ว ผมก็เดินแถวๆที่พักนั้นแหละไม่กล้าไปไกลกลัวหลงทาง แฮะแฮะ


เดินไปซักพักก็มีน้องคนนี้เดินเข้ามาแจกถุงยางให้ผม สงสัยเห็นผมหน้าหื่นแน่ๆเลย555

เดินๆอยู่ก็เจอรถขายไอติมประจำชาติของฮ่องกง Mobile Softee ก็เลยไม่รอช้าเข้าไปต่อแถว จัดมา1โคนลองเชิงก่อนครับ แต่ความรู้สึกหลังจากได้ลองชิมแล้วผมว่ารสชาติมันธรรมดาๆอะครับเลยไม่ได้ซื้อเพิ่ม

หลังจากนั้นก็เดินหาอะไรกินเล่นก่อนที่จะเดินกลับเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อนครับ

หลังจากนั้นก็เดินกลับโรงแรมด้วยความทรมานเพราะท้องแน่นมากๆ และพอมาถึงโรงแรมก็เข้านอนเพื่อเตรียมตัวออกไปไหว้พระในวันรุ่งขึ้นต่อครับ


สำหรับทริปของวันแรกก็หมดเพียงเท่านี้ครับ ผมขอเวลาทำส่วนของวันที่2และวันที่3สักพักนะครับแล้วเจอกันครับมาต่อวันที่2กัน เริ่มจากตอนเช้าก็ลงมาทานอาหารเช้าข้างๆโรงแรมเป็นโจ๊กร้อนๆกับติ่มซำ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปมา เนื่องจากพอพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟก็มีแต่คนตักกินกันอย่างรวดเร็วมากๆจนถ่ายไม่ทันกันเลยทีเดียว T_T หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็นั่งรถไปขึ้นกระเช้าNgong Ping 360 พอไปถึงก็เห็นคนรอขึ้นกระเช้าเยอะมาก

และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นกระเช้าแล้วครับขาไปนั่งกระเช้าแบบธรรมดาครับ


ใช้เวลาเดินทาง25นาทีก็ถึงแล้วครับ


หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าเพื่อไปไหว้องค์พระใหญ่(Tian Tan Buddha) เดินเข้าไปเรื่อยๆจะเจอจุดรับพรจากองค์พระใหญ่ เป็นลานกว้างพื้นปูด้วยกระเบื้องเป็นลักษณะวงกลมและมีจุดศูนย์กลางอยู่กลางวง จุดนี้เรียกว่าจุดประธานพร ถือว่าเป็นจุดขอพรที่ดีที่สุด สำหรับยืนไหว้อธิษฐานขอพรโดยให้หันหน้าไปทางพระใหญ่


หลังจากไหว้ขอพรข้างล่างเสร็จแล้ว เราก็เดินขึ้นไปนมัสการองค์พระใหญ่กันครับ ทางขึ้นไปไหว้พระใหญ่ จะต้องเดินขึ้นบันได268ขั้น ถึงจะดูเหนื่อยแต่ที่จริงแล้วมันก็เหนื่อยจริงๆครับ555 เดินขึ้นไปถ่ายรูปไปกว่าจะถึงก็เล่นซะผมหอบเหมือนกัน ส่วนการเดินขึ้นเราจะขึ้นทางด้านขวาและตอนลงจะต้องลงทางด้านซ้ายนะ


เมื่อเดินมาถึงข้างบนแล้วก็ขอบอกว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยมากๆ


ซูมใกล้ๆหน่อยครับ


บริเวณรอบๆฐานขององค์พระจะมีรูปปั้นเทพธิดาคล้ายกับถวายสิ่งของเครื่องสักการะให้พระท่าน


หลังจากไหว้ขอพรเสร็จก็เดินถ่ายวิวรอบๆองค์พระก่อนที่จะเดินทางลงข้างล่างกันครับ


ก่อนเดินลงขอจัดอีกซักรูปครับ


หลังจากเดินลงบันไดเสร็จก็มุ่งหน้าไปกระเช้านอนปิงเพื่อลงไป จุดหมายต่อไป ตอนขากลับผมได้นั่งกระเช้าคริสตัลครับพื้นล่างเป็นกระจกล้วน สวยไปอีกแบบ


หลังจากลงมาถึงข้างล่างผมก็ดูเวลาก็ปาเข้าไปบ่าย2กว่า ผมก็รีบเดินไปที่ Citygate Outlet Mall อย่างรวดเร็ว แต่ช่วงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เพราะคนเยอะมาก+กับหิวมากๆเพราะยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ก็เลยรีบเดินไปหาของกิน เดินไปเดินมาไม่รู้จะกินอะไรแล้วพอดีเห็นร้านนี้พอดี แต่ผมไม่ทราบว่าชื่อร้านอะไรนะครับ แต่เห็นคนเยอะดีก็เลยเข้าไปนั่ง หลังจากดูเมนูซักพักก็สั่งเลยครับ เมนูที่สั่งก็จะมี แกงกะหรี่เนื้อ


เป็ดย่าง อยากจะบอกว่าเป็ดย่างอร่อยมากๆ มันๆฉ่ำๆเลยครับ


บะหมี่หมู รสชาติจืดมากๆๆๆ ปรุงเท่าไหร่ก็ไม่อร่อยซักที ส่วนหมูก็แข็งมากแบบว่าปาหัวหมาแตกได้เลย 555


และก็มีเกี๊ยวกุ้ง กุ้งตัวโต น้ำซุปก็หอมดี สนนราคาทั้งหมด 264 HKD


พอกินเสร็จก็ไปเดินย่อยกันที่ Citygate ครับ เดินเล่นรอเวลากลับโรงแรม หลังจากถึงโรงแรมก็นอนพักผ่อนซักตื่น พอค่ำๆก็ออกไปหาอะไรกินต่อ


เมนูที่แฟนผมสั่งเป็นบะหมี่ลูกชิ้นปลา ราคา 30 HKD
ส่วนของผมสั่ง บะหมี่เกี๊ยวลูกโตๆ อร่อยดีครับ ราคา 36 HKD
สุดท้ายสั่งเนื้อตุ๋นอีกอย่าง เนื้อตุ๋นตัวทีเด็ดเลย เนื้อนุ่มๆหวานๆมันๆฉ่ำๆ เมนูนี้ทำให้ผมฟินเลย อิอิ ส่วนสนนราคาก็คือ 65 HKD
หลังจากอิ่มของคาวก็ถึงเวลาหาของหวานกระแทกปาก เดินไปเจอร้านไอติมอยู่ร้านนึงเห็นน่ากินดี ผมก็เลยจัดไอติมนูเทลล่าไป1ถ้วย ราคาแพงเอาการอยู่ครับ 1ถ้วยตั้ง 45 HKDแนะ ยังดีที่มันอร่อยก็เลยมีความรู้สึกเสียดายเงินน้อยลง
หลังจากนั้นก็เดินช็อปที่ Lady Market เล็กน้อยก่อนเดินทางกลับโรงแรม ก่อนนอนก็เลยนั่งกินเป็ดย่างที่เหลือจากเมื่อตอนกลางวัน
พอซัดเบียร์เย็นๆกับเป็ดหมดก็ถึงเวลานอนเก็บแรง เพื่อรอเริ่มภารกิจสำคัญซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักที่มาเที่ยวในครั้งนี้ ในตอนเช้าของวันที่3มาต่อวันที่3กันครับ เริ่มต้นด้วยหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็นั่งรถไป Repulse Bay Beach เพื่อไปสักการะขอพร เจ้าแม่กวนอิมกับเจ้าแม่ทับทิม และเทพเจ้าต่างๆ

ตอนนี้มาถึงทางเข้าวัดแล้วครับ

หลังจากเดินเข้ามาในวัด ก็จะเจอเจ้าแม่กวนอิมอยู่ทางซ้ายมือ องค์เจ้าแม่กวนอิมท่านสามารถขอพรได้ทุกเรื่อง แต่ให้ขอพรครั้งละ1เรื่อง


หลังจากสักการะเจ้าแม่กวนอิมเสร็จ ด้านข้างๆองค์เจ้าแม่ก็จะมีรูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ วิธีการไหว้ขอพร คือ ให้เอาแบงค์ร้อยหรือแบงค์พัน มาลูบตั้งแต่ศรีษะของท่านผ่านหน้า มาถึงลำตัวและถุงเงินของท่านจากนั้นก็เก็บแบงค์นั้นเอาเข้ากระเป๋าไว้เป็นเงินขวัญถุง คล้ายกับเป็นการเอาเงินทองเข้ากระเป๋านั่นเอง


องค์ต่อมาเป็นองค์พระสังกัจจายน์ หรือองค์พระยิ้ม ถ้าหากท่านใดที่มีลูกยาก หรืออยากมีลูก ให้มาขอพรที่องค์นี้ได้เลย วิธีขอพร ให้ลูบท้องขององค์พระ ท่านใดที่อยากได้ลูกชายให้ลูบท้องด้านขวาที่มีเด็กผู้ชาย ส่วนท่านที่อยากได้ลูกสาวให้ลูบด้านซ้ายที่มีเด็กผู้หญิงนะ ผมไม่รอช้ารีบไปไหว้ขอลูกและก็รูปท้องขององค์ท่านเลยครับ (เพราะมันเป็นจุดประสงค์หลักของการมาฮ่องกงในครั้งนี้อยู่แล้ว)


หลังจากไหว้ขอลูกเสร็จเรียบร้อยเราก็จะไปสักการะ องค์เจ้าแม่ทับทิมต่อครับ เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ในอดีตคนฮ่องกงที่มีอาชีพทำประมงเป็นหลัก จึงนับถือเจ้าแม่ทับทิมกันอย่างมาก ท่านเป็นเทพที่ครุ้มครองด้านความปลอดภัยในการเดินทาง เราก็จะขอพรให้เดินทางไปที่ต่างๆโดยแคล้วคลาดปลอดภัยจากอุบัติเหตุ


เดินต่อเข้ามาถึงสะพานอายุยืน โดยคนจีนเชื่อกันว่าหากเดินข้ามไปจะมีอายุยืนขึ้นอีก 3 ปี โดยการก้าวขึ้นให้ก้าวเท้าซ้ายขึ้นสะพานก่อนเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง เมื่อข้ามไปแล้วห้ามเดินข้ามกลับมาเด็ดขาด ส่วนเวลากลับให้เดินกลับทางเดินของอีกฝั่ง


หลังจากข้ามมาแล้วก็จะเจอรูปปั้นเด็กขี่ปลามังกรสีเหลืองตั้งอยู่ มีความเชื่อกันว่าหากเราโยนเหรียญเข้าปากของปลาได้ คำอธิษฐานที่ขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมและเจ้าแม่ทับทิมไว้ก็จะเป็นจริง


หลังจากเสร็จจากหาดรีพลัสเบย์แล้วเราก็นั่งรถต่อไปยังวัดหวังต้าเซียนหนึ่งในวัดที่โด่งดังแห่งหนึ่งของฮ่องกง เทพซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อไปนมัสการเทพเจ้าหวังต้าเซียน


เมื่อเดินเข้ามาจะพบนักษัตร 12 ตนครับ


เมื่อเดินต่อเข้ามาอีกก็จะพบจุดไหว้ขอพรครับ


ส่วนตรงนี้เป็น เทพเจ้าแห่งความรัก จุดนี้จะสำคัญสำหรับคนที่ไม่มีคู่ จุดนี้จะมีรูปปั้นเจ้าบ่าว เจ้าสาวถือด้ายแดงอยู่ด้วย จุดนี้จะมีป้ายกำกับวิธีการไหว้และการขอพรไว้บริการ โดยเราจะต้องทำมือทำนิ้วให้เป็นสัญลักษณ์ตามที่ป้ายกำกับไว้ เมื่อเราทำมือได้ตามรูปแล้วก็ให้เราเดินไปหยิบด้ายสีแดงมาวางไว้ตามรูปเช่นกัน


สำหรับผู้หญิง :ไหว้ที่องค์เทพเจ้า 3 ครั้ง จากนั้นเดินไปด้านข้างจะมีรูปปั้นเจ้าสาวอยู่ ให้อธิษฐานขอคู่ เมื่อแล้วเสร็จไหว้ 3ครั้ง และเดินกลับมาที่รูปปั้นเจ้าบ่าว ใช้มือลูบที่เท้า 3ครั้ง โดยที่มือที่ทำเป็นรูปตามป้ายห้ามคลายเด็ดขาด (หลังจากเสร็จแล้วให้ปล่อยมือออก) และใช้ด้ายสีแดงผูกไว้ที่เชือก เมื่อเรียบร้อยแล้วเป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับผู้ชาย :ไหว้ที่องค์เทพเจ้า 3 ครั้ง จากนั้นเดินไปด้านข้างจะมีรูปปั้นเจ้าบ่าวอยู่ ให้อธิษฐานขอคู่ เมื่อแล้วเสร็จไหว้ 3ครั้ง และเดินกลับมาที่รูปปั้นเจ้าสาว ใช้มือลูบที่เท้า 3ครั้ง โดยที่มือที่ทำเป็นรูปตามป้ายห้ามคลายเด็ดขาด (หลังจากเสร็จแล้วให้ปล่อยมือออกได้) และใช้ด้ายสีแดงผูกไว้ที่เชือก เมื่อเรียบร้อยแล้วเป็นอันเสร็จพิธี

หลังจากเสร็จจากวัดหวังต้าเซียนเราก็ไปต่อกันที่วัดสุดท้ายของทริปนี้กันครับ วัดที่เราจะไปก็คือวัดแชกงหมิว หรือวัดกังหัน วัดนี้มีกังหันทองแดงที่เชื่อว่าถ้าหมุน 3 รอบจะขับไช่สิ่งชั่วร้ายและนำแต่สิ่งดีๆมาให้


เมื่อเข้ามาถึงวัดก็จะเจอที่จุดธูปบูชาก่อนที่จะเข้าไปภายในวัด
พอไหวเสร็จก็เดินเข้ามาไหว้ เทพเจ้าแชกุง ที่ประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ สูงใหญ่น่าเกรงขามมาก
จากนั้นก็ไปหมุนกังหัน เป็นไฮไลต์อีกอย่างที่ต้องไม่พลาด การหมุนกังหันให้ถูกวิธี ให้หมุนตามเข็มนาฬิกา 3รอบ "ไม่หมุนทวนเข็ม" หลังจากหมุนครบแล้ว ให้ตีกลอง3ครั้ง สำหรับกระดาษไหว้เจ้า ให้นำไปใส่ในรถเข็น มีจุดใส่อยู่บริเวณด้านหน้า ให้นำไปวางในรถได้เลย โดยที่จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยนำไปทำพิธีให้ เป็นอันเสร็จพิธี
หลังจากไหว้เสร็จเรียบร้อยเวลาที่เหลือทางทัวร์ก็นำผมไปเดินเล่นที่ถนนนาธานต่อ แต่ช่วงนี้ผมไม่ได้ถ่ายรูปเลยครับ งั้นผมก็ขอจบการรีวิวสำหรับการเที่ยวฮ่องกงไว้เพียงเท่านี้นะครับ สามารถติดตามรีวิวอื่นๆของผมได้ที่ https://www.facebook.com/GourmetMonsters/ ขอบคุณมากๆครับ

Gourmet Monster

 วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.14 น.

ความคิดเห็น