ทริป..เสียมเรียบ….ด่วน!!!! !
ทริปนี้เป็นทริปที่วิ่งเข้า หัวภาวิณี ตอนสิบโมงวันพุธ
เวลาสิบโมงสองนาที ภาวิณีตอบตัวเองว่า "ไป" ใช่!! ในสองนาทีนั่นแหล่ะ
ใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายหาข้อมู ลการเดินทาง อ่านรีวิว เฮ้ยมันดูไม่ยากนี่นา แต่ต่อให้ยาก เอ็งก็ตัดสินใจไปแล้วนี่

19.11.16 วันเสาร์ วันเดินทาง
เราขึ้นรถตู้ที่หน้าฟิวเจอร ์ ตั้งแต่เช้ามืด แต่รถออกจริงๆก็หกโมงครึ่ง เพื่อนร่วมทางสัญชาติกัมพูชาเต็มคัน
เบาะหน้าด้านหลังคนขับถูกกั นไว้หนึ่งเบาะเพื่อวางสัมภาระ รวมทั้งเป้ North face ของเราที่ถูกวางทับด้วยถุงสายรุ้งใบใหญ่ เรานั่งมองมันจากเบาะหลัง โดยไม่รู้ว่าทริปนี้จะเป็นทริปปลดประจำการของมัน เพราะทันทีที่เท้าเราก้าวเข้าเขตกัมพูชาสายสะพายมันก็ขาด เป็นเหตุให้เราต้องประคบประหงมเพื่อนยากของเราใบนี้ไปตลอดการเดินทาง
เกือบสิบเอ็ดโมงเราผ่านด่าน ตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตอย่างง่ายดาย โดยไม่เสีย หนึ่งร้อยบาท เป็นค่าผ่านทาง อย่างหลายๆรีวิวเตือนไว้
แต่เดี๋ยวก่อน "เรื่องยากมันยังมาไม่ถึง ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มา" ทันทีที่เราเข้ากัมพูชาอย่า งเต็มตัวเราก็โดนห้อมล้อมด้วยคนขับ แท็กซี่ชาวกัมพูชาที่พยายามดีลให้เราใช้บริการเขา เข้าตัวเมืองเสียมเรียบ
นึกภาพผู้หญิงเอ๋อๆคนนึง ถูกล้อมด้วยผู้ชายหน้าตาทมิ ฬ ห้าหกคน ทั้งหมดพูดเป็นแพทเทรินเดียวกัน "ห้าร้อยคันนี้ออกเลยไม่ต้องรอ" เรายังยืนยันว่ารอผู้โดยสารคนอื่นได้ แต่ทั้งหมดไม่ยอมสิ้นหวังกับเรา ห้านาทีแห่งการดีลผ่านไป ยังไม่มีดีลไหนสำเร็จ ความเครียดและความกดดันวิ่งอยู่ในหัว ร้อนก็ร้อน ถ้าคนขับสักคน จะแหวกทางให้เราเดินไปที่ร่มๆสักนิด ดีลนี้อาจง่ายขึ้น
เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมง ค์ เราเห็นผู้ชายสองคนลักษณะเหมือนนักท่องเที่ยว เราจึงรีบเดินไปหาทั้งสองทันที โชคดีต่อที่สอง น้องทั้งสองเป็นคนไทย มาทำงานที่เสียมเรียบและนัดแท็กซี่ไว้แล้ว ตอนนี้เป็นหน้าที่เราดีลขอแชร์แท็กซี่กับน้องทั้งสองแทน ในที่สุดก็ได้เพื่อนร่วมทางเข้าเสียมเรียบ
ขอบคุณน้องกอล์ฟและน้องดัมพ ์ที่ไม่ดูดายพี่ ส่งพี่ถึงที่พักอย่างปลอดภั
บ่ายสองโมงเราถึงที่พัก แบบไม่มีพลังจะไปไหน..ขอพัก ซักชั่วโมงก่อน คิดแค่นั้นแล้วหลับไป
.....สอง ชั่วโมงผ่านไป......
แผนการเที่ยวในเมืองถูกพับไ ป เรามีเวลาเหลือพอแค่ไปซื้อตั๋วเข้านครวัดในวันรุ่งขึ้น และชมพระอาทิตย์ตกที่พนมบาเค็งเท่านั้น
วันแรกผ่านไปด้วยดี เราลงชื่อแชร์ทัวร์นครวัดกั บโฮสเทลในวันพรุ่งนี้ แม้ต้องตื่นแต่ตีสามเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องยากในการเข้านอนไวในวันที่เพลียจนสติแทบหลุด.....

20.11.16 See Angor Wat and die
มหาชนอยู่เต็มพื้นที่รอบบึง หน้าตัวปราสาทนครวัดแล้ว เมื่อเราไปถึง จุดนี้คงเป็นจุดที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปเมื่อดูจากปริมาณฝูงชน เรา ซึ่งประกอบด้วย ภาวิณี ซิซีเลียจากบราซิล และนิด้า สาวอเมริกัน รวม สามคน ผู้ร่วมแชร์ทัวร์ ตุ๊กๆวันนี้ ซิซีเลีย และนิด้า ต่างเดินทางคนเดียวในตอนแรก และตัดสินใจเดินทางด้วยกันเมื่อทั้งคู่พบกันที่เชียงใหม่
เอาล่ะ! กลับมาที่ริมบึงต่อ ช่างภาพโปรบ้างสมัครเล่นบ้า ง จับจองพื้นที่เต็มหมดแล้ว ภาวิณีเลยถอยมายืนห่างๆ รอพระอาทิตย์ขึ้นอย่างเงียบๆ เหงาๆ ไม่ไกลฝูงชน อากาศไม่เป็นใจมากนัก มีเฆมก้อนใหญ่ดำทะมึนบังแสงแรกของพระอาทิตย์ในวันนี้ ภาวิณีจึงตัดสินใจเดินไปต่อทันทีเมื่อเริ่มสว่าง
"See Angor Wat and die" เกินจริงไหม? คงไม่เกินจริงสำหรับ Arnold Toynbee เจ้าของ ๆ quote นี้
แต่สำหรับภาวิณี อืมมม... เราชอบอุทยานประวัติศาสตร์ท ี่อยุธยามากกว่านะ ชาตินิยมชะมัด!
ทัวร์ของเราเรียกว่า "small tour" ไปตามจุดสำคัญต่างๆในบริเวณ นครวัด เช่น ปราสาทบายน, ตาแกว, ตาพรหม, elephant terrace และอีกสองสามที่ ใช้เวลาทั้งหมด หกชั่วโมง
อากาศเริ่มร้อนประกอบกับการ ปีนขึ้นลงหลายๆวัด ทำให้เราเริ่มล้า จนนึกขอบคุณคนวางโปรแกรมที่ใช้เวลาแค่หกชั่วโมงก็ครบทุกๆสถานที่สำคัญ เที่ยงวันเราทั้งหมดกลับมาสลบที่โฮสเทล
ทุ่มเศษๆซิซีเลียมาเคาะห้อง พร้อม Angor Beer ในมือหนึ่งขวด เอ่ยชวนภาวิณีขึ้นไปชิล บนรูฟท็อปของโฮสเทล บนรูฟท้อป นิด้าและสมาชิกอีกคน ลิเวียสาวบราซิลนั่งจิบเบียร์กันอยู่แล้ว พวกเราคุยกันออกรสชาติเมื่อพูดถึงการท่องเที่ยว และเมื่อเบียร์ขวดแรกของทุกคนหมดลง เราตัดสินใจไปหาร้านนั่งต่อบริเวณ Pub street ที่อยู่ไม่ไกลโฮสเทลพวกเรามากนัก
ซิซีเลียเป็นคนเลือกบาร์ที่ ชื่อ Temple Bar เพื่อนั่งดื่มต่อ แม้จะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้าง ที่ต้องเข้าวัดเพื่อดื่มเบียร์ แต่เอาเถอะ อาจเป็นประสบการณ์ใหม่ก็ได้
บรรยากาศผับบาร์เสียมเรียบไ ม่ได้ต่างจากข้าวสารบ้านเราเท่าไหร่ หลังจากหมดเบียร์ไปจำนวนหนึ่ง พวกเราย้ายตัวเองไปแดนซ์ชนิดลืมตายบนฟลอร์แทนการนั่งชมบรรยากาศจากคนเดินถนน จากคนแปลกหน้าเมื่อเช้า ตอนนี้พวกเรากอดคอกันเต้นราวกับรู้จักกันมาทั้งชีวิต...........ประสบการณ์ใหม่จริงๆ
เราร่ำลากันเมื่อกลับถึงโฮส เทล ร่างภาวิณี พร้อมขนานไปกับเตียงแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางกลับอีก

21.11.16 กลับบ้าน!!!!
รถบัสที่จองไว้ตั้งแต่เมื่อ วานมารับตอนเจ็ดโมงครึ่ง ขับวนรับผู้โดยสารทั่วเมืองจนเต็มคัน ทุกคนมีจุดหมายเดียวกันคือประเทศไทย ฝรั่งเต็มความจุ มีภาวิณีคนเดียวที่เป็นคนไทยและกำลังจะกลับบ้าน
ระหว่างทางรถพักจุดเดียวให้ ผู้โดยสารทำธุระส่วนตัว เป็นห้องน้ำที่อยู่หลังร้านค้าแห่งหนึ่ง ให้บริการฟรีแค่ช่วยซื้อของบ้างเท่านั้น
ห้องน้ำเป็นส้วมซึมเรียงกัน หกห้อง พอเปิดประตูเข้าไปก็ผงะ!! ฝรั่งไม่มีส้วมซึม คงไม่รู้ว่าต้องราดน้ำหลังจากทำธุระเสร็จ สีเหลืองอำพันพร้อมฟองลอยบางๆ มีแต่กลิ่นเท่านั้นที่แนะนำตัวเองว่า "ฉันไม่ใช่ อังกอร์เบียร์" ตั้งแต่เช้าแกคงพบปะผู้คนมามากพอควร เอาล่ะฉันจะไม่ซ้ำเติมแก คลื่นไส้ไหม๊...แน่นอน! แต่จะดีกว่าถ้าภาวิณีกลั้นหายใจ แล้วกลืนแซนวิชที่กินมาก่อนขึ้นรถลงกระเพาะไปตามเดิม แล้วเดินทางต่อ
สี่โมงเย็นภาวิณีถึงบ้าน ไม่จำเป็นต้องนับชั่วโมงการ เดินทาง ......จำแค่ชั่วโมงที่มีความสุขจากการได้เดินทางก็พอ.........


ความคิดเห็น