[ตอนที่ 1]

สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิป ยังคงเป็นมือใหม่หัดรีวิวเหมือนเดิม หลังจากหัดไปแล้ว 3-4 กระทู้



[ตอนที่ 2] >>> ตะลุย Switzerland ล้วนๆ ตามลิ้งค์ครับ >>>>> http://pantip.com/topic/33758190

[ตอนที่ 3] >>> 15 แอพสุดคูล พาเที่ยวยุโรป >>> http://pantip.com/topic/33922875



>> เมืองในฝัน Hallstatt :: http://pantip.com/topic/33579821

>> เมืองเล็กน่ารัก Cesky Krumlov, Czech : http://pantip.com/topic/33632682

>> Rothenburg ob der Tauber, Germany :: http://pantip.com/profile/439878

>> สุดโรแมนติค Prague, Czech :: http://pantip.com/topic/33523043



วันนี้มารีวิวทริปยุโรปที่ผ่านมาเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2558 ที่ผ่านมานี่เองครับ ทั้งหมด 21 วัน 8 ประเทศ... หลังจากหาข้อมูลอยู่นานก็สรุปได้ 8 ประเทศที่ว่า มีเยอรมัน เชค สโลวาเกีย ฮังการี ออสเตรีย อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อาจจะดูเยอะไปนิดนึง แต่เลือกเอาเมืองที่อยากไป และสถานที่สำคัญต่างๆ



....นี่เป็นครั้งแรก ที่เที่ยวคนเดียวในยุโรป...ดังนั้น การหาข้อมูลต่างๆ ก่อนไปก็สำคัญเหมือนกัน แต่ไม่ต้องถึงกับทั้งหมด แต่พอเอาเข้าจริง ตอนไปถึงนั้น มันง่ายมาก...แค่สังเกตุ แล้วก็ไม่ต้องอายครับ เช่น การซื้อตั๋วรถไฟจากตู้อัตโนมัติ ตอนแรกผมก็กล้าๆ กลัวยืนมองซักพัก...ที่ไหนได้เจ้าถิ่นบางคนยังงงกะเครื่องเลย....ดังนั้น ไม่อายละครับ...แต่เลือกตู้ที่คนน้อยๆ ละกัน เกรงใจคนมาต่อหลังเรา ^^



ซึ่งในช่วงแรก แต่ช่วงหลังไปเจอกับแฟนที่เดินทางมาสบทบครับ เหนื่อยหน่อยแต่สนุกมากครับ ได้เจอเพื่อนใหม่ ประสบการณ์ ทั้งน่าจดจำ และไม่น่าจดจำ(บางเรื่อง นิดหน่อย) สรุปว่า ....ประทับใจกับทริปนี้มากกกก ถึงมากที่สุด....



ตอนแรกกะจะทำรีวิวไว้ดูเอง...แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เอามาแชร์ให้เพื่อน pantip เลย เพราะว่าหลายๆข้อมูลก่อนไป ผมก็ได้จากที่นี่...ขอบคุณพันทิปมากครับ...



สถานที่แต่ละแห่ง อาจมีหลายคนรีวิว อยู่แล้วนะครับ ผมว่าการเดินทางของแต่ละคนมักจะไม่เหมือนกัน ต่างการเดินทางต่างประสบการณ์ ต่างมุมมอง ก็เอาไว้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมตัดสินใจละกันครับ พอดูหลายๆกระทู้เข้า อาจจะเริ่มเห็นภาพ...แต่บางคนอาจมีมึน



การเดินทาง


ส่วนใหญ่เป็นรถไฟ Rail Europe เพราะผมจัดการซื้อ Rail pass ตั้งแต่เมืองไทย...

> Eurail Global Pass 15 days แถม 2 วัน (ช่วงนั้นมีโปร) รวม 17 วัน

> Swiss Pass Flex 4 days

รวมทั้งหมด 21 วันพอดีกับทริป ใช้คุ้มมาก...

> ส่วนเที่ยวในเมือง ก็เดินซะส่วนใหญ่ จะได้ทั่วๆ ขึ้นรถรางบ้าง ไฟฟ้าบ้าง เมล์บ้าง แต่น้อยครับ



งบประมาณ ::

เอากลมๆตกอยู่ประมาณ 98,xxx บาท สำหรับ 21 วัน รวมทุกอย่าง! ทั้งตั๋วเครื่องบิน

(ป้าเอื้องเรานี่แหละครับ Direct มันไปเลย ลงที่มิวนิค กลับที่ซูริค ) รถไฟ กินเที่ยว เปรี้ยววว

แบบชิลๆ...ค่าใช้จ่ายมาพุ่งปรี๊ด ที่สวิสนี่แหละครับ ทุกอย่างแพงหมด... - -" มีปาดเหงื่อ...

อีกเหตุผลที่ไม่ถึงแสน นั้น เพราะค่าเงินยูโร ช่วงนั้นอ่อนสุดในรอบ 11 ปี และค่าเงินบาทก็แข็งใช่เล่น ดังนั้น ผมจึงได้ลดราคาแบบฟรีๆ 20% เที่ยบกับ 1 ปีก่อนหน้า....ดังนั้น ใครมีแผนอยู่แล้ว จับจังหวะค่าเงินอ่อน ให้ดีๆ ละกันนะครับ จะได้ลดราคาอีก ^^



อาหารการกิน :

มื้อเช้า ส่วนใหญ่ขนมปังกับกาแฟ ไม่ค่อยจะกินที่โรงแรม ซึ่งตกหัวละ 10-15 ยูโร ...เพราะผมออกแต่เช้า อยากกินอาหารแบบร้านข้างทาง อะไรแบบนั้น ....ทั้งวันก็จัดกาแฟไป 3-4 แก้ว...เที่ยงก็ปกติครับ แต่มื้อเย็นนี่จะหนักหน่อยจัดเต็มที่ เบียร์ ไวน์ อาหารท้องถิ่น



ที่นอน : ส่วนนี้ช่วยผมประหยัดได้เยอะ โฮสเทลบ้าง โรงแรมบ้าง ต้องบอกว่าโฮสเทลในยุโรปนี่ถือว่าค่อนข้างดีมาก สะอาด เป็นระเบียบ ได้เจอเพื่อนใหม่ต่างชาติเยอะ สนุกเลย...^^ เมื่อยมือ....ใช้มือช่วยคุย ^^ แต่มิตรภาพ เกิดขึ้นได้ทุกแห่ง คอนเฟิร์ม ....งั้นมาเริ่มเดินทางกันครับ แปะแผนที่มาก่อนเลย

แต่อย่าเพิ่งตกใจกับแผนที่นะครับ มันแปลกๆ วนไปวนมา งงๆหน่อย เพราะผมมีเปลี่ยนแผนการเดินทางตลอด...^^

จริงๆ แล้ว Rothenburg & Budapest อยู่นอกเหนือจากแผนครับ มาตัดสินใจเอาดาบหน้า...เลยดูไกลๆ ไปนิดนึง

ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ผมเที่ยวสวิส ก่อนเดินทางกลับ ...จึงวางแผนไว้วันท้ายๆ จะอยู่สวิสเป็นหลักครับ...



เส้นสีน้ำเงินดอทๆ กะจุดน้ำเงิน หมายถึง วันเดย์ทริปนะครับ ไป-กลับนอนที่เดิม

แผนการเดินทางจริง :: Bangkok > Munich > Rothenburg > Prague > Vienna > Cesky Krumlov > Hallstatt > Budapest > Colmar > Strasbourg > Baden > Brig(Zermatt, Matterhorn) > Venice > Montreux > Lausanne > Geneva > Bern > Lucerne (Engelburg, Titlis) > Winterthur > Stein am Rhein > Zurich > Bangkok



ส่วนแผนการเดินทางที่วางไว้ตั้งแต่ต้น ลองดูนะครับว่าต่างกันตรงไหน ...^^

Bangkok > Munich > Prague > Vienna > Cesky Krumlov > Salzburg > Munich > Strasbourg > Colmar > Baden > Brig ( Matterhorn > Venice > Bern > Lucerne (Titlis) > Zurich > Stein am Rhein > Zurich > Bangkok.



ผมขอแยกกระทู้ แต่ละเมืองออกไปนะครับ เพราะกะว่าจะรีวิวให้ละเอียดขึ้น ให้เห็นภาพ จะได้เลือกไปได้ถูก...เดี่ยวรวมที่เดียวจะยาวไปครับ



>> [ตอนที่ 2] ตะลุย Switzerland ล้วนๆ :: http://pantip.com/topic/33758190

>> เมืองในฝัน Hallstatt :: http://pantip.com/topic/33579821

>> เมืองเล็กน่ารัก Cesky Krumlov, Czech : http://pantip.com/topic/33632682

>> Rothenburg ob der Tauber, Germany :: http://pantip.com/profile/439878

>> สุดโรแมนติค Prague, Czech :: http://pantip.com/topic/33523043



งั้นมาเริ่มกันครับ



Day 1 (Mar.16, 2015) >>> Bangkok - Munich, Germany ลัดฟ้าสู่มหานครมิวนิค



ต้องยอมรับก่อนเลยว่า เหตุผลที่มาลงที่นี่เพราะ ตั๋วถูก ไฟลท์เยอะ...ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวที่นี่มากนัก กะว่าจะเดินเล่นในเมืองนิดๆหน่อยๆ พักผ่อนหลังจากนั่งเครื่องนาน จะได้ลุยต่อ....แต่พลิก เมืองนี้สวยมาก ทั้งสถาปัตยกรรม และคนก็ใจดี มาถึงเห็นผมเงอะๆ งักๆ จากสนามบิน จะเข้าเมืองยังไงล่ะเนี๊ยะ ....มีหญิงมีอายุ มาถามมีอะไรให้ช่วยรึป่าว...แค่เริ่มก็ประทับใจละครับเห็นหอคอยที่ไหนเป็นต้องขอขึ้นทุกที่ จะได้เห็นภาพมุมสูงรอบๆ ไม่ผิดหวังจริงๆ


บริเวณ Town Hall ย่านกลางเมืองเลย...

หลังจากลงเครื่องหกโมงเช้า เอากระเป๋าเก็บโรงแรม แล้วก็ออกมาเลย ไม่ต้องพักกันละ......หิวมาก มาเจอร้านนี้พอดี


เจ้าของร้านแนะนำ ไส้กรอกลูกวัว (สีขาวๆ) อร่อยมาก...

เสร็จก็เดินต่อเลยครับ ใครมามิวนิค ก็ต้องไม่พลาดที่นี่ Munchen Residenz ลองเข้าไปดูครับ สวยอีกละ




Day 2 (Mar.17, 2015) >> Rothenburg ob der Tauber.



มีเวลาในเยอรมัน 2 วัน วันแรกหมดไปกับเดินเล่นในเมืองไปแล้ว วันที่สองเลยตัดสินเปลี่ยนแผน ตอนแรกกะอยู่ในเมืองมิวนิคอย่างเดียว แต่เดินซะทั่วละ ก็ไปสิครับ เมืองนี้ จากมิวนิค ต่อรถไฟไป 3-4 ต่อ เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง รายละเอียดตามนี้ได้เลยครับ รีวิวไว้แล้ว

http://pantip.com/topic/33525067



ที่นี่ได้เพื่อนใหม่ชาวญี่ปุ่น มาคนเดียวเหมือนกัน เลยคุยกันตลอดทางจนถึงเลย



เมืองนี้เหมือนเมืองในนิยาย....

Day 3, Mar.18, 2015 >>> Munich - Prague, Czech Republic



แปร๊บเดียววันที่สามละ เดินทางจากมิวนิค ไป เมืองในฝันของสาวๆ หลายๆคน "Prague" ขึ้นชื่อว่าโรแมนติคเมืองหนึ่ง

จาก มิวนิค ไป ปราก ก็รถไฟ ตามสิทธิ์ Global pass ซื้อมาแพงต้องใช้ให้คุ้ม



ที่นี่....

นั่งรถไฟมาได้ซักชั่วโมง กำลังเคลิ้มๆ เชียว อยู่ก็มีใครมาโวกเวก เคาะตู้ เสียดังมาเชียว โหะ.. กำลังเคลิ้มเลย ตกใจหมด

"German Police....German Police " ตำรวจ ตม.ของเยอรมันคับ

ยังไม่เห็นหน้า เสียงพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัวแกมาในตู้ก่อนเลย....

มาขอตรวจ passport ครับ ....ถ้ามาแบบนี้ล่ะยอม....(ต้องขอบคุณพันทิปนี่แหละ มีกระทู้นึงที่เตือนให้ระวังเรื่องใครมาขอดู passport มีมิจฉาชีพหลอกก็มี) แต่นี่มาพร้อมบัตร ผมก็ยอมสิฮะ ...ดังนั้น ถ้าเค้าไม่โชว์ ขอเค้าดูก่อนเลยครับ ไม่ต้องกลัว...ยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง



ใช้เวลาเดินทางประมาณสี่ชั่วโมง...ถึงแล้วว

หิ้วท้องมานาน....ออกไปหาอะไรกินก่อนล่ะ

ตกเย็นที่นี่ห้ามพลาดเลยนะ ....Charles Bridge ดูซิจะซักแค่ไหนกัน....

ดังเหลือเกิน....เลยได้มาตามภาพ พูดไม่ออก รัวกล้องอย่างเดียว...^^

สวยจริง..คือแบบมีอิจฉาตาร้อนน่ะ....




เหมือนเดิมครับ ได้เพื่อนใหม่เป็นชาวสาวจีน...ซึ่งไม่เหมือนสาวจีน...

แต่มาเรียนที่ฮอลแลนด์ ละมาเที่ยวเองคนเดียว....

ดังนั้นใครเที่ยวเอง เพื่อนใหม่หาไม่ยาก... เดี๋ยวก็เจอกันเอง...



ช่วงเย็นๆ ก่อนพระอาทิตย์ตก ก็จะมีแสดงเปิดหมวก ของฝากเล็กๆน้อยๆขาย แต่พอมืดปุ๊บ ของหายหมด ปล่อยให้คู่รักสวีทกัน ....หืม ตาร้อนผ่าวๆ

เพิ่มเติมก็ ตามลิงค์นี้เลยนะครับรีวิวไปแล้ว http://pantip.com/topic/33523043

Day 4 (Mar. 19, 2015) Prague เดินให้ทั่วปราก....




เผื่อเวลาให้ที่นี่ 2 วัน วันนี้ไป Prague Castle ทั้งวันเลย เดินแบบไวๆ ยังไม่ค่อยทั่ว...เปิดเวลา 9.00 am แนะนำไปรอเลย....คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ สายนิดนึง ก็จะพบกับ คลื่นมหาทัวร์....




เดินถึงประมาณสี่ห้าโมงเย็นก็ลงมาที่ Charles Bridge ต่อ...จนถึงพลบค่ำ ซึ่งเวลานี้ห้ามพลาด....เป็นช่วงเวลาที่สนุก และสวยมาก



อยากเที่ยวปรากต่อก็ตามรีวิว ลิงค์ข้างบนไปเลยนะครับ เหลืออีกตั้ง 17 วัน ....^^ เดี๋ยวจะไม่จบเอาDay 5 (Mar.20, 2015) :: Prague => Vienna, Austria



วันนี้ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ 06.42 น. จากปราก ไปเวียนนา โดยรถไฟ เหมือนเดิม จองที่นั่งไว้ต้องแต่เมืองไทยละ ถึง กรุงเวียนนา 10.54 น. เลทไปแค่ 2 นาที จากตารางรถไฟ ....ถึงสถานี Wien HBF (ส่วนใหญ่คนแถบนั้นจะเรียก Wien มากกว่า Vienna ) ส่วน HBF = Hauptbahnhof = สถานีรถไฟกลาง เพราะในเมืองๆ นึงมีหลายสถานีมาก ผมก็เลยยึด HBF เป็นหลัก...ในการจองที่พัก และเริ่มต้นในแต่ละเมือง




ยินดีต้อนรับสู่เวียนนา....เรียบ หรู อลังการ กลิ่นดนตรีคลาสสิคฟุ้ง



มาเวียนนา ก็คงจะไม่พลาด Schönbrunn Palace กว้างใหญ่พอสมควร กินเวลาเกือบทั้งวัน...สามารถซื้อตั๋วเข้าชมภายในพระราชวังได้ ขอแนะนำว่าควรเข้าอย่างยิ่ง... ^^ อาจมาช่วงสายๆ ลากยาวจนถึงเย็น หรือใครอยากจะลิ้มลองบรรยากาศคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิค ที่บรรเลงโดยนักดนตรีชั้นยอด ก็สามารถหาตั๋วชมได้ ซึงแสดงในเขตโถงพระราชวัง ประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งปกติจะต้องใส่ชุด สูท เดรส สำหรับผู้หญิง แต่ที่นี่บางวันมียกเว้น เพื่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โอกาสแบบนี้ผมก็จัดสิครับ ...50 Euro



..การแสดงประมาณชั่วโมงกว่าๆ แต่ผมนี่ เคลิ้มเลย....ได้บรรยากาศ กลิ่นอายดนตรีเต็ม ถึงบางอ้อ ว่าโมสาส มันลึกซึ้งก็วันนี้เอง....^^

พระราชวังช่วงเวลาที่สวยสุดๆ.... การเดินทางมาที่นี่จากกลางสถานีรถใต้ดิน สาย U4 สีเขียว สถานี Karlsplatz > Schönbrunn Palace




Day 6 (Mar.21, 2015) : Bratislava, Slovakia & Vienna



วันเดย์ทริป แต่เช้าไป Bratislava ซึ่งหนึ่งชั่วโมงจากเวียนนา .... ไหนลองไปดูว่ามีอะไรดี

ถึงสถานีรถไฟ ดูเก่าๆหน่อยครับ แต่ไม่ต้องตกใจ เดินต่อเข้าย่านเมืองเก่าเลย หรือจะนั่งรถบัสก็ได้มีตู้ซื้อตั๋วอยู่ แต่อย่างผมก็เดินอย่างเดียวครับ มองภาพได้ชัดเจน และละเอียดเลย....




อีกหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ครับ


บราติสลาวา สามารถเดินเล่นในย่านเมืองเก่า ประมาณครึ่งวันเต็มครับ บ่ายกลับไปต่อที่เวียนนายามค่ำคืนกันครับ



พรุ่งนี้มาต่อนะครับ ^^Day 7 (Mar.22, 2015) == Vienna > Cesky Krumlov



อยู่ที่เวียนนาได้วันครึ่ง อีกครึ่งวันดันไป บราติสลาวา เลยคิดว่า เวียนนา ต้องเที่ยว 2 วันขึ้นไปถึงจะหมด เพราะผมไปยังไม่พอเลย ไว้ค่อยกลับไปใหม่



การเดินทาง : วันนี้ออกเดินทางจากเวียนนา ไป เชสกี้คลุมลอฟ วันนี้เปลี่ยนจากเดินทางโดยรถไฟเป็น Shuttle ของ Ckshuttle นี่แหละครับเป็นรถเก๋ง รถแวน บ้านเรานี่แหละมีผู้เดินทางไปกับเรา 3-4 คน ไม่รวมคนขับ ตกประมาณพันกว่าบาท (1,100 Czk) เหตุผลที่ไม่ใช้รถไฟ ทั้งๆ ที่มี pass อยู่แล้วง่ายๆ คือ กระเป๋าผมเยอะ เลยไม่อยากต่อรถไฟ 2-4 ต่อครับ เลยยอมจ่ายเพิ่ม โดยรถมารับหน้าโรงแรมในเวียนนาเลย แล้วก็ส่งถึงโรงแรมในเชสกี้ เลย ....มันง่ายมั๊ยล่ะ ^^ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมก็รีวิวไว้แล้ว >>>> http://pantip.com/topic/33632682




Day 8 (Mar.23, 2015) :: สู่เมืองในฝัน Hallstatt



หลังจากเมื่อวานฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ ฟ้าหม่น ฝนตก เลยทำให้อากาศยิ่งหนาวเข้าไปอีก...วันนี้ได้แต่คิดว่า เอาน่า อากาศมันต้องดีสิ...จะไปเมืองในฝันทั้งที



การเดินทาง : เหมือนเดิมครับ ใช้บริการ Ckshuttle ร่วม 3 ชั่วโมง ตรงดิ่งไปเลย ถ้ารถไฟก็ประมาณเดียวกันครับ แต่ต่อรถซัก 2-3 ต่อ...ไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรถไฟในยุโรปเลยครับ ง่ายมาก เหมือนรถไฟฟ้า BTS....แต่ผมของเยอะ เดินทางคนเดียว เวลาน้อย เลยยึดเวลาเที่ยวให้เยอะเข้าไว้ ประหยัดแรงไว้ก่อน...^^



ส่วนรายละเอียดเพิ่ม >>> http://pantip.com/topic/33579821 ทำรีวิวไปแล้วครับ




พอมาถึง...เอิ่ม ได้ภาพนี้ก่อนเลย...ฟ้าเข้าข้าง (ปล. จริงๆ ผมดูพยากรณ์มาก่อนแหละ ทางยุโรปเค้าแม่นมาก)

ที่พักที่นี่ค่อนข้างแพงกว่าทีอื่นๆ สองสามพันขึ้นไป จนถึงคืนละหมื่น...ผมเลือกประมาณ สามพันครับ แต่อยู่ลึกไปในโซนของชาวบ้านแถวนี้ ไม่ได้อยู่ย่านท่องเที่ยว ...สองขา ก็เดินไป ถือว่าเดินชมเมืองไปละกัน...


เก็บกระเป๋าเสร็จ ก็ออกเที่ยวเลยสิครับ รออะไร.....

เหมือนเดิมครับ ที่นี่ได้เพิ่มใหม่อีกละ เป็นสาวชาวไต้หวัน ....มายุโรปแต่เจอเพื่อนใหม่ชาวเอเชีย ทั้งนั้น ทั้งญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน...ที่สำคัญ ผู้หญิงตัวคนเดียวอีกละ....แปลกมะครับ ผู้หญิงเที่ยวเองเยอะมาก...ดังนั้นอาจะเป็นแรงบันดาลใจของสาวๆชาวไทยอีกหลายคน ที่ยึกยักลังเลอยู่...บอกเลยยุโรปเที่ยวง่าย ปลอดภัย (เดินในที่ปลอดภัยไม่เปลี่ยวละกันนะครับ หลีกเลี่ยงที่เสี่ยง เพราะไม่ใช่บ้านเรา เราไม่รู้)



อยากให้ลอง !

อย่างที่บอก ทริปนี้ไม่ได้อด...กลับกินซะเต็มที่อีก เดินเยอะ หิวมาก และต้องการบรรยากาศ สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอด นั่งจดทำรายละเอียดที่ที่เราไป...เพราะอย่างไร ภาพถ่าย ยังไงก็ไม่เท่าความจำของเราหรอกครับ...เพียงว่า ภาพที่ผมถ่าย มันทำให้ผมอินมากขึ้น เมื่อเราย้อนกลับดูภาพ ดังนั้น การนั่งลงนิ่งๆ มองไปรอบๆ เก็บรายละเอียด ต่างๆ อากาศ ผู้คน ท้องฟ้า ....นักท่องเที่ยว...แหม่..แค่ดูภาพเหมือนเอาตัวเองย้อนไปนั่งที่เดิม...^^ ลองดูนะครับ..



ว่าแล้วไปต่อเลยดีกว่า ยังไม่ถึงครึ่งทริปเลยครับ ไปแบบเร็วๆละนะครับ ^^



Day 9 & 10 (Mar.24-25, 2015) > ไปตามใจร้องขอ Budapest ....Hungary



หลังจากอยู่ที่ Hallstatt ยังไม่อิ่ม แต่ก็ต้องเดินทางต่อไป...ที่จริง

ตามแผนเดิม : ต้องเดินทางไป Salzburg > Munich > Strasbourg ซึ่งจองรถไฟ จองโรงแรมไว้หมดแล้ว จะยกเลิกก็ไม่ทันแล้วครับ นั่งคิดทั้งคืน อ่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ไปให้สุด...ที่อยากไปเลยละกัน ตามใจฉันเลยละกัน ยกเลิก ยอมเสียตังค์ ค่าโรงแรม 1,400 บาท ค่าจองตั๋วรถไฟ TGV Munich-Strasbourg ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงต้องจองเท่านั้นอีก ประมาณพันนึง (30 Euro)



เมื่อเปลี่ยนแผนกระทันหัน

ดังนั้นแผนใหม่ผม ก็เปลี่ยนเป็น Hallstatt > Budapest > Colmar > Strasbourg > Baden ......> ........ เลย

เมื่อเสียตังค์ฟรีแล้ว ก็ต้องประหยัดเลย โดยการ จองรถไฟตู้นอนจาก Budapest > Basel ครับ นอนบนรถไฟ ก็เสียตังค์เพิ่มอีก 50 Euro สำหรับตู้นอนสองคน...นอนก็ใครก็ไมรู้....เดียวมาเล่าเรื่องรถไฟต่อ...นอนที่ Budapest เป็น Hostel ราคา 5 ยูโร !!! ใช่ครับ มัน 5 ยูโรจริงๆ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานที่ท่องเที่ยวพอ ...คุณภาพปานกลาง เดินทางง่าย สะอาดพอครับ เพราะนอนแปร๊บเดียว...เที่ยวซะส่วนใหญ่



สิ่งที่ประหยัดได้ คือ เวลาเดินทาง นอนบนรถไฟตู้นอนเลย..., ค่าที่นอนบูดาเปส ราคาถูกมากก, ไม่ต้องเสียค่าโรงแรมอีกคืนหากเดินทางกลางวัน ชดเชยที่เสียฟรีไปครับ (ค่าเหล่านี้รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายทริปเรียบร้อยครับ)



เรื่องรถไฟ Global pass

สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ เรื่องการใช้ Eurail pass ว่าทำไมซื้อแล้วต้องเสียตังค์เพิ่มอีกอ่ะ....ปกติถ้าเป็นรถไฟที่ไม่ได้ระบุว่าต้องสำรองที่นั่งก็ขึ้นได้เลยครับ สำหรับ Global pass จะโดนบังคับให้ซื้อ 1st class เท่านั้น ดังนั้นเวลาขึ้น ก็เฟิร์สคลาสเทห์ๆ ไปเลย สบายจริง....แต่ถ้าขบวนไหนถูกระบุให้ต้องสำรองที่นั่ง เราก็ไปทีห้องขายตั๋วที่สถานี บอกว่า Reserve seat เลย เสียตังค์เพิ่มประมาณพันนึง หรือน้อยกว่านั้น ครับ



เมื่อถึงแล้ว แบบไม่ได้วางแผนมา ดังนั้น สถานที่เที่ยวก็ต้องหาข้อมูลด่วนๆ แต่เคยมีมุมถ่ายรูปในใจไว้แล้วก็เดาๆ เอาครับ ถามคนที่นั่นบ้าง เที่ยวที่นี่ไม่ได้เยอะ แต่ได้มุมสมใจ


อีกหนึ่งแห่ง ที่ทำให้เข้าใจเมืองนี้ได้เร็วขึ้น คือ พิพิธภัณฑ์ ยิ่งเมืองทางยุโรปแล้วด้วย แนะนำอย่างยิ่ง



ภาพที่โด่งดังบางส่วนครับ (เราอาจไม่รู้จัก แต่ดังมากที่นั่น ศิลปินสมัยก่อนนี่วาดภาพเหมือนมาก )

Day 11 (Mar.26, 2015) >> นอนไป Colmar, France



ในที่สุดก็ครึ่งทางละครับ ...



การเดินทาง : Budapest Keleit > Zurich HB > Basel SBB > Colmar ใช้เวลาทั้งหมด 14 ชั่วโมง แต่ตู้นอนก็สบายหน่อยหลับแปร๊บนึงถึง ออก 21.14 ถึง Zurich 8.20am เดินทางต่อไป Colmar ถึง 11.07 ของอีกวัน เห็นมะครับ ถึงละยังเที่ยวต่อได้ เป็นทางเลือกสำหรับผู้มีเวลาน้อย ประหยัดเวลา....



โดยรถไฟตู้นอน จองไว้ double sleeper สำหรับนอน 2 คนต่อห้อง จะได้ไม่ต้องปีนขึ้นลง ค่าจองก็ 50 Euro ถ้าจองแบบนอนคนเดียวก็แพงขึ้นไปอีก หรือนอนหลายคนก็ถูกลง

>> ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Class ชั้นนอนแบบต่างๆ ตามนี้ >> http://www.eurail.com/plan-your-trip/guide-eurail-train-reservations/seat-sleeping-accommodation-types



เมื่อมันไม่ใช่ !

พอขึ้นรถไฟ คนตรวจตั๋วตอนขึ้นก็บอกว่า ไม่ต้องสนใจเลขที่นอน ให้ไปตู้ 9 เอิ่ม ทำไมอ่ะ งง.....

...เข้าห้องไปอ่าว...ทำไมเป็นแบบ Couchettes คือมี 4 เตียง สองเตียงบน สองเตียงล่าง ก็จองแบบ Sleeper นี่นา .....



หรือว่า...นอนสองคนสำหรับห้องนี้ ก็ยังโอเคอยู่นะ ....ไปๆ มาๆ ผู้โดยสารห้องนี้มีสามคนครับ ! เป็นสวีดิช กะฮังกาเรียน....



ไม่ได้ๆละ...จ่ายเงินนอนสอง มาแชร์สามได้ไง ....ก็เดินไปหาคนตรวจตั๋วประจำโบกี้ใหม่....เฮ้ยยู..ทำไมนอนสามอ่ะ จองมาสองนี่นา ...เค้าตอบว่า มันไม่มีตู้แบบที่จองมา จบ.....

อ่าวกำ...แล้วไงต่อ ด้วยความงง เดินกลับมาซักพัก....

ถามสองคนนั่นก็บอกว่าจอง Double sleeper มาเหมือนกัน งง กันทั้งห้อง....



เดินไปหานายตั๋วอีกที....ยู เราจ่ายตังค์แบบสองมานะ ไม่ใช่สาม ถ้าสามต้องถูกลงดิใช่ป่ะ!

เค้าก็เลยบอกว่า..โอเครๆ เดียวเขียน Refund ให้ (ทำหน้าเซ็งๆใส่อีกแฮะ) ........อ่าวท่านเมื่อกี๊ไม่บอก ต้องให้ถาม เมื่อยมือรู้ป่ะ....ภาษาอังกฤษก็สุดจะแข็งแรงงงงง....



สุดท้าย...รถไฟออก เค้าเอาตั๋วกะพาสปอร์ตไป งง อีก....Passport ผมรักษายิ่งชีพนะ เอาไปได้ไง แล้วหายทำไงอ่ะ...กลัว.. เลยถามสองคนร่วมห้อง มันบอกว่าเป็นปกติ ....สำหรับรถไฟนอนข้ามประเทศ...เอ่อ ค่อยยังชั่วหน่อย...

เช้ามา เอามาคืนเขียน Refund หลังตั๋วให้จริงๆ ส่งยิ้มให้อีกแฮะ เอ่อ.......ขอบพระคุณมากกกกกท่าน ยิ้มสยามตอบ สรุปเราเข้าใจกันละ.... แต่เขียนภาษาเยอรมันอ่ะ เฮ้อ..เหนื่อยละ อ่านไม่ออกแปลไม่ได้ ถามคนสวีเดนละกัน มันเขียนว่าไง....ในใจก็ไม่ได้กลัวละครับ ยุโรปเค้าซื่อสัตย์..



ถึงสถานี Zurich HB ตรงไปที่ห้องตั๋วทันที จะเอากะตังค์คืนประมาณ 15 Euro ก็ข้าวหนึ่งมื้อล่ะนะ...เจ้าหน้าที่ที่นี่น่ารักมากช่วยเหลือทุกอย่าง....ยิ้มสวิส มาก่อนเลย...

....Refund... ที่นี่ไม่ได้ เค้าบอกว่า Reserve seat ที่ไหน ของ Refund ที่นั่น อ่าว ผมจองตั้งแต่ Austria ทำไงเนียะ ไม่ได้กลับไปละด้วย...

เค้าเลยจดที่อยู่มาให้ บอกว่าส่งจดหมายไปที่ห้องตั๋วของ OBB (การรถไฟออสเตรีย) เลย เดี๋ยวจะ refund ผ่านบัตรให้... ขอบคุณครับช่วยเหลือดีมาก....



ดูเวลาต้องไปต่อละ Zurich HB > Basel SBB



...สถานี Basel SBB...นี่ก็วุ่นวายเหลือเกิน การขึ้นรถไฟฝรั่งเศส ต้องเปลี่ยนขบวน เพื่อใช้รถไฟของฝรั่งเศสเค้า แยกชานชลาชัดเจนมาก ต้องใช้เวลาเดินหาหน่อย มีป้าย ไม่ต้องกลัวครับ ....



ถึงสถานี...หาทางไปต่อ ก็เดินครับ หรือรถบัสก็ได้หน้าสถานี ผมก็เดินสิครับ ^^



จาก Basel ไป Colmar แค่ครึ่งชั่วโมง ...ถึงแล้ว....

ไหนขอลองหน่อยดิ๊ มาถึงที่ซักที ....อันละ 1.25 Euro เอ่อ! อร่อยยยยยยยยยย


เดี๋ยวกลับมาต่อครับ ^^

Day 12 (Mar.27, 2015) == Strasbourg, France === (Colmar - Strasbourg - Baden)



ในที่สุดก็มาถึง Strasbourg จนได้...หลังจากเปลี่ยนแผนกะทันหัน เลยเสียค่าจองตั๋วกับที่พักฟรีไป เพราะเปลี่ยนไป Budapest มาครับ

แผนเดิมผมต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงจากมิวนิค มาที่นี่เลย ก็ประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเร็วมาก กับระยะทางไกลขนาดนี้



เหมือนเดิมครับ พยากรณ์อากาศสำคัญมากสำหรับคนชอบถ่ายรูป...วันนี้ฟ้าจะใสเฉพาะช่วงเช้า ที่เหลือวันก่อนหน้า กับบ่ายนี้เมฆเยอะและอาจมีฝน ก็เลยต้องเลือกระหว่าง Colmar หรือ Strasbourg....สุดท้ายก็เลือกที่นี่ครับ



จุดหมายของผมก็คือ Cathédrale Notre Dame de Strasbourg, และเดินเล่นในย่านเมืองเก่า...ซึ่งบ้านเรือนก็คล้ายๆกับ Colmar แต่ความเจริญมาเต็ม ...ถ้าถามว่าทำไมต้อง ...Strasbourg....คำตอบอยู่ที่ภาพเลยครับ...^^




จาก Colmar > Strasbourg ใช้เวลาแค่ ครึ่งชั่วโมง...ลากกระเป๋ามา แล้วก็ฝากที่ล็อคเกอร์ที่สถานีเลย....

ออกจากสถานี เดินตรงดิ่งผ่ากลางสวนหน้าสถานี ตรงไปเมืองเก่าประมาณ 300 เมตร ก็ถึงละครับ


มาถึงแล้วก็ตรงดิ่งไปมหาวิหาร Cathédrale Notre Dame de Strasbourg เลย...


ขนาดเมื่อเทียบกับคน...


อากาศดีมาก เดินเล่นสบายๆ เลย


มุมนี้คุ้นมาก ....สุดท้ายคือมุมที่อยู่ในโปสการ์ดทั้งหลาย บ้านเรือนเหมือนๆ กะ Colmar


แต่อากาศเริ่มเปลี่ยนละ เมฆเริ่มๆมา..

ที่นี่หากใครมีเวลา ควรนอนค้างซักคืน น่าจะดีนะครับ จะได้มีเวลาเดินเล่นทั้งวันเลย..ผมล่ะเสียดาย...



ถึงเวลา...เปลี่ยนโหมด สู่ธรรมชาติ เข้าสวิสเซอร์แลนด์กันครับ ออกจาก Strasbourg บ่าย 3 เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเลิกงานรถไฟคนจะเยอะนิดนึงครับ ถึง Baden, Switzerland ห้าโมงกว่าๆ ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง เปลี่ยนขบวนที่ Basel SBB เหมือนเดิมครับ...



ถึงปุ๊บ ฝากกระเป๋าก่อนเลย...ขอให้ตัวเบาไว้ก่อน เพราะแค่กล้องก็หนักละครับ ....

ขึ้นมุมสูงก่อน....


Baden เป็นเมืองเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ บังเอิญเป็นทางผ่านของผมก็เลยแวะนอนที่นี่เลย เวลาก็มีไม่เยอะ ก็รีบๆ เดิน เสียดาย เป็นเมืองที่น่าเดินเล่นมาก ย่านเมืองเก่าก็สวย ที่จริงน่าจะมีเวลาที่นี่ซักครึ่งวัน จะได้เดินเพลิน สบายๆ



Day 13 (Mar.28, 2015) เวลาของเด็กดอย Baden - Brig - Zermatt - Matterhorn



วันนี้เริ่มจาก Baden => Brig เพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ก่อนเดินทางขึ้นไป Zermatt และ Matterhorn ตามพยากรณ์อากาศ ที่บอกว่าฟ้าปลอดโปร่งเฉพาะตอนเช้า ....เลยรีบปรี๊ดออกจาก Baden แต่เช้า ถึง Brig ประมาณ 9.30 ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง

เหตุผลที่นอนที่นี่ เพราะว่า พรุ่งนี้ผมต้องไป Venice , Italy ซึ่งไม่อยากเปลี่ยนขบวนรถไฟ เพราะ Direct จากทีนี่ไปเลย และต้องสำรองที่นั่งด้วยเลยนอนที่นี่ซะเลย จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก...



Mt. Matterhorn >>>

ฝากกระเป๋าเสร็จก็ออกจาก Brig > Visp > Zermatt ต้องเดินไปเปลี่ยนรถไฟอีกสถานีนึง ไม่ไกล >Gornergrate ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ....ถึงยอดจุดชมวิวที่ Gornergrate สำหรับ Zermatt > Gornergrate ใช้ Global pass, Swiss pass ไม่ได้นะต้องซื้อเพิ่ม แต่จะได้ลดราคา...ซึ่งวันนี้ผมเลือกใช้ Swiss Pass Flex 4 days แบบระบุวัน ก่อนใช้ตั๋วต้องไป Valid ตั๋วที่ห้องตั๋ว Ticket office ก่อน...เริ่มใช้ Pass



อากาศดีแบบนี้ นักสกีเพียบ ตั้งแต่ เด็ก ไปยันคนแก่ ....เล่นเป็นกันหมด และเก่งด้วย..


ที่ว่าอากาศดีแบบนี้ก็ประมาณ 5 องศา + ลม....สำหรับคนไทยแล้วก็หนาว งึกๆ..

พอตกบ่ายๆ....Matterhorn ก็โดนเมฆบังซะละ ตามพยากรณ์เป๊ะ ดังนั้น ถ้าไม่อยากมาเสียเที่ยว อยากให้ดูพยากรณ์อากาศมาก่อนเลยครับ


เสร็จแล้วก็ลงมาเดินเล่นที่ Zermatt ตอนบ่ายแก่ๆ ถึงเย็น ออกจาก Zermatt ตอน 18.00 > Brig

Day 13-14 (Mar.29-30, 2015) >>> Venice ดังก้องโลก



ที่นี่ตอนแรกก็ไม่ได้อยู่ในแผน กะว่าจะตะลุยสวิสให้ทะลุไปเลย...แต่ไหนๆก็มา ขอไปดูเมืองท่องเที่ยวระดับโลกหน่อย จะดังอะไรกันนักหนา....ต้องไปดูกับตา...



การเดินทางวันนี้ : Brig > Venice แบบตรงดิ่งไปเลย ใช้เวลา 4.56 ชั่วโมง (09.44-14.40) ที่เวนิส มีสถานีรถไฟ 2 สถานีนะครับ แบบที่ถึงเกาะเวนิสเลยก็ต้องสถานี Venezia S.Lucia (อีกสถานีคือ Venezia Mestre อยู่บนฝั่งก่อนข้ามมา แต่ถ้าผิดก็ไม่เป็นไร มีรถไฟต่อมาอยู่แล้ว) ค่าสำรองที่นั่งก็ 12 CHF สำหรับ Global Pass...



ปกติการจองโรงแรมของผมจะเอาใกล้สถานีรถไฟ ที่สุด เพื่อจะได้ฝากกระเป๋า ไม่ต้องลากไกล แต่บางครั้งก็แลกกับการห่างจากแหล่งท่องเที่ยวบ้าง...ฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ออกเดินเลยครับ....



เนื่องจากภาพมันเยอะ เกรงว่าจะใช้เวลาโหลดนาน ผมขอยกไปอีกกระทู้นึงเลยนะครับ



ติดตาม [ตอนที่ 2] ครึ่งหลังของการเดินทาง ตะลุย Switzerland ได้ที่ http://pantip.com/topic/33758190



ขอบคุณที่ติดตามนะครับมิตรภาพส่วนหนึ่ง ที่ได้มากจากทริปนี้ครับ....ดูกี่ทีๆ ก็..ยิ้มมมมมมมม.....



ติดตาม [ตอนที่ 2] ครึ่งหลังของการเดินทาง ตะลุย Switzerland ได้ที่ http://pantip.com/topic/33758190



WitGoAway Traveller

 วันพฤหัสที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.38 น.

ความคิดเห็น