:: หลังจากที่เจ็บกับความรักมาหลายครั้ง เรามักจะบอกกับตัวเองว่า "คนต่อไปหัดเผื่อใจไว้บ้าง"


แต่เมิงลืมไปแล้วรึป่าว ว่ารักแท้ แม่มต้องใช้ทั้งหัวใจ ทุ่มใส่ลงไปเหมือนกัน...



#แด่ความรักครั้งนั้น




Youtube : https://goo.gl/rVqoVe

Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh

Facebook : https://goo.gl/S42XZq

Instagram : https://goo.gl/60tM0B

Twitter : https://goo.gl/wx2I34

:: หัวใจมันเซ ทะเลคือจุดหมาย กุไม่เคยคิดว่าจะต้องมารู้สึกกับคำๆ นี้ก็เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่แหละ


แต่ก็อย่างว่า... ความรักที่เกิดขึ้น ไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร พี่ตูนบอกเอาไว้ ว่ามันสวยงามเสมอ...

เอาหล่ะ เมื่อคืนผมคงเมามามากพอแล้ว มากพอที่จะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ ที่ชีวิตนี้เผือกเลือกเอง

หลังจากตื่นส่างห่างเมา การเดินทางแบบชีวิตโสดๆ ก็เริ่มขึ้น T T

:: ย้อนกลับไปก่อนเดินทาง 6 - 7 ชั่วโมง ขณะที่กำลังออนเฟสตามประสาคนแบล๊งค์จากความรัก


ในใจคิดว่าต้องไปทำงานกุจะไปคนเดียวจริงๆ หรอ อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนไปสิ ใช่... อย่างน้อยต้องมีเพื่อนไปด้วย

ก็เลยพยายามหาเพื่อนในเฟสไปเป็นคู่หูร่วมเดินทาง ระหว่างที่เลื่อนสครอบาร์ลงไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับเฟสๆ หนึ่ง

เราเป็นเพื่อนกันในเฟสมาเป็นปี แต่ดูจาก History แล้วเราไม่เคยคุยกันเลย ผมทักเธอไปด้วยคำพูดสวยหรู

ทำความรู้จักอย่างสังเขป และโน้มน้าวให้เธอมาเป็นคู่หูเดินทางกับผม... เธอตอบตกลง : )

:: การเดินทางครั้งนี้เราใช้บริการของบุญสิริครับ เป็น package รถ + เรือ ไปกลับ เกาะกูด - กทม.


ราคาอยู่ที่ 1,300 บาทต่อคน รถจะรออยู่ที่ข้าวสาร และออกเดินทางตอน 6 โมงเช้า

ใช้เวลาจาก กทม. - ท่าเรือแหลมศอก ราวๆ 5 ชั่วโมง เราก็นอนยาวกันไปเลย



:: หลับสองสามตื่น ก็มาถึง office ของบุญสิริครับ ตรงนี้ก็ให้ไปแจ้งชื่อครับ เพื่อเอาตั๋วเรือ


จากนั้นก็นั่งรอรถสองแถว มารับไปท่าเรือครับ รถจะมารับประมาณเที่ยงเป๊ะ เพื่อที่จะไปให้ทำเรือออกตอนเที่ยงครึ่ง

ท่าเรือแหลมศอกดูยาวสุดลูกหูลูกตาในความคิดของผมมาก น้ำทะเลไม่ใสเหมือนทะเลใต้

แต่ดูท่าทางแล้ว ที่นี่ น่าจะเป็นสถานที่ที่สงบมากแน่นอน เพราะคนไม่พรุกพร่านเลย : )



:: หนึ่งชั่วโมงจากท่าเรือฯ ไปเกาะกูดครับ สภาพเรือโอเคมากๆ บรรยกาศข้างนอกก็ทำให้อดใจที่จะออกมาถ่ายรูปเล่นไม่ได้


เราเดินออกมาถ่ายรูปเล่นกันนานพอสมควร มองไปไกลๆ ก็เจอภูเขายื่นขึ้นมาจากทะเลแบบซับซ้อน

มีนกบินไปวนมาพร้อมๆ กับเรือเรา บรรยากาศมันช่างดีจริงๆ อดที่จะเห็นเกาะกูดเป็นครั้งแรกไม่ได้แล้ว...

อ่อ อีกเรื่องครับ เพื่อนๆ สามารถหาข้อมูลการเดินทางได้จากเว็บไซต์นี้เลยนะครับ : http://www.boonsiriferry.com



:: ถ่ายรูปกันจนเสร็จ ก็มานั่งเซิร์ชอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลเกาะกูดกันเลยครับ เกาะกูดไม่ใช่เมืองสังสรรค์


แต่กลายเป็นเมืองที่มาพักผ่อนหย่อนใจ ปล่อยกายใจรีแล๊คซ์ตามธรรมชาติซะมากกว่า มีหาดหลายหาดสวยๆ

มีน้ำตกที่ห้ามพลาดชื่อคลองเจ้า มีกิจกรรมดำน้ำตื่นให้ได้ดำดื่นให้ชื่นหัวใจ อีกไม่นาน ก็จะได้เห็นเกาะกูดเป็นครั้งแรกแล้วสินะ > <

:: หลังจากมาถึงเกาะกูด ผมรู้สึกว่าที่นี่แม่ม ไม่เหมือนพัทยา ไม่เหมือนพะงัน ไม่เหมือนสมุย


หรืออะไรทำนองนั้นที่เคยไปมา มันคือเกาะที่ต้องมาอยู่นานๆ มาใช้ชีวิต มาอยู่นิ่งๆ กับตัวเอง

คือรู้สึกเหมือนว่า กุมาถูกที่แล้ว สำหรับกุในอารมณ์แบบนี้...



:: พนักงานตะโกนเรียกชื่อรีสอร์ท เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปขึ้นรถที่รีสอร์ทจัดเตรียมไหว้ให้

แล้วก็เดินทางไปยังรีสอร์ท ระหว่างทางเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์เขียวขจีของต้นไม้

อาจเพราะเป็นหน้าฝน แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย สามสิบนาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก

เรามาถึงแล้ว "เกาะกูดรีสอร์ท" ด้วยความตื่นเต้น เราเลยรีบลงจากรถ วางกระเป๋าลงพื้น

แล้ววิ่งออกไปที่ชายหาด โอ้วววว... เรามาถูกที่แล้วสินะ เราสองคนมาถูกที่แล้วจริงๆ : )



:: จำได้ว่าไม่สนอะไรแล้วตอนนั้น ถ่ายรุปลงเฟสบุ๊คก่อนเลย ๕๕๕ เราถ่ายรูปเล่นกันเยอะมาก


จนลืม check in ไปเลย เรากลับมาที่ reception เช็คอิน เอาของไปเก็บ แล้วเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเล่นน้ำกัน



:: ผมจองห้องราคาถูกไว้ครับ เป็น Garden View ราคาช่วง Low season อยู่ที่ 1,150 บาท ซึ่งก็ไม่น่าเกลียด


บรรยากาศในห้องดูฮิปสเตอร์มากกกก ถ่ายรุปชิคๆ เฟสบุ๊คให้คนกดไลค์คูลๆ ได้สบายเลยยย ๕๕๕



:: คือตั้งแต่มาก็ยังไม่ได้ส่งอะไรถึงท้อง ก็เลยจอดเติมพลังกันก่อนเล่นน้ำ ท่ามกลางทะเลแบบนี้


แตงโมปั่นคงจะเป็นอะไรที่เข้ากัน แต่กุสั่งคาโบนาร่าชีสมาทำไมวะเนี่ย ฟีลเสียหมด ๕๕๕

อาหารที่นี้รสชาติพอใช้ได้ครับ พวกเราอยู่ง่ายกินง่ายอยู่แล้ว พนักงานบอกว่า ช่วง Low season

ไม่ต้องไปดำน้ำตื้นที่ไหนหรอก บริเวณหน้ารีสอร์ทก็พอแล้ว เพราะก็มีปะการังเหมือนกัน > <



:: สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจจะเข้าพักที่เกาะกูดรีสอร์ท


ยังไงลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้เลยครับ : http://www.kohkoodresort.in.th

:: ตรงนี้จะไม่พูดอะไรมาก ครึ่งวันแรกสำหรับวันนี้คือการเดินทาง ครึ่งวันหลังก็ปล่อยให้ภาพบรรกยายตัวของมันเองแล้วกัน


มาดูว่า ที่เกาะกูดรีสอร์ท มีอะไรให้เราได้เล่น ได้ทำ ได้ลืมความโศกเศร้าเสียใจปล่อยไว้ข้างทางบ้าง...



:: จริงๆ มันมีปะการังอยู่ข้างๆ หาดนะ แต่ขี้เกียจไป อารมณ์บ่อจอย เลยเล่นน้ำกันอยู่หน้าหาดนี่แหละ


สนุกดีครับ น้ำใส คนน้อย ได้แกล้งคนที่ไม่เคยคุยกันมาก่อนด้วย สนุกดี ๕๕๕



:: ช่วงพายคายัคสนุกมาก ผมพายไปกลางทะเลเลย แบบไกลจิงๆ แล้วบอกให้เธอกระโดดลงจากเรือ


เธอก็ถามว่าเอาจริงหรอพี่ไม... จริงสิ เอาจริงหรอพี่ไม... จริงสิ จ๋อมมม!! อิฮ่าาาา โดดจริงๆ ๕๕๕



:: แดดมันเริ่มอ่อนแรง เรานั่งริมหาดคุยกัน ตามประสาคนที่เคยคุยกันครั้งแรก เห็นหน้ากันครั้งแรก


เธอเป็นคนที่ติสต์มาก แนวมาก และก็เถื่อนในบางที แต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบของเธอ ไอ่วรรณเอ้ยยย ๕๕๕๕



:: ผ่านไปอีกวันแบบงง กินเหล้าเมาอยู่แถวลาดพร้าวดีๆ ตื่นมาอีกทีก็อยู่เกาะกูดซะแล้ว


ชีวิตนี้แม่มตลก แต่ก็โอเคดีนะสำหรับวันนี้ อย่างน้อยก็ฆ่าเวลาของความทุกข์ไปได้ระยะหนึ่ง



:: บรรยากาศแบบนี้ อารมณ์ตอนนี้ กุควรกิจเหล้าให้เมาตายไปเลย อิฮ่าาา


ขอโทษด้วย ช่วงนี้เฮิร์ทจิงๆ หว่ะ กระทู้ดูไม่บรรเทิงเลย แต่จะให้มาเสแสร้งว่ากุยังดีอยู่ กุทำไม่ได้

บรรยากาศของร้านน่ามาก น่านั่งแช่นานๆ จิบเบียร์เย็นๆ คุยกันเล่นๆ เอาให้แม่มเช้าไปเลย



:: แต่ด้วยความหิว หิวจริงๆ หิวมาก เมื่อคืนก่อนมาแดรกเหล้าแบบ จำอะไรไม่ได้


วันนี้เลยพักไต สั่งอาหารมาทานกันชิวๆ ราคาอาหารที่นี่ค่อนค้างแพงนะครับ ใครอยากเซฟ เอามาม่าไปด้วย

เผื่อตอนกลางคืนหิว ๕๕๕ นิก็เว่อร์ไป ไหนๆ ไปเที่ยวแล้ว ก็ต้องเอาให้เต็มที่ครับ อย่าไปกลัว



:: ตื่นแต่เช้า ปลุกตัวเองด้วยเพลงเพราะๆ ซักเพลงหนึ่ง จากแผ่นที่เธอเขียนให้เราเมื่อวันก่อน


อ่านหนังสือ... บทกวีที่เธอเคยร้องไห้เมื่อได้อ่าน จะเก็บเวลานี้ไว้ให้นานเท่านาน

แดดส่องสะท้อนดอกไม้ แง้มบาน ลมโชย พัดผ่าน หยาดน้ำค้าง พร่างพราย แพรวพราว

เวลาดีๆ ยังงี้... เ ธ อ อ ยู่ ไ ห น น น นT T



:: ผมบอกวรรณว่า หลังจากที่เราทานข้าวเช้ากันเสร็จแล้ว ถ้าฝนยังไม่ตก เราจะไปถ่ายรูปฮิปสเตอร์กัน


ถึงแม้ว่าจะไม่มีพร๊อพอะไรเลยก็ตาม บรรยากาศไม่ได้แค่ไหน เราก็จะต้องถ่ายแนวฮิปสเตอร์ให้ได้

ในราคาที่พัก มีอาหารเช้าให้ด้วยครับ เป็น Amarican set เบาๆ แต่ก็ทำให้ท้องหนักได้เหมือนกัน

หลังจากที่พุงป่องได้ที่แล้ว เราก็เริ่มทำภารกิจ Hipster กันเลย ไปดูกัน ว่าเราจะฮิปได้ขนาดไหน > <



" วรรณ นอนลงไปนะ แล้วทำผมให้สยายๆ หน่อย ทำตัวสบายๆ "



" พี่ไม วรรณว่า อุ้มแมวกลางทะเล น่าจะโอเคนะ "



" วรรณ พี่อยากได้ภาพที่มันขาดออกจากกันหว่ะ ไปอุ้มแมวไกลออกไปหน่อย เด่วพี่จะถ่ายจากตรงนี้ "



" วรรณ พี่อยากได้ความรู้สึกแบบว่า เรากำลังให้ความรักซึ่งกันและกัน "



" พี่ไม วรรณว่า ถ่ายลงพื้นก็สวยดีนะ "



:: เราใช้เวลา Hipster กันพอคร่าวๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามจะเป็น Hipster สุดฤทธิ์

ผมชอบอารมณ์ของเช้าวันนั้นจริงๆ มันรู้สึกแปลกใหม่อย่างละมุนละไมมาก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการเจอกันครั้งแรกก็เหอะ



:: หลังจากนั้นฝนก็ตกอย่างกระหน่ำ ระห่ำ สึสๆ เราได้แต่นอนรออยู่ในห้อง ว่าเมื่อไหร่ฝนจะหยุด


เข็มนาฬิกามันเดินผ่านไปเรื่อยๆ จนหัวใจมันเริ่มเปื่อยกับการอยู่กับที่ เอาหละ ลุยฝนกันไปเลย



:: ผมกับวรรณ เช่ารถมอเตอร์ไซต์จากทางรีสอร์ทในราคา 400 บาท ขับไปน้ำตกคลองเจ้า


ฝนโปรยสลับหนักตลอดทาง ระยะทางจากรีสอร์ทไม่ไกลมาก สองฝั่งข้างทางสวยชิดหายยย

สวยแบบ ข้างซ้ายบางช่วงเป็นทะเล ข้างขวาก็เป็นทุ่งหญ้าเขียวๆ ต้นไม้เขียวๆ สลับกับมะพร้าวที่สูงโผล่ออกมา

ไม่นานนักเราก็มาถึงทางเข้าน้ำตกคลองเจ้า จอดรถ ลงเดิน แล้วไปเล่นน้ำตกกัน



:: ระหว่างทางข้างหน้าเข้าไปในน้ำตก เป็นทางดินลื่นมากๆ ระยะแรกเป็นป่าสองฝั่งข้างทาง


หลังๆ มาจะเป็นทางน้ำ เดินเลียบน้ำตก ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่ก็กุมมือกันไว้น่าจะปลอดภัยกว่า...



:: สวยงามอย่างแรงงงง ๕๕๕ สวยมากกกก ชอบบบบบบบบบ น้ำตกที่ที่สูง 10 เมตร มารู้ทีหลังว่ามีทางขึ้นไปให้โดดได้


รู้สึกพลาดมาก เราแค่ขึ้นไปบนต้นไม้ กระโดดลงมา 7 เมตร แค่นี่ก็สนุกแล้ว แต่ถ้าได้ขึ้นไปบนน้ำตกน่าจะสนุกกว่า

เราใช้เวลาว่ายน้ำเล่นกลางฝนกันนานมาก มันเย็น มันหนาว แต่สะใจแบบสุดๆ แต่ขอเตือนเรื่องหนึ่ง

ใครว่ายน้ำไม่แข็งใส่ชูชีพด้วย น้ำลึกมาก หน้าฝนน้ำไหลเชี่ยวและแรง แต่มันก็สวยอย่างที่เห็น มันเขียวไปหมด และน้ำก็ไส



:: บางทีอาจจะสูงกว่า 10 เมตรก็ได้นะ ดูระยะความสูงของน้ำตกกับตัวพวกเราดิ โหหหหห เสียได้ จะกลับไป ๕๕๕



:: จากความรู้สึกส่วนตัวแล้ว ผมชอบที่นี่มาก มันทำให้ผมได้กลับมาเริงร่าอีกครั้ง และนี่แหละคือชีวิตผม


ชีวิตที่หัวใจมันเต้นครึกครื้นๆ อยู่ตลอดเวลา ชอบความผาดโผน ชอบเล่นน้ำ ชอบฝน ชอบที่นี่จริงๆ "คลองเจ้า"

:: เราใช้เวลาที่น้ำตกนานมาก กลับถึงรีสอร์ทก็ปากไป 6 โมงเย็นพอดี อาบน้ำ ล้างตัว เตรียมกินข้าว


คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของพวกเราที่อยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าผมพาวรรณมาลำบากไหม ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะเบื่อกับทริปดาร์กๆ ของผมรึป่าว

แต่ก็ไม่รู้หละ หลวมตัวมาเที่ยวกับผมแล้ว ยังไงก็ต้องเต็มที่กันหน่อย เพราะฉนั้น สำหรับคืนนี้ นั่งอยู่ด้วยกันยาวๆ เลยแล้วกัน...



ความคิดเห็น