ถึงวันหยุดอีกแล้ว ร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่า ได้เวลาไปรีแล็กซ์แล้วววววว...หรา ^V^

หลังจากไปแว๊นรอบ "เกาะหมาก" มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วจนผิวพัง แต่ร่างยังคงไหว

ทริปนี้เลยขอแบบ "ชิลล์ ชิลล์ ทริป" ...เน้นกิน นอน เที่ยว... ดูบ้าง

และคงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่าที่นี่อีกแล้ว...."พัทยา"

*******************************************************************************

ฝากติดตามเพจ FB : เที่ยวนอกบ้าน https://www.facebook.com/travelandoutdoors/

ขอบคุณสำหรับทุกไลค์และแชร์ค่ะ ^V^

#ไปเที่ยวด้วยกันน๊า #เที่ยวนอกบ้าน #travelandoutdoors

*****************************************************************************



Day 1 :

10.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพแบบไม่เร่งรีบ เราตั้งใจไปถึงพัทยาช่วงเที่ยงๆ เพื่อสิ่งนี้ค่ะ

"ตาน้อย เตี๋ยวเรือชามอ่าง" ที่นี่เป็นสาขา 3

พิกัด : ตรงข้ามโรงเรียนวัดสุทธาวาส (หนองปรือ, พัทยา)



บรรยากาศภายในร้าน



เมนูหลักของที่นี่จะเป็นก๋วยเตี๋ยว มีทั้งแบบชามปรกติและที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือ "ก๋วยเตี๋ยวชามอ่าง"



ก๋วยเตี๋ยวเรือชามอ่าง ราคา 59.- บาท



ส่วนเย็นตาโฟทะเลชามอ่าง ราคา 99.- บาท



มันออกจะใหญ่ๆ หน่อย เทียบไซด์กับไอโฟน 5 ให้ดูค่ะ



ไม่ใช่แค่ใหญ่อย่างเดียว แต่เครื่องมาแบบจัดเต็ม และที่สำคัญรสชาดอร่อย



ไม่เชื่อถามพี่ผู้ชายคนนี้ได้ ^V^



พร้อมแล้วลุยเล้ยยยยยยย


จะบอกว่าเค้าให้เยอะสมราคามาก...สาวๆถ้าอยากทานแนะนำให้สั่งแค่ 1 ชามแล้วทาน 2 คนกับเพื่อนกำลังดีค่ะ



13.00 น. อิ่มท้องแล้วเรามุ่งหน้าสู่จุดหมายของเรากันค่ะ ถึงแล้ววววววว "พัทยา"



โรงแรมตั้งอยู่พัทยาเหนือ ซอย 3 ในซอยจะเป็นทาง one way

ขับตรงเข้ามาในซอยประมาณ 200 เมตรก็จะเจอโรงแรมอยู่ทางด้านขวามือค่ะ "A One Star Hotel"

(ขอบคุณภาพบางส่วนจากหน้าเพจ A One Star )



มาถึงแล้วก็เอารถไปเก็บก่อนค่ะ ลานจอดรถของที่นี่มีค่อนข้างจำกัด.... แต่ไม่ใช่ปัญหา....

เพราะเมื่อเราเข้ามาพัทยาซอย 3 แล้ว ถือว่าเราได้มาอยู่ใน "อาณาจักรของ A One" เรียบร้อยแล้ว

ในซอยนี้มีโรงแรมในเครือ A One ถึง 5 แห่ง....ใช่แล้วค่ะฟังไม่ผิด 5 แห่งจริงๆ แถมอยู่ติดกันเลย เดินไป 5 ก้าวก็ถึงแล้ว^V^

(ขอบคุณแผนที่จาก Pantip : ตระเวนเที่ยว)


  • A One The Royal Cruise Hotel ตั้งอยู่ปากซอยด้านซ้ายมือ
  • A One New Wing Pattaya ตั้งอยู่ซ้ายมือด้านหลัง Royal Cruise และอยู่ตรงข้าม A One Star
  • A One Pattaya Beach Resort ตั้งอยู่ขวามือ ด้านหน้า A One Star
  • Mytt Beach Hotel โรงแรม 5 ดาว น้องใหม่ กำลังจะเปิดตัวปลายปีนี้ ตั้งอยู่ขวามือ ถัดจาก A One Star
  • "A One Star Hotel" โรงแรมสำหรับทริปนี้ของเราค่ะ

(กดเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมตามลิงค์ได้เลยค่ะ)



หากที่จอดรถที่ A One Star เต็ม รปภ.จะให้เราไปจอดที่โรงแรมในเครือแทนค่ะ



เข้าไปด้านในกันดีกว่าค่ะ ที่นี่เปิดให้ Check in : 14.00 น. และ Check out : ก่อน 12.00 น.



เข้าประตูมาจะเจอน้องๆ "กะลาสีเรือ" รอต้อนรับอยู่แบบนี้ค่ะ ชุดพนักงานเข้ากับบรรยากาศชายทะเลมากเลย ^V^



เคาน์เตอร์ที่นี่จะมีขนาดกระทัดรัดและมีโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งรอแบบนี้ค่ะ


นั่งรออย่างเดียวมันน่าเบื่อ สั่งเบเกอร์รี่มานั่งทานได้นะคะ ใกล้ๆกันจะมีจุดจำหน่ายเบเกอร์รี่และเครื่องดื่มด้วยค่ะ ^V^



ด้านในโรงแรมและห้องพักห้ามสูบบุหรี่ ทางโรงแรมเลยจัดพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ไว้ให้ตรงนี้



เฮ๊ยยยยย สวยได้อีก



มีปลาคราฟ ปลาทองสวยๆ ให้ดูเล่น ถือว่าเป็นมุมมหาชนอีกมุมหนึ่งที่แขกทุกคนชอบค่ะ

ถึงไม่สูบบุหรี่ก็อยากมานั่งตรงนี้ ^V^



A One Star แบ่งออกเป็น 2 ตึกตามประเภทของห้องพัก คือ Star A และ Star B ตึกมีความสูง 8 ชั้น

โดย "Star A" จะเป็นห้องพักแบบ "Star room" ทั้งหมด มีให้เลือกว่าจะนอนแบบ Twin bed หรือ Double bed (King size)

ทริปนี้เราพักห้อง Star room twin bed ค่ะ ขึ้นไปดูห้องกันดีกว่าค่ะ



ลิฟท์ที่นี่จะใช้คีการ์ดที่เราได้รับมาตอน Check in ในการเปิดนะคะ ถือเป็น Double Security ซึ่งจุดนี้เราชอบค่ะ



โถงทางเดินยกสูง ประดับด้วยไฟ Warm white สีเหลืองนวล ผนังทาสีขาวช่วยให้ดูกว้างขึ้นไม่อึดอัด



คืนนี้เรานอนห้องนี้ค่า "5617" ด้วยขนาดห้อง 17 ตรม. การแบ่งพื้นที่ใช้สอยถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ

ชักอยากรู้ซะแล้วว่าด้านในจะตกแต่งยังไง ตามมาค่ะ ^V^



เปิดประตูเข้ามาจะเจอเตียงนอนแบบนี้เลย มีทีวี LED 32 นิ้ว อยู่ปลายเตียง



ฝั่งตรงข้ามจะแยกเป็นห้องสุขาอยู่ทางด้านซ้ายมือ โถชักโครกมีสายฉีดชำระให้ และมีผ้าขนหนูแขวนไว้ด้านบนค่ะ




ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่ด้านขวามือ ประตูกระจกฝ้า ฝักบัวปรับร้อน - เย็นได้



เนื่องจากห้องน้ำมีขนาดกระทัดรัด ทางโรงแรมจึงออกแบบราวแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ด้านนอกแบบนี้ค่ะ



ส่วนตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้าแยกออกมาแบบนี้ ทำให้สะดวกเวลาใช้งาน

คนอาบน้ำก็อาบไป คนแปรงฟันก็แปรงไป จะได้ไม่ต้องรอกัน



ก็อกน้ำปรับร้อน - เย็น ได้



Amenity มีแชมพู ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ cotton buds สบู่ และหมวกคลุมผมให้ค่ะ



ไดร์เป่าผมจะอยู่ข้างอ่างล้างหน้า



ตู้เย็นจะอยู่ด้านล่างพร้อมน้ำดื่ม 2 ขวด



ในห้องจะไม่มีตู้ใส่เสื้อผ้านะคะ แต่จะมีที่แขวนผ้าพร้อมไม้แขวนให้แบบนี้ค่ะ เป็นอีกไอเดียในการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว



ตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่า ซ่อนอยู่ในผนัง

และที่ขาดไม่ได้คือ Free-wifi ให้เราได้ใช้อัพโซเชียลกันตลอดการเข้าพักค่า ^V^



ส่วน Star B แปลนห้องพักจะคล้ายๆ Star Room แต่ที่แตกต่างกันคือ

Superior Star Room จะเป็นเตียงแบบ Twin เท่านั้น แปลนห้องเหมือนห้อง Star room พื้นที่ใช้สอย 18 ตรม.



Super Star Room จะเป็นเตียงแบบ Double เท่านั้น พื้นที่ใช้สอย 25 ตรม. และที่มีเพิ่มให้คือโต๊ะทำงาน และโคมไฟ LED ที่หัวเตียงแบบปรับได้ นักธุรกิจทั้งหลายหรือหนุ่มๆ สาวๆ ที่มาทำงานเลือกห้อง Type น่าจะเหมาะค่ะ



Super Star Room with Balcony จะเป็นเตียงแบบ Twin เท่านั้น พื้นที่ใช้สอย 28 ตรม. และสิ่งที่มีเพิ่มเข้ามานอกจากโต๊ะทำงาน โคมไฟ LED ก็คือระเบียงที่ยื่นออกไป ไว้เดินออกมารับลมเย็นๆในช่วงกลางคืนค่ะ



Super Star Family 4 PAX จะเป็นเตียงแบบ Double 2 เตียง พื้นที่ใช้สอย 28 ตรม.เหมาะสำหรับครอบครัวหรือเดอะแก็งค์ เพราะห้องนี้นอนได้ถึง 4 คนเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าโรงแรมออกแบบให้อ่างล้างหน้าแยกออกมาแบบนี้ ทำให้สะดวกเวลาใช้งาน มากันหลายๆคน คนอาบน้ำก็อาบไป คนแปรงฟันก็แปรงไป ใครปวดหนักก็เข้าห้องสุขา จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอค่ะ ^V^

(กดเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมตามลิงค์ได้เลยค่ะ)



ข้อดีอีกอย่างคือปลั๊กไฟของโรงแรมจะเป็นแบบ "Universal Power Socket (220V)"

ถึงพาเพื่อนต่างชาติมาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหา Adapter ให้วุ่นวายค่ะ



เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาพักผ่อนซะที ทริปนี้อยากนอนชิลล์ ชิลล์

เลยเลือกที่จะไปนอนอ่านหนังสือที่สระว่ายน้ำกันดีกว่าค่ะ

อุปกรณ์พร้อมแล้วไปกันเล๊ย



สระว่ายน้ำของโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก Star B นะคะ เป็นสระกลางแจ้งขนาดกระทัดรัด



ลงไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเบิกผ้าขนหนูก่อนค่ะ



น้องกะลาสีจะจดเบอร์ห้องเราไว้ พอใช้เสร็จก็เอามาคืนที่เดิมนะคะ


15.30 น. เป็นช่วงที่แดดกำลังดี จึงไม่นาแปลกใจที่สระว่ายน้ำจะเป็นที่หมายตาของทุกคน

ตอนที่เราไปถึงมีคนเล่นอยู่ก่อนแล้ว เราเลยย้ายไปที่อื่นแทนค่ะ

อย่างที่บอกว่าเรามาอยู่ใน "อาณาจักรของ A One" แล้ว เราสามารถไปใช้พื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมในเครือได้ค่ะ

เฮ๊ยยยยยย....คือดีได้อีกอ่ะ



แว๊บไปดูโรงแรมข้างๆ กันดีกว่า สระว่ายน้ำของ A One Pattaya Beach Resort จะเป็นกระจกใสแบบนี้ค่ะ คือแอบเซ็กซี่เล็กๆ ใส่บิกินี่สวยๆ แล้วให้เพื่อนถ่ายจากด้านนอกได้รูปสวยไปอี๊กกกกกกก ^V^



จริงๆเหตุผลหลักของการสร้างสระกระจกแบบนี้นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังใช้ประโยชน์สำหรับในกรณีแขกที่เล่นน้ำแล้วเกิดจมน้ำหรือเกิดอุบัติเหตุในสระ พนักงานจะสามารถมองเห็นและช่วยเหลือได้ทันทีค่ะ



จุดเด่นของตึกนี้คือระบบโครงสร้างตึกที่ออกแบบมาเอื้ออำนวยต่อการใช้ wheels chair ทั้งบันได ลิฟท์ และห้องพัก จนได้รับรางวัลอาคารใจดี จากสมาคมสถาปนิสยามในปี 2556 ที่ผ่านมาด้วยค่ะ....สาระมานิดนึง ^V^

ถ้าใครกำลังมองหาโรงแรมที่พาผู้ป่วย หรือญาติผู้ใหญ่ที่ต้องใช้ wheels chair ไปพัก ที่นี่ตอบโจทย์มากค่ะ



ด้วยตัวเลือกเรามีเยอะ เรายังตัดสินใจไม่ได้ จึงเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม

เพื่อมาดูสระว่ายน้ำที่ A One The Royal Cruise Hotel บ้างค่ะ

ที่นี่มี 2 สระนะคะ สระเด็กจะอยู่ด้านในค่ะ



วัย Seventeen แบบเราต้องเลือกสระผู้ใหญ่สิเนอะ.....หรา ^V^



ที่นี่มีบาร์น้ำด้วย สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบชิลล์ ชิลล์ที่สระได้เลยค่ะ



บรรยากาศโดยรอบค่ะ



ชอบมุมนี้มากที่ซู๊ดดดดด ...จองไว้ก่อน



เลือกที่นั่งได้แล้วก็อ่านหนังสือวนไปค่ะ



ใครอยากเล่นน้ำก็เล่นไป





สักพักเริ่มทนไม่ไหว ขอตามไปเล่นมั่ง.... แฮร่ ^V^



นอกจากสระว่ายน้ำที่เราสามารถมาใช้ได้แล้ว ที่นี่ยังมีห้องฟิตเนสบริการฟรีด้วยนะคะ (เปิด 07.00 - 22.00 น.)

สาย Healthy ทั้งหลายอย่าลืมเตรียมชุดออกกำลังกายมาด้วยน๊า

แอบไปส่องมา ห้องและอุปกรณ์ดีมาก เป็นอีกหนึ่งจุดที่แนะนำค่ะ



ส่วนสาย Music ที่นี่ก็มีห้อง Karaoke ด้วยนะคะ มีทั้งแบบห้องเล็ก ชม.ละ 300 บาท

และแบบห้องใหญ่ (เช็คราคากับทางโรงแรมอีกทีนะคะ)

เดอะแก็งค์ถ้าอยากมาประชันเสียงกันก็เชิญที่นี่ได้ค่ะ ^V^



17.30 น. เล่นน้ำจนฉ่ำ ก็ขึ้นมาอาบน้ำและออกไปสำรวจหน้าหาดกันดีกว่า

เดินจากโรงแรม 3 นาทีก็มาถึงหาดพัทยาแล้วววว....ใกล้ได้อี๊กกกกก ^V^ ใครหิวแล้ว ตามมาเลยค่า

.

วันที่เราไปที่หาดพัทยามีงาน "Amazing Pattaya Seafood Festival 2017" พอดี

จะมีการออกร้านขายอาหารทะเล ปรุงกันสดๆ เสิร์ฟกันร้อนๆ เดินเลือก เดินซื้อมานั่งทานกันได้เลย



seafood ละลานตามาก ที่สำคัญราคาไม่แพงค่ะ



ใครอยากทานอันไหนเลือกได้เลย



ในงานไม่ได้มีขายเฉพาะอาหารทะเล...... เครื่องดื่ม ขนมหวาน ก็ยกกันมาให้ชิมค่ะ



Fruit punch แก้วละ 10 บาท อร่อยและถูกมาก



เห็นแต่งตัวเท่ห์ๆ แบบนี้ให้ทายว่าร้านนี้ขายอะไร ???????



ไอศครีมไข่กรอบค่า.....ที่ซื้อเพราะชุดเกร๋นะ พูดเลย ^V^



ผัดไทร้านนี้เค้าว่ารสชาดเด็ด แต่ที่เด็ดกว่าคือลูกสาวจ้า....ลูกสาว 2 คนน่ารักทั้งคู่เลย ^V^



แต่ตัวนี้ไม่ได้ขายน๊า ไม่ต้องถามราคา แฮร่ ^V^



ยิ่งค่ำบรรยากาศยิ่งดี ลมพัดเย็นๆ เดินเล่นริมชายหาด จูงมือแฟนดูพระอาทิตย์ตก โรแมนติกได้อี๊กกกกกกกก



ในส่วนของมื้อเย็นนั้น ดินเนอร์กันริมหาดเลยค่า



นอกจากอาหารทะเลสดๆแล้ว ในงานยังมีดนตรีสดเล่นให้ฟังด้วย

คือทริปนี้ไม่ได้ไปเดินเที่ยวไหนเลย เดินกิน แล้วมาจบที่นี่เลย ดนตรีเพราะ โยกกันเพลินเลยค่ะ

ดูเวลาอีกทีเที่ยงคืนแล้วววววว เค้าว่า.....เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไว....ซึ่งมันก็จริงนะ


Day 2 :

07.00 น. เจอเตียงดูดวิญญาณเข้าไป พี่นี่แทบไม่อยากลุกเลย

แต่ท้องเริ่มประท้วง....เอาค่า ตื่นก็ตื่น.....



ห้องอาหารเปิด 07.00 - 10.00 น. แจ้งเบอร์ห้องให้น้องกะลาสีทราบ แล้วเข้าไปด้านในกันเลยค่ะ



สถานที่เป็นแบบ open นะคะ ถ้ามาตอนเช้าๆ นั่งทานด้านนอก รับลมเย็นๆ มีมุมน่ารักๆให้เลือกนั่งหลายมุมเลยค่ะ



ถ้าใครลงมาสาย แดดอาจจะเริ่มแรง แนะนำให้เข้าไปนั่งโซนห้องแอร์จะสบายกว่าค่ะ



ไลน์อาหารเช้าของที่นี่ เริ่มที่ขนมปังที่มีให้เลือกหลากหลาย



ทาด้วยแยมผลไม้ มีให้เลือกทั้ง แยมส้ม แยมสตรอเยอร์รี่ และ แยมสับปะรด



ทานคู่กับ ชา กาแฟ หรือนมร้อนๆ ช่วยแก้ง่วงได้ดีเลยค่ะ ^V^



สายแข็งเชิญทางนี้ค่ะ ข้าวผัด ผัดหมี่ ใส้กรอก แฮม ขนมปังอบ ซุปถั่ว และข้าวต้มทะเลร้อนๆ พร้อมทาน



โถใส่เครื่องปรุงสีสันสดใสมาก ^V^



เมนูสารพัดไข่ ออมเล็ต ไข่ดาว ไข่คน ก็มีน้องๆรอรับออเดอร์อยู่ค่า



มุมนี้เป็นปาท่องโก๋ ทอดร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟ



สาย healthy ก็มีสารพัดผักและผลไม้ให้เลือกทาน




น้ำสลัดมีให้เลือก 3 แบบ คือสลัดครีม เทาร์ซั่นไอซ์แลนด์ และ น้ำสลัดงาญี่ปุ่น เราชอบอันสุดท้ายมากที่สุด



มุมนี้จะเป็นซีเรียล นมสด และน้ำผลไม้



ที่ขาดไม่ได้คือผลไม้ตามฤดูกาลค่ะ



พร้อมแล้ว....ทานกันเล้ยยยยยยยย


ถามว่าที่นี่โอเคมั๊ย ???? ถ้าใครชอบจ่ายราคาสบายกระเป๋า ค่าห้องหลักร้อย (มากับเพื่อน 2 คน จ่ายคนละไม่ถึง 500) ได้ทำเลติดหาดพัทยา เดินทางสะดวก Facility ครบครัน แถมอาหารเช้าแบบนี้ เราถือว่าคุ้มมาก .....เหมาะสำหรับวัย Seventeen แบบพวกเรานี่แหละ....หรา

แต่ด้วยพื้นที่ห้องขนาดกระทัดรัด การเก็บเสียง อาจจะยังมีเสียงภายนอกเล็ดลอดมาบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับวัยกินเก่ง นอนง่ายแบบพวกเราเนอะ ^V^ (อันนี้พูดถึงเฉพาะห้อง type Star Room นะคะ ห้องที่ใหญ่กว่านี้ อาจจะไม่มีปัญหานี้ค่ะ)



11.00 น. Check out จากโรงแรม ก่อนกลับหาที่เดินย่อยอาหารสักหน่อย

ทริปนี้เราพักร่างจากทะเล เลยเลือกมาถ่ายรูปเล่นก่อนกลับที่นี่ค่ะ "ฟาร์มแกะพัทยา"


ทำไมถึงมาที่นี่???? เพราะได้ยินว่าที่นี่เค้าเปิดโซนใหม่ "เมืองนิทาน" เลยอยากมาดูค่ะ

จ่ายเงินค่าเข้า 60 บาท แล้วเข้าไปด้านในกันเล๊ย (เด็กส่วนสูงไม่เกิน 110 ซม. เข้าฟรีนะคะ)



มุมแรกที่เจอก็สะดุดตาแล้วค่ะ



มีมุมน่ารักๆเพียบ ถ่ายรูปเล่นสนุกมากค่ะ




มุมเครื่องเล่นสำหรับน้องๆ หนูๆ ก็มี



นี่จ่ายค่าตัวแค่ 20 บาท เล่นใหญ่กันขนาดนี้เลยหรา ^V^



เค้ารักกันอยู่ดีๆ จะเป็นมือที่ 3 ไม่ได้นะยูวว์ ^V^




กิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้คือ การนั่งรถม้าชมฟาร์ม การขี่ม้าแคระ



การเยี่ยมชมสัตว์และป้อนอาหารอย่างใกล้ชิด




บัตรผ่านประตูสามารถนำมาแลกหญ้าเลี้ยงน้องแกะได้ค่ะ แต่จะสามารถเที่ยวได้เฉพาะฟาร์มแกะเท่านั้น

เมืองนิทานจะเป็นอีกส่วนที่อยู่ในฟาร์มแกะ ต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากอีก "20 บาท" ค่ะ



ยังจำนิทานสมัยเด็กที่เราชื่นชอบกันได้มั๊ย มารำลึกความหลังใน "เมืองนิทาน" ด้วยกันค่ะ

ในนี้จะจำลองเกี่ยวกับนิทานเรื่องต่างๆ ให้เราได้เข้าไปย้อนวันวานด้วยกัน

อ่านกฎระเบียบก่อนเข้าค่ะ


เมื่อก้าวผ่านประตูเข้ามาเราจะเจอกับ "Talking Tree" ต้นไม้พูดได้ที่จะรอต้อนรับเราอยู่ค่ะ



ด้านหลังจะเป็นปราสาทของเจ้าชายกบ เดินขึ้นไปบนปราสาทได้เลยนะคะ ถ่ายรูปสวยๆ ^V^



ทางเดินจะเดินเป็นวงกลมรอบๆปราสาท ตรงนี้จะมีมังกรยักษ์เฝ้าอยู่



ด้านหลังจะเป็นหมู่บ้านขนาดย่อมๆ ทั้งบ้านของ Hunchback ที่มายืนอยู่หน้าบ้าน



แอบดูสโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7 ที่กำลังบรรเลงเพลงกันอย่างสนุกสนาน



ใกล้ๆกันหนูน้อยหมวกแดงก็กำลังจะเข้าไปในบ้านที่มีหมาป่านอนรออยู่



ส่วนฮันเซลกับเกรเทลผู้หิวโหยก็กำลังกินบ้านขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่รู้ว่าแม่มดใจร้ายกำลังจ้องมอง



ราพันเซลก็เหม่อมอง รอเจ้าชายมาช่วยออกจากหอคอย



แจ็คกำลังโค่นต้นถั่ว ทำให้เจ้ายักษ์ตกลงมาหัวโหม่งพื้น



ลูกหมู 3 ตัวก็กำลังปรึกษากัน ว่าะจัดการกับหมาป่าที่จะมาพังบ้านของพวกเค้ายังไงดี


เดินเที่ยวจนทั่วก็ได้เวลากลับค่า

จบทริปนี้ไปแบบชิลล์ ชิลล์ พร้อมสายฝนที่อยู่เป็นเพื่อนตลอดการเดินทาง.....

....ไว้พบกันใหม่ทริปหน้าค่า ^V^



***************************************************************************************************************






เที่ยวนอกบ้าน

 วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.01 น.

ความคิดเห็น