"Remember that happiness is a way of travel – not a destination." – Roy M. Goodman

ความสุขของการเดินทางเกิดขึ้นระหว่างทางที่ไป ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง



ระหว่างทางที่ไป ทำให้เราพบเจอกับอะไร เราไม่มีวันรู้ล่วงหน้าได้

แต่หากสิ่งที่เราได้พบเจอ และสัมผัสมาได้นั้น คือดีงาม และอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันเพิ่มขึ้น

นั่นเป็นเรื่องดีมากกว่าที่เราจะนำมาบอกต่อในวันนี้..



เมื่อเอ่ยถึง "ป่าตอง-ภูเก็ต"ขึ้นมาหลายคนจะได้ยินและการกล่าวถึงว่า ของแพงไปนะ ไม่มีอะไรน่าดูน่าเที่ยว นอกจากสถานบันเทิงต่างๆ ที่ผุดเป็นดอกเห็ด ในความรู้สึกของเราเองแรกเริ่มเราก็รู้สึกแบบนี้นะคะ ว่ามีแต่ร้านค้า ที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเสียมากกว่าแต่ทว่า วันนี้เรามีโอกาสได้มาเยือนป่าตอง-ภูเก็ตเราจะไปกินที่ไหน เราจะไปเที่ยวอย่างไร เราจะเดินทางไปยังจุดไหน และสุดท้ายเราจะพักที่ไหน ให้คุ้มกับเงินที่ได้จ่ายไปเราอยากมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกมุมหนึ่งของป่าตองค่ะ และอาจจะเป็นอีกมุมหนึ่งที่เชื่อว่า หลายคน ยังไม่รู้จัก !!การเดินทางในครั้งนี้เราใช้บริการกับสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ค่ะ เราเลือกไฟท์บินดึกวันศุกร์ และกลับวันอาทิตย์รอบดึกสุดเช่นกัน เพราะจะได้มีเวลาท่องเที่ยวได้นานและสะดวก เผื่อเวลาในการเดินทางได้มากกว่า



แรกเริ่มจากการจองเที่ยวบินที่เวปwww.bangkokair.com

กันแต่เนิ่นๆ เราหมั่นเช็คโปรโมชั่นของสายการบินในแต่ละเดือนก็จะทำให้เราไม่พลาดและได้ราคาที่เราพึงพอใจ

และอีกสาเหตุที่เราเลือกบางกอกแอร์เวย์ เพราะการบริการ รวมทั้งขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ใกล้บ้านเรามากกว่าสะดวกในการเดินทางไปมาตอนดึกได้เป็นอย่างดี



วันเดินทางของเราก็มาถึง...ฺ BKK-HKT



หลังจากเช็คอินที่หน้าเคาน์เตอร์ บางกอกแอร์เวย์ เราก็เดินไปยังเลานจ์ ของบางกอกแอร์เวย์ กันเลยค่าาาา ยื่นบอร์ดดิ้งพาสให้กับพนักงานจะเอารหัส Password Wi-Fi


เข้ามาเลือกทำเลที่นั่งชิลกันได้เล้ยยย



แต่ช้าก่อน เห็นพี่หมีตัวบิ๊กไซด์ขนาดใหญ่ ไม่ถ่ายรูปคู่ด้วยก็กระไรอยู่นะ 555จัดไปค่ะ มีคนบอกว่า ถ้าเข้าเลานจ์ของบางกอกแอร์แอร์เวย์ ไม่ถ่ายรูปกับพี่หมี และไม่ทานข้าวต้มมัด ถือว่าไม่ได้เข้าเลานจ์เขาจริงนะเออ ส่วนเรา 2 ช็อตเด็ดนี้ก็ไม่พลาดเช่นกันค่ะ (ภาพถ่ายกะข้าวต้มมัดเราหน้าสวยไปหน่อยไม่ขอเอาลงนะ แหะๆ)



ภายในเลานจ์ที่กว้างมีหลายจุดหลายมุมให้เลือกนั่ง สแน็คทานเล่น เครื่องดื่มอีกหลากหลาย นั่งเพลินแบบไม่ต้องกลัวตกเครื่องเพราะพนักงานจะประกาศไฟท์ต่อไปที่จะเดินทางให้เตรียมตัวกันจ้าาา



พอขึ้นมาบนเครื่องก็มีอาหารและของทานเล่นให้ด้วยค่ะ มื้อดึกของเราขอเลือกเป็น พายเผือก ที่มาพร้อมกับความอุ่นเหมือนอบออกมาใหม่ๆ และรสชาติของเผือกได้เต็มๆ คำ



ตลอดระยะเวลา 1.20 ชั่วโมง สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต มีแอบได้งีบสักหน่อยก็เป็นการพักสายตาที่ดีได้เหมือนกันล่ะน้า



ถึงสนามบินภูเก็ตปุ๊ปเรา รับกระเป๋า การเดินทางไปต่อยังที่พักมีให้เลือกสองแบบค่ะ



ครั้งนี้เราเลือกพักที่ป่าตอง-ภูเก็ต

นั่งรถตู้จากสนามบินไปยังที่พักค่าบริการคนละ 180 บาท หรือจะเลือกนั่งแท็กซี่เหมารวม ค่าบริการคันละ 800 บาทค่ะ



แต่นแต้นนนน ที่พักของเราใน 2 คืนที่ป่าตอง-ภูเก็ต เป็นบูติคขนาดกลางมี 49 ห้องค่ะ

เราพักกันที่นี่Islanda Boutique Hotel

พูดถึงที่พักและค่าครองชีพ ตลอดจนร้านอาหารต่างๆ ในป่าตองจะแพงมากกกก เรียกว่าเป็นราคาเพื่อชาวต่างชาติโดยแท้

แต่หากเราจะบอกว่าIslanda Boutique Hotel ที่นี่ที่เราได้พักคืนหลักร้อย คุณจะเชื่อมั้ยว่า ราคานี้ยังมีที่ป่าตอง!!!



Islanda Boutique Hotel มีอยู่ 3 ตึกค่ะ A B C ตอนเรามาน่ะถึงดึกมากแล้ว ยังมีพนักงานคอยต้อนรับและส่งที่ห้องพัก


พนักงานน่ารักค่ะ เมื่อเห็นเรามาถึงดึกๆ กระซิบถามหิวไม๊ อยากทานอะไรไม๊ ทางโรงแรมมีแนะนำร้านอาหารที่กินที่เที่ยว

ให้ไปตามลายแทงอีกด้วยนะคะ



ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวนี่เจ้าของโรงแรมเค้ามาแนะนำกันเองเลย

เจ้าของโรงแรมที่นี่ใจดีมากค่ะ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นกันเองและพาเที่ยวด้วย ถ้าหากเค้าว่างนะคะ ต้อนรับอย่างอบอุ่น

เสมือนว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันก็ไม่ปาน ตรงนี้ถ้าใครได้ไปสัมผัสก็จะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะคะมีโต๊ะสนุ๊กเกอร์ผ้าสักกะหลาดแดงสีสวยด้วย ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นผ้าสีนี้เลยค่ะ

เมื่อเห็นล่ะคะ ต้องทำไงกันต่อดี อิอิ



เห็นแล้วก็จับไม้ทิ่มแทงสิคะ แหมมม เป็นไม่เป็นไม่ว่าขอเอาฮาไว้ก่อนล่ะค่าาาอิอิ



ไปดูห้องพักกันต่อค่าาาา Islanda Boutique Hotel ห้องพักหลักร้อย มีจริงที่ป่าตอง และห้องพักหลักร้อย หน้าตาจะเป็นอย่างไร ไปชมกันๆ



นี่คือห้องพักหลักร้อย ที่เราได้พัก ตลอด 2 คืนที่ Islanda Boutique Hotel ค่ะ


พื้นห้องเป็นแบบปูนเปลือย แบบห้องเป็นแบบ Family มีประตูเชื่อมถึงกันได้ด้วยเตียงนุ่ม ชุดเครื่องนอนสะอาด รู้สึกโซนที่เราได้มาพักจะเป็นตึกใหม่ และห้องใหม่มากค่ะ สังเกตเห็นถ่านดับกลิ่นในยังมีติดไว้ในห้องอยู่เลยนะ อิอิ



และที่เราเห็นๆ มีคือ ห้องหลักร้อยนี่เค้ามีตู้นิรภัยให้ด้วยนะคะ บอกตามตรงว่าไม่เคยเห็นห้องเรทเท่านี้มีตู้นิรภัยเลยจริงๆค่ะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทีวี กาต้มน้ำร้อน เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ตู้เย็นมีพร้อมน้ำดื่มให้ฟรี 2 ขวด และที่ขาดไม่ได้คือ Free Wi-Fi



ทางเดินระหว่างห้องพักบุพรมกันเสียง ไม่มีเสียงรองเท้ากระทบกันให้รำคาญหู


และทางเชื่อมต่อระหว่างตึก A ไปยังตึก Bมีหลังคากันแดดกรองแสง



และยังมีที่นั่งชิลๆ ริมระเบียงในแต่ละชั้นที่นี่เค้าเอาไว้สูบบุหรี่ด้วยอะป่าว เห็นมีที่เขี่ยบุหรี่ด้วยค่ะ คงจะใช่นะคะ



มาดูห้องพักตึก A ที่ได้เก็บภาพมาให้ชมกันบางส่วนค่าาาา เล่นโทนสีสัน หวานซ่อนเปรี้ยวกันเลยทีเดียว



ดีไซน์ประตูห้องพักในแต่ละห้อง เส้นคาดเก๋ไก๋ และมีช่องมองตาแมว เพิ่มความปลอดภัยให้แขกที่เข้าพัก ไม่ใช่ใครก็ขึ้นมาได้นะคะ จะมีพนักงานเฝ้าดูแลกันอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ทางเข้า-ออกโรงแรมมีเพียงแค่ทางเดียวค่ะ



บอกแล้วว่าไม่ได้โม้ค่าาาา Islanda Boutique Hotel ห้องพักในป่าตองราคาหลักร้อยจริงๆ ถามว่าติดหาดป่าตองไหม


ไม่ติดค่ะ สามารถแว๊นมอไซด์ให้เช่าในราคา 200-250 บาทต่อวันเพียง 5 นาทีก็ไปถึงชายหาดได้

ราคาที่พักหลักร้อยนี้ขึ้นอยู่กับช่วง High season กับ Low season ด้วยนะคะ

วันนี้เราจึงลองเช็คราคาในเวป Booking.com ดูราคาในวันหยุด เริ่มต้นที่ 600+ บาท



หรือหากใครอยากจองกับทางโรงแรมโดยตรงหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้เช่นกันค่า



Islanda Boutique Hotel

162/98-100 Phangmueng Sai Kor rd., Patong, Kathu, Phuket, Thailand 83150

Tel. 076-322-855

คุณดาม - 087-3339900

http://www.islandaboutiquehotel.com/

FB.Islanda Boutique Hotel

Line : fanfoo26เมื่อแนะนำที่พักแถวป่าตองอย่างไรให้ได้ถูกไปแล้ว

เราก็มาแนะนำที่เที่ยวกันต่อค่ะ 3 วันสองคืน ป่าตอง-ภูเก็ตเราไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง ที่นี่มีคำตอบให้ค่ะ

(เฉพาะ One Day Trip นี่เราขอไม่รวมกับงบ 1800 ตามที่แจ้งนะคะ เพราะว่าถ้ารวมเกินแน่ๆ ลงภาพมาดูเป็นไกด์ไลน์เฉยๆ ว่าเราไปเที่ยวที่นี่มาน้าา)



One Day Trip วันแรก เราไปล่องเรือยอร์ช แพ็คเก็จโปรแกรมทัวร์จาก Discover Catamaran กับโปรแกรมทัวร์เกาะไม้ท่อน ดำน้ำเกาะราชาน้อย และชมพระอาทิตย์ตก ณ แหลมพรหมเทพ



ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง และปีที่สองที่เราได้ไปกับทัวร์นี้ค่ะ

เราขอมาอัพเดทให้ชมในรีวิวแยกถัดไปดีกว่านะคะ เพราะภาพเยอะมากกก เลื่อนกันยาวแน่ๆ ถ้ารวมอยู่ในรีวิวที่เดียวกัน



คนไปเที่ยว "ทะเล" มีอยู่ 2 อย่าง คือ ถ้า "ไม่หนีร้อน" มา ก็ "หนีรัก" อันนี้เราไม่รู้ แต่เราดันหนีฝนนะ >_<และสถานที่ท่องเที่ยวดังต่อไปนี้ เป็นคำแนะนำจาก Islanda Boutique Hotel กระซิบบอกลายแทงมาให้ค่ะ


ซึ่งจะมีการเปิดฉายภาพฟรีเซ้นต์จากจอ TV ให้เราได้เห็นก่อนว่าน่าสนใจกันมั้ย

เรากลับจาก One Day Trip มาก็ขึ้นเขากันต่อเล้ยยยยย จากที่พักIslanda Boutique Hotel ขับรถมาเพียง 10 นาทีเท่านั้นค่ะ

Wassa Homemade Bar คือ บาร์ มีมีโต๊ะนั่งชิลๆ บรรยากาศดี พร้อมเครื่องดื่มไว้บริการให้นักท่องเที่ยว

ส่วนใหญ่เราจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขึ้นมากัน ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากนัก

แต่ครั้งนี้แหละ เรามาบอกผู้อ่านกันแล้วนะ ฮี่ๆ



บาร์แห่งนี้อยู่ในระดับสูงกว่าป่าตองแต่เมื่อขึ้นมาแล้วคุ้มค่าสำหรับวิวมากค่ะ


ยิ่งมาในช่วงเทศกาล เฉลิมฉลองเช่น เคาท์ดาวน์ จะมีพลุจุดจากเบื้องล่าง ยิ่งมองจากมุมบนนี้จะยิ่งสวยอย่างตระการตา



คืนนี้เรามาถึงมืดแล้วตั้งใจว่า คืนต่อมาเราจะมาเก็บภาพบรรยากาศให้ชมกันใหม่ แหมมมม เสียดายมากฝนตกซะนี่ หากได้มีโอกาสไปป่าตอง ภูเก็ตอีกครั้งเราต้องไม่พลาดสถานที่แห่งนี้แน่ๆ ค่ะ สวย บรรยากาศดี เหมาะกับการนั่งชิลอย่างมากมาย


ได้มองเห็นป่าตอง และทะเล ในเบื้องล่าง อย่างเต็มๆตา



จำชื่อนี้ไว้กันนะคะ Wassa Homemade Bar



GPS. 7.888378, 98.295089



เช้าวันอาทิตย์ วันสุดท้ายของเรา ที่ Islanda Boutique Hotel กับมุมน่ารักๆ เก็บภาพมาฝากกันค่าา


เรายังคงตามลายแทง ที่กินที่เที่ยวที่ทาง Islanda Boutique Hotel กันอยู่นะคะ

บอกแล้วว่าเราไม่มีแผน ไม่มีจุดหมาย แต่เราก็สามารถตัดสินใจเปิดรับมองหาสถานที่ใหม่ๆ ที่เรายังไม่รู้จักกันได้



อย่าพลาดกับการถ่ายรูปคู่กับ แอสโตรบอย เจ้าหนูพลังปรมาณู ที่นี่ด้วยนะคะ เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Islanda Boutique Hotel ด้วยเช่นกันค่าาาา



เมื่อถามถึงอาหารในป่าตอง ส่วนใหญ่จะขายในราคาชาวต่างชาตินะคะ ต้องรู้แหล่งกันหน่อย นี่เล้ยยย ตลาดบ้านซ้านดีกว่า ของกินเยอะ ราคา 40-60 บาทเป็นราคาอาหารจานเดียว ราคานี้รับได้ๆ จริงๆ เราก็ไม่สันทัดเรื่องร้านอาหารเท่าไหร่ อาศัยตระเวณไปเรื่อยๆ เห็นร้านไหนน่านั่งก็แวะเข้าไปเลยค่า ส่วนราคาและรสชาติอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าดีเราก็จะบอกต่อนะ แต่ครั้งที่เราไปกินบ่ายวันหนึ่งในป่าตองนั้น ลืมไปซะเหอะ >_<



สายๆ วันนั้นเราออกมาทานติ่มซำร้านชื่อดังกันค่ะ หาที่จอดรถยากหน่อยเพราะคนเยอะมากกก


ตรงข้ามร้านติ่มซำเป็น โรงงานสุรากรรมสรรพาสามิต จังหวัดภูเก็ต หรือเรียกว่า โรงเหล้าที่บ้านเก็ตโฮ่

เข้าไปเก็บภาพถ่ายรูปเล่นหน่อยนึงนะคะ ปัจจุบันได้ยกเลิกโรงเหล้าไปแล้วและมีการบูรณะใหม่ทาสีซะสวยเชียว



ร้านติ่มซำที่เราได้มาทาน สายวันนั้นคือร้านนี้ค่ะ เก็ตโฮ่ ติ่มซำ GPS.7.903815, 98.352310

การเดินทาง...ร้านจะอยู่บริเวณบ้านเก็ตโฮ่ จากในตัวอ.เมืองจะมาได้ 2 ทาง

1. จากแยกเซ็นทรัล ให้ใช้เส้นทางไป อ.กะทู้หรือหาดป่าตอง จะเจอกี่ไฟแดงก็ตรงอย่างเดียว

ร้านจะอยู่ด้านขวามือห่างจากเซ็นทรัลประมาณ 3 กิโลเมตร

2. จากแยกโลตัส ให้ใช้เส้นทางไป อ.กะทู้หรือหาดป่าตอง เจอไฟแดงแรกเลี้ยวซ้าย ตรงไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ



เก็ตโฮ่ ติ่มซำ เป็นติ่มซำ ร้านที่นิยมของชาวภูเก็ต เพราะมีเอกลักษณ์คือ นึ่งสดๆ โดยเลือกติ่มซำในตู้เก็บความเย็น ให้เราเลือกกันเองเลยและไปให้พนักงานที่ร้านนึ่งกันสด ๆ ให้เห็นหน้าร้านเลยค่าา



ติ่มซำทุกเข่งละ 18 บาท

มีขนมจีนน้ำยาต่างๆ พร้อมผักเครื่องเคียงอีกเพียบ ขนมจีนราคาจานละ 25 บาท ส่วนน้ำผลไม้ต่างๆ แก้วละ 15-20 บาทค่ะ



มาดูติ่มซำนึ่งสดบนโต๊ะเรากันค่าา



คราวนี้ก็มาร้านของฝากกันมั่ง เนื่องจากไปเที่ยวไหนบ่อยๆ พอกลับไปเจอคำถามกันไหมคะ มีไรมาฝากบ้าง ซื้อไรมาฝากกันบ้างน่ะ


ขอบอกว่าเราน่ะเจอคำถามนี้บ่อยมาก 555มาแวะกันค่ะที่ร้าน ลันตาซูวิเนียร์ ห่างจากที่พักเพียง 5 นาทีเท่านั้น

แต่ร้านยังไม่มีป้ายชื่อนะคะ เป็นร้านขายส่งของฝากของที่ระลึกย่านป่าตองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ตก็ว่าได้



ร้านลันตาซูวิเนียร์ ร้านขายของที่ระลึกที่ใหญ่สุดในป่าตอง และภูเก็ต


เราเข้าไปสำรวจราคาแล้วไม่แพงอย่างที่คิด เป็นราคาทั่วไป ราคาหลักสิบ หลักร้อย มีตั้งแต่พวงกุญแจ ชิ้นเล็กๆ ไปยังสินค้าชิ้นใหญ่ๆ ของแต่งบ้าน เครื่องสำอางค์ประเภทสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาตินี่จะขายดีกันเชียว



ลันตาซูวิเนียร์ ร้านใหญ่มีสองชั้น ชั้นสองจะเป็นเสื้อผ้าอีกเยอะมาก เรายังแปลกใจว่ายังไม่มีใครเช็คอิน FB ที่นี่ักันเลยหรือยังไม่มีใครรู้จักมากนักหรือเปล่า วันนี้เรานำพิกัดร้านลันตาซูวิเนียร์ ป่าตองมาให้ด้วยล่ะกันนะคะ



GPS. 7.88603,98.29652



และสถานที่สุดท้ายที่เราได้มาแวะชมนั่นคือ Paradise Beach, Patong - Phuket


หาดพาราไดซ์ บีช เป็นหาดขนาดเล็กถัดจากหาดไตรตรัง ทางทิศใต้ของหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ต



พาราไดซ์ บีช เป็นหาดทรายขาว และมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากที่มาเที่ยวยังหาดแห่งนี้

และอยากบอกว่าหาดแห่งนี้สดใหม่มากๆ คนยังรู้จักกันน้อยมากนะคะ



เราเดินทางไป พาราไดซ์ บีช ป่าตอง ในครั้งนี้ด้วยการ แว๊นมอไซด์ขึ้นไปสลับเนินเขา ถนนลาดยางผสมคอนกรีต ใช้เวลา ราวๆ 15-20 นาที ก็สามารถถึงหาดส่วนบุคคลนี้ได้เลย หาดแห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจึงมีการเก็บค่าเข้าชมคนละ 100 บาท


จะได้เตียงผ้าใบให้นอนเล่นชิลๆ1 วันฟรีๆ ไปเลยค่าาา



หากเทียบกับวิว ทิวทัศน์ที่ได้ชมได้เห็น เราว่ามันคุ้มมาก เสียดายมาในช่วงฝนตก ฟ้าเลยหม่นขาวไปหน่อย ไม่อยากนึกเลยค่ะว่า ถ้ามาในช่วงแสงแดดจ้าๆ ความสวยงามของท้องทะเลไทยจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเพียงแค่ไหน ^^



สรุปลายแทงเส้นทางไปยังแห่งเกินแหล่งเที่ยวตามคำแนะนำของ Islanda Boutique Hotelพื้นที่ต่างๆ ภายในป่าตอง


เมื่อเทียบกับแผนที่ประเทศไทยที่จะเห็นได้ชัดอย่างมากนั้นคือ Paradise Beach, Patong

จะเป็นเพียงติ่งเล็กๆ ที่ยื่นออกไปจากเกาะภูเก็ตอีกที เมื่อได้มาเห็นแผนที่ตรงนี้แล้วทำให้เราอึ้งค่ะ

อึ้งว่าเราได้มายืน ในติ่งแห่งนี้ของแผนที่ประเทศไทยแล้วนะเออ



ช่วงเดินทางกลับ กทม.เราเลือกไฟท์ดึกเช่นเคยค่ะ และบินกับ บางกอกแอร์เวย์ ได้มีโอกาสมานั่งเลานจ์ บางกอกฯ ที่สนามบินภูเก็ต พักเบรคดูรูปที่เราถ่ายในทริปนี้พร้อมชิมขนม นมเนยฟรีภายในเลานจ์ ไปด้วย ก่อนขึ้นเครื่องและเดินทางกลับสู่สุวรรณภูมิอย่างสวัสดิภาพ



เราลองคำนวณ ค่าใชจ่ายคร่าวๆ หากใครมาเที่ยวป่าตอง ภูเก็ตและเข้าพักที่พักหลักร้อยเช่นนี้ 3 วันสองคืน ค่าใช้จ่ายต่อหัวไม่เกิน 1800 บาท(ไม่รวมค่าเครื่องบิน) อย่างแน่นอนค่ะ ^^


(ค่ารถตู้ไปกลับเที่ยวละ 180*2 - 360 / ค่าห้องพัก 600 / ค่าเช่ามอไซด์ 200 / ค่าอาหารคิดเลขกลมๆ มื้อละ 100 5 มื้อ 500 / ค่าเข้าพาราไดซ์ 100รวม 1760 บาท)



รักจะเดินทาง รักจะท่องเที่ยว เราต้องรู้จักวางแผนกันนะคะ เราเชื่อว่า เพื่อนๆ ก็ทำได้ เช่นกันค่ะ..



Story & Photo: RinSa YoyoLive

Photography: BiO-Sarawut



แล้วคอยพบกับการเดินทางทริปหน้าของเราในพื้นที่แห่งนี้

ขอบคุณทุกๆคน ที่ติดตามชมค่าาาา



RinSa YoyoLive



ความคิดเห็น