แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ "โมโกจู" คือชื่อยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งสูง 1,964 เมตรจากระดับน้ำทะเล ติดอันดับ Top Ten ยอดเขาสูงในไทยอันดับที่ 8 ส่วนคำว่า "โมโกจู" เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า"เหมือนฝนกำลังจะตก" ซึ่งที่เรียกอย่างนั้นน่าจะมาจากสภาพอากาศบนโน้นที่เต็มไปด้วยเมฆหมอกละมัง
ส่วนที่ว่าไปยากเนื่องจากเมื่อก่อนถ้าอยากไปพิชิตยอดเขาโมโกจูนี้ต้องเดินเท้าเข้าไปใช้เวลา 5 วัน 4 คืน แต่ตอนนี้ทางอุทยานได้มีการจัดการใหม่ร่นระยะเวลาให้เหลือแค่ 3 วัน 2 คืน ซึ่งถูกใจมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานักละ^^
แต่ก็อย่างละนะคนเรา "ยิ่งเข้าถึงยาก ก็ยิ่งอยากไป" งั้นอย่ารอช้า ตามมาเลยจร้าาาาหลังจากที่รวบรวมสมาชิกได้แล้วตามเงื่อนไขที่ทางอุทยานกำหนด เราก็รอวันเปิดจองจร้า ซึ่งความหวังทั้งหมดฝากไว้ที่หัวหน้าทริป ส่วนพวกเราที่เหลืออีก 11 ชีวิตทำได้แค่ลุ้นอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็ฟิตซ้อมร่างกายรอตามประสา รอประกาศรายชื่อจากทางอุทยานว่าเราจะได้ไปรึป่าว และแล้วกลุ่มเราก็ได้ไปเป็นทริปที่ 4 กลุ่มแรกคร่า เชิ๊บ เชิ๊บ
แปะภาพระเบียบการของ อช.ไว้ให้ดูคร่าวๆ นะคะ
พอถึงวันเดินทาง หลังจากจัดหาเสบียงที่เป็นของสดเรียบร้อยแล้ว เราออกจากบางกอกประมาณ 3 ทุ่ม ถึงอุทยานประมาณตี 2 ค่ะ ก็หาที่หลับที่นอนพักผ่อนเอาแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ ซึ่งกลุ่มเราก็ยึดพื้นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนั่นแหละคร่า^^
ด้านนอกบ้าง
ลูกหาบ 500/คน/วัน 3 วันก็ตกคนละ 1500 บาทค่ะ ซึ่งลูกหาบ 1 คนจะรับสัมภาระหนักประมาณคนละ 20 โล
ของกลุ่มเราใช้ลูกหาบ 4 คน แยกให้แบกเฉพาะของกองกลาง ส่วนของใช้ส่วนตัวพวกเราแบกเองค่ะ
นี่สำหรับลูกหาบค่ะ
ปล. ถ้าเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปแนะนำให้เอาไปเฉพาะที่จำเป็นนะคะ อย่าเอาเราเป็นเยี่ยงอย่าง ฮร่าาาาา
รถที่จะพาเราไปแคมป์แม่กระสาคร่าาาา
หลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกเดินทางกันเลย เป้าหมายของเราวันนี้อยู่ที่แคมป์แม่เราวา ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไปประมาณ 4 กม.ค่ะ
ข้ามคลองแม่กระสากันค่ะ จากตรงนี้เราเห็นมีผักกูดขึ้นก็เลยช่วยพี่อี๋เก็บไปทำเมนูสำหรับเย็นนี้ ผัดผักกูดน้ำมันหอยค่ะ
เอารูปตอนข้ามสะพานขอนไม้ ณ จุดนี้แต่เป็นขากลับมาลงแทนละกันน้อออ อยากให้เห็นภาพธรรมชาติรังสรรค์ ^^
กลุ่มเราส่วนใหญ่เลือกที่จะนอนปลาทู สำหรับคนที่ยังไม่รู้ก็คือนอนเรียงกันค่ะ ไม่ใช้เต๊นท์สะดวกในการจัดเก็บ แต่ก็มีคนนอนเปล นอนเต้นท์อันนี้ก็แล้วแต่ค่ะ รับผิดชอบตัวเอง แบกเอง ส่วนคนขี้เกียจแบบเรา ขอเอาแบบง่ายๆ ดีกว่า ฮร่าาาาา
นี่ไงหน้าตาแคมป์เรา เพื่อนสาวถ่ายไว้ แอบขอเอามาทำรีวิว ส่วนเรานอนแอ้งแม้งไม่สบายอยู่ในภาพคร่า
ถ้าเพื่อนๆ ไปโมโกจู อย่าพลาดแบบเราน๊าาา>< ส่วนเราขอเก็บภาพแค่ที่หน้าแคมป์ก่อนละกัน แอบถ่ายหนุ่ม^^
จำได้ว่าเมนูวันนี้มีน้ำพริกกะปิ ปลาทอด ผัดผักกูดที่เก็บมาจากคลองแม่กระสา แล้วก็แกงจืด แหม่ เสียดาย ไม่ได้ถ่ายรูปไว้
ปล.เราต้องอาหารเตรียมอาหารเผื่อลูกหาบด้วยนะคะ ส่วนใหญ่พี่ๆ เจ้าหน้าที่ก็จะเตรียมมาเอง แต่เราเตรียมเผื่อพี่เค้าด้วยก็ดีนะคะ เพราะพี่ๆ เค้าจะดูแลเราดีมากๆ^^
ที่แคมป์นี้เราอาบน้ำแปรงฟันในแม่น้ำแม่เรวาค่ะ แต่ถ้าจะเข้าห้องน้ำที่นี่ก็มีห้องน้ำให้ 3 ห้องสำหรับธุระหนัก-เบา เหมือนเดิมคือต้องไปตักน้ำจากแม่น้ำเอง
ช่วงกลางคืนอากาศค่อนข้างเย็นค่ะ เพื่อนๆ ก็จับกลุ่มตั้งวงแก้หนาวกันไป หลังจากทานข้าวเสร็จ ส่วนเราอัพยาเสร็จนอนโลด ไปเที่ยวทั้งที่ไม่สบายไม่สนุกเลยน้อออออออ (--")วันรุ่งขึ้น พวกเรารีบจัดการเรื่องอาหารทานข้าว แล้วก็ห่อไปสำหรับมื้อกลางวัน เพื่ออกเดินทางแต่เช้า เป้าหมายของเราวันนี้คือไปค้างที่แคมป์ตีนดอย แล้วก็ไปให้ทันดูตะวันตกดินบนยอดค่ะ ระยะทางจากแคมป์แม่เรวาไปแคมป์ตีนดอยประมาณ 8 กม. แต่ขอโทษนะขึ้นเขาตลอด และทางชันมาก มากแบบมว๊ากกกกๆ อ่ะค่ะเดินขึ้นเขาตลอด เราต้องเตรียมน้ำไปประมาณคนละ 2-3 ขวดเพราะจากจุดนี้ กว่าจะถึงจุดที่มีน้ำอีกทีค่อนข้างไกลค่ะ (จำได้ว่าเราออกเดินทางกันประมาณ 7-8 โมง ถึงจุดคลองหนึ่งที่เราจะเติมน้ำได้ก็ประมาณเกือบๆ บ่ายค่ะ)
ส่วนน้ำเราก็กรอกกันจากแม่เรวาเนี่ยละค่ะ ปกติก็กรอกเลย แต่หนนี้โชคดีมีพี่ที่ไปด้วยกันเค้าพกที่กรองน้ำไปด้วย เราเลยพลอยได้อานิสงไปด้วย^^
สโลแกนของพี่เค้าคือ กรองใสแต่ไม่กรองโรคค่ะ 5555+++ แต่อย่างน้อยก็ใสละเนอะ เพื่อนๆ อย่าลืมหาซื้อติดตัวไว้นะคะ อุ่นใจดีค่ะ
เดินไปเดินมาก็มาทันนางแบบ^^
พี่แอ๊นเล่นถลกขากางเกงสู้เลยค่ะ แกบอกว่าเวลาอะไรกัดจะได้มองเห็น เออเนอะ เราก็ปิดซะมิดเชียว^^"
เหมือนเราจะขึ้นมาช้าไปนิด แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าสวยมากๆ ค่ะ ไม่รู้เรามัวทำอะไร ไม่ได้ถ่ายภาพวิวเลยเฮ้ยยยย --"
หินเรือใบยามเย็นค่ะ
เราขอเรียกช่วงเช้าว่าศึกประลองท่าโพสละกันนะคะ
บนนี้ไม่ได้มีดีแต่หินเรือใบนะคะ วันที่เราไปมีทะเลหมอกด้วย ที่เห็นขาวๆ ไกลๆ อ่ะค่ะ
ถ้าจะมีใครบอกว่านางเยอะ ก็ไม่เถียงนะคะ ฮร่าาาาาาา
เราเตรียมธงชาติ กับธงเหลืองขึ้นไปด้วยค่ะ ตั้งใจจะเอาไปชูอยู่บนโน้นถ่ายรูป แต่ตอนนี้พี่เจ้าหน้าที่เอาไปปักสวยคู่อยู่บนยอดดอยละนะคะ ปลื้มปริ่มเชียวแระ^^
แค่อยากให้โลกรู้ว่า เราไม่เอาเขื่อนแม่วงก์^^
คนนี้เดินอึดมาก เราขอซูฮกให้เธอเลยค่ะ
[
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนสำหรับน้ำใจ และมิตรภาพที่หยิบยื่นให้กัน เป็นทริปที่สนุกสนานเฮฮามาก มาก ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ ขอบคุณทุกคนที่ดูแลคนป่วยอย่างเรา สัญญาว่าทริปหน้าจะฟิตร่างกายให้ดีกว่านี้ มีทริปที่ไหนก็อย่าลืมชวนกันมั่งน๊าาาาาาาา^^ดีใจจังที่เพื่อนๆ ชอบ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเราโม้นะคร้า^^พวกเราเองก็มีกันไม่กี่คนค่ะ ที่เหลือโพสชวนตามเพจต่างๆ ให้ครบจำนวนคน ลองเปิดใจไปกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ดูน๊าาาา รับรองว่าได้มิตรภาพดีๆ กลับมาแน่นอนจร้าาาาเหมือนปีนี้เจ้าหน้าที่ลองจัดการแบบใหม่ดู แล้วดูฟีดแบคว่าปีหน้าจะยังไงต่อสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่แน่ิาจมีรถเข้าไปแค่ปีเดียว อีกอย่างเพราะตอนนี้มีการก่อสร้างหน่วยที่แม่กระสา การใช้รถอาจง่ายต่อการขนเสบียงและกำลังพลไปหน่วย ส่วนตัวแล้วเดินก็ได้ มีก็ดีค่ะ เพราะลางานค่อนข้างยาก^^
Justsmile
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.44 น.