รีวิวนี้อาจจะล่าช้าไม่ทันฤดูกาลไปสักหน่อย แต่เอามาลงไว้เตรียมตัวไปท่องเที่ยวปีหน้ากัน "ซากุระเมืองไทย" สีชมพูอ่อนๆกับอากาศเย็นๆทางภาคเหนือของไทย เป็นความหวานที่ลงตัว

ผมกับภรรยามักจะชวนกันไปตามล่าหาดอกนางพญาเสือโคร่งแสนสวยนี้ทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน (ปี 2560) ตั้งเป้ากันว่าต้องตามล่าให้ครบทั้งสามขุนเขา ขุนช้างเคี่ยน ขุนวาง ขุนแม่ยะ จัดการตามข่าวการบ้านของดอกนางพญาเสือโคร่งตั้งแต่ต้นปี ซึ่งปกติเค้าจะบานหลังวันเด็ก จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับสถาพอากาศ ปีนี้ตามข่าวแล้วผมจึงตกลงใจเดินทาง 20 มกรา 2560 เดินทางมุ่งสู่ขุนช่างเคี่ยน เป็นอันดับแรก เราถือว่าไม่โชคร้ายเพราะมีดอกบานถึงจะไม่เยอะมากก็ตาม แต่ก็ยังพอให้ได้ชมความงาม บวกกับความหนาวที่จับใจ จนต้องหาที่พัก โฮมสเตย์ขุนช่างเคี่ยน ในหมู่บ้านไว้พักหลบความหนาวเย็น


ขุ่นช่างเคี่ยนสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือมหกรรมสตอเบอรี่ มีขายเยอะมากเก็บมาสดๆ จนเราเองก็เลือกซื้อมาทานไม่ไหว เรียกว่ากินกันจนแก้มแดงเป็นเด็กๆชาวเขากันทีเดียว


ดื่มด่ำกับบรรยากาศของขุนช่างเคี่ยนจนอิ่มแอม เราจึงลาพี่ๆเพื่อนๆ ออกเดินทางมุ่งหน้าดอยอินทนนท์เพื่อไปยังขุนวาง จากการวางการเดินทางเราจะพลาด ขุนแม่ยะไป ตกลงกันว่าเราจะไปปีหน้าแล้วไปต่อแม่ฮ่องสอนจะสะดวกกว่า

ระหว่างทางไปขุนวาง เราได้ข่าวว่ามีแหล่งชมซากุระแหล่งใหม่ที่กำลังบานสวยงามแต่ยังไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว จะพลาดตากล้องอย่างเราได้อย่างไร ณ เรือนประทับแรมดอยผาตั้ง อยู่ทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ กับการไม่ได้คาดหวังกลับกลายเป็นความสมหวังที่สวยงาม บรรยากาศสวยงามอากาศเย็นๆกำลังดีมีแกะเดินเลมหญ้า เรียกภรรยามาเป็นนางแบบจำเป็นทันใด


ทำให้การล่าพญาเสือโคร่งของเราปีนี้ช่างงดงามไม่เสียเที่ยวแน่นอน กดชัตเตอร์จนภรรยาถามว่าเมมโมรี่หมดแล้ว ท้องเริ่มหิวเริ่มหนาวมากขึ้น จึงชวนภรรยาขับรถขึ้นขุนวาง ไปกาเต้นท์ให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตกดีกว่า จะได้ทำอาหารกินแก้หนาวกันด้วย สดชื่นเต็มอิ่มกับดอกซากุระเมืองไทยแล้วทั้งวัน

ขุนวาง เราพักค้างคืนนอนกางเต้นท์สะดวกที่สุดแล้ว ทั้งที่อาบน้ำ อาหารการกินช่วงเทศการจะมีร้านค้าเยอะพอสมควร ถือว่าสบายกลางคืนแวะออกไปถ่ายดาวกันสองคนตายาย มีความสุขน่ะครับ

ตื่นเช้ามาเดินชมดอกซากุระ ช่วงผมไปมีทั้งดอกที่เริ่มบาน มีโรยแล้ว บ้างก็แตกใบอ่อนสลับกันไป ถือว่ายังไม่สวยสุดของเค้า ปีหน้าต้องมาซ่อมอีกล่ะ

วันสุดท้ายหลังจากไม่ได้ไปขุนแม่ยะ นั่งคุยกับภรรยาเอาอย่างไรดี มีอีกแหล่งที่ได้ข่าวว่ากำลังบานเช่นกัน ภูลมโล ที่อุทยานภูหินร่องกล้า แต่ระยะทางค่อนข้างไกล ต้องขับรถทั้งวัน แต่ไหนๆก้ต้องผ่านเส้นนั้นเผื่อกลับระยอง จึงรีบลงจากขุนวางพร้อมเสบียงเพื่อทานในรถ สองคนตายายตะบึ่งรถตาม GPS มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เรามาถึงก้สี่โมงเย็นเกือบห้าโมงแสงเริ่มหมดรีบจัดการหาที่กางเต้นท์ พักร่างที่ตะลุยขับรถมาทั้งวัน เพื่อเช้ามืดจะได้รีบขึ้นภูลมโลก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเยอะ เป็นที่สมใจตะลุยฝุ่นกับรถรับส่งนักท่องเที่ยว เหมารวมกับน้องๆอีกกลุ่มหารเฉลี่ยค่ารถกันมิตรภาพดีๆก็มักจะเกิดขึ้นตรงนี้ พอน้องๆรู้ว่าเราเป็นช่างภาพ ก็วานให้ช่วยถ่ายรูปหมู่ให้ แน่นอนเรื่องแบบนี้เล็กน้อย จัดให้อย่างสาสม

อากาศหนาวยามเช้ากับจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น สวยงามเชียว

เดินถ่ายภาพซากุระ หลายหลายพันต้นที่กำลังบานในหุบเขากับนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา จนเมื่อยขากันตามๆกัน แต่สิ่งที่ตาเห็นนั้นมันสวยงามยิ่งนัก


เดินถ่ายภาพจนกระทั้งพี่คนขัยรถเรียกกลับหมดเวลาของรอบเช้าแล้ว พร้อมกับตากล้องแบตร่างกายหมดพอดี ทริปนี้ถือว่าไม่พลาดสำหรับการล่าดอกนางพญาเสือโคร่งในปีนี้ ยังคงคางคาใจเล็กน้อย ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่

รีวิวของผมเน้นชมภาพน่ะครับ รายละเอียดการเดินทางอาจจะไม่ได้ลง ลงมุมถ่ายภาพให้กับเพื่อนๆไว้เป็นไกด์ในปีหน้าน่ะครับ

อุปกรณ์รีวิว Sony A7 II + FE 70-200 f4 + Batis 25/2 + Samyang 12mm fisheye

Suwit Gamolglang

 วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.40 น.

ความคิดเห็น