ทริปนี้เป็นทริปบังเอิญ..เหตุที่เพือนๆรวมตัวกันไปห้วยน้ำดัง แต่ใช้ที่นั่งในรถตู้ไม่หมด(หาคนร่วมแชร์) เลยมีที่ว่างสำหรับเรา แล้วจะยอมพลาดได้อย่างไร.... ทริปนี้เมื่อช่วงปลายธ.ค.-ต้นม.ค.ที่ผ่านมา จริงๆแล้วไม่อยากไปไหนๆในช่วงนี้เท่าไหร่ เพราะมีคนจำนวนมากๆที่ตั้งใจไปในที่ที่ ที่เราไปเหมือนกัน แต่ไหนๆก็ไหนๆต้องเตรียมทำใจ ทริปนี้ เราใช้เวลาแค่ 1คืน 1วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรด้วย เลือกเดินทาง 31 ธ.ค แล้วกลับวันที่ 1 ม.ค.(ไปทีหลังกลับก่อน)เป้าหมายที่เดียว ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ห้วยน้ำดัง

เราออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯราว สามทุ่ม นัดพบกันแถวอนุเสารีย์ แล้ววิ่งยาว แวะปั๊มบ้าง พี่ขับรถบอกว่า เมื่อถึงเชียงใหม่แล้วใช้เส้นทางหลวงเชียงใหม่-ฝาง มาทางตลาดน้อย แล้วเลี้ยวไปทางปาย ระยะทางจากเชียงใหม่ก็ร้อยกว่ากิโล เราขึ้นอุทยานฯราวตีห้าเห็นจะได้ (หลับตลอดทาง) ดังนั้นการนำเสนอในทริปนี้คงเป็นภาพสวยๆมาฝากนะคะ เพราะเป้าหมายหลัก คือการมาดูพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศบริสุทธิ์

มาทำความรู้จัก ห้วยน้ำดังกันหน่อย จากข้อมูลบอกว่า อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานห้วยน้ำดัง บนเทือกเขาถนนธงชัยที่สูงชันและสลับซับซ้อน กินพื้นที่กว้างขวาง คลอบคลุม 2 อำเภอ 2 จังหวัด คือ เขตอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดที่เราไปคือดอยกิ่วลม ที่มีจุดชมวิว ซึ่งอยู่ในเขตแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ที่จุดชมวิว อากาศหนาวเย็น ธรรมชาติโดยรอบอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของความบริสุทธิ์ ผู้คนก็ไม่หนาตามากนัก มีจุดให้พักแรมกางเต้นท์ได้

ได้นั่งชมท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆมืดคลึ้ม ระหว่างนั่งรอชมพระอาทิตย์ขึ้น

ค่อยๆสว่างขึ้นมองเห็นเงาไม้และภูเขารางๆ

เมื่อแสงเริ่มโปรยปราย ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี ก้อนเมฆเริ่มคลี่คลายและหลีกทาง

หมอกขาวเริ่มเผยตัวจากหุบเขามาแทนที่ ได้เวลาของเขาแล้ว...

อีกหนึ่งลีลากับดอกพระยาเสือโคร่งล้อรับกันแสงตะวัน

เริ่มแจ่มชัดขึ้นในทุกมิติ ทุกอย่างเริ่มจัดระเบียบของตัวเอง ธรรมชาติความสวยงามค่อยๆลงตัว

มีแสงสีขาวพาดผ่านเป็นทางยาว ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้อย่างไรกัน?

เมื่อโลกเริ่มหมุนเพื่อเข้าสู่วันใหม่ แสงสุริยาพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างอ้อยอิ่งและเชื่องช้า ประหนึ่งภาพวาดที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างผลงานและจินตนาการ

เมื่อทุกอย่างก็ลงตัว ผู้คนได้อิ่มเอมที่ได้ชื่นชมความสวยงามตรงหน้าเป็นภาพที่น่าประทับใจและมีความสุข


แหละนี่..อีกหลากหลายลีลาทะเลหมอกในอ้อมกอดของหุบเขา ลำเนาไพร งดงามยิ่งนัก

บันทึกไว้ในวันนี้...ว่าที่นี่คือเมืองไทย

ดอกไม้นานาพันธ์เริ่มเริงร่า มีชีวิตชีวา เบ่งบานรับแสง

เราไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีผู้ตามหาแสงแรกแห่งวันเหมือนเรา

ดอกไม้สีชมพู ดอกเล็กๆแบบนี้ก็สวยไม่แพ้ที่ไหนๆโชคดีจังที่ได้เห็น




ดอกไม้อื่นๆเขาก็สวยงามไม่น้อยหน้านะ

ได้เวลากลับแหระ พี่คนขับบอกว่า มาถึงนี่แล้ว โป่งเดือดป่าแป๋ ก็น่าแวะนะ อยู่ไม่ไกลกัน เมื่อเราตกลงใจเลยให้พี่เขาพาไป


ป้ายบอกทาง

ต้นไม้ใบหญ้าระหว่างทาง

ถึงแล้ว

ทดสอบความเดือด


บทส่งท้าย

ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ รีบไป-รีบมา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจร แต่ก็ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นดั่งใจ เห็นพระยาเสื้อโคร่งเป็นของแถมและยังได้ไปในนี่นอกทริป บ่อน้ำพุร้อน โป่งเดือดป่าแป๋ อันนี้ต้องขอบคุณคุณพี่คนขับรถที่นำเที่ยวให้เรา เราใช้บริการรถตู้นำเที่ยวทั่วไทย หาจากเว็ปไซต์ต่างๆ

การได้มองเห็นและสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ต้นไม้ใบไม้ สีเขียว วิวทิวทัศน์ภูเขาเติมเต็มความอิ่มเอมใจให้เรามีความสุข

สรุปค่าใช้จ่ายค่าเหมารถ ค่าเช่ารถ+คนขับวันละ 2,500 ค่าน้ำมันต่างหาก(คิดเป็น 2 วัน)กลับถึงกทม.ประมาณเที่ยงคืน เฉลี่ยจ่ายคนละ 1000 บาท (8 คน)

พบกันใหม่ทริปหน้า






enjoyinglife

 วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.32 น.

ความคิดเห็น