Fairy Meadows ::: Heaven on earth

การที่สูดอากาศสดชื่น....นั่งนิ่งๆ มองดูภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้า ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน

กับอากาศฤดูร้อน เย็นสบาย นี่แหละ


-- ปากีสถาน --

ดินแดนที่ใครต่อหลายคนกลัว ภาพที่ออกไปก่อนหน้านี้ ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงที่นี่

วันนี้เลยเจาะลึกการเดินทางมาที่แห่งนี้กันเลย

** F A I R Y M E A D O W S ***


จุดเริ่มต้น ของการเดินทางเข้าสู่ แฟรี่มิโดวส์ เป็นช่วงที่แยกออกจากคาราโครัม ไฮเวย์

ที่ Raikot Bridge อยู่ระหว่างเส้นทาง Chilas - Gilgit

เริ่มต้นด้วยการนั่งรถจิ๊ป ขับเคลื่อนสี่ล้อ จากสะพาน Raikot ไปยังหมู่บ้าน Tattu ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง


ระหว่างเริ่มต้นทางก็เริ่มต้นด้วยลูกรังทันที กับวิวภูเขาอลังการ ก็สนุกไปอีกแบบ



เดินทางได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เส้นทางเริ่มเปลียน

ลัดเลาะไปตามใหล่เขา...ที่มองหาพื้นด้านล่างไม่เจอ...

...เลยทำให้เลือดเริ่มสูบฉีด มาพร้อมกับหูอื้อ...


ถนนทางเข้าแฟรี่นี้ จะดูแลโดยชาวบ้านเอง สร้างกันเอง ซ่อมเอง โดยใช้แรงงานคน ไม่มีเครื่องจักรใดๆ มาช่วย

ค่อยๆเรียงหินเป็นชั้นๆ หินตามหน้าผาขึ้นมามาเรื่อยๆจนถึงพื้นถนน....


ด้วยข้อจำกัดทางภูมิประเทศ ภูเขาหินสูงชัน เลยทางกว้างได้ไม่มาก

...พอถึงเวลาสวนกันนี่สิ...ลุ้นแบบเงียบกริ๊บ Z...z.....z


สวนแบบนี้ ใครอยู่เลนนอก ...ก็สนุกล่ะ


ถ้าจะถามว่าตื่นเต้นรึป่าว....พูดเลยย...

"พูดไม่ออก"


ปัจจุบันสภาพนี้ รถไม่สามารถข้ามไปได้แล้ว เพราะไม่แข็งแรง

ลงรถ และเดินข้ามไปขึ้นรถอีกฝั่ง


ระหว่างทาง

จากที่มีแต่ภูเขาหิน แห้งแล้ง เริ่มมีต้นเขียว กับการทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน ก็ดูสบายตาขึ้นเยอะ



สุดทางรถ

...เริ่มทางรัก....

รักจะเดิน หรือรักจะขี่ม้า เลือกได้


ขอให้เธอโชคดี... Goodbye

ป้ายก่อนออกหมู่บ้านไปแฟรี่...เอ๊ะยังไง !



การเดินเท้า หรือขี่ม้าขึ้นแฟรี่ ระยะทางประมาณ 6-7 km. ระยะความสูงทางดิ่งประมาณ 700 m. (Gain)

ใช้เวลาเดินประมาณ 2.30-3 hrs.แล้วแต่ความฟิต ส่วนม้าก็จะเร็วกว่าประมาณ 15-30 นาที


ขีม้า ก็สนุก

สนุกตรงม้า เหมือนจะเดินตามขอบเสมอ




เป็นม้า...ม้าก็เหนื่อยเป็นนะ ขอน้ำหน่อยเจ้านาย


เดินชมวิวไป ก็ลืมเหนื่อยได้ ...แต่พอตกกลางคืน ก็นึกว่าเมื่อยได้เช่นกัน


--- ฟังเสียงภูเขา---

นั่งนิ่งๆ มองไปรอบๆ พร้อมกับภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้า ...อากาศเย็นสบาย แค่นี้ก็สุดๆ

ถ้ามีคนรู้ใจอีกนะ

จะรู้กันก็ตอนเดินขึ้นนี่แหละ ^^

แฟรี่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 3,300 เมตร อากาศฤดูร้อนก็ยังหนาวในตอนกลางคืน ส่วนฤดูใบไม้เปลียนสีนั้น...น้ำในห้องน้ำเป็นน้ำแข็งได้ละกัน

ยามเช้าต้องทนหนาว



ตืนเช้ามา งวงเงีย พร้อมกับขี้ตาติดที่หางตา

วิวตรงหน้าแบบนี้อีก


พร้อมกับหมอกเช้าลงอ่อนๆ





ฟ้าใสๆ อะไรๆ ก็ดูดี


คงต้องนั่งนิ่งๆ ปล่อยใจลอยไปกับที่แห่งนี้เลย




Nanga Parbat

ภูเขาที่เห็นสูงเป็นอันดับ 9 ของโลกด้วยระดับความสูงแปดพันกว่าเมตร สร้างความอลังการให้กับที่นี่ไปอีก


ถึงเวลาเดินทางกลับ


มองย้อนระหว่างทางกลับ ไกลๆ ก็จะเป็นยอดเขา Rakaposhi Peak ยอดเขาสำคัญในปากีอีกแห่ง ด้วยความสูง 7,788 เมตร




ใครไปปากี แล้วไม่ได้ไปที่นี่คงต้องบอกว่าเสียดาย แต่ไปให้ถูกฤดูด้วยล่ะ

ฤดูร้อน น่าจะเหมาะสมสุดกับที่นี่ ระหว่างเดือน Jun-Aug

ได้จะได้ภาพเขียวๆ สบายตา

แค่นั่งนิ่งๆ แค่นี้ก็ฟินจะแย่แล้ว

ไว้เจอกันใหม่

= = ทุ่ ง ห ญ้ า แ ห่ ง เ ท พ นิ ย า ย = =

= = F a i r y M e a d o w s = =


WitGoAway Traveller

 วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.07 น.

ความคิดเห็น