สวัสดีครับ วันนี้ผมมีที่พักที่โคตรชิลมาฝาก..
เป็นที่พักแนวอีโค่ริมคลองยายกี๋ บ้านไม้สีสันสดใสมีฉากเป็นต้นโกงกางริมน้ำ
ฉีกแนวคนที่หลงรักทะเลไทยแต่อยากจะพักผ่อนในที่อันแสนเงียบสงบ ชื่อว่า "บ้านมะกอก" เกาะกูด จ.ตราด



ฝากติดตามกาเดินทางไว้ด้วยนะครับ https://www.facebook.com/wanderaroundthailand

ปกติเราเป็นคนที่ชื่นชอบการพักผ่อน เที่ยว และนอนสถานที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติกันอยู่แล้ว
ยิ่งได้เห็นมีคนแชร์บ้านมะกอกมากขึ้น มือไม้มันยิ่งสั่นรัว แอบอิจฉาคนที่ได้ไปนิดๆ
แต่ในใจนึกคิดว่าสักวันจะหาเวลาไปสัมผัสที่นี่ให้ได้ เพราะอยากจะลองไปสัมผัสในอีกหนึ่งมุมมองที่หลายๆคนไม่คิดว่าจะมีที่พักแบบนี้บนเกาะสวรรค์แห่งนี้



ใช้เวลานั่งเรือจากท่าเรือแหลมศอก ประมาณชั่วโมงกว่าๆ
แล้วนั่งรถต่อมาที่รีสอร์ทอีกประมาณ 20นาที ก็จะได้เห็นภาพที่เคยดูในภาพยนต์กันแล้ว


หากใครที่เคยดูหนังเรือง "คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์" ที่แดนเล่นคู่กับน้องแพทตี้ ก็คงจะคุ้นๆกับที่พัก
ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็กๆ น่ารัก น่าพัก น่านอน มีห้องพักแค่8ห้องเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ
ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเป็นหลัก โดยนำไม้จากบ้านเก่ามาเป็นวัสดุหลักเกือบทั้งหมด
วินาทีแรกที่เห็นที่เห็นเตียงนอน แทบอยากจะกระโดดลงไปกลิ้งสัก4-5รอบ แล้วหลับตาลงช้าๆ นอนฝังเสียงปู เสียงปลา

เพราะที่พักถูกซ่อนอยู่ในป่าโกงกาง ริมคลองน้ำสีเขียวใส บรรยากาศจึงร่มเย็น
เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ หากจะเรียกชื่อที่พักนี้แบบเต็มๆก็ คือ บ้านมะกอก the getaway

นอกจากจะเป็นที่พักให้ได้มาทิ้งกายแล้ว ที่นี่ยังมีในส่วนของร้านอาหารให้นั่งชิลอีกด้วย
มีอาหารหลากหลายเมนูทั้งไทยและเทศ กาแฟสด เบียร์เย็นๆก็มีนะ บรรยากาศก็โคตรจะดี
วิวก็สวย มีเรือวิ่งผ่านนานๆที มีนักท่องเที่ยวพายเรือคายัคแวะเวียนผ่านหน้ารีสอร์ทอย่างไม่ขาดสาย

หากนั่งนิ่งๆ มีสมาธิหน่อยๆ จะสามารถได้ยินเสียงปลา เสียงปู มันกำลังคุยกันด้วยนะเออ
จึงไม่ต้องถามว่าที่นี่เงียบสงบขนาดไหน ฮ่าๆ

เนื่องจากในห้องพักไม่มีทีวี จึงต้องอาศัยห้องรวมด้านนอก ที่มีทั้งทีวี ซีดีภาพยนต์และหนังสือ รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่เราสามารถทำร่วมกันได้ ทำให้ที่นี่ดูอบอุ่นเหมือนได้มาพักบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดเลยหละครับ

โดยความจริงแล้ว เราเองก็ไม่ค่อยชอบที่จะอ่านหนังสือแบบเป็นจริงเป็นจังกันสักเท่าไหร่
แต่บรรยากาศที่นี่มันทำให้คิดอยากจะหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่านจริงๆ ฮ่าๆ

ที่รีสอร์ทมีเรือคายัคไว้บริการ ให้พวกเราได้พายเล่นตามลำคลองอีกด้วยนะ
หรือจะพายออกไปหาดยายกี๋ที่อยู่ด้านหน้าเพื่อเล่นน้ำทะเลก็ได้
พายไปประมาณ15นาที ก็จะได้เห็นความสวยงามของทะเลที่ปากแม่น้ำสายนี้ได้เลย

พายเรือคายัค ตามคลองยายกี๋เพียงแค่ไม่นาน
เราก็จะได้เห็นทะเลของเกาะกูดกันแบบเต็มๆ มีวิวเป็นภูเขากับต้นมะพร้าว มีหาดทรายสีขาวนวล น้ำใสเห็นตัวปลาเลยครับ

แต่ถ้าหากมาจุดนี้แล้ว ไม่เจอเจ้าหมาตัวนี้ บอกเลยว่าคุณมาไม่ถึง ฮ่าๆๆ


อีกหนึ่งโมเม้นที่ผมเองชอบมาก ก็คือ การได้อาบน้ำท่ามกลางป่าโกงกาง
เป็นที่อาบน้ำแบบOutdoorหลังห้องพัก นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ตักน้ำเย็นๆจากโอ่งมาราดบนตัวแบบนี้
ฟิวลิ่งมันซึ่งต่างจากการอาบน้ำแบบฝักบัวเป็นที่สุด

ตอนเช้าที่ว่าเงียบสงบแล้ว พอตกกลางคืน มันยิ่งสงบมากขึ้นอีก สำหรับรีสอร์ทที่ติดกับริมน้ำ เป็นธรรมดาที่ยุงจะร้ายกว่าเสือ
แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะที่นี่เขามี กย.15 แบบสมุนไพรไว้ให้เราได้ทาถูทาถู

อ้อ..อีกเรื่องที่ควรรู้เมื่อมาพักที่นี่ ก็คือ เรื่องของการเปิดแอร์


จะมีช่วงเวลาในการเปิดแอร์ด้วยโดยจะเปิดได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 19.00 - 07.00 น.

สำหรับใครที่เป็นคนขี้ร้อน ก็ต้องทนหน่อยนะ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะยังมีพัดลมในห้องที่สามารถเปิดได้ตลอดเวลา

ในเมื่ออากาศตอนกลางคืนที่นี้มันค่อนข้างจะเย็นอยู่แล้ว เราเลยใช้การเปิดแค่พัดลมแทน

ตื่นแต่เช้า รีบพากันมาสูดอากาศดีๆ ตอนแรกนึกว่าเราตื่นเช้ากว่าคนอื่นๆแล้ว ที่ไหนได้ เราสายกว่าทุกๆห้อง ฮ่าๆ

มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งเราว่า ประมาณ11โมง จะมีรถมารับเราที่รีสอร์ทปยังท่าเรือ เพื่อเดินทางกลับ

พอรู้ตัวว่าจะต้องกลับ เราเลยขอนั่งชิล ผลาญเวลาที่นี่ให้ได้มากที่สุดและคุ้มค่าที่สุด
เพราะถึงแม้จะเป็นการมาพักผ่อนแค่วันเดียว แต่รู้สึกว่าการเดินทางอันแสนเหนื่อยของเมื่อวานนี้
ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเหนื่อยมาจนถึงวันนี้เลย

ใครคิดว่าที่นี่มันใช่มาก และอยากจะมาพักผ่อน สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Bannmakok และยิ่งช่วงนี้เป็นช่วง Green Season ไม่อยากจะนึกภาพเลยครับว่ามันจะสวยงามขนาดไหน



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามรีวิวอันน้อยๆของเรานะครับ หากผิดพลาดส่วนไหนต้องขออภัยด้วยนร้า เอาไว้ว่างๆจะมาแนะนำสถานที่เที่ยว ที่นอน มาให้ชมอีกนะครับ



อ้อ..ขอฝากเพจของเราอีกรอบนะครับ ไปกดติดตามการเดินทางของเรา

https://www.facebook.com/wanderaroundthailand/

Freelance บ้าเที่ยว

 วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.21 น.

ความคิดเห็น