3-5 มิถุนายน 2560 ลุยเดี่ยว story กับเชียงใหม่หน้าฝน

เคยป่ะ เบื่อกับงาน เบื่อชีวิตประจำวัน ทำอะไรที่ยิ่งทำก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวเรา แล้วทำยังไงกัน????? เครียดนะ!!!

ถ้าเรายังออกมาจากตรงนั้นไม่ได้ ก็ขอเวลาแค่ช่วงหนึ่งละกัน พาตัวเองออกมา พาตัวเองไปพบความสุข

ถ้าใครที่ติดตามเพจแจ๊ค จะเห็นว่าแจ๊คไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ สำหรับเราแล้วการเดินทางจะเยียวยาทุกอย่าง

ทริปนี้เชียงใหม่คือคำตอบ

เราไม่รู้หรอกว่าเราจะไปเจออะไร แต่ที่รู้ๆ คือความสุขจะเกิดขึ้นตั้งแต่เราออกเดินทาง

ฝากติดตาม กดไลค์เพจแจ๊คด้วยนะคะ นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journeymemories

เดินทางกันต่อค่ะ

ช่วงนี้หน้าฝน หลายๆคนอาจจะคิดว่าไปเที่ยวมันก็ไม่สนุกหลอก เปียกก็เปียก จะไปไหนได้ แต่เราชอบนะ ป่าเขียวๆ ไอหมอก สดชื่นดี

ที่สำคัญเที่ยวหน้าฝนการเตรียมตัวที่ดีจะทำให้เพื่อนๆเที่ยวได้สนุกขึ้นนะคะ

คือต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เท่าที่มีอยู่ก็เสื้อกันฝน กางเกงกีฬาซึ่งมันแห้งไว รองเท้าที่พร้อมลุยน้ำและแห้งเร็วได้รองเท้า Ballop มา ไม่มีอะไรแค่จะอวดค่ะ 5555 สีสดใส แป้นแล้นขนาดนี้รักเลย

แค่นี้ก็พอละ อ่อลืมๆๆๆ มีกระเป๋ากันน้ำสักใบก็ดีค่ะ

แจ๊คออกเดินทางคืนวันศุกร์ ที่ 2 มิถุนายน 60 ด้วยบริการของ บขส.

DAY-1 03.06.2017ถึงเชียงใหม่ตอนเช้า อันดับแรกต้อง นั่งรถแดงจากอาเขตเข้าเมือง

คิวรถแดงจะอยู่ตรงตึกเก่าค่ะ ราคา 20 หรือ 30 นี่แหละ ลืมละ 555 กะจะนั่งไปที่พักเลย แต่มันอยู่นอกเส้นทาง เขาไม่ไปส่ง เพราะมีผู้โดยสารเต็มคัน ไปเส้นทางอื่น

เปิดแผนที่ให้พี่คนขับดู ได้คำแนะนำว่าให้ลงตรงหัวถนนไนท์ บาร์ซ่า ไหนๆก็ลงแล้ว หาอะไรกินแล้วค่อยเข้าที่พักค่ะ

ครั้งนี้พักที่ Casa Marocc Hotel อยู่ถนนเจริญประเทศ ต้องบอกก่อนว่าโรงแรมเปิดใหม่ ตอนโบกรถแดงไป ไม่มีใครรู้จัก เหนื่อยใจ เลยเปิดแผนที่ แล้วบอกทางให้พี่คนขับ

ดีที่โรงแรมหาง่ายค่ะอยู่ริมถนน พอไปถึงแล้ว เท่าที่สังเกตุดู ก็มีโรงเรียนมงฟอร์ต(ประถม)ที่อยู่ใกล้ๆกัน

ถ้าใครนั่งรถแดงไป ถ้าคนขับไม่รู้จัก มาๆๆๆ แจ๊คสรุปให้ฟัง ให้บอกว่า อยู่ถนนเจริญประเทศ เลยมงฟอร์ตประถมไปประมาณ 200-300 เมตร Casa Marocc จะอยู่ขวามือ

ทางเข้าอยู่ติดกับร้านอาหารมุสลิม ชื่อ มัตอัม อิควาน หาไม่ยากค่ะ

โรงแรมใจดีให้เช็คอินก่อน

หน้าแฟนเพจของโรงแรมค่ะ https://www.facebook.com/cnxhotel/?fref=ts

เอาตั้งแต่ด้านนอก ด้านใน ตั้งแต่ Front จนถึงในห้องพัก รวมถึงห้องอาหาร ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในดินแดนอาหรับ

welcome drink

ไปเข้าห้องกันดีกว่า อยากพักละ แจ๊คเอาภาพห้องอื่นๆมาให้ชมกันด้วยค่ะ เดี๋ยวค่อยไปดูนะ

มาดูในห้องที่แจ๊คพักก่อน

ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ครบค่ะ มีตู้เย็น ทีวี กาต้มน้ำ ชอบสุด มีไดร์เป่าผม 555 ก็เค้าผมยาวมาก ถ้าไม่มีไดร์นี่จะลำบากเวลาสระผม

ดูหัวเตียงสิคะ รวมไปถึงหมอนอิง พรม ทุกอย่าง ได้อารมณ์ อินเดีย อาหรับ


มีตู้เซฟให้ด้วย

มาที่ห้องน้ำค่ะ

สะอาดสะอ้านดี

ระเบียง ลูกกรงสวย


พอดีว่าอยากไปอินเดียค่ะ แต่ตังไม่พอ เลยมาพักที่นี่แทน 555 แต่งตัวก็ไม่ค่อยอาหรับแต่แจ๊คมีความพยายามนะ เอาผ้ามาคลุมผม พอได้มั้ย อิอิ

อีกจุดที่อยากนำเสนอ จุดชมวิวของโรงแรมค่ะ มี 2 ฝั่งค่ะ

เขาข้างหน้านั้นคือดอยสุเทพค่ะ

มาดูอีกฝั่ง ฝั่งนี้ได้อารมณ์ทะเลทราย เอ๊ะ หรือเราจะรู้สึกคนเดียว

ถ่ายภาพเสร็จก็เตรียมตัวเที่ยวในเมืองกันค่ะ แล้วอีกวันจะพาขี่มอไซค์เที่ยวนอกเมือง ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีวัดเยอะมาก งั้นพาเที่ยววัดละกันก่อน ไหว้พระ เอาฤกษ์เอาชัยก่อน

อะไรก็เกิดขึ้นได้ กำลังจะออกไปข้างนอก ฝนตกอย่างหนัก แต่ไม่กี่นาทีฝนก็หยุด

หลังฝนหยุด แจ๊คนี่รีบเปิดม่านเผื่อจะเจอรุ้งกินน้ำ แต่ก็ไม่เห็น มองไปฝั่งดอยสุเทพ เห็นฟ้ากำลังระเบิด รีบวิ่งขึ้นไปบนจุดชมวิวของโรงแรมอีกรอบ เก็บภาพรัวๆๆ

แต่พอหันไปอีกฝั่งดิ่ เฮ้ยยยยยยย

รุ้งกินนัำ โอ้ยยยยยย สวยอ่ะ โชคดีจังวันนี้ ได้ภาพสวยๆ สบายใจจังได้ภาพสวย

ป่ะฝนหยุดแล้ว ออกไปเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่กัน เราเดินไปนะ เปิดแผนที่ดูคือ เดินตามถนนระแกงจะไปออกใกล้ๆโซนประตูเชียงใหม่

สะพานเล็กๆ แต่สวยดี ดูเก่าแก่

เจอร้านกาแฟน่านัง แต่ไม่ได้แวะนะ

ลองเดินดู สรุปว่าไกลแต่พอจะเดินได้แหละ เรามันสายเดินป่าอยู่แล้ว แค่นี้สบาย

จะพาเที่ยว 3 วัด และหออินทขีล หรือศาลหลักเมืองเชียงใหม่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากประตูท่าแพ สามารถเดินได้สบายๆ ว่าแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

วัดแรกคือ วัดพันอ้น ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน หรือถนนคนเดินนั่นเอง

ภายในวัดจะมีร้านอาหาร มีลานใต้ร่มโพธิ์ พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ สามารถนั่งทานอาหาร นั่งพักผ่อนได้ค่ะ เดินไปร้อนๆเหนื่อยๆ มานั่งพักกันได้ค่ะ

วัดพันอ้น สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2044 ในสมัยพระเมืองแก้ว สันนิษฐานว่าสร้างโดยขุนนางที่มียศเป็น “พัน” และชื่อว่า “อ้น” รวมกันเป็น “พันอ้น” ชื่อของวัด คาดว่าคงสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ความสำเร็จในชีวิตของตนเอง ซึ่งเป็นที่นิยมของคนในสมัยก่อน

พระเจดีย์สารีริกธาตุสิริรักษ์

ออกจากวัดพันอ้น เดินไปเรื่อยๆ แจ๊คจะพาไปไหว้สักการะ เสาอินทขีล หรือศาลหลักเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งอยู่ถนนพระปกเกล้า

เสาอินทขีล สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ทรงสถาปนา “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” ในช่วงประมาณปี พุทธศักราช ๑๘๓๙ เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ที่ชาวไทย โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่จะให้ความเคารพมากๆ ถือเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ ภายใต้เสา บรรจุเครื่องสักการะไว้มากมาย และนี่แหละค่ะที่เป็นสาเหตุให้เขาห้ามผู้หญิงเข้าไปด้านใน(ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใด ศาสนาใดก็ห้ามค่ะ) โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่มีประจำเดือน หรือแม้กระทั้งผู้ชายที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย ซึ่งถ้าเข้าไปจะถือว่าเป็นการลบหลู่ เชื่อว่าความสักสิทธิ์จะหายไป และจะเกิดเหตุเภทภัยขึ้นต่อบ้านเมือง

แจ๊ครู้ได้ไง อ๋อ เค้ามีให้อ่านไง 5555555555

เพราะฉะนั้น เวลาไปสถานที่ใด ต้องให้ความเคารพและที่ตามกติกาของสถานที่นั้นๆด้วยนะคะ ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลทุกที่ล้วนมีความเชื่อ


อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

วัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นพระอารามหลวงในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยพญาแสนเมืองมา สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ. 1928 - 1945 และมีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญอีกองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่กลางใจเมือง ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา

องค์พระเจดีย์ใหญ่มาก

ถ้าใครไม่มีโอกาสได้ไปไหว้พระธาตุประจำวันเกิด ที่นี่มีองค์จำลองให้ไหว้ด้วยค่ะ

เราก็ยังเดินต่อไป เดินวนรอบเจดีย์เลยค่ะ

โดยส่วนตัว แจ๊คชอบวัดนี้มาก อาจเป็นเพราะความอลังกาลขององค์พระเจดีย์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ได้เข้าไป เคยเข้าไปตอนกลางคืน นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าไปตอนกลางวัน สวยค่ะ ถ้าเพื่อนๆไปเดินถนนคนเดิน แนะนำให้เข้าไปไหว้พระ และเยี่ยมชมวัดนี้ด้วยค่ะ แจ๊คเอาภาพกลางคืนที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนมาให้ชมค่ะ(ตอนนั้นยังถ่ายภาพไม่ค่อยสวยนะ อิอิ)

ถัดมา ติดๆกันเลย เป็นวัดที่แจ๊คชอบเหมือนกันนั่นก็คือวัดพันเตา

วัดพันเตา เป็นวัดขนาดเล็ก มีความเก่าแก่ควบคู่กับวัดเจดีย์หลวง แต่ไม่มีประวัติชัดเจน จุดเด่นภายในวัดคือพระวิหารหอคำหลวง เป็นวิหารไม้สักขนาดใหญ่ เก่าแก่ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และยังมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่คงเอกลักษณ์ของล้านนาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

เดิมเป็นคุ้มหลวงของพระเจ้ามโหตรประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ใน ราชวงศ์กาวิละ ลำดับที่ 5 พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ ได้รื้อและนำมาปลูกสร้างอุทิศถวายเมื่อปี พ.ศ. 2419

หอคำสวยมากค่ะ อยากให้เพื่อนๆไปสัมผัสด้วยตาตัวเอง

และอีก1สถานที่ ที่อยากให้เพื่อนๆไปกราบไหว้สักครั้งเมื่อเที่ยวเมืองเชียงใหม่ นั่นก็คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แต่รอบนี้แจ๊คไม่ได้ไปนะ ไปเมื่อปีที่แล้ว เลยเอาภาพมารวมไว้ในนีัด้วย เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อยู่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ด้านหน้าติดกับถนนพระปกเกล้า(ภาพนี้จากทริปเก่าค่ะ)

ภาพยามเย็นแสงทไวไลท์สวยดีนะ

อีกที่คือประตูท่าแพ ที่ใครๆก็ต้องมาเช็คอิน มีภาพ 2 เวลาให้ชมค่ะ กลางวัน และยามเย็น

ภาพช่วงกลางวัน มีคนจีนมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย

ต่อด้วยภาพช่วงเย็น

เที่ยวเมืองกันแค่นี้เนอะ กลับโรงแรมดีกว่า

ตามมาค่ะแจ๊คจะพาไปดูดาวบนจุดชมวิวของโรงแรม คือพักที่นี่สองคืน เดินขึ้นจุดชมวิวเป็นร้อยรอบอ่ะ เดี๋ยวๆๆๆๆ เว่อร์ไปละแจ๊ค5555

มองไม่ค่อยเห็นดาวสักเท่าไรนะ แหะๆ

ไปคนเดียวก็ตั้งกล้องถ่ายตัวเองไป


ง่วงละ ไปอาบน้ำนอนดีกว่า อ้าววววจบแล้วเหรอ

ใช่ๆ จบมันแบบดื้อๆแบบนี้หละ อิอิ

DAY-2 04.06.2017

เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้าที่โรงแรมชื่อห้องอาหาร Aladin restaurant (อย่าบอกใครนะว่าเราลงไปแบบยังไม่ได้อาบน้ำ)


รายการอาหารก็จะมี ไข่กวน ไข่ดาว ไข่ม้วน ให้เลือกค่ะ มีข้าวผัด อีกวันเป็นข้าวสวย แล้วก็จะมีกับข้าว 2 อย่าง และซุป รายการอาหารคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพราะพัก 2 วัน อาหารไม่ซ้ำกัน


เมนูที่มีทุกวันก็จะเป็น น้ำส้ม น้ำแอ็ปเปิ้ล ชา กาแฟ นม โยเกิร์ต คอนเฟรค ขนมปัง สลัด ผลไม้

จะทานแล้วน๊าาาาาา

เติมพลังกับมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัว กว่าจะทำนู่นทำนี่ สายเลย วันนี้เราจะพาเที่ยวดอยอินทนนท์ค่ะ ก่อนอื่นคือ หาร้านเช่ามอไซค์ ที่โรงแรมก็มีให้เช่านะ เป็นของข้างนอก แต่คงแบบจองจากโรงแรม แล้วมีรถมาส่ง แต่ว่าเก็บมัดจำ 5 พัน ซึ่งเราก็ไม่ได้พกเงินไปขนาดนั้น แจ๊คเลยใช้บริการร้าน NK Bike Rentals ซึ่งถ้าใครอ่านรีวิวตอนแจ๊คนั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ คงจำได้ แจ๊คไปเช่าจักรยานร้านนี้แหละค่ะ ร้าน NK Bike Rentals ต้องมัดจำ 1 พันบาท วางบัตรประชาชน จ่าย ค่าเช่ามอไซค์ 200 บาท

เพจร้านค่ะ https://www.facebook.com/NKbicycleforrent

ร้านนี้เน้นจักรยาน ถ้าใครสายปั่น มาร้านนี้ไม่ผิดหวังค่ะ พี่เจ้าของร้านเป็นนักปั่น

พี่เค้าแนะนำเส้นทางได้หมดค่ะ

รอบนี้เราจะออกไปไกล เลยขอเป็นขี่มอไซค์ ขี่ไม่ค่อยเป็นหลอก แต่อยากขี่ ที่กล้าขี่เพราะ ครั้งที่แล้วบอกพี่เจ้าของร้านว่าขี่มอไซค์ไม่เป็น พี่เค้าบอกว่า คนอื่นยังขี่ได้ ทำไมเราจะขี่ไม่ได้ ก็นั่นดิ่ คำพูดนั่นมันอยู่ในหัวแจ๊คตลอด เลยเริ่มลองขี่มอไซค์ ทริปอุบล ไม่กี่เดือนหลังจากทริปนั้น มันก็พอขี่ได้นะ เที่ยวสะดวกดีด้วย


11.30 น. รถพร้อมคนพร้อม ก็ออกเดินทางเลยค่ะ

ออกจากร้านได้ 5 นาที ฝนก็เทลงมา แต่แค่นี้หยุดเราไม่ได้หลอกนะ เสื้อกันฝนก็ใส่ตั้งแต่ออกจากร้าน หมวกกันน็อคก็ใส่ มันกันฝน แถมกางเกงกีฬาของเราถ้าเปียกก็แห้งเร็ว รองเท้าของเราเกิดมาลุยน้ำอยู่แล้ว ของก็เอาใส่ใต้เบาะ นี่เป็นครั้งแรกที่ลุยฝนไม่กลัวเปียก

โห!!!!!!!!!!! พร้อมซะขนาดนี้

ต้องไปไกลควรเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ก่อน ออกจากปั้มฝนก็หยุด ฟ้าใส แดดแรงมาก รีบบึ่งไปตามถนนหมายเลข 108

ช่วงนี้เสพติดชามะนาว

แน่นอน จุดหมายของเราคือ 3 น้ำตกบนดอยอินทนนท์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงน้ำตกแม่ยะ

น้ำตกแม่ยะ อยู่ในเขตอช.ดอยอินทนนท์ ทางเข้าอยู่จอมทองยังไม่ถึงด่านเก็บเงินขึ้นดอยอินทนนท์นะ

ระหว่างทาง สวยจนต้องจอดเก็บภาพ

การเดินทางนั้น จะมีป้ายบอกชัดเจนตลอดทาง ตามป้ายไป ไม่มีหลง รถทุกชนิดไปได้ ก่อนถึงน้ำตกจะมีด่านเก็บเงิน แต่ไม่เห็นพี่จนท.เก็บ เราชลอๆจะจอด พี่แกไล่ขึ้นไปเลย ไม่เก็บตัง หรือว่าเพราะมีงานวิ่ง เกี่ยวมั้ย 55 ก็ไม่รู้ หรือช่วงนี้เขาไม่เก็บเงิน ไปถึงน้ำตกประมาณ 14.30

มีร้านค้าไว้บริการค่ะ

เอาล่ะ เริ่มเดินกันเลย จากลานจอดรถเราต้องเดินไปอีก 600 เมตรก็จะถึงตัวน้ำตกค่ะ

เดินง่าย สบายๆ

เส้นทางร่มรื่น เย็นสบายเพราะมีต้นไม้ตลอดทาง ชอบจังป่าเขียวๆ สดชื่นมากๆ



มีที่ให้นั่งทานอาหาร

เห็นข้างหน้ามั้ย นั่นไงน้ำตกแม่ยะ โอ้ววววววว น้ำตกใหญ่มาก

น้ำตกแม่ยะป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย สูงกว่าสองร้อยเมตร สวยงาม อลังกาล นี่ขนาดไม่ใช่ช่วงที่น้ำเยอะนะ ยังสะกดเราให้ยืนตะลึงกับความงามได้ขนาดนี้ ทางด้านท้ายน้ำตกมีการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เพื่อนำน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยค่ะ

ใครอยากได้รองเท้าลุยน้ำ เข้าเพจนี้เลยค่ะ https://www.facebook.com/actosthailand/

ถ่ายมาเยอะมากๆ เลือกแล้วเลือกอีก จนไม่รู้จะตัดภาพไหนออกดี

รูปเยอะ อย่าเพิ่งเบื่อน๊าาาาา

รูปใกล้หมดแล้ววววว

หมดแล้วค่ะ รูปน้ำตกแม่ยะ ดูกันจนตาลายเลยใช่มั้ย อิอิ

ชอบอ่ะ ประทับใจมากๆค่ะ ใครไปเที่ยวดอยอินทนนท์ อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะคะ สวย ไปเถอะ ไม่ผิดหวัง

ออกจากน้ำตกมา ตรงลานจอดรถ ฝนตกอีกแล้วจ้า

ฝนตก ต้องกินติม

สรุปว่าใช้เวลาเที่ยวน้ำตก 2 ชั่วโมง โอ้ยยยยยย อะไรจะขนาดนั้น เดี๋ยวเราจะไปน้ำตกแม่กลางต่อค่ะ

ฝนก็ยังตกอยู่ แต่เบาลงละ ตัดสินใจลุยฝนอีกรอบ พร้อมเปียกค่ะ ขาวๆที่กางเกงนี่คือหยดน้ำฝนนะคะ ไม่ใช่ฝุ่นหรือรังแค 5555

ขี่กลับออกไปทางเดิม

ฝนตก ป่าเขียวดีจัง

ออกไปถึงถนน หมายเลข 1009 มุ่งหน้าขึ้นดอยอินทนนท์ กับเวลา 17 .00 น. ฝนตกๆหยุดๆ ตลอดทาง ตอนนั้นคิดว่า ไม่ทันแน่ๆ มืดแน่ๆ แวะร้านกาแฟ เพื่อตั้งหลักก่อนดีกว่า แวะร้านแรก ปรากฏว่า ร้านเปลี่ยนเป็นร้านนวดแผนไทย แต่น้องบอก นั่งหลบฝนก่อนได้ค่ะ เราแวะเข้าไปพร้อมกับ ชายชาวมาเลเซียคนหนึ่ง จากที่คุยกัน เค้ามาอยู่เมืองไทยเป็นเดือนเลย ขี่มอไซค์มาจากแม่ฮ่องสอน เที่ยวเรื่อยๆ ไปมาหลายจังหวัด ได้ดูรูปน้ำตกแม่สุรินทร์ และทุ่งนาเขียวๆข้างทาง จากกล้องของเขา ดูแล้วสดชื่นมาก แจ๊คได้แผนเที่ยวในใจเลย หาวันหยุดยาวๆ ขี่มอไซค์เที่ยวเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน คงจะฟินน่าดู

หลังจากคุยกันสักพัก แจ๊คก็ขอตัวก่อนและตัดสินใจหันหลังให้ดอยอินทนนท์ จะเก็บ 3 น้ำตกก็ไม่ทันเวลาแล้ว ครั้งนี้วางแผนและกะเวลาไม่ดี เอางี้ แจ๊คเอาภาพอีก 1 น้ำตกบนดอยอินทนนท์มาให้ชมค่ะ

น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี รถเก๋งเข้าได้ ลานจอดรถอยู่หน้าน้ำตกเลย

ภาพตอนเมษา

ไหนๆก็ไหนๆละ เอาภาพบนดอยมาให้ชมแถมให้ด้วย ภาพหมอกนี่ช่วงธันวาคม

ภาพบนยอดดอยช่วงเมษายน

มาเดินทางกันต่อค่ะ หลังจากหันหลังกลับ ขี่มอไซค์ไม่กี่นาทีจากร้านเมื่อกี้ เจอร้านกาแฟน่านั่ง

ชื่อร้าน T TABLE INTHANON

มีเพจด้วยค่ะhttps://www.facebook.com/ttableinthanon/

กาแฟรสชาตดีค่ะ

นั่งเพลินๆอยู่ร้านนี้ถึง 6โ มงเย็น ก็กลับเข้าเมืองค่ะ บ๊าย บาย T TABLE INTHANON ถ้าได้ไปอีก จะแวะไปอุดหนุนอีกนะคะ

ขากลับ ใครจะเที่ยวผาช่อก็อยู่เส้นทาง 108 นี้นะคะ ใส่ไว้ในแผนได้ แต่เวลาของเราหมดแล้ว5555

ขณะกลับเข้าเมือง ขี่มอไซค์อยู่ ช่วงดอยหล่อ หันไปข้างทางต้องจอดมอไซค์ทันที

เจอภาพแบบนี้เป็นใครก็ต้องจอดแหละ ถึงแม้ว่าเราอาจไปไม่ถึงปลายทาง แต่ระหว่างทางนั้น เราเก็บเกี่ยวมันอย่างเต็มที่ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว

อัพภาพรัวๆเหมือนเดิม

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว แต่ก็ยังมีแสงสวยๆให้ชม

แสงเริ่มหมด คงได้เวลาเดินทางต่อ กลับเข้าเมืองก็มืดเลยค่ะ ผลจากการซ่า ขี่มอไซค์ตากฝน กลับถึงโรงแรม รู้สึกเปื่อยๆ เมื่อยไปทั้งตัว ปวดหัว แต่สนุกดีนะ

DAY-3 05.06.2017

เช้านี้ที่เมื่อยตัว ไม่อยากลุกเลย แหะๆ

มื้อเช้าค่ะที่ห้องอาหารของโรงแรมเช่นเคย

ก่อนกลับ เอาภาพ ห้องแบบอื่นๆของโรงแรม Casa Marocc มาใหชมกันค่ะ

1.ห้องแรกเป็นห้องแบบ 2 เตียง

ความพิเศษของห้องนี้คือมี มุมครัวเล็กๆให้ด้วยค่ะ 1 ชั้นจะมีห้องแบบนี้ 1 ห้องค่ะ

2.ห้องถัดมาเป็นห้องที่อยู่มุม เผื่อแบบใครไม่อยากอยู่ห้องติดกับคนอื่น

สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆจะเหมือนกันทุกห้อง

3.ห้องสุดท้าย ห้องนี้พิเศษที่ 2 ห้องมีประตูถึงกันค่ะ

ขอบคุณ โรงแรม Casa Marocc Hotel ด้วยค่ะ ที่ให้เข้าไปถ่ายภาพห้องต่างๆ

พี่ๆพนักงานน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่ม ถ้าใครไปเชียงใหม่ แนะนำค่ะ

แจ๊คขอจบรีวิวไว้แค่นี้นะคะ เชียงใหม่ต้องกลับมาอีกแน่ๆ ขี่มอไซค์เที่ยว ต้องมีอีกแน่ๆ รอบหน้าจะพาเที่ยวเยอะๆ เพราะการเดินทางคือยาชูกำลัง

ปล.ตอนกลับพี่คนขับรถทัวร์ บขส.ทักว่า อ้าวกลับแล้วเหรอ ตอนมานั่งเบาะข้างหน้า เนี่ยใส่ชุดเดิมเลย

55555 โถวววววว พี่อุตส่าจำหนูได้อีก

เห็นมะ เที่ยวคนเดียวไม่เห็นยากเลย ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครสักคนออกเดินทาง

ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง

นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journeymemories







นักเดินทางตัวน้อย

 วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.00 น.

ความคิดเห็น