จริง ๆ เวลาที่คนเราเหงา ๆ หรืออยู่กับตัวเองคนเดียวมากจนเกินไป มันก็ทำให้ได้คิดอะไร ๆ ออกมาในแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นนะ ผมเป็นอยู่บ่อยครั้ง จนบางทีก็คิดว่าเราควรจะหาทางออกในรูปแบบไหนดีนะ สุดท้าย " การเดินทาง " มันก็จะเป็นคำตอบในลำดับแรก ๆ อยู่ดี

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมจึงเลือกการเดินทางไปที่ หัวหิน เป็นคำตอบสำหรับการอยู่กับตัวเอง

จริง ๆ ผมไปหัวหินบ่อยมากนะครับ แต่ก็ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ เช่น เดอะซิเคด้า มาร์เก็ต วัดห้วยมงคล เขาตะเกียบ ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม เพลินวาน อุทยานราชภักดิ์ รฤกหัวหิน เวเนเซีย สวนสนประดิพัทธ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็เป็นการเดินทางแบบสะดวกนะครับ คือเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จึงสามารถไปได้ในสถานที่เราต้องการ แต่ครั้งนี้ผมได้ลองใช้บริการการรถไฟแห่งประเทศไทยดูครับ ก็สะดวกสบาย เดินทางได้ปลอดภัยด้วย คนเดียวก็ไปได้ครับ (เพราะครั้งนี้ผมเดินทางคนเดียวอีกตามเคย55+)

ครั้งนี้ผมเดินทางกับ .. ขบวนรถเร็วที่ 171 .. ขึ้นที่สถานีชุมทางบางซื่อ เวลา 13.33 น. โดยจะถึงที่ สถานีรถไฟหัวหิน เวลาประมาณ 17.14 น. (ตามที่ตั๋วระบุนะครับ) ชั้นที่นั่งเป็นชั้น 2 พัดลม ราคาตั๋ว 150 บาท ซึ่งผมได้หาข้อมูลการเดินทางมาจาก .. ตรวจสอบเวลาการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย .. ซึ่งง่ายต่อการค้นหาและสามารถกำหนดได้ด้วย ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน วันไหน ราคาก็เหมาะสมด้วยครับ

ระหว่างรอการเดินทาง ก็เพิ่มน้ำหนักให้ตัวเองกันก่อน กับเมนูยอดฮิต กระเพราหมูสับราดข้าวกับน้ำเปล่าเย็น ๆ 1 ขวด ปล.ไม่มีไข่ดาวหรือไข่เจียวนะครับ พอดีผมไม่ค่อยยชอบทานไข่สักเท่าไหร่ สำหรับรสชาติจานเด็ดนี้ให้ผ่าน ไม่ใช่เพราะหิวแต่อร่อยจริง ทานข้าวไปชมวิวบริเวณสามแยกตรงทางขึ้นรถไฟฟ้า MRT ไป ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ อ๋อ !! รวมราคามื้อนี้ 55 บาทครับ


และแล้วก็ได้เริ่มต้นออกเดินทางกับประสบการณ์ใหม่ ๆ กับการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้วครับ ตู้ที่เราขึ้นโดยสารนั้น มีผู้โดยสารเกือบเต็มตู้เลยนะครับ เนื่องจากเป็นขบวนที่ไปสุดปลายทางที่ สุไหงโกลก ครับ มีชาวต่างชาติทั้งเอเชียและยุโรปเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี จีน


ระหว่างเดินทางผ่านจังหวัดราชบุรี ก็มีก๋วยเตี๊ยวราชบุรีมาขายครับ กล่องละ 10 บาท ผมก็จัดมา 2 กล่อง แบบชิม ๆ สักหน่อย ว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง ก๋วยเตี๊ยวที่นี่จะเป็นเส้นเล็ก แห้ง ใส่ลูกชิ้นปลาและเส้นปลาหั่นแบบแนวขวาง 2 ชิ้นครับ โรยด้วยพริก ถั่วป่น น้ำตาล รสชาติเข้ากันดีครับ


ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ก็มาถึงสถานีรถไฟหัวหินครับ การเดินทางก็อย่างที่บอกสะดวกสบาย ไร้กังวล มีเพื่อนร่วมทางเยอะแยะ ไม่เหงาด้วย


ระหว่างทางก็หาข้อมูลห้องพักไปในตัวผ่านบริการจาก ..Booking.com.. ซึ่งผมจะใช้บริการของที่นี่เป็นประจำอยู่แล้วครับ เนื่องจากสะดวกในการค้นหา มีการรีวิวห้องพักไว้ให้ติดตาม รวมทั้งราคาที่เป็นกันเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องหาล่วงหน้า สามารถที่จะค้นหาห้องพักแล้วเข้าพักได้เลย (กรณีที่พ้องว่างอยู่นะครับ) ห้องพักที่ผมไปพักเป็นโรงแรมอยู่หลังสถานีรถไปครับ ชื่อว่า .. โรงแรมหัวหิน ยูโร ซิตี้ .. เป็นเตียงสองชั้นในห้องพักรวมชายพร้อมพัดลม ห้องน้ำรวม ราคาอยู่ที่ 199 บาทต่อคืน ซึ่งในวันที่ผมเข้าพักก็จะไม่มีผู้เข้าพักอาศัยอยู่เลย ทำให้ทั้งห้องมีคนพักแค่คนเดียว ก็รู้สึกสบายไปอีก (ที่นี่จะมีค่ามัดจำกุญแจ 200 บาท จะได้คืนตอนเช็คเอ้าท์นะครับ)


หลังจากเข้าเช็คอินที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็มาเดินรับลม .. ริมชายหาดหัวหิน .. กันหน่อย ซื้อพร้อบมาถ่ายรูปสักหน่อย อากาศเย็นสบายดีครับ เพราะว่าผมไปเดินประมาณ 6 โมงเย็น ถึง เกือบ ๆ 1 ทุ่ม หาดทรายสีขาวกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ชิลล์อารมณ์ไปอีกแบบ


ส่วนใหญ่คนที่มาก็จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นนะครับ นั่งกันอยู่จนถึงเย็นทีเดียว บริเวณชายหาดหัวหินจะมีกิจกรรมก็คือ การขี่ม้า แต่ราคาผมไม่ทราบข้อมูลต้องลองสอบถามกันดูนะครับ ที่ชายหาดหัวหินมีการติดป้ายประกาศกำหนดราคาขายอาหารไว้ด้วยนะครับ เช่น ตำปูปลาร้า 45 บาท ตำปูม้า 150 บาท ซึ่งเป็นข้อดีที่จะทำให้ผู้ใช้บริการทราบได้ว่าร้านจะต้องค้าขายตามที่กำหนด ทำให้เชื่อมั่นในผู้ประกอบการค้าขายได้ครับ


ตอนกลับมาเห็นบริเวณสี่แยก ๆ ใกล้ ๆ ทางเข้าที่พัก มีร้านขายขนมจีนผมก็เลยจัดมา 1 ชาม ราคา 30 บาท ไม่แพงครับ ผักไม่อั้น รสชาติจืด แต่เติมเครื่องได้ครับก็อร่อยเหมือนกัน

กลับมาก็จัดแจงอาบน้ำแต่งตัวพร้อมจะลุยสถานที่ต่อไประครับ นั่นก็คือ .. ตลาดโต้รุ่งหัวหิน .. ที่นี่จะมีร้านอาหารเยอะแยะมากมายจนเลือกกันไม่ถูก ทั้งร้านซีฟู้ด กุ้งตัวใหญ่ ๆ ปลาหมึก อาหารทะเลต่าง ๆ ถ้ามากันแล้วผมว่าเลือกกันไม่ถูกแน่นอนว่าจะทานอะไร แต่สำหรับผมก็ขอเริ่มต้นกันที่ .. ไอศครีมเจ๊นิหรือป้านิ .. ร้านนี้เป็นเจ้าดัง เพจไหน ๆ ก็มารีวิวกันไว้ครับ ก็ไม่แปลกนะครับที่คนจะมามุงและมาต่อแถวซื้อกันหลาย ๆ สิบเมตร วันที่ผมไปก็มีคนต่อแถวรอจำนวนมากเช่นกัน ด้วยความอยากลองก็ต่อแถวรอ แต่ไม่นานนะครับก็ถึงคิวผม ผมสั่งเป็นไอศครีมรัมเรซิ่น 2 สคูปกับกะทิ 1 สคูปพร้อมกับราดกล้วยเชื่อมกับมันเชื่อม ราคาจำหน่าย 30 บาท ไอศครีมรสชาติดีครับ ไม่หวานมันจนเกินไปทานคู่กับมันและกล้วยเชื่อมเข้ากันครับ ใครไปต้องลองครับ ผมขอแนะนำ


ต่อไปก็เดินชมบรรยากาศตลาดโต้รุ่งไปเรื่อย ๆ ก็มาเจออีกร้านดังตามรีวิวในเพจต่าง ๆ อีกแล้วนั่นก็คือ .. ร้านกะปิหวานแม่สาลี่ .. ที่นี่เค้าจะมีตะลิงปลิงให้ชิม กับมะม่วงนะครับ เห็นแล้วรู้สึกเปรี้ยวปากแต่ไม่กล้าชิมนะครับ แต่ก็ซื้อมานะครับ เพื่อนฝากซื้อครับ อร่อย ๆ ไม่อร่อยไม่รู้ แต่เพื่อนฝากซื้อ 2 รอบผมเข้าที่พักแล้วก็ยังออกมาซื้อให้นะครับ เพราะตลาดที่นี่ปิดเที่ยงคืน เราก็ยังสามารถเดินเล่นกันได้เรื่อย ๆ อีกอย่างอากาศในวันที่ผมไปนั้นโล่งมีลมตลอดเวลารู้สึกเดินได้อย่างสบายตัวครับ


เสร็จสิ้นการอยู่ตัวคนเดียวแล้วก็กลับห้องพักผ่อนครับ มารู้ตัวอีกทีก็ตอน 9 โมงเช้า ก็เลยลุกขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว จัดกระเป๋าแล้วก็เช็คเอ้าท์ครับ เราจะได้เงินค่ามัดจำกุญแจคืน 200 บาทจากล๊อบบี้นะครับ อย่าลืม ๆ แล้วผมก็ฝากกระเป๋ากับทางที่พักไว้และเดินทางไปตามหาร้านกาแฟกันต่อ

.. Osot Place .. คือร้านกาแฟที่ผมเลือกในเช้าวันนี้ครับ ก็เพราะความสะดวกสบายในการหาข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ จึงทำให้ผมได้เจอกับร้านกาแฟที่ไปดื่มแล้วรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งมิตรไมตรีจากทางร้าน การบริการ รสชาติกาแฟและบรรยากาศร้าน ที่ถึงแม้จะเล็กแต่คับแก้วไปด้วยความเป็นเหมือนนั่งในบ้านตัวเอง ผมนี่รู้สึกประทับใจมากจริง ๆ ถ้ามีโอกาสไปหัวหินที่นี่ก็จะเป็นกาแฟตอนเช้าของผมอีกเช่นเคย

หลังจากนั้น ผมก็ไม่เสพลมที่ริมชายหาดหัวหินอีกรอบ ซึ่งตอนเช้าคนก็จะไม่ค่อยมาก เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ บางคนต้องเดินทางกลับเพื่อไปทำงานต่อ บรรยากาศก็เลยดูร่มรื่น เย็นสบายตา ลมเอื่อย ๆ กับวิวสวย ๆ กับคนเหงาคนหนึ่ง ช่างเข้ากันได้ดีทีเดียว

หลังจากนั้น แบตเตอรี่ก็เริ่มใกล้จะหมด ก็เลยแวะเข้าไปชาร์ตแบตเตอรี่ที่ .. Macdonald หัวหิน ..

ระหว่างนั่งรอก็ลองชิมพายข้าวโพดดู รสชาติก็ใช้ได้นะครับ กับราคา 42 บาท พอหายหิวไปได้


พอเวลาประมาณ บ่ายโมง ก็เลยเดินไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้แล้วก็เดินมารับตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไป การเดินทางกลับครั้งนี้ เป็นขบวนรถไฟฟรี .. ขบวนรถธรรมดาที่ 262 .. ต้นทางสถานีรถไฟหัวหิน ปลายทางสถานีรถไฟกรุงเทพ เวลารถออก 14.10 น. ถึงสถานีกรุงเทพ 19.00 น.

และแล้วการเดินทางของเราก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อเรามีเทคโนโลยีเข้ามา อะไร ๆ ในชีวิตของเรามันก็ง่ายขึ้น แต่เราก็จงเลือกใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับยุดสมัยและความเปลี่ยนแปลงด้วยนะครับ แล้วจะได้รู้สึกว่า ชีวิตเราไม่ได้เหงาอยู่คนเดียวเสมอไป หากยอมรับและเปิดรับอะไรใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตบ้างนะครับ


.. H u a H i n 2 0 1 7 ..


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับการเดินทางในครั้งนี้นะครับ





ความคิดเห็น