สวัสดีครับ เนื่องจากผมได้มีโอกาสไปลองชิมเกล็ดหิมะสอดไส้ของร้าน Snowflake มา ก็เลยเขียนรีวิวนี้มาเพื่อเล่าสู่กันฟังเผื่อจะมีคนสนใจอยากไปลองชิมบ้างเพราะโดยส่วนตัวแล้วผมว่าเมนูนี้ของร้านเค้าแปลกดี ที่สำคัญราคาก็ไม่ได้แพงมากด้วยครับ


เอาล่ะ ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับร้าน Snowflake (สโนว์เฟล็ค) กันก่อนดีกว่า ร้าน Snowflake นั้นดูเผินๆ ภายนอกก็เหมือนกับร้านขายเกล็ดหิมะน้ำแข็งไสอย่าง Ice Monster หรือร้านอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายนั่นแหละครับ แต่พอผมได้มีโอกาสไปลองชิมก็พบว่ามันแอบมีความแตกต่างกับร้านอื่นอยู่พอประมาณเหมือนกัน โดยสาขาของร้าน Snowflake ในตอนนี้มีอยู่ทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่


• สาขา เซ็นทรัล รามอินทรา กม.1 : ชั้น 4 ข้างร้าน Bar B Q Plaza

• สาขา แฟชั่น ไอส์แลนด์ : ชั้น 3 บริเวณหน้าโรงหนังเมเจอร์


อ้อ เห็นสาขาน้อยๆ และชื่อไม่คุ้นหูแบบนี้ ผมอยากจะบอกว่าเค้าเปิดร้านมาตั้ง 8 ปีแล้วนะครับ และมีลูกค้าทยอยเข้ามาที่ร้านต่อเนื่องตลอดทั้งวันเลย แน่นอนว่าถ้าไม่มีอะไรเจ๋งๆ ซ่อนอยู่ในร้านคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ

สำหรับสาขาที่ผมไปทานในวันนี้ก็คือสาขาเซ็นทรัล รามอินทราครับ หน้าตาของร้านก็เป็นแบบนี้เลย ใครที่พึ่งเคยมาครั้งแรกก็ให้มาที่ชั้น 4 แล้วมองหา Bar B Q Plaza ไว้ เดี๋ยวก็จะเห็นร้านเองครับ ขนาดของร้าน Snowflake สาขานี้จะไม่ใหญ่มากนัก มีเพียงโต๊ะ 3-4 ตัว แล้วก็เคาน์เตอร์บาร์ ที่สามารถจุคนได้ทั้งหมดประมาณ 20 คน ตัวร้านจะตกแต่งด้วยธีมสีฟ้าเป็นหลัก แล้วก็มีป้ายโปสเตอร์ใหญ่ๆ บอกว่าจุดเด่นของเกล็ดหิมะที่นี่คืออะไร ซึ่งมันจะจริงแค่ไหนเดี๋ยวเราค่อยไปพิสูจน์กัน



เมนูของร้านนี้จะมีทั้งหมด 12 เมนูด้วยกัน โดยจะมีรสของเกล็ดหิมะหรือน้ำแข็งไสเนี่ยหลากหลายมาก ตั้งแต่รสนม, ช็อคโกแลต, ชาเขียว, มะม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่เด็ดสุดๆ ก็คือ Mixed Strawberry ซึ่งเป็นรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่สด (อันที่ 3 แถว 2) แล้วก็ Super Straw Banana ซึ่งเป็นรสกล้วยหอมสอดไส้สตรอเบอร์รี่สด (อันที่ 2 แถว 3) โดยทั้ง 2 รสนี้เป็น 2 รสเทพประจำร้านที่หลายคนติดอกติดใจ และ 2 รสนี้แหละที่คือเกล็ดหิมะสอดไส้ที่ผมพูดถึงในตอนแรกๆ




สำหรับในเรื่องของราคานั้น ทางร้าน Snowflake จะมีทั้งหมด 6 ราคาด้วยกัน ได้แก่

• 69 บาท : เกล็ดหิมะถ้วยปกติ No Topping

• 79 บาท : เกล็ดหิมะถ้วยปกติ พร้อม Topping 2 ชนิด

• 89 บาท : เกล็ดหิมะ (รส Extra) ถ้วยปกติ พร้อม Topping 2 ชนิด

• 109 บาท : เกล็ดหิมะถ้วยใหญ่ No Topping

• 119 บาท : เกล็ดหิมะถ้วยใหญ่ พร้อมเชอร์รี่ และ Topping 4 ชนิด

• 129 บาท : เกล็ดหิมะ (รส Extra) ถ้วยใหญ่ พร้อมเชอร์รี่ และ Topping 4 ชนิด


ใครที่ไม่แน่ใจว่ารสไหนเป็นรสปกติ รสไหนเป็นรส Extra ก็ดูตามนี้ได้เลยครับ


รสปกติ (8 รสชาติ)

• นมสด

• ชาเขียว

• ช็อคโกแลต

• สตรอเบอร์รี่

• มะลิ

• กล้วยหอม

• กาแฟ

• ชาไทย


รส Extra (4 รสชาติ)

• นมสอดไส้สตรอเบอร์รี่

• กล้วยหอมสอดไส้สตรอเบอร์รี่

• ชาเขียวโอริโอ

• มะม่วงน้ำดอกไม้สุก


สำหรับมื้อนี้ผมกับภรรยาจัดมาลอง 2 ถ้วย โดยแบ่งเป็นถ้วยเล็กถ้วยนึงและถ้วยใหญ่ถ้วยนึง......คงไม่ต้องบอกนะครับว่าถ้วยไหนเป็นของใคร ><



ผมให้ดูขนาดเปรียบเทียบนะครับว่าถ้วยใหญ่กับถ้วยเล็กนั้นต่างกันมากแค่ไหน โดยถ้วยใหญ่ผมเลือกเป็นรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่พร้อมท็อปปิ้งอย่างถั่วแดง, แคนตาลูป, ลิ้นจี่ แล้วก็พีช ส่วนถ้วยเล็กเป็นรสนมสดพร้อมท็อปปิ้งอย่างแตงโมและส้ม


หมายเหตุ : ภาชนะที่ทางร้านเลือกใช้นั้นเป็นภาชนะกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนะครับ ซึ่งเรื่องนี้เป็นความชอบส่วนตัวของผมเลย โดยผมจะชื่นชอบร้านที่ใส่ใจในเรื่องพวกนี้เป็นอย่างมากเลย ^^



ใครที่ไม่ชอบท็อปปิ้งที่ผมเลือกก็ลองไปส่องๆ ท็อปปิ้งอื่นๆ ในตู้ได้ครับ เค้ามีให้เลือกมากกว่า 20 รายการเลย ไม่ว่าจะเป็นเยลลี่, เงาะ, ลิ้นจี่, ลำไย, ส้ม, พีช, แคนตาลูป, บลูเบอร์รี่, ลูกชิด, ช็อคบอล, มาร์ชเมลโล, โอรีโอ, โคอาลามาร์ช, เวเฟอร์, ถั่วแดง, ซุปข้าวโพดแล้วก็อื่นๆ อีกมากมายครับ ซึ่งผมค่อนข้างประทับใจในความหลากหลายของท็อปปิ้งเค้านะครับ แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้มีมากกว่านี้อีกนิดนึง โดยเฉพาะพวกผลไม้ถ้ามีให้เลือกเพิ่มอีก 4-5 อย่างนี่จะแจ่มแมวมากๆ


หมายเหตุ : ทางร้านแจ้งว่าท็อปปิ้งในแต่ละวันอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง โดยบางวันก็อาจจะมีผลไม้อย่างสตรอเบอร์รี่, กีวีด้วย และถ้าใครอยากจะทานท็อปปิ้งเพิ่มก็สามารถสั่งให้ร้านเพิ่มได้ในราคา 10 บาทต่อรายการครับ



ผมลองแอบๆ สังเกตดูก็พบว่าท็อปปิ้งอย่างเยลลี่, เวเฟอร์, โอรีโอ แล้วก็โคอาลามาร์ชนั้นเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายคนเลยครับ และเด็กๆ แต่ละคนก็ดูจะสนุกสนานกับการเลือกท็อปปิ้งที่บริเวณหน้าตู้แช่เอามากๆ



เอาล่ะ ดูรายละเอียดต่างๆ กันไปหมดแล้ว ทีนี้เราไปลองชิมกันดีกว่า ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่ารสชาติที่ผมได้ลองทั้ง 2 ถ้วยนั้นถือว่าดีเลยครับ โดยเฉพาะเกล็ดหิมะรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่ในถ้วยใหญ่ที่อร่อยถูกปากผมและภรรยามาก สมแล้วที่เป็นเมนูเด่นประจำร้าน ส่วนเกล็ดหิมะรสนมนั้นอยู่ในมาตรฐานร้านตามห้างทั่วไป มีความหวานอยู่ในระดับปกติไม่ได้หวานอะไรมากมาย ซึ่งถ้าใครที่ชอบทานอะไรหวานๆ มันๆ ก็อาจจะบอกให้ทางร้านเค้าเพิ่มนมข้นที่ราดบนเกล็ดหิมะอีกหน่อยก็ได้ครับ เค้าสามารถเพิ่มให้ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ^^


สำหรับรสชาติของท็อปปิ้งทั้งหมดที่ผมได้กินนั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่นเว่อร์วังมาก แต่กินแล้วไม่เสียดายเงินแน่นอน โดยตัวที่เด่นสุดและผมอยากให้ลองก็คือถั่วแดงที่ทางร้านเค้าทำเอง แต่อาจจะต้องเลือกเกล็ดหิมะที่เป็นรสชาเขียวนะครับถึงจะเข้ากัน หากใครเลือกรสนมแบบผมมันก็อาจจะแปลกๆ หน่อย T___T



อ้อ ที่ร้านเค้ามีน้ำเปล่าบริการฟรีด้วยนะครับ แต่เป็น Self Service ที่เราต้องบริการตัวเอง ส่วนใครที่สงสัยว่าเกล็ดหิมะสอดไส้นั้นเป็นอย่างไง ผมจะให้ดูภาพประกอบแล้วก็อธิบายง่ายๆ แบบนี้แล้วกันนะครับ เกล็ดหิมะสอดไส้นั่นคือการที่ทางร้านเค้าสอดไส้ผลไม้สดอย่างสตรอเบอร์รี่ลงไปในเกล็ดหิมะก้อนใหญ่ๆ ตั้งแต่แรกก่อนที่จะทำการไสน้ำแข็งเลย ซึ่งเมื่อเกล็ดหิมะก้อนใหญ่ๆ ก้อนนั้นผ่านการไสด้วยเครื่อง สตรอเบอร์รี่ที่อยู่ข้างในก็จะถูกไสผสมออกมาในเนื้อเดียวกับน้ำแข็งเลย อย่างในภาพแรกจะเห็นว่าถ้าเป็นรสนมธรรมดา เกล็ดหิมะที่ออกมาจากเครื่องไสก็จะเป็นสีขาวๆ ปกติ แต่พอเป็นรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่ในภาพที่สองและสามนั้น ตอนที่ไสออกมาก็จะกลายเป็นเกล็ดหิมะสีแดงอมชมพูแบบมีเลือดฝาดเลย! ซึ่งรสนี้ผมแนะนำเลยว่าถ้ามีโอกาสควรลองต้องครับ!!!


ส่วนอีกเรื่องที่ทางร้านเค้าบอกไว้ว่าเกล็ดหิมะของเค้านั้นละลายช้า ผมเองก็เห็นด้วยนะ เพราะแม้ผมจะไม่ได้ทำการวัดอะไรอย่างจริงจัง แต่กว่าที่ผมจะถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอต่างๆ เสร็จมันก็ใช้เวลาประมาณ 10 -15 นาทีได้ แต่สภาพของเกล็ดหิมะทั้ง 2 ถ้วยก็ยังดีแทบไม่ต่างจากตอนแรกๆ ที่พนักงานเค้าเสิร์ฟให้ผมเลย



เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาสรุปรีวิวของร้าน Snowflake กันแล้ว เดี๋ยวเรามาไล่กันไปทีละเรื่องตามเดิมเลยแล้วกันนะครับ


วันที่รับประทาน : วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2560

ช่วงเวลา : 15.30 – 17.30 น.

จำนวน : 2 คน


รสชาติอาหาร : แม้จะเป็นร้านที่ชื่อไม่คุ้นหูซักเท่าไหร่ แต่ในเรื่องรสชาตินั้นผมว่าสอบผ่านสามารถแข่งขันกับหลายร้านที่มีชื่อเสียงได้เลยครับ โดยเฉพาะรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่ที่เป็นเมนูเด่นของร้านที่ทั้งแปลก ใหม่ และไม่เหมือนใคร ซึ่งผมว่าถ้าทางร้านหาทางโปรโมทดีๆ คนน่าจะอยากมาลองกันมากกว่านี้ครับ


ความหลากหลายของอาหาร : ด้วยความที่เป็นร้านที่ขายของหวานประเภทเดียวดังนั้นในเรื่องนี้ก็คงไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่อย่างไรก็ตามเกล็ดหิมะของทางร้านที่มีให้เราเลือกทั้ง 12 รสชาตินั้นก็น่าจะพอครอบคลุมความชอบของแต่ละคนได้อยู่พอควร อีกทั้งในเรื่องของท็อปปิ้งที่มีให้เลือกมากถึง 20 ชนิดนั้นก็มีหลายประเภทดีครับ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ คนชอบทานผลไม้ หรือคนที่ชอบทานเยลลี่ก็น่าจะถูกอกถูกใจกัน แต่ถ้าจะให้ดีผมว่าในเรื่องของท็อปปิ้งนั้นผมอยากให้ทางร้านจัดให้แต่ละวันมีเหมือนๆ กันไปหมดเลย อย่าเปลี่ยนไปมาจะดีกว่าครับ


ความสะอาดของร้าน : สะอาด สบายตา ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ


การบริการของพนักงาน : แม้จะมีแค่ 2 คนแต่ก็บริการฉับไวและรวดเร็วดีครับ


ความสะดวกของการเดินทาง : ต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 สาขาของ Snowflake นั้นไม่ว่าจะเป็นที่เซ็นทรัล รามอินทรา หรือ ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นห้างที่ผมเดินทางไปได้ยากทั้งคู่เลย เพราะอยู่ไกลบ้านสุดๆ นานๆ จึงจะได้มีโอกาสไปแถวนั้นซักที นอกจากนี้ในเรื่องของรถ BTS และ MRT ก็ไม่มีอีก ดังนั้นผมว่าร้านนี้คงจะตอบโจทย์คนที่อยู่แถวนั้นเป็นหลักมากกว่าครับ


ความคุ้มค่า : เมื่อเทียบปริมาณและรสชาติที่ได้นั้น ผมถือว่าร้านนี้สอบผ่านนะครับ ราคาไม่ได้แรง แต่รสชาติที่ได้นั้นโอเคเลย โดยเฉพาะรสนมสอดไส้สตรอเบอร์รี่ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมาก และเป็นรสที่ผมอยากจะแนะนำเลยว่าใครที่ไปลองทานที่ร้านนี้ครั้งแรกควรสั่งมาลองครับ


สรุป : ร้าน Snowflake เป็นร้านขายเกล็ดหิมะหรือน้ำแข็งไสอีกร้านนึงที่มีจุดเด่นของตัวเองอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของรสเกล็ดหิมะที่มีการสอดไส้ไว้ข้างในซึ่งแทบไม่มีร้านไหนที่มีเมนูแบบนี้เลย และเมื่อนำมาประกอบกับการที่ทางร้านมีท็อปปิ้งให้เราเลือกมากมาย อีกทั้งการละลายของเกล็ดหิมะก็ช้า ราคาก็ไม่ได้สูงเกินไป ผมจึงคิดว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่คอของหวาน คอน้ำแข็งไส หรือคนที่ต้องการอะไรหวานๆ เย็นๆ คลายร้อนรับประทานควรเปิดใจลองชิมดูซักครั้งครับ และไม่แน่คุณอาจจะติดใจแบบผมจนต้องอยากจะไปลองรส Extra อื่นๆ เพิ่มเติมอีกรอบครับ


ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ และสำหรับท่านใดที่อยากจะชมบรรยากาศของการกินอาหารแบบที่เป็นคลิปวีดีโอก็สามารถดูในคลิปด้านล่างได้เลยครับ


สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม สามารถไปติดตามหรือแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ



ภรรยาหา สามีใช้

 วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.41 น.

ความคิดเห็น