สวัสดีทุกครับ วันนี้ผม นาย “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกคนเปลี่ยนบรรยากาศจากการกินอาหารนานาชาติแล้วไปลิ้มลองติ่มซำ All you can eat กันดีกว่าครับ โดยห้องอาหารที่ผมจะพาทุกคนไปนั้นคือ ห้องอาหาร Sui Sian (ซุยเซียน) ชั้น 10 โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพ (Landmark Bangkok)

สำหรับการเดินทางมาที่นี่นั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ลง BTS นานา ทางออก 2 แล้วเดินต่อประมาณ 50 เมตรก็ถึงโรงแรมแล้วครับ ส่วนใครที่ขับรถมาก็ให้สังเกตระหว่างซอยสุขุมวิท 4 และซอยสุขุมวิท 6 ให้ดีๆ โรงแรมแลนมาร์ค กรุงเทพ จะอยู่แถวนั้นแหละครับ โดยในเรื่องที่จอดรถนั้นก็ถือว่ามีเยอะพอดูเลย วนหาไม่นานก็ได้ที่จอดแล้ว และจากอาคารจอดรถเราสามารถกดลิฟท์ไปที่ชั้น 10 เพื่อไปที่ห้องอาหาร Sui Sian ได้ทันทีเลยครับ

หลังจากที่เราออกจากลิฟท์ชั้น 10 เราก็จะเจอห้องอาหารหน้าตาแบบนี้อยู่ทางขวามือของเราครับ

และพอเราเดินเข้าไปข้างใน เราก็จะเจอกับห้องอาหารจีนที่ใหญ่มากๆ ห้องนึง โดยห้องอาหารแห่งนี้จะมีโต๊ะที่สามารถรองรับคนได้ทั้งหมดถึง 180 คน นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวสำหรับ 10 คน จนไปถึงการกั้นพื้นที่ Private Zone ให้กับหมู่คณะใหญ่ๆ ได้ถึง 80 คน ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ผมประทับใจเรื่องนึงเลยครับ




และเพื่อเป็นการไม่รบกวนแขกท่านอื่นๆ ในการถ่ายภาพอาหารที่มากมายจนล้นโต๊ะ วันนี้ผมกับต๋งก็เลยได้นั่งในห้องส่วนตัวครับ โดยขนาดของห้องนั้นใหญ่แล้วก็ดูสวยงามมาก เหมาะสำหรับการพาครอบครัวหรือคู่ธุรกิจมาทานเลยครับ

เอาล่ะ ทีนี้เราไปดูเรื่องของอาหารกับราคากันดีกว่า สำหรับราคาติ่มซำ All you can eat ของห้องอาหาร Sui Sian จะมีเฉพาะมื้อกลางวันนะครับ โดยจะมีราคาตามนี้เลย


วันจันทร์ – วันเสาร์

เวลาเปิด : 11.30 - 14.30 น.

ราคา : 690++ บาท/ท่าน หรือ 812 บาท/ท่าน net (ราคายังไม่รวมเครื่องดื่ม)


วันอาทิตย์ (เพิ่มเมนูเป็ดปักกิ่ง และหมูหัน)

เวลาเปิด : 11.00 - 15.00 น.

ราคา : 850++ บาท/ท่าน หรือ 1,000 บาท/ท่าน net (ราคายังไม่รวมเครื่องดื่ม)


โดยท่านใดที่ต้องการทานเครื่องดื่ม ทางห้องอาหารจะมีบริการ ชาและเก๊กฮวย Refill ที่ 112 บาท/ท่าน net และ Soft Drink Refill (ชา, เก๊กฮวย, น้ำอัดลม) ที่ 150 บาท/ท่าน net


หมายเหตุ : สำหรับท่านใดที่มีบัตร Club Landmark จะได้รับส่วนลด 20% นะครับ และในส่วนของการทาน All you can eat นั้นเด็กที่อายุ 6-12 ปี จะจ่ายครึ่งราคา และเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ทานฟรีครับ

รู้ราคากันไปแล้ว ทีนี้เราไปดูเมนูที่สามารถสั่งได้ใน All you can eat กันดีกว่า โดยผมขออนุญาตแปะรูปเลยนะครับเพราะรายการมันเยอะมาก น่าจะเกิน 40 รายการอีก โดยจะมีทั้งของนึ่ง ของทอดให้เราเลือกทานกันแบบไม่หวาดไม่ไหวเลยครับ

ส่วนใครที่คิดว่าอาหารใน All you can eat ยังกินไม่หนำใจ ท้องเรายังสามารถกินอะไรเพิ่มได้อีก เราก็สามารถสั่งอาหารแบบ A la carte มาทานเพิ่มได้นะครับ โดยในช่วงดือนพฤศจิกายนกับเดือนธันวาคมนี้ เชฟหมิงที่เป็นเชฟประจำห้องอาหารแห่งนี้เค้าได้คิดเมนูเด็ดๆ ที่เกี่ยวกับเห็ดมาให้เราได้ลองทานกันเกือบ 10 เมนูเลย โดยเชฟหมิง (Lo Wei Ming) เป็นเชฟที่มีประสบการณ์ด้านอาหารจีนโดยเฉพาะสไตล์กวางตุ้ง เสฉวน และซานซีมากว่า 25 ปีแล้ว ดังนั้นแต่ละเมนูที่เชฟเค้ารังสรรค์ออกมาน่าจะถูกปากถูกใจหลายคนแน่ๆ

สำหรับผมเองได้มีโอกาสลองทานเมนู A la carte สองเมนู ได้แก่ “หอยสังข์ผัดเนื้อสันเห็ดรวมและพริกสด” (ราคาจานละ 650++ บาท) และ “ปลาหิมะเจี๋ยนเห็ดป๋ายยี่” (ราคาจานละ 850++ บาท) โดยด้านรสชาตินั้นต้องบอกว่าดีทั้งคู่เลย แต่ถ้าให้ผมเลือกจานที่ชอบที่สุดเพียงจานเดียว นั่นก็คือ “หอยสังข์ผัดเนื้อสันเห็ดรวมและพริกสด” เพราะเชฟหมิงเค้าปรุงมาได้กลมกล่อม และเนื้อที่ใส่มานั้นนุ่มสุดๆ เลยครับ โดยถ้าผมจำไม่ผิดเนื้อที่อยู่ในจานน่าจะเป็นเนื้อแองกัสนะครับ

แว้บไปชิมอาหาร A la carte กันมาแป้บนึง คราวนี้ก็ได้เวลาที่เราจะมาลุยติ่มซำ All you can eat ของเรากันต่อ โดยผมจะให้ทุกคนดูรูปอาหารยาวๆ แล้วไปสรุปภาพรวมให้ฟังตอนท้ายนะครับว่าผมรู้สึกอย่างไรกับอาหารมื้อนี้



ครับ หลังจากที่เราเห็นหน้าค่าตาของอาหารบางส่วนกันไปแล้ว.....ย้ำนะครับว่าบางส่วนเพราะถ้าสั่งมาหมดทุกรายการผมกับภรรยาคงท้องแตกพอดี @_@ คราวนี้เรามาว่ากันในเรื่องคุณภาพและรสชาติกันดีกว่า โดยรสชาติอาหารของหลายๆ เมนูนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีครับ รับรู้ได้เลยว่าทางห้องอาหารเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีในการทำ ส่วนในเรื่องของขนาดของแต่ละชิ้นนั้นก็ใหญ่ใช้ได้เลย เหมาะสมมากกับการที่ใส่มา 2-3 ชิ้นต่อจาน เพราะถ้าใส่มาเยอะกว่านี้คงกินได้แค่ไม่กี่จานก็อิ่มแล้วครับ ><


สำหรับเมนูที่ผมชอบมากที่สุดในการทานอาหารมื้อนี้ก็คือ ขนมจีบทุกประเภท เพราะลูกใหญ่ เนื้อแน่น, กุ้งทอดครีมสลัด กุ้งเต็มๆ คำ ชิ้นใหญ่เต็มปากมากๆ, ฮะเก๋า หอยเชลล์ ที่เนื้อเด้ง แป้งยืดหยุ่นดี, ซี่โครงหมูอ่อนทอด อร่อย ไม่เหนียว และที่อื่นไม่มีเมนูนี้ ดังนั้นใครมาที่นี่ก็ควรจะสั่ง แล้วก็ซาลาเปาไส้ครีมและหมูแดง ที่แป้งอร่อย รวมทั้งรสชาติของไส้ก็ยังถูกปากผมกับภรรยาด้วยครับ

แต่เดี๋ยวนะครับ มันยังไม่จบ สำหรับคนที่ทานติ่มซำที่นี่แล้วรู้สึกเลี่ยน หรืออยากทานน้ำแกงร้อนๆ เพื่อให้สามารถทานอาหารต่อได้เรื่อยๆ ผมอยากจะบอกว่าในเมนู All you can eat นั้น เราสามารถที่จะเลือกสั่งซุป, ข้าว และของหวานมาทานเพิ่มได้ด้วยโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งเมนูที่เราสามารถจะสั่งได้ก็มีตามนี้เลยครับ

Soup

  • ซุปเสฉวนทะเล
  • ซุปเยื่อไผ่
  • ซุปกระเพาะปลาน้ำแดง

Rice & Noodle

  • ข้าวผัดฟูเจา
  • เส้นใหญ่ราดหน้าทะเล
  • เส้นหมี่ผัดเป็ดย่าง

Dessert

  • บัวลอยน้ำขิง
  • สาคูแคนตาลูป
  • ลิ้นจี่ลอยแก้ว

โดยเมนูเหล่านี้แต่ละคนจะสามารถเลือกสั่งได้คนละ 1 อย่าง ในแต่ละประเภทครับ แต่ในวันนี้ผมกับภรรยาได้รับโอกาสให้ทดลองชิมครบทุกเมนู เพื่อเอามาบอกเล่าให้ทุกคนฟัง ซึ่งจากความชอบและลิ้นของเราทั้งสองคนแล้ว เราคิดว่าซุปเสฉวนทะเล, เส้นใหญ่ราดหน้าทะเล, บัวลอยน้ำขิง และสาคูแคนตาลูป คือเมนูที่เราชอบที่สุด โดยซุปเสฉวนของที่นี่นอกจากจะมีหอยเชลล์, กุ้ง, เห็ดหอมให้เยอะมากๆ จนล้นชามแล้ว รสชาติยังกลมกล่อมกำลังดี ไม่เปรี้ยวจี๊ดเหมือนกับหลายๆ ที่อีกด้วยครับ

หลังจากที่เรากินติ่มซำกันมาหลายสิบเข่ง จนตอนนี้พุงเราเบ่งจนกางเกงแทบปริแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาของบทสรุปการรีวิวห้องอาหาร Sui Sian โรงแรม Landmark Bangkok กันแล้วครับ ซึ่งเดี๋ยวเรามาไล่กันไปทีละเรื่องตามเดิมเลยนะครับ


วันที่รับประทาน : วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560
ช่วงเวลา : 11.30 – 14.30 น.
จำนวน : 2 คน


รสชาติอาหาร : รสชาติอาหารส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และรับรู้ได้ว่าทางห้องอาหารเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพมาประกอบอาหาร โดยเมนูที่ผมประทับใจที่สุดก็คือซุปเสฉวน, กุ้งทอดครีมสลัด, ขนมจีบ, ซี่โครงหมูอ่อนทอด และซาลาเปา ส่วนเมนูที่อยู่นอกเหนือ All you can eat แล้วผมประทับใจมากๆ ก็คือ “หอยสังข์ผัดเนื้อสันเห็ดรวมและพริกสด” เนื้อนุ่มละมุนลิ้นมากครับ


ความหลากหลายของอาหาร : โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าติ่มซำ All you can eat ห้องอาหาร Sui Sian น่าจะเป็นติ่มซำที่มีความหลากหลายของอาหารและประเภทให้เราเลือกสั่งเยอะแห่งหนึ่งเลยครับ เพราะมีอาหารให้เราเลือกสั่งมากกว่า 40 รายการ ทั้งนึ่งและทอด นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูที่หาทานจากที่อื่นได้ยากไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมูอ่อนทอด, กระเพาะปลาสอดไส้กุ้ง, งาทอดไส้ลูกบัว หรือ ข้าวห่อใบบัว ส่วนอาหารประเภทซุป, ข้าว และของหวาน ก็มีให้เลือกหมวดละ 3 ประเภท ดังนั้นผมเลยคิดว่าที่นี่น่าจะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการทานอาหารเป็นกลุ่มใหญ่อย่างครอบครัว หรือเพื่อนฝูงได้อย่างสบายๆ ครับ


ความสะอาดของร้าน : ข้อนี้สอบผ่านไม่มีปัญหา สะอาดสะอ้าน และห้องอาหารกว้าง โปร่ง ดูโล่ง สบายตามากครับ


การบริการของพนักงาน : ข้อนี้ผมให้ความเห็นมากไม่ได้ครับ เพราะวันที่ผมไปทานนั้นคนใช้บริการน้อยมาก ประกอบกับเป็นการทานอาหารในห้องส่วนตัวที่ปิดประตูไว้ ผมก็เลยไม่ได้ใช้บริการในส่วนนี้เท่าไหร่ แต่จากที่ได้สอบถามข้อมูลทั่วๆ ไปจากพนักงานรวมทั้งการขอประทับตราที่จอดรถ ก็ได้รับการบริการที่ดีครับ


ความสะดวกของการเดินทาง : ถือว่าเป็นห้องอาหารที่เดินทางสะดวกนะครับ เพราะโรงแรมแลนด์มาร์คนั้นอยู่ห่างจากสถานี BTS นานา เพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น ส่วนคนที่ขับรถมานั้นแม้โรงแรมจะหาไม่ยาก มองเห็นได้ชัดเจน และมีที่จอดรถเยอะ แต่ด้วยความที่โรงแรมตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงต้นๆ ซึ่งเป็นช่วงที่รถติดสาหัสเอาเรื่อง โดยเฉพาะช่วงเย็นของวันทำงาน ดังนั้นก็ต้องทำใจในเรื่องของการเดินทางนิดนึงนะครับ


ความคุ้มค่า : โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าราคา 812 บาท/คน net (ยังไม่รวมเครื่องดื่ม) ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมกับรสชาติอาหารและความหลากหลายของอาหารนะครับ แต่ถ้าใครมองในเรื่องของทำเลที่ตั้ง การเดินทาง การบริการ เข้าไปด้วยก็น่าจะทำให้รู้สึกคุ้มค่ามากขึ้น และจะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นไปอีกต่อถ้ามีบัตร Club Landmark ที่จะสามารถลดราคาอาหารลงไปได้ถึง 20% ครับ


สรุป : Dimsum All you can eat ของห้องอาหาร Sui Sian โรงแรม Landmark Bangkok ถือเป็นอีกหนึ่งห้องอาหารจีนที่น่าจะตอบโจทย์คนที่ต้องการทานติ่มซำคุณภาพดี ทำเลอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีห้องส่วนตัว หรือต้องการหาห้องอาหารจีนที่สามารถทำเป็น Private Zone ขนาดใหญ่ไว้สำหรับ event พิเศษ ห้องอาหารแห่งนี้น่าจะตอบโจทย์ได้หมดครับ ส่วนในเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคานั้น ใครที่สนใจอยากจะไปลองชิมอาหารที่นี่ดู ก็ลองโทรไปสอบถามทางห้องอาหารเพิ่มเติมนะครับว่ามีโปรโมชั่นอะไรที่โดนใจในช่วงนั้นหรือเปล่า ส่วนคนที่เป็นสมาชิกของ Landmark อยู่แล้วนั้น ก็คงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะการได้ลด 20% จากคนทั่วไปนี่ถือว่าดีงามอยู่แล้วครับ


ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ สำหรับใครที่อยากจะดูบรรยากาศของการรีวิวอาหารครั้งนี้ในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวก็สามารถกดดูที่คลิปด้านล่างได้เลยครับ ส่วนใครที่อยากติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมแบบใกล้ชิด ก็สามารถติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” และสุดท้ายนี้ใครที่อยากจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องอาหารแห่งนี้ก็สามารถโทรไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-2540404 นะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีครับ


ภรรยาหา สามีใช้

 วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 01.45 น.

ความคิดเห็น