จะไปไหนครับ..???? สำเนียงทองแดงของกัปตันเรือ ที่บ่งบอกได้ว่าเป็นคนพื้นเพของที่นี่
กล่าวถามผมพร้อมกับสีหน้าที่ดูจะเป็นมิตรไมตรีเป็นอย่างดี

: ออกเรือไปก่อนครับ จะมืดแล้ว หาที่จอดนอนหลบคลื่นสักเกาะ
แล้วค่อยว่ากันหลังอาหารเย็นคืนนี้
.........

สิ้นสุดการสนทนาที่ไม่ต้องมีอะไรมากมายห้เป็นพิธีการ
พร้อมใบเรือที่ถูกชักขึ้นกระโดง รับลม ส่งให้เรือค่อยๆเคลื่อนออกจากท่า

ก่อนจะออกเดินทางสู่กลางทะเลอันดามันที่แสนจะกว้างใหญ่
ไปชมคลิปบรรยากาศธรรมชาติของทริปนี้กันก่อน
ระหว่างรอโพสต์เรื่องราวการเดินทางต่อไป

ที่อาจจะช้าหน่อย ค่อยๆย่อรูป ทำรูปไปเรื่อยๆ





=======




ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ พร้อมกับเรือที่กางใบรับลม ลอยออกสู่ทะเลไปอย่างช้าๆ
นั้นหมายความว่าเรามาถึงท่าเรือไม่เป็นไปตามกำหนดการ
=======
"เรา"

เรา.. แน่นอนการเดินทางครั้งนี้ ผมไม่ได้เดินทางมาคนเดียว และไม่ได้มาเป็นครั้งแรก
ผมเคยมาล่องเรือยอร์ชของ Discovery Catamaranลำนี้แล้วเมื่อหลายปีก่อนกับใครคนหนึ่ง ครั้งนั้นเป็นแบบ one day trip
แต่ครั้งนี้จะพิเศษหน่อย โดยที่ผมจองแพคเกจแบบนอนค้างบนเรือ 2คืน
และอยากจะเซอร์ไพร์อะไรเล็กๆน้อยๆ ให้กับใครคนนั้น

แต่แล้วเมื่อถึงวัน เขาคนนั้นก็ไม่รู้ไปไหน ด้วยเหตุผลอะไรคงไม่ต้องนำมาบอกกล่าว

.......................................

เฮ้ยเพื่อน !! ... พี่ครับ ...น้องจ๋า
ไปเที่ยวทะเลกับพี่ไหม มีแพคเกจเรือจองไว้สามารถไปได้ 6 คน
จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีใครว่าง เนื่องจากเป็นวันธรรมดา ที่มนุษย์เงินเดือนเขาไม่ว่างกัน

สุดท้าย ก็ได้เหล่าผู้ว่างงานมา 4ท่าน แบบฉิวเฉียดก่อนเดินทางไม่กี่วัน
มันจึงเป็นสาหตุทำให้ทริปนี้ไม่เหงา
==============================================

"การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น"
................................

(รายละเอียดต่างๆ ข้อมูล ค่าใช้จ่าย สำหรับเรือยอร์ท
จะรีวิวในช่วงท้ายนะครับ)



ย้อนกลับมาวันแรกของการเดินทาง เรานัดกันที่สนามบินดอนเมือง
นกแอร์พาพวกเราบินลัดฟ้ามุ่งตรงไปยังเกาะภูเก็ต
เกาะที่หญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่เมื่อก่อนเข้าใจผิดมาตลอด
..
แค่อึดใจไม่เท่าไหร่ เราก็พาหัวใจมาถึงภูเก็ต
จากนี้ใช้บริการรถเช่าไปยังท่าเรือ เหตุเพราะอุปกรณ์ถ่ายภาพที่ขนกันมาของแต่ละคน
มันช่างเยอะเหลือเกิน รวมไปถึงการเดินทางไม่ใช่เพียงภูเก็ตที่เดียว
เพราะต่อจากนี้ ต้องเดินทางไปยัง จ.ระนองต่อ เพื่อไปดูความสวยงามของประเทศเพื่อนบ้าน(ในรีวิวตอนที่2)

ไหนๆก็มาแล้วก็อย่าได้เสียเที่ยว



ผิดท่า ท่าผิด
ท่าดี ทีเหลว !!!!

ไปขึ้นเรือผิดท่าครับ อย่างที่เกริ่นไว้ตอนเริ่มต้นว่าเรามาถึงท่าเรือ
ดวงอาทิตย์ก็เกือบลับขอบฟ้าไปแล้ว

เหตุจากการสื่อสารกับคุณมิ้นที่ให้บริการเรือยอร์ช discover catamaran
นัดว่าเจอกันที่ท่าเรือ ไอ้ตัวผมที่บอกว่าเคยมาใช้บริการเรือลำนี้แล้วเมื่อหลายปีก่อน
ก็เข้าใจว่าเป็นท่าเรือเดิม

รอกันไป รอกันมา ถึงเวลานัดก็ไม่เห็นกันสักที โทรถามกันอีกที
ก็ถึงบางอ้อว่าต้องไปอีกท่า ที่อยู่กันคนละฝั่งของเกาะภูเก็ต
แถมช่วงเวลานั้นจะต้องฝ่าวิกฤตรถติดในเมือง แถมไฟแดงอีกหยิบย่อย
กว่าจะถึงท่าเรือ ก็ไม่ต้องอะไรมาก

=====================================

จะไปไหนครับ..???? สำเนียงทองแดงของกัปตันที่บ่งบอกได้ว่าเป็นคนพื้นเพของที่นี่
กล่าวถามผมพร้อมกับสีหน้าที่ดูจะเป็นมิตรไมตรีเป็นอย่างดี

: ออกเรือไปก่อนครับ จะมืดแล้ว หาที่จอดนอนหลบคลื่นสักเกาะ
แล้วค่อยว่ากันหลังอาหารเย็นคืนนี้
.........



ผ่านค่ำคืนไปอย่างรวดเร็ว และความตื่นเต้นดีใจของเพื่อนๆที่ร่วมติดตาม
หลังจากการ Live สด โพสต์อัพเฟสกันแบบรัวๆ ทั้งคืน
ที่เราจอดนอนหลบคลื่นหลังเกาะไม้ท่อน เช้าวันนี้เรายังอยู่น่านน้ำของจังหวัดภูเก็ต

สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรือที่ติดเครื่อง พร้อมถอนสมอเรือของกัปตันตั้งแต่แสงแรกยังไม่โผล่ขึ้นขอบฟ้า
ก่อนจะล่องเรืออ้อมไปด้านหน้าของเกาะ เพื่อรับพระอาทิตย์แรกของเช้าอีกวัน
พร้อมกับทำอาหารเช้าแบบเรียบง่าย ผู้ช่วยสาวสวย ที่ติดตามมาบริการในครั้งนี้
ที่ดูจะอร่อยทุกมื้อ ..อาหารเช้าถูกเสิร์ฟพร้อมกับวิวพระอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นด้านหน้าเหนือเส้นขอบทะเล
จุดหมายปลายทางของวันนี้ เราจะมุ่งตรงไปยังจังหวัดกระบี่ ที่หมู่เกาะพีพี
หลังจากที่สรุปตกลงกันเมื่อคืน

ใบเรือถูกกางขึ้นอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะพีพี
ที่มีแดดมาไล่ให้เรากลับเข้าไปในห้องแอร์ภายในเรือ
รู้สึกเหมือนวิวสองข้างทาง จะถูกมองผ่านกระจกภายในห้อง
เพื่อนๆไม่ยอมออกกันมารับลม สูดกลิ่นธรรมชาติ
โดยเฉพาะสาวๆ ที่ดูเหมือนจะห่วงเรื่องสุขภาพของผิวหนัง

ใช้เวลาไม่นานเรือก็มาลอยลำเหนืออ่าวโล๊ะซามะ (กระบี่)
จากนี้ไปใครอยากจะเข้าไปชมความงามของอ่าว ก็ต้องนั่งเรือยางลำเล็กเข้าไป
เป็นเรือที่เราลากมาด้วยต้องแต่ภูเก็ต สำหรับเอาไว้ขึ้นเกาะ ลงหาด
ตามที่อยากจะเข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด
....
แน่นอนความร้อนขนาดนี้ ไม่สามารถทำให้เราออกมาจากห้องแอร์ได้
หรือทำได้เพียงยืนเท่ๆ ถ่ายรูปจากบนเรือ



ลอยเรือข้ามฝากมาอีกฝั่งของเกาะ ไม่ต้องบอกก็รู้มันคือ "อ่าวมาหยา"
อ่าวที่มีชื่อเสียงระดับโลก สามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเสียตังค?กันก็เยอะ
.
ด้วยที่ความชิวๆ บนเรือ ความสวยงาม ชายหาดขาวๆ
ก็ไม่สามารถดึงความสนใจให้พวกเราลงจากเรือได้
ทำได้แค่เพียงรอแสงพระอาทิตย์ที่เบาลง
พร้อมมื้อค่ำดินเนอร์ ชมพระอาทิตย์ลับเส้นขอบทะเลกันที่นี่

ที่จะมีใครสักกี่คน ที่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกดินหน้าอ่าวมาหยา
เพราะส่วนใหญ่ที่มาก็เป็น one day trip ต่างทยอยกันกลับหมด

ช่วงนี้แหละถ้าจะขึ้นเกาะ ชายหาดทั้งหาดก็จะเป็นของเรา
ส่วนตัวผมนั้นยังชิว ชมพระอาทิตย์ตกดินบนเรือเช่นเคย. 55555



ใกล้ค่ำ ก็เหลือแค่เราอยู่ลำเดียว และดูเหมือนว่าจะปักหลักนอนหลบคลื่นกันอยู่ที่นี่ (ถ้าคลื่นไม่แรง)
เราจะลอยลำชมพระอาทิตย์ตกหน้าอ่าวมาหยา
แดดล่มลมตกเพื่อนๆก็ออกจากห้องมารับบรรยากาศ แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องเอ่ยเรียก
พร้อมกับอาหารเย็นที่กำลังตระเตรียมขึ้นโต๊ะ

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่ดูเหมือนว่าคลื่นลมจะแรง
เราตัดสินใจย้ายเรือไปปักสมอหลบคลื่นกันที่เกาะพีพี สวรรค์ของคนที่ชอบแสงสียามค่ำคืน
หรืออาจจะเป็นแผนของใครบางคนบนเรือนี้ได้
แน่นอนคืนนี้ไหนๆก็ไหนๆ เลยตามเลย เราจะขึ้นไปชมบรรยากาศแสงสีบนเกาะกัน

พร้อมกับอาหารเย็นเสร็จขึ้นโต๊ะระหว่างเดินทางไป



บรรยากาศของแสงสีบนชายหาดที่เกาะพีพี ออกไป
ตัดบรรยากาศดูความสวยงามของธรรมชาติของช่วงเช้ากันดีกว่า
แน่นอนเหมือนเดินทุกวันเป็นปกติ คือดูพระอาทิตย์ขึ้น
พร้อมกับล่องเรือไปเรื่อยๆ วันนี้ขอกัปตันลงครัวเอง อยากจะโชว์ฝีมือสักหน่อย
..
จุดหมายในเช้าวันนี้คือเกาะไผ่



มุ่งหน้าไปยังเกาะไผ่
จุดหมายต่อไปของเช้าวันนี้



ถอนสมอเรือออกมาจากเกาะพีพี ประมาณ 3 กิโลเมตร
เราก็มาเจอกับชายหาดสีขาว ของเม็ดทราย
ที่เห็นอยู่ฝั่งทิศเหนือยาวมาถึงฝั่งทิศตะวันออก ของเกาะไผ่
เป็นเขตความดูแลของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี



ระหว่างที่รอทุกคนไปดำน้ำชมปะการังกัน ก็จัดอะไรเย็นๆแช่ตู้ไว้รอ



...



อันนี้ข้าวเหนียวมะม่วงตั้งแต่เมื่อคืนละ. กลับจากบนเกาะพีพีขึ้นมาดึก ไม่ได้กินกัน


..

พร้อมกับมื้อเที่ยงที่เตรียมไว้รอ




=====================================
เดี๋ยวมาต่อเกี่ยวกับข้อมูลเรือ เผื่อใครสนใจอยากจะชิวๆแบบนี้นะครับ
=====================================

มาดูกันว่าเรือที่ผมใช้ในทริปนี้มีอะไรให้บ้าง
=======================

เรือยอร์ชที่ผมเป็นแพคเกจของทางบริษัท Discover Catamaran
ที่ให้บริการท่องเที่ยว ดำน้ำโดยเรือ Catamaran แบบสองท้อง ในราคนไทยเอื้อมถึง

ใช่ครับราคาเอื้อมถึง งดปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงให้น้อยลงหน่อยก็เก็บตังค์มาได้แล้ว
มีหลายทริปหลายโปรแกรมให้เลือก ทั้ง one day trip. และแบบค้างคืนบนเรือ
ตั้งแต่หลักพันต้นๆ ขึ้นไป
....
เรือที่ผมใช้ในทริปนี้เป็นเรือใบ แบบ 2 ห้อง ข้อดีของเรือ 2 ห้อง คือจะไม่โครงมาก
นอนหลับสบายทั้งสองคืน ทีแรกก็แอบเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนเคยมาแต่แบบ วันเดียว ไม่ได้ค้างคืน

บนเรือภายในเป็นห้องแอร์3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว
ห้องนอนมีหน้าต่างด้านบนสามารถนอนชมดาวได้
แต่ละแพคเกจมีอาหารให้พร้อม ทั้งวันเดย์ทริป และค้างคืน
ใครงบน้อยก็สามารถมาจอยทริปได้ ตกต่อหัวหารแล้วก็เอื้อมถึงแน่นอน
บางทริปเพิ่มเงินนิดหน่อยจากราคาของสปีดโบ๊ท มันก็เปลี่ยนบรรยากาศต่างกันเยอะเลย
หรือจะเหมามากันหลายๆคนก็หารกันไป เรือมีขนาดตั้งแต่ 10 คน 20. คน จนถึง. 30 คน
แพคเกจที่ผมใช้ในทริปนี้เป็นแพคเกจสำหรับ 6 คน เพราะเรือมี 3 ห้องนอน
ถ้ามาเยอะกว่านี้ก็ต้องยอมนอนหน้าเรือ หรือห้องรับแขก ก็แล้วแต่จะตกลงกับทางเรือ

ส่วนราคาทริปจะอยู่ที่แต่ละโปรที่ออกมา และช่วงฤดูการท่องเที่ยวต่างกันไป
จะถูกหน่อยก็รอคอยที่งานท่องเที่ยวไทยสำหรับราคาที่ผมไป
หารกันก็ตกคนละ หมื่นนิดๆ สำหรับทริป 3 วัน 2 คืน รวมทุกอย่าง
โปรตอนนี้อาจเปลี่ยนแปลงก็สามารถเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
เพจของบริษัท Discover Catamaran ได้เลยครับ

ขออนุญาติแปะลิ้งไว้ตามไปดูกันเลย
https://web.facebook.com/discovercatamaran/?fref=ts



3 วัน 2 คืนที่อยู่บนเรือ ยังไม่จบเพียงแค่นี้
ทริปนี้ยังไม่จบ เพราะเรายังมีหมู่เกาะพม่าที่ยังรออยู่
แต่จะไปลำนี้ก็ไม่ได้ต้องกลับฝั่งแล้วเดินทางไปจังหวัดระนอง
....
โดยเราจะพักที่ภูเก็ตเอาแรงกันก่อน 1 คืน
ก็จะขอเพิ่มเติมเรื่องที่พักมาให้ชมเป็นอีกตัวเลือกที่ใครต้องการโรงแรม
ใจกลางหาดป่าตอง เหมือนทริปเราในครั้งนี้ ที่ได้กิ๊ฟวอยเชอร์มา
กับ โรงแรมดีวาน่าพลาซ่าภูเก็ต ป่าตอง



มาถึงโรงแรมบนฝั่งที่โรงแรมดีวาน่าพลาซ่าภูเก็ต ป่าตอง.
เป็นสถานที่เราได้เลือกมาใช้บริการเข้าพัก สำหรับในทริปเดียวกันนี้
เลยต้องมารีวิวกันต่อยาวๆ ให้เป็นข้อมูลไว้อีกหนึ่งตัวเลือกของใครที่หาที่พักบนหาดป่าตอง



===============



โรงแรมดีวาน่าพลาซ่าภูเก็ต ป่าตองตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดป่าตอง
ตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยด้วยโทนสีขาวและสีเทา เน้นความสะดวกสบายสำหรับการเข้าพัก
ที่มีทั้งหมด 249 หอ้งแบ่งออกเป็น 5 ประเภทห้องพัก
ได้แก่ดีลักซ์เห็นวิวตัวเมืองป่าตอง ดีลักซ์วิวสระน้ำ พรีเมียร์วิวสระน้า แฟมิลี่รูม และดีลักซ์สวีท
ภายในห้องพัก มีสิ่งอานวยความสะดวกครบครัน เช่นห้องอาบน้ำ
และอ่างอาบน้ำแยกออกจากกัน ทีวี LCD ตู้เย็น แม้กระทั้งไดร์เป่าผม

ไปชมบรรยากาศโดยรวมกันเลย



สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม
 ห้องอาหาร : “ภูเก็ตคาเฟ่ ” ให้บริการอาหารเช้า เที่ยง เย็น ที่ตกแต่งแบบไทยๆ
 บาร์ : “เดอะเลาน์จ” บริเวณห้องโถงโรงแรม “ซันบาร์” บริเวณสระน้ำ
 ห้องประชุม : “พลาซ่าแกรนด์บอลรูม” สามารถบรรจุผู้เข้าร่วม ประชุมได้ถึง 500 คน
 สระว่ายน้ำ : สระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ บริเวณชั้นดียวกับ ห้องโถงโรงแรม
 สปา : “โอเรียลทาลา เวลเนส สปา”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ www.deevanaplazaphuket.com



[centerเช้าอีกวันเรามุ่งหน้าเข้าสู่เกาะนาวโอพี ที่ขออนุญาติแบ่งออกเป็นอีก 1 รีวิว
ที่จะมานำให้ชมในครั้งต่อไปนะครับ
.....
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
ขอจบรีวิวนี้ลงที่เกาะภูเก็ตก่อน แล้วจะมาต่อในอีกรีวิวหน้า
"เกาะนาวโอพี"
========================================

เกาะนาวโอพี ประเทศพม่า โดยเดินทางเข้าทางจังหวัดระนอง
ครั้งนี้เดินทางมากับ Love Andaman ก็ทำให้ไม่ผิดหวังเช่นเคย ทั้งเรื่องอาหารการกิน เต็มอิ่มกันถ้วนหน้า
ถึงแม้สภาพอากาศจะไม่เอื้ออำนวย แต่ก็ถือว่าสวย สมคำล่ำลือ..
.
พี่บอกได้เลยว่าสักครั้งต้องมา ไม่ว่าจะชายหาดที่ขาว ทรายละเอียดไม่แพ้เกาะตาชัยบ้านเรา
แถมที่นี้ปะการังมีให้ได้ชมกันสวยๆ เพลินๆ กันเลยนะเออ

รอชมรีวิวฉบับเต็มเร็วๆนี้


สะพายเป้ เท่ทั่วไทย

 วันพฤหัสที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.38 น.

ความคิดเห็น