“ สีชังชังแต่ชื่อ เกาะนั้นหรือจะชังใคร..”
บทเพลงที่หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี ที่ท่านเคยร้องไว้แสนเพราะพริ้งเอ่ยถึงเกาะแห่งนี้
ที่สุดแสนจะคลาสสิคของนักเดินทางหลายคน แถมยังเดินทางสะดวกสบาย
จากเมืองกรุงเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะได้มาพบกับหายสวยๆ น้ำทะเลใสๆ
รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
สถานตากอากาศยอดฮิตจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
=========================

เกาะสีชังใกล้แค่นี้ ขับรถผ่านไปผ่านมาชลบุรีก็หลายครั้ง
แต่ครั้งนี้เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเกาะสีชังครั้งแรกของผม
และได้มีโอกาศเข้าพักที่ โรงแรมซัมแวร์
"SOMEWHERE KOH SICHANG" หนึ่งในเครือ Cape & Kantary Hotel
ที่มีโรงแหลมหรูอยู่หลายสาขาทั่วเมืองไทย ครั้งนี้ผมจะพามาพักที่เกาะสีชัง รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
แบบว่าถ้ามาแล้วก็ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง



จากกรุงเทพเดินทางมาเกาะสีชังก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรครับ
ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวตั้ง GPS มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีราชาหรือว่าจะนั่งรถทัวร์หรือรถตู้ จากขนส่งเอกมัย กรุงเทพ-ศรีราชา
รถตู้ : นั่งไปลงโรบินสันศรีราชา แล้วต่อตุ๊กๆไปยังท่าจรินทร์
รถส่วนตัว : ถ้าพักที่โรงแรม Somewhere Koh Sichang ก็สามารถ ขับรถไปจอดที่โรงแรม Kantary Bay ศรีราชา
ซึ่งอยู่ในเครือเดียวกันกับโรงแรมซัมแวร์เกาะสีชัง มี รปภ ดูแล 24 ชม
โดยที่โรงแรมจะจัดรถมาส่งที่ท่าเรือ จากนั้นก็ลงเรือคนละ 50 บาท ออกทุกๆชั่วโมง

การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะสีชังที่จะสะดวกและเข้าถึง
ก็คงต้องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในวันประมาณ 250 บาทหรือจะนั่งรถสกายแลปท่องเที่ยวก็ราคาไม่แพง
...
จากจุดนี้ที่ท่าเรือบนเกาะ ประภาคารแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ต้อนรับ
เป็นแลนมาร์คว่าเราได้เดินทางมาถึงเกาะสีชังแล้ว
และเป็นจุดแรกของการท่องเที่ยวก็ว่าได้ ที่ไม่ควรกดชัตเตอร์กล้องของท่าน



จุดที่ 2 ก่อนจะเข้าที่พัก ที่เป็นจุดหมายหลักของทุกคนที่ต้องมาที่นี้ ถือเป็นแลนมาร์คจุดสำคัญของเกาะสีชัง
คือ พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะ แห่งเดียวในประเทศไทย
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งที่ต้องไปชม



จุดที่ 3 อีกหนึ่งจุด ที่อยู่ในเขตพระราชวัง เพียงแค่เดินขึ้นเนินเขาขึ้นมานิดหน่อย
ก็จะเป็นพระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางค์นิมิตร และยังสามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม
จากจุดนี้



จุดที่ 4 กับที่พักน่ารัก ไม่ควรพลาดหากต้องการค้างแรมสักคืน
เกาะสีชัง เป็นเกาะที่ไม่ไกลจากฝั่ง อีกทั้งการเดินทางบนเกาะก็สะดวกสบาย
สามารถเที่ยวแบบไปกลับได้ แต่ถ้าอยากซึมซับกับธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น
จะมาเที่ยวแค่วันเดียวก็ดูจะน้อยไป หากใครที่กำลังหาที่พักบนเกาะก็ต้องที่นี้เลย
โรงแรมซัมแวร์ "SOMEWHERE KOH SICHANG"



โรงแรมซัมแวร์ เกาะสีชัง โรงแรมเล็กๆ น่ารักๆ ที่อยู่ห่างจากท่าเรือเพียง 5 นาที
โดยที่สามารถใช้บรการรถของโรงแรมมารับได้สะดวกสะบาย
มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยแบ่งเป็นชั้นละ 10 ห้อง มีสระว่ายน้ำ ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาว
ด้านหน้าเป็นบ้านหลังเล็กๆ คือส่วนของ Lobby และห้องอาหาร The Verandah Restaurant
รวมไปถึงสระว่ายน้ำ
ด้วยที่เป็นโรงแรมเล็กๆ มีเพียง 20 ห้อง จึงทำให้ที่นี่ดูเงียบสงบเป็นส่วนตัว



สำหรับห้องพักที่นี่จะเป็นแบบ Deluxe เหมือนกันทั้ง 20 ห้อง
โดยครั้งนี้ผมได้เข้าพักบนชั้นสอง สามารถมองเห็นวิวทะเล และสระว่ายน้ำ
ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน และตกแต่งอย่างสวยงามน่ารัก
เน้นไปในโทนสีฟ้า-ขาว ที่ดูแล้วสบายตา


ทุกห้องจะมีระเบียงห้องส่วนตัว
เอาไว้ไปยืนสัมผัสอากาศรับลมชิวๆได้
รวมไปถึงเก้าอี้นอน และ ชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ที่จัดมาให้



ภายในห้องยังมีโซฟาไว้ให้นั่งเล่น วางอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว
ทำให้ห้องดูไม่แคบมากนัก



สระว่ายน้ำของโรงแรมจะอยู่หน้าอาคารห้องพักระหว่างร้านอาหาร รวมไปถึงสนามหญ้าที่อยู่ติดกัน
เหมาะกับครอบครัวที่มีพื้นที่ให้เด็กๆได้วิ่งเล่น



ในส่วนของร้านอาหาร The Verandah Restaurant ที่จะเป็นร้านอาหารหลักของที่นี่
ทั้งมื้อเช้า-กลางวัน-เย็น โดยจะมีด้วยกัน 2 ส่วนคือบริเวณด้านนอกอาคาร และด้านใน
มีบริการทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง หรือใครจะมานั่งจิบกาแฟชิวๆ ก็ได้

ทริปนี้ผมฝากท้องกับโรงแรมเกือบทุกมื้อ สะดวกสบาย อิ่มท้องก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวต่อ
บ่ายๆร้อนๆ ก็กลับมานั่งชิวจิบกาแฟ และรสชาติอาหารที่นี่ก็ถูกปากใช้ได้เลย (อันนี้ไม่ได้ยอนะ)


สำหรับอาหารเช้านั้นก็จะเป็นบุฟเฟ่ต์



หลังจากพักผ่อนนอนสบาย กินอิ่มท้อง วันนี้เราจะแว้นสองล้อออกไปเที่ยวรอบเกาะกัน
ในจุดที่ 4 นี้ก็คงจะเป็นบรรยากาศสองข้างทาง บ้านเรือนร้านค้าอาหารบนเกาะ
ที่มีหมูป่าออกมาทักทายอยู่เรื่อยๆ .. ตั้งแต่เที่ยวมา เกาะนี้เป็นเกาะที่แปลกอีกแห่ง
คือมีหมูป่าออกมาเดินชิวๆ ตามถนน. ถ้าเป็นที่อื่นผมว่าน่าจะลงไปอยู่ในกระทะหมดแล้วแน่เลย



จุดที่ 5 มาแล้วก็ไม่ควรพลาด กับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
ตั้งอยู่บนเขาห่างจากที่พักออกไปไม่ไกล
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ
ด้านบนเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน และมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้อย่างสวยงาม



จุดที่ 6 เดินขึ้นมาอีกหน่อยจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่ตั้งของมณฑปรอยพระพุทธบาท
อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขา ที่สามารถมองทิวทัศน์ทะเล ได้โดยรอบและสวยงามอีกแห่ง



จุดที่ 7ช่องเขาขาด ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง
มีสะพานที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลมให้เดินชมวิว รวมทั้งสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามอีกแห่งของเกาะ



จัดที่ 8หาดถ้ำพัง ที่ยังไงก็ต้องมา
หาดถ้ำพัง อ่าวอัษฎางค์ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ มีลักษณะเป็นอ่าวโค้งมีชายหาดกว้าง
เป็นหาดที่เหมาะกับการเล่นน้ำ ที่มีหาดทรายและน้ำที่ใส มีเปลผ้าใบให้นั่งชิวๆและมีจุดชมวิวมุมสูงเหนือชายหาดที่สวยงาม



จุดที่ 9 ขับขึ้นมาทางทิศเหนืออ่าวถ้ำพังนิดหน่อย ก็จะเจอกับ แหลมจักรพงษ์ซึ่งเป็นแหลมหินที่งดงามยื่นนออไปในทะเล
เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแหงของเกาะสีชัง ชาวบ้านนิยมมาตกปลากันที่แหลมนี้



จุดที่ 10 "ชีวิตยังคงสวยงาม" ตามรอยพี่ตูน กับสถานที่ถ่ายทำมิวสิควีดีโอ
ที่มีภูผาหินอยู่ด้านหลัง และวิวทะเลที่มีพระอาทิตย์ตกดินอยู่ด้านหน้า
ใครจะตามมา ก็ขับมาเรื่อยจนสุดถนน และเป็นจุดสุดท้ายของทริปนี้ที่สีชัง



เป็นยังไงกับ 9จุดเที่ยว และ 1จุดพัก สำหรับเกาะสีชังที่ผมนำมาให้ได้ชมกัน
แต่เกาะสีชังสถานที่สวยงาม ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายแห่งที่ผมไม่ได้ไป
ถือได้ว่าเกาะสีชัง เกาะเล็กๆแห่งนี้ ที่ดูจะมีเสน่ห์ ความสวยงามของธรรมชาติไม่แพ้ที่อื่น

ส่วนใครที่กำลังจะเดินทางไป แนะนำเลยว่าควรพักบนเกาะสักคืนสองคืน
และหากต้องการที่พักน่ารักๆ สะอาด ที่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
โรงแรมซัมแวร์ "SOMEWHERE KOH SICHANG" เป็นตัวเลือกที่ต้องแนะนำให้มา

สามารถติดต่อได้ที่
เวป : http://somewherehotel.com/
เพจ : https://www.facebook.com/capekantaryhotels/
CALL CENTER : 1627

===============================

และสามารถติดตามการเดินทางของผม และรีวิวได้ที่เพจ
สะพายเป้ เท่ทั่วไทย (ไปทั่วโลก)
https://www.facebook.com/saphipae/



สะพายเป้ เท่ทั่วไทย

 วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.08 น.

ความคิดเห็น